มิถุนายน 2552

 
1
2
3
4
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
เมื่อสาวเซ่อเจอหนุ่มมารุมรัก 9
ตอนนั้นเรากับน้อง ไม่รู้ว่าหลังสอนเสร็จ จะอยู่ที่สถาบันฯไปทำไม
เห็นอาจารย์ท่านอื่นไปสอนกันหมด เราก็ออกมาหาอะไรกินกันนอกสถาบันฯ

แถวใกล้ ๆ มีร้านข้าวซอย เจ้าอร่อย

น้อง "พี่เนื้อฯ วันนี้เรากินคนละสองชามนะ อร่อยดี"

เรา "ก็ได้จ๊ะ แข่งกันอ้วนละเนี่ย 555"

น้อง "พี่ว่าพอมาสอนที่นี่แล้ว รู้สึกแปลกๆ กับอาจารย์บางท่านไม๊"

เรา "อืม ใช่ อาจารย์ที่เราเคยเคารพรัก ทำไมเบื้องหลัง
ไม่น่ารักเลยเนาะ ดีกับนศ. แต่ไม่ดีกับอาจารย์ด้วยกันเลย"

น้อง "นั่นสิ อาจารย์คนนั้น ตอนพวกเราเรียน พวก นศ. รักกันมากเลยเนาะ
ตอนพวกเรามาฝึกสอน เรายังเคารพว่าเป็นอาจารย์อยู่ แต่ท่านทำเหมือน
ไม่ค่อยมีมนุษย์สัมพันธ์เลยน่ะ "

เรา "พวกอาจารย์ด้วยกันก็ไม่ค่อยชอบอาจารย์นี้กันเลย เศร้า พี่ยังจำที่
อจ.สอนได้ขึ้นใจเลย กลอนสำหรับห้องเลขาน่ะ"

เชี่ยวชาญงานหลัก ถนัดงานรอง
ตอบสนองฉับไว รู้ใจนายเสมอ
เสนองานเป็นลำดับ มีความรับผิดชอบ
รอบคอบสอบทาน ปฏิภาณไหวพริบดี
มีความซื่อสัตย์ รักงานเลขา


ชีวิตมันช่างโหดร้าย มาเจอนิสัยอาจารย์ที่เราเคยรัก ทำไมเป็นแบบนี้ฟระ

ตอนหลังยิ่งกว่านั้นอีก ไม่ทักไม่ทายไม่ว่า
ยังโทรไปบอกอาจารย์ที่มช. ให้ตัดคะแนนพวกเราอีก
T_T บอกมาซี่ว่าอจ. จะให้เราสองคนทำอะไร ทำยังไงให้อจ.ถูกใจน่ะ


อาจารย์มช. เรียกเราไปพบ

--------------------------------------------------------------------------------
อาจารย์มช.บอกว่า

"อาจารย์เชือดรายงานว่า พวกเธอน่ะ พอไม่มีสอนก็ออกไปเลย

ไม่มาดูแล สนใจอาจารย์เก่า ๆ แก่ ๆ เลย "


น้อง "ไม่จริงค่ะ อาจารย์เชือดเป็นคนเดียวที่อคติกับพวกเรานะคะ

โทรไปถาม อาจารย์เก๋ก็ได้ค่ะ พวกเราอยู่กับอาจารย์เก๋ตลอด"


ทำไมตอนนั้นเราไม่ช่วยน้องเถียงอาจารย์นะ แย่จัง
โรคขี้กลัวอาจารย์ขึ้นสมอง ถ้าเป็นตอนนี้หน่อยไม่ได้


อาจารย์ "ไม่รู้ล่ะ วิชาฝึกสอนพวกเธอ อาจจะไม่่ผ่านนะ"

น้อง "หนูไม่ยอมค่ะ อาจารย์ฟังอาจารย์เชือดคนเดียวได้ไงคะ"

บรรยากาศมาคุจัง โถ อาจารย์เชือด อยากให้เราไปประจบก็ไม่บอก
บอกเร็วกว่านี้ก็ไม่ได้ จะได้จัดให้ชุดใหญ่ คริคริ
นี่จะส่งใบประเมินผลแล้ว เพิ่งมาบอก ฮ่วย ใจร้ายโคตรๆ

วิชาฝึกสอนนี่ตั้งหลายหน่วยกิต จำไม่ได้ว่า 9 หรือ 12 หน่วยนี่แหละ

อาจารย์เลยขอไปทบทวนใหม่อีกทีนึง

ส่วนพวกเราก็กลับไปสอนกันตามปกติ

นศ. ก็รักพวกเราดีนี่นา ไม่เห็นมีไรเลย



เพื่อนบอกเราว่า ไปฝึกสอนไม่เจอ F4 เหรอ เค้าเรียนป.ตรีที่นั่นนะ

หัวใจเราเต้นตุ๊บ ๆ ขึ้นมาทันที อีกละ นึกว่าจะลืม ได้ยินชื่อนี้ไม่ได้เล้ย

--------------------------------------------------------------------------------
ทำยังไงดี เล่าให้พี่เจ๋งฟังดีกว่าเรา

เรา "พี่เจ๋ง F4 มาฝึกงานที่เดียวกับน้องด้วย ตื่นเต้นจังจะได้เจอไม๊เนี่ย"

พี่เจ๋ง "อืม เจอก็เจอไปสิ"

เรา "พี่ไม่มีหึงบ้างเลยเหรอ"

พี่เจ๋ง "ไม่หรอก น้องจะรักจะชอบใครก็รักไปเถอะ แต่ขออย่างเดียว
อย่าไปไหนด้วยก็แล้วกัน พี่เป็นห่วง"

เรา "อ้าว ไม่ได้กลัวรักคนอื่นเหรอ แป่ว"

พี่เจ๋ง "พี่บอกแล้วไงผู้ชายคิดไม่เหมือนผู้หญิงหรอก
ไม่หยุมหยิมแบบนั้นหรอก"


สงสัยเราต้องไปซื้อหนังสือมาศึกษาเรื่องผู้หญิงกับผู้ชาย
ทำไมมันต่างกันนักนะเนี่ย


เราเลยเสียตังค์ไปซื้อหนังสือ ประเภทนี้มาหลายเล่ม
อ่าน ๆๆ เฮ้อ ถ้าเป็นแฟนกับผู้หญิงด้วยกันคงไม่ต้องศึกษาขนาดนี้นะเรา

--------------------------------------------------------------------------------
พอถึงวันที่เจอตัว F4 จริง ๆ เค้าเดินมากับเพื่อน ที่โรงอาหาร

เพื่อนเค้าเคยคุยกับเรา เลยทักเราก่อน

"เนื้อฯ เป็นไงมาที่นี่ได้ล่ะ"
เรา "มาฝึกสอนที่นี่น่ะ เธอล่ะ"

ลิฟต์ "มาหา หมอนี่แหละ เฮ้ย ทักกันสิ กิ๊กเก่ากันไม่ใช่เหรอ 555 "

เค้าถามเรา "เนื้อฯ มีแฟนรึยัง"

เพื่อนเค้ารีบบอกว่า "เฮ้ย เนื้อฯเค้ามีแฟนแล้ว ไม่รู้เรื่องเลย รุ่นพี่เราไง
พี่เจ๋งน่ะ คนดังแห่งราชมงคลเลยนะ"

แป่ว ฮือฮือ

เรา "แล้วเธอล่ะมีแฟนรึยัง"

F4 "ยังไม่มีเลย"

แป่ว อีกรอบ น่าจะมีแฟนแล้ว ยังดีกว่าเลย T_T
ไหนคราวที่แล้วไปเรียนกรุงเทพฯ ได้ยินข่าวว่ามีแฟนไปแล้วนี่นา

เราคุยกันแค่นี้เอง ต่างก็ไม่กล้ามองกันตรง ๆ ยังขี้อายอยู่นะนายนี่


เง้อ ไปชวนยัยเพื่อนเลขา ไปหาอะไรกินแก้เซ็งก่อนดีกว่า T_T
เอ๊ะ นี่ใช่ อกหัก รึป่าว ทำไมมันหิวจังเนี่ย 555


--------------------------------------------------------------------------
ต่อเรื่องอาจารย์เชือด

เรากับน้องปรึกษากันว่าควรทำยังไงดี

ปรึกษายัยเพื่อนเลขาจอมกะล่อนดีกว่า

เรา "ทำไงดี อ.เชือด ทำร้ายจิตใจจังว่ะ "

เพื่อน "อาจารย์เค้าแบ่งเป็นสองฝ่ายรึป่าว พวกแกไปอยู่ผิดขั้ว
เค้าเลยเขม่น"

เรา "เออ จริงด้วยเนอะ ลำบากใจจัง ครูอาจารย์ยังแบ่งพรรคแบ่งพวกอีก
เหรอเนี่ย"

เพื่อน "เอางี้ดิ ซื้อของไปเลียอาจารย์เชือดเค้าหน่อย เดี๋ยวดีเอง"

เรา "โคตรทู่เรศตัวเองเลย หยะแหยงว่ะ แต่ก็จำเป็นต้องทำสินะ"

เรากับน้อง ไปสิงสถิตย์ห้องอาจารย์เก๋อีกไม่ได้ละ
ต้องไปอยู่ประจบอ.เชือดแทน เศร้าใจจังชีวิต

น้อง "อาจารย์คะ มีอะไรให้พวกหนูช่วยไม๊คะ สอนเสร็จหมดแล้วค่ะ"

อ.เชือด "ไปจัดเรียงเอกสารงานพวกเด็ก ๆ ให้ครูสิ"

สถานการณ์ท่าจะดีขึ้นแล้ว พวกเราคงรอดจากการฝึกสอนด้วยดีล่ะทีนี้

เพื่อนเลขา "เป็นไง เลียขนหน้าแข้งอาจารย์รึยังแก 555"

เรา "เออ แน่นอน หน้าแข้งเลี่ยมเลยเมิง 555"


ทำไมการทำงานมันยากยังงี้ เฮ้อ ประสบการณ์ประจบสอพลอ
เพื่อเอาตัวรอดบทแรกสินะ

หากชีวิตคุณนั้นคือประจบ
ตามประกบเจ้านายไม่ห่างตา
สนองความต้องการเลียแข้งขา
คนกับหมา มันต่างกันอย่างไร

--------------------------------------------------------------------------------
ขอตัดภาพมาเรื่องลูกค้าหน้าร้านเราก่อนนะคะ ถ้านึกตอนเรียนได้อีก
จะเขียนต่อ


มีลูกค้าร้านทำผมแถวบ้านคนนึง เจ้าของร้านทำผมเรียกชื่อว่าลุงดำ
อายุ 74 ปี คนนี้ตามหลอนเรายิ่งกว่าพี่ตึ๋งอีกค่ะ

วันที่เพ่เต๋ามาแวะซื้อของ ยังเจอคุณลุงคนนี้เลยค่ะ
เพ่เต๋า ถามเรา "นั่นคุณพ่อรึป่าว"

โธ่ เพ่เต๋า คุณพ่อเค้าเสียไปตอนเรียนโทแล้วไงคะ T_T


บทนำก่อน เดี๋ยวขอตัวปั่นต้นฉบับนะคะ
โหด มัน ฮา ของจริงเลยเชียว กับคุณลุงคนนี้ 555

--------------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกลุงดำ บอกพี่ร้านทำผมว่า ชอบคุณเนื้อฯ
ทีนี้มาซื้อสีสเปรย์ ซื้อโซดาไฟ มาเกือบทุกวัน

ทีนี้เริ่มซื้อกับข้าวมาฝากร้านทำผมและร้านเราทุกวันอีก

ลุงดำ "เมื่อก่อนผมเป็นเซลล์อยู่ภาคเหนือ วิ่งไปทั่วแหละภาคเหนือ
ยังเคยไปจีบสาวที่โน่นเลย 555"

เรา "เหรอคะ แล้วแฟนคุณลุง คนที่ไหนล่ะ"

ลุงดำ "แฟนผมเป็นคนจีน ไม่ต้องเรียกผมว่าลุงหรอก มันแก่ไป"


ฮ่วย เรียกลุง นี่ก็ฝืนสุด ๆ แล้วนา แก่กว่าพ่อตรูอีกสิบกว่าปีเอ๊ง


เรา "ไม่เรียกว่าลุง แล้วจะให้หนูเรียกว่าอะไรคะ"

ลุงดำ "ผมรู้คนเหนือ ต้องเรียกว่าอ้าย นะ ไม่ใช่ลุง"

เรา "โห ผิดละค่ะ คนเหนือต้องเรียกว่า อุ๊ย ค่ะ ไม่ใช่อ้าย
รุ่นนี้ไม่เรียกอ้ายแล้วค่ะ อ้ายของพ่อหนูอีก โอ๊ย ไม่ได้หรอกค่ะ
จะให้เรียกอุ๊ยไม่ล่ะคะ"


ลุงดำ เงียบลงไป และกลับไปเลย

ชั้นพูดผิดตรงไหนเนี่ย 555

น่าจะชื่อคำ จะได้เรียก อุ๊ยคำ หุหุ

นึกว่าแกจะไม่มาแล้วซะอีก ทีนี้มาคนเดียวไม่พอ
ขนเพื่อนรุ่นแรกแย้ม (ฝาโลง) มาอีกสองคน

--------------------------------------------------------------------------------
ลุงดำ พาเพื่อนขับรถมาดูเราหน้าร้าน ทำแบบซุ่มดู
อยู่ในรถ ชี้ชวนกันมาดูลิง เอ๊ย ดูเรา

หลังจากนั้นก็มาตัดผมกันสามหนุ่มสามมุมตลอด

ลุงดำ "ปิดร้านสิ เดี๋ยวผมพาไปเที่ยวตลาดน้ำ"

เรา "ไปไม่ได้ค่ะ ต้องเฝ้าร้าน"

ลุงดำ "จะทำงานอะไรมากมาย ต้องไปเที่ยวบ้างสิ พักผ่อนบ้าง"

ลุงดำมาตื้อ เรากับพี่ร้านทำผม บ่อยมาก ชวนไปโน่นไปนี่จนรำคาญ
กันทั้งสองร้าน

เรา "โหคุณลุง คนกำลังอยู่ในวัยทำมาหากิน ไม่ได้เกษียณนี่จะได้
ไปเที่ยวอย่างเดียว เหมือนคุณลุงน่ะ รอหนูเกษียณค่อยมาชวนนะคะ"

เอาอีกแล้วเรา ปากร้ายอีกละ ทำร้ายจิตใจคุณลุงได้ตลอดสิน่า


--------------------------------------------------------------------------------
คุณลุง ตอนหลัง ๆ ซื้อของแล้วชักจะไม่ยอมกลับง่าย ๆ
เราเลยไม่คุยด้วย ปล่อยแกยืนอยู่อย่างนั้น ไม่ไปก็ช่าง

วันนั้น เรากำลังเล่น M กะคุณแม่ค้า
(ตอนที่ยังเอาคอมพ์ไว้หน้าร้าน)

เราเปิดกล้องกันด้วย

เรา "ยัยแม่ค้าฯ คุณลุงที่ชั้นเคยเล่าให้แกฟังน่ะ มาอีกละว่ะ
จอดรถหน้าร้านละ"

แม่ค้าฯ "เหรอ ๆ ชั้นชักอยากเห็นว่าจะแก่จริงไม๊ 555 อย่าปิดกล้องนะ"

เรา "เดี๋ยวแกได้เห็นแน่วันนี้น่ะ"

เราแชทกะแม่ค้าฯ ไม่สนใจแกเหมือนเดิม

ลุงดำ "ทำอะไรอยู่ "

เรา "หนูคุยกะเพื่อนอยู่ค่ะคุณลุง"

ลุงดำ เดินมาดูคอมพ์เรา

เราพิมพ์ "ยัยแม่ค้าฯ แกเห็นลุงนี่ไม๊ เร็ว ๆ รีบดูซะ 555"

แม่ค้าฯ "บอกลุงนะ ชั้นจะสวัสดีแก 555"

เรา "เพื่อนหนูที่อยู่ในคอมพ์น่ะ เค้าสวัสดีคุณลุงอยู่นะ เห็นไม๊คะ"

ลุงดำ "เอ้อ เห็นหน้ากันด้วยเหรอ เอ้อ สวัสดีๆ"

แม่ค้า "555 แก่จริง ๆ ด้วย 555"

เรา "บร้า มาว่า อ้ายเค้าได้ไงยะ 555"


ลุงคงมองไม่ชัด ก้มหน้ามาซะติดกล้อง หลอนยัยแม่ค้าฯ ซะเลย

ก๊าก ๆๆ ขำ


--------------------------------------------------------------------------------
คุณลุงยังมีบังคับให้เราย้ายสินค้า

ลุงดำ "ผมว่า คุณต้องย้ายท่อมาไว้อีกฝั่งหนึ่ง อย่างนี้มันไม่ถูกหลักฮวงจุ้ย"

เรา "ไม่ได้หรอกค่ะคุณลุง ถ้าแนวนั้น ท่อมันจะล้ำไปที่ถนน เวลาดึงให้ลูกค้าน่ะ"

ลุงดำ "ไม่ได้ ๆ ต้องย้าย ต้องทำให้ได้ ทุบบ้านเลยสิ ให้ท่อเข้าไปข้างในหน่อย"

เราไม่ยอม แกก็ไปฟ้องพี่ร้านตัดผม ทางโน้นก็เถียงกะแกเหมือนกัน
ยกนั้น แกโมโห ที่พวกเราไม่เชื่อ กลับบ้านไปแต่โดยดี 555


ครั้งต่อมา พูดอีกละ

เรา "พอเถอะค่ะ หนูไม่ย้ายหรอก มันไม่ใช่เรื่องง่าย ๆ นะคะ การย้ายของเนี่ย"

คุณลุง "ผมว่ามันไม่ยาก ถ้าจะทำซะอย่าง"

เรา "งั้นค่าใช้จ่ายทุบบ้าน ลุงจะออกให้หนูเหรอ"

คุณลุงเงียบ เสียอารมณ์ ไปดีกว่า อีกละ


คราวต่อไป มาอีกละ พูดเหมือนเดิมอีก

เรา "คุณลุง พ่อแม่หนูยังไม่เคยบังคับขนาดนี้เลยนะ โอ๊ย หนูรำคาญแล้ว"

เรายังทิ้งแก ไปอยู่ร้านตัดผม ไปเล่าให้พี่เค้าฟัง

ช่างตัดผม "อ้าว คุณลุง ไปไหนละ"

เรา "ไม่ไหวแล้วพี่ หนูรำคาญสุด ๆ แล้ว ทำไงดี"

ช่างตัดผม "พี่ก็รำคาญ ติดว่าเป็นลูกค้า พี่ก็บอกเค้านะ ว่าอย่าไปวุ่นวายกะน้องมันเลย แกก็ไม่ฟังพี่"


วันนั้นคิดว่าเราพูดแรงมากแล้ว แกหายไปห้าวัน เรานึกว่ารอดแล้ว

มาอีกละ ฮ่วย

--------------------------------------------------------------------------------
เราเล่าให้แม่เราฟังเรื่องลุงดำ

แม่ หัวเราะใหญ่ "ไม่ใช่หรอกมั้งลูก แกก็มีลูกมีเมียแล้ว"

เรา "จริง ๆ นะแม่ ลุงเค้าเจ้าชู้ นี่ถ้ามาเห็นแม่ ท่าทางอาจจะจีบแม่ก็ได้นะ"

เราว่าถึงจะจีบแม่เรา ก็ยังแก่กว่ากันเกินไป แหวะ


วันนึง ลุงดำมาหาเรา เจอกับแม่

ลุงดำ "สวัสดีครับคุณแม่น้องเนื้อเหรอ
ผมเอายาหม่อง ทาหายปวดหลัง มาฝากน้องเนื้อเค้า เขาดื้อ
จริง ๆ ผมรู้จักหมอ ที่เค้านวดรักษาอาการพวกนี้หาย น้องเขาก็ไม่ยอมไป"

เง้อ ทำไปได้ คุณแม่ใคร

เรา "แม่ นี่อุ๊ยดำ เน้อ เป็นลูกค้าน้องเอง"

แม่แอบหัวเราะจนน้ำตาไหล

ฮ่วย แม่นะแม่ หัวเราะอะไรเนี่ย เค้าเครียด ๆ อยู่

อีกวัน ลุงดำ มาใหม่

ลุงดำ "อ้าว คุณแม่ไปไหน"

เรา "ไปเที่ยวบ้านเพื่อนแถวนี้แหละ มีอะไรคะ"

ลุงดำ "ลุงกะจะมาชวนคุณแม่ ขึ้นรถไฟ ไปไหว้พระซะหน่อย"

เรา "โห หนูไม่อนุญาตให้ไปหรอกค่ะ "

ลุงดำ "อ้าว ทำไมล่ะ"

เรา "จะให้ไปกับผู้ชายน่ะ ไม่มีทางหรอก แม่ใคร ๆ ก็หวงนะ"

ลุงดำ "โถ ไม่มีอะไรหรอก คนแก่ ต้องพาไปไหว้พระมั่ง"

เรา "ไม่ได้ ๆ ไม่ให้ไปไหนทั้งนั้น ลุงก็ไปชวนเมียไปดิ มาชวนคนอื่นไปทำไมกัน เฮ้อ ลูกเมียตัวเองก็มี"

ลุงดำ "เมียผมต้องทำงาน ลูกก็ไปเรียน ไม่มีใครว่างไปกับผม"

เรา "ที่นี่ก็ไม่มีใครว่างเหมือนกันค่ะ"


ไม่ไหร่ลุงดำจะเลิกตามหลอกตามหลอนซะทีเนี่ย นี่ด่าอะไรไป ก็ยังกลับ
มาอีก T_T


--------------------------------------------------------------------------------
ตอนหลังลุงดำ ถือวิสาสะ มานั่งโซฟา นั่งดูทีวี
เราจะเดินออกจากบ้านไปเลย ปล่อยแกนั่งไป

ลูกค้ามาซื้อของ แกก็รีบวิ่งไปถาม

"จะซื้ออะไรดีครับ"

แนะ ทำยังกะเป็นเจ้าของร้าน

เซลล์มาขายสินค้าแกก็เดินวนไปมา

เซลล์ เตรียมจะไหว้ "คุณพ่อเหรอครับ"

เรา "เปล่าค่ะ"

คุณลุงเสียอารมณ์
แหม๊ แทนที่จะทักว่าแฟนรึป่าว มาทักเป็นพ่อซะด้าย 555


ตอนนั้น ลุงดำ เอาภาพ ร.5 มาให้เราเป็นของขวัญเนื่องในวันสงกรานต์
(แกพยายามหาของมาให้เราทุกเทศกาล)
เช่น วันปีใหม่ วันวาเลนไทน์ วันพืชมงคล ฯลฯ


หลายวันแล้ว น้องลาเอาภาพไปเก็บไว้และเราลืมไปละ

ลุงดำ "ไหนรูปเสด็จพ่อ ร.5 ไปไว้ตรงไหน ต้องทำหิ้งนะ"

เรา "ยังไม่ได้ทำอะไรค่ะ"

ลุงดำเทียวมาถามอีกหลายครั้ง พร้อมนำ ฉากสำหรับทำชั้นวางมาให้อีก

เอาวางไว้บนโต๊ะ

ลุงดำ "นี่นะผมเอาเหล็กฉากมาให้ทำหิ้งละนะ จะทำเมื่อไหร่
ถ้าทำไม่ได้ ผมจะมาทำให้นะ"

เรา "เอามาทำไม หนูก็มีขายนะ ฉากนี่น่ะ คุณลุงไม่ต้องซื้ออะไรมาให้หนูหรอก"

เราก็นั่งพิมพ์กระทู้อยู่ ไม่สนใจ เดี๋ยวแกก็คง
ไปเองแหละ

ลุงดำเดินวนไปมา ซักพักก็เดินออกไป


อีกไม่กี่วัน แกพาเพื่อนวัยแรกแย้ม มาบ้านเรา
คนแก่สองคน เดินวนบ้านเรา เพื่อหาสถานที่ตั้งหิ้ง บูชา ร.5

--------------------------------------------------------------------------------
มีเรื่องคุณแม่ค้าฯ รายงานสดแทรก

เมื่อกี้คุณแม่ค้าฯ โทรมาบอกว่า

คุณแม่ค้าฯ "ชั้นปวดหัวข้างเดียว อ้วกด้วย เป็นไรไม่รู้น่ะ ปวดหัวมาตั้งแต่ที่ทำงานละ"

เรา "แพ้อาหารรึป่าว มีท้องเสียไม๊ คิดซิ วันนี้ไปกินอะไรมา"

แม่ค้าฯ "กินขนม เพื่อนซื้อมาฝากจากใต้ ที่มีสัปรดตรงกลาง ขนมปังแผ่นบาง ๆ น่ะ"

เรา "ชั้นก็ชอบกิน อร่อยดี แต่มันจะแพ้ได้เหรอ คนอื่นเป็นไรไม๊"

แม่ค้าฯ "คนอื่น ไม่เป็นไรเลย แต่ชั้นคิดไม่ออก ว่าน่าจะแพ้อะไรน่ะ
ตอนกลางวัน กินก๋วยเตี๋ยว ที่ร้านสะอาดมาก ไม่น่าใช่
นี่ถึงที่จอดรถ จะขับรถไปหาหมอ ไม่รู้ว่าจะไหวไม๊"

เรา "ชั้นว่า ถ้าแพ้อาหาร มันน่าจะมีท้องเสียด้วยน๊า
ทำไมไม่ลองปรึกษาพี่หมอ บิ๊กเฮด ก่อนล่ะ "

แม่ค้าฯ "พี่เค้าเป็นหมอสู จะรักษาโรคทั่วไปไม๊แก ชั้นไปรพ.ดีกว่า"

เรา "เค้าคงมีเรียนพื้นฐานมาบ้าง หรือปรึกษาหมอผู้หญิงก็มีนะ
แต่ ชั้นว่าแกไปกินพารา นอนดีกว่า ไม่ต้องเสียตังค์ "

แม่ค้าฯ "ไม่ได้ ๆ ต้องหาหมอ ชั้นน่ะโรคจิต เป็นอะไรต้องไปหาหมอไว้ก่อน"

เรา "เออ งั้นก็ไปเถอะนะ"


สักพัก คุณแม่ค้าฯ โทรเข้ามาอีกละ

--------------------------------------------------------------------------------
แม่ค้า ฯ "นี่ ไปหาหมอมาละนะ เสียตังค์ไป 1062 บาท หมอตอนกลางคืน แพงกว่ากลางวันว่ะ"

เรา "แล้วได้ยาอะไรมา หมอว่าไงบ้างล่ะ"

แม่ค้าฯ "ยาพาราตั้งเกือบสามแผงนะยะ และยาอะไรไม่รู้อีกตั้ง
สองอย่าง ทำเป็นเล่นไป555"

เรา "555 พอไปเสียตังค์เสียงใสเชียว เมื่อกี้ทำเหมือนจะตายอยู่เลย"

แม่ค้าฯ "หมอบอกว่า น่าจะไมเกรน เล่นคอมพ์เยอะไปรึป่าว ต้องพักบ้าง
เพราะกระทู้แกนั่นแหละ ฮือฮือ"


เรา "แหะแหะ ชั้นยังมีวิ่งไปขายของ พักสายตาบ้างเนอะ วันหลังพักสายตาบ้างก็ได้"

แม่ค้าฯ "ช่วงนี้ไมเกรนขึ้น ใครอย่ามาทักผิดหูเชียวนะ เหอๆๆ"

เรา "ชั้นไปเขียนหน้ากระทู้เล่าให้พี่หมอฟังดีก่า 555"


แม่ค้าฯ ไม่อยู่ เม้าท์ให้เต็มที่ เดี๋ยวมาแล้วค่อยมาแก้ข้อความดีกว่า


ส่วนใครที่มีอาการปวดหัวข้างเดียว แสดงว่าเฝ้ากระทู้คุณเนื้อฯนานไปเน้อ
อิอิ

---------------------------------------------------------------------------

ต่อเรื่องลุงดำ

เรา "บ้านหนูก็มีแต่ของขายเต็มเลย หนูก็ไม่รู้ว่าจะให้คุณลุงตั้งไว้
ตรงไหนค่ะ"

ลุงดำคาดคั้นว่าตรงไหน อุตส่าห์เตรียมสว่าน อุปกรณ์มาละ

เราเลยให้ตั้งตรงออฟฟิศน้อยของเรา

เราก็ติดกระทู้ของเรา ปล่อยให้ลุงดำ กับลุงเคลื่อน ทำกันสองคน

เจ้าของบ้านนี้ยังไงนะ เสียมารยาทสุด ๆ เลย

ไม่ไปดูแลอ้ายดำเค้าเล้ย

สักพัก เพ่เต๋าก็มาเซอร์ไพร์ ซะแล้ว

เอ้าว นึกภาพ ว่า หน้าตาเถื่อน ๆ ทำไมมาเป็นขาวตี๋ ผิดรูปซะละเนี่ยเพ่เต๋า

ซักพัก ลุงดำ คงเห็นคุยกับหนุ่มนาน เลยโผล่มาแจม

เพ่เต๋า "คุณพ่อเหรอครับ"

เรา "ป่าวค่ะ ยังเล่าไม่ได้ เดี๋ยวหลังไมค์ไปเล่านะคะ ฮือฮือ"

กว่าลุงดำกะลุงเคลื่อนจะเสร็จงาน เราลืมไปละ ว่าเค้ายังอยู่

ลุงเคลื่อน "ขอชงชาให้ลุงดำแกซักแก้วเทอะ"

เรา "ได้ค่ะ คุณลุงจะดื่มน้ำด้วยไม๊คะ"

ลุงเคลื่อน "ลุงไม่กระหายหรอกจ๊ะหนู แต่ลุงดำแกให้เอาชาให้หนูชงให้หน่อย ใส่นมนี้ด้วยนะ"

เรา "ได้ค่ะ " มีการพกชา พกนม มาให้ชงเสร็จสรรพ
ให้เพื่อนมาขอ ไม่มาขอเอง สงสัยคนแก่งอนตรูอีกละ


ก่อนกลับคุณลุงเคลื่อนยังให้คาถาไว้บูชาเสด็จพ่อร.5 ด้วย


ลุงดำ งอนเราหายไปพักใหญ่ มีการแวะร้านตัดผม ฝากขนมมาให้เรา
แต่ไม่มาให้เอง

อุ๊ย ดี ๆ ไม่มาน่ะดีแล้ว คริคริ


--------------------------------------------------------------------------------
มีอยู่วันนึง พี่อาซื่อ กะ อาเล่ย มาเยี่ยมเราที่ร้าน คุยกันอยู่

แล้วลุงดำ ซื้อกับข้าวมาฝากเรา

ลุงดำรีบไปหาพี่ร้านตัดผม และขับรถออกไปเลย

พี่ร้านตัดผม "น้องเนื้อฯ ลุงดำ แกมาบอกพี่ว่า น้องเค้าแฟนเยอะ
มาเห็นแต่ละทีไม่ซ้ำหน้า 555"

เรา "อืม ดี ๆ แกจะได้ไม่มาหาน้องอีก"

พี่ "มีการมาบอกพี่ว่า น้องเนื้อฯ ไม่มีมารยาท ไม่แนะนำแฟนให้รู้จัก"

เรา "อุ๊ย อย่างนั้นเหรอคะ เดี๋ยวคราวหน้า จัดให้ค่ะ อยากรู้จักก็ไม่บอก"

ลุงดำ หายไปซักสามวัน

เรา "คราวนี้ ลุงดำคงไม่มาสระผมร้านพี่อีกละเนอะ แหะแหะ
เสียลูกค้าพี่เลย"

พี่ "เดี๋ยวก็มาอีก เชื่อพี่สิ ขานั้นน่ะ พอ ๆ กะลุงเคลื่อนแหละ มาจีบพี่เหมือนกัน"


ข้างบ้าน มาบอก

"น้อง ๆ เมื่อเช้า ป้าเห็นคนแก่ มาเดินวนรอบบ้านน้องน่ะ
ประมาณ ตีห้ากว่า ๆ น่ะ"

เรา "เฮ้ย น่ากลัวจัง ผีหรือคน วิญญาณหลอนรึป่าวคะพี่
วันนี้วันพระรึป่าว น้องยิ่งไม่ได้ทำบุญใส่บาตรซะด้วยพักนี้"

ป้าข้างบ้าน "ป้าก็มองไม่ชัด น้องเนื้อฯ ต้องทำบุญให้สัมภเวสีบ้างนะ
เผื่อเค้ามาขอส่วนบุญ"


ฮือฮือ น่ากลัวจัง

---------------------------------------------------------------------------สาย ๆ ลุงดำ มาหาเรา
โวยวายใหญ่ "เมื่อเช้าผมจะมาชวนคุณไปวิ่งออกกำลังกายด้วยกัน
เรียกลูกน้องคุณ ที่ห้องครัว ก็ไม่ยอมเปิดประตูให้"

น่าน ผีลุงดำนี่เอง T_T

เรา "ถ้าเปิดให้ หนูก็จะด่าลูกน้องเลยแหละค่ะคุณลุง คนกำลังนอนหลับ
อยู่ด้วย มาปลุกนี่ โมโหตายเลย"

ลุงดำ "เช้า ๆ อากาศดีต้องไปวิ่ง ออกกำลังที่สวนหลวงร.9 บ้างนะ
เสียดายจริง ๆ ผมอุตส่าห์ขับรถมารับ"

เรา "โอ๊ย หนูไม่ไปหรอกค่ะ อากาศดีสิน่านอนหลับ
จะมาน่าวิ่งอะไรคะ แล้วขอโทษนะคะคุณลุง
ที่วันนั้นไม่ได้แนะนำแฟนให้รู้จัก เอาไว้วันหลังก่อนนะคะ เดี๋ยวก็เจอ"

ลุงดำ "ไปร้านตัดผมดีกว่า"


555 สะใจ คงไม่มาอีกนะ


เราไปเล่าเรื่องที่ลุงดำมาแต่เช้า ให้ร้านตัดผมฟัง

เรา "พี่ เค้าชักกลัวแล้วนะ ถ้าลุงดำแก expire จริง ๆ ต้องมาหลอก
มาหลอนเค้าแน่เลย นี่ขนาดยังไม่ตายนะ พี่ว่ามั้ย"

พี่ "เมื่อเช้า แฟนพี่ก็บอก ว่าเห็นลุงดำ มาเดินทำอะไรรอบบ้านน้องน่ะ
ไม่นึกว่าแกจะอาการหนักขนาดนี้นะเนี่ย"

-------------------------------------------------------------------------แผนการกำจัดลุงดำก็เริ่มขึ้น

เราบอกพี่ร้านตัดผม บอกไปเลยว่าน้องเนื้อฯ มีแฟนแล้วนะพี่นะ

พี่ "พี่บอกแล้ว แต่แกไม่เชื่อ"

เรา "อ้าว คราวที่แล้วยังว่าน้องมีแฟนเยอะอยู่เลยนะพี่"

พี่ "แกประสาทน่ะ บ้า ๆ บอ ๆ"

และก็มาถึงวันที่น้องชายตำหนวดของเราอยู่

แล้วลุงดำเอากับข้าวมาฝาก

น้อง "มาหาใครครับ"

เรา "นี่ อุ๊ยดำเน้อ"

ลุงดำ "ผมซื้อข้าวหมกไก่มาฝาก"

น้อง "ขอบคุณครับ"

เรา "นี่แฟนหนูนะคะลุงดำ"

ลุงดำ "เอ่อ ๆๆ ผมไปก่อนนะครับ"

น้อง "พี่ทำอะไรน่ะ ลุงนี่ยังไงฟระเนี่ย ทู่เรศจัง แก่แล้วยังมาจีบพี่ตรูอีก"

เรา "แกคงสายตายาว เวลามองกระจก ถึงได้คิดว่าตัวเองหนุ่มเฟี้ยวอยู่
ไงล่ะ มองไม่เห็นรอยย่นน่ะ"

น้อง "ไปจีบยายเราดีกว่ามั้งพี่ หึหึ"


อีกวันเราไปถามพี่ร้านตัดผม ว่าลุงดำว่าไงบ้าง

พี่ "เค้าก็บอกว่า ไม่เชื่อหรอก ยังเด็กอยู่เลย ไม่มีแฟนหรอก

พี่เลยว่า อ้าว เค้าจะมาหลอกไปเพื่ออะไรล่ะ

ลุงดำว่า เค้ารำคาญผมมั้ง ไม่อยากให้ผมมายุ่งด้วย
เลยแต่งเรื่องมาหลอก"

เรา "โห หลอกตัวเองจังนะลุงดำ วันนั้นพูดอย่าง วันนี้พูดอย่าง ฮ่วย
แล้วแกจะหายไปไม๊ พี่ว่าไงคะ"

พี่ "คงยาก หนาขนาดนั้นน่ะ"

เรา "ไม่มาแล้วมั้งพี่ งั้นคอยดูกันต่อไปดีกว่าเนาะ"

-------------------------------------------------------------------------

ยังค่ะ ยังไม่หมด ไหน ๆ ฟ้าก็ส่งลุงดำ มาจีบเราแล้ว

ฟ้ายังส่ง คนรูปหล่อ รวย เพอร์เฟค มาให้เราอีกคน

เสียอย่างเดียว แก่ไปอีก ลุงดำ ยังแก่ไม่พอ ฮือฮือ

F4 วัยดึก วัย 82 ปี เอ๊ง ฮ่วย ไม่เถียงว่าหล่อ น่ะ

แต่เกิดไวไปโหน่ย T_T


คุณลุงเลิศ เป็นลูกค้าร้านตัดผมเหมือนกัน

วันนั้นช่วงเราไปนั่งเล่นรับแอร์เย็น ๆ คุณลุงขับรถมาจอด

พี่นิ่ม ก็วิ่งไปเปิดประตูรถ

พี่นิ่ม "สวัสดีค่ะ คุณลุงเลิศ"

และประคองมานั่งเก้าอี้ตัดผม

โห ลูกค้า วีไอพีม้างเนี่ย พี่นิ่มถลาไปรับถึงรถเชี๊ยะ
ทีลุงดำมา ไม่เห็นวิ่งไปเลย คริคริ

ลุงเลิศ "นั่นใครเหรอ ช่างตัดผมคนใหม่รึป่าว"

พี่นิ่ม "อ๋อ ไม่ใช่หรอกค่ะ นั่นเจ้าของร้านฮาร์ดแวร์น่ะ"

ลุงเลิศ "ขายอะไรมั่ง ผมจะได้ไปซื้อ ผมกำลังซ่อมบ้านอยู่น่ะ"

เรา "ขายหลายอย่างแหละค่ะ เชิญไปอุดหนุนได้ค่ะ"

พี่นิ่ม "คุณลุง เค้าเป็นเจ้าของบริษัทเคมีรายใหญ่นะ น้องเนื้อรู้จักรึป่าว"

เรา "อ๋อ เคยขับรถผ่านค่ะ"

พี่นิ่ม "คุณลุงทำไมไม่ให้คนขับรถมาให้ล่ะคะ วันนี้เปลี่ยนเบนซ์คันใหม่
มาเหรอ"

ลุงเลิศ "ก็คันนี้แหละ ปีกว่าแล้ว"

ลุงเลิศ นี่ขนาดเดิน แกยังตุปั้ดตุเป๋ ยังอุตส่าห์ขับรถไหว ได้ไงเนี่ย ทึ่งจริง ๆ

วันนั้น พี่นิ่ม ได้ทิปจากคุณลุง 2000 บาท (ปะล้ำปะเหลือนิ)

และลุงเลิศ ยังมาซื้อของร้านเรา สามร้อยกว่าบาท ให้แบงก์ 500
ไม่ต้องทอน

โอ้โฮ ตั้งแต่เปิดร้านมา มีแต่คนต่อราคาลง ไม่มีใครติ๊ปให้ข้อยเล้ย

สาธุ เฮงๆๆ

เป็นที่มา เมื่อลูกค้าต่อราคาของ เรามักจะ โธ่ นึกว่าจะให้ทิป ยังต่ออีก
ลูกค้าขำใหญ่ อิอิ


--------------------------------------------------------------------------------
หลังจากนั้น ลุงเลิศ มาตัดผมเดือนละครั้ง

มาทีไรก็บอกพี่นิ่ม "ไปเรียกคุณเนื้อฯ มาคุยสิ เค้าอยู่ไหน"

ลุงเลิศ "เอาอย่างนี้ไม๊ ผมส่งตัวเคมีให้คุณ แล้วคุณไปแบ่งทำ packaging
เล็ก ๆ ทำเหมือนลูกค้าผมนะ ขายดีจะตาย ส่งแทบไม่ทัน"

เรา "โห หนูคงไม่มีปัญญา ซื้อ Volume เยอะ ๆ หรอกค่ะ ต้องใช้เงินเยอะแยะ"

ลุงเลิศ "เอาอย่างนี้ไม๊ ให้คุณนิ่มรับรอง ผมก็ให้เครดิตคุณไปสามเดือน"

เรา "555 ไม่ไหวละคะ หนูเอามาบรรจุ ไม่มีเครื่องมือ"

ลุงเลิศ "จะยากอาไร้ คุณก็ให้ลูกน้องบรรจุสิ ไม่ต้องทำเอง แค่ไปสั่งทำ
ถุง หรือกล่อง ตรายี่ห้อคุณเองซะ"

เรา "เดี๋ยวขอสำรวจตลาดก่อนนะคะ"


เป็นความใฝ่ฝันของเราเลยล่ะ อยากได้สินค้านี้มาทำ ก้อเป็นสินค้าสิ้นเปลือง หมดไปเหมือนทินเนอร์ ขายง่ายจะตายนี่นา

แต่กลัวปัญหาอื่นตามมามากกว่า


--------------------------------------------------------------------------------
พี่นิ่มบอกว่า คุณลุงเลิศน่ะ เค้าอยากให้เราไปแวะเยี่ยมที่ออฟฟิศเค้าบ้าง

แต่เราก็ไม่เคยไปกับพี่นิ่ม


พี่นิ่มบอกว่า เอากระเช้าปีใหม่ ไปให้ลุงเลิศ ซื้อกระเช้า 700 บาท

เดี๋ยวแกก็ใส่ซองเป็นของขวัญปีใหม่ให้ 5000 บาท

โอ้ ลงทุนต่ำ กำไรสูงจัง อิอิ

พี่นิ่ม "ลุงเลิศ แกขายของได้เดือนนึงตั้งสองร้อยกว่าล้าน เงินแค่นี้น่ะเศษเงินแกแหละ"

เรา "อิจฉาจัง ถ้าเกิดเร็วกว่านี้ เราคงจะรวยง่ายกว่าเนาะ เดี๋ยวนี้เริ่มธุรกิจ
อะไรก็ยากไปหมด คนสมัยก่อน มาเสื่อผืนหมอนใบ รวยกันเกือบทุกคน
(คนจีน)"


พี่นิ่ม "ลุงเลิศแกมีลูกชายสองคนนะ ยังโสดทั้งคู่"

เรา "เหรอพี่ เป็นไงหล่อเหมือนคุณลุงไม๊คะ"

พี่นิ่ม "ไม่หล่อ แล้วยังเฟอะฟะ ทั้งคู่ "

เรา "เอ๊า เป็นไงล่ะ ทำไมเป็นงั้น"

พี่นิ่ม "ก็ ทำผม อยู่ดี ๆ ก็ผุดลุกผุดนั่ง ยุกยิก ๆ พี่รำคาญน่ะ
เดี๋ยวโทรศัพท์มาอะไรมา"

เรา "เค้าคนค้าขายก็ยังงี้แหละพี่ เป็นเหมือนกันหมด"

พี่นิ่ม "เดี๋ยวน้องเนื้อก็ได้เห็น มาทำผมบ่อยไป"



และไม่นานนักเราก็ได้เห็นจริง ๆ และได้คุยด้วยค่ะ

--------------------------------------------------------------------------------
พี่นิ่ม "นี่ไงคะ คนที่ คุณลุงชอบมาคุยด้วยน่ะ"

เอ๊า พี่นิ่ม หางานเข้าให้ข้อยแล้ว


ลูกชายลุงนอนสระผมอยู่ ผุดลุก

"ไหน ใคร ๆ อ้อ อืม พ่อผมมาคุยอะไรล่ะ"

พี่นิ่ม "คุณลุง จะขายเคมีให้น้องเค้าน่ะ"

ลูกลุง "อ๋อ ได้สิ ได้ ไปออฟฟิศสิ ไม่ต้องติดต่อป๊าหรอก
เค้าวางมือแล้ว จะคุยเรื่องเคมี ต้องมาผ่านผมก่อน"

เรา "ทำไม่ไหวหรอกค่ะ เราเป็นร้านเล็ก ๆ ซื้อไม่เยอะหรอกค่ะ ตัวนั้น
แค่จะลองดูราคาว่า พอจะนำเสนอให้โรงงานได้รึป่าวแค่นั้นค่ะ
เพราะมีโรงงานเคยถาม แต่เราบอกเค้าว่าตัวนี้เราไม่มีขายค่ะ"

พี่นิ่ม "น้องเนื้อเป็นเซลล์ด้วยน่ะ"

ลูกลุง "เซลล์ขายอะไรล่ะเรา"

"มีเซลล์ผู้หญิงด้วยเหรอ วงการนี้น่ะ ผมไม่เคยได้ยิน
ไงก็ไปคุยกันที่ออฟฟิศก็ได้"

เอาไงดีเนี่ย โอกาสมาอีกละ อย่าเพิ่งปฏิเสธเลยดีกว่า
แบ่งรับแบ่งสู้ไว้ก่อน 555


เรา "เดี๋ยวถ้าลูกค้าต้องการ เคมีตัวนี้ เราจะเข้าไปคุยนะคะ"

--------------------------------------------------------------------------------
ลุงเลิศมาตัดผมอีก และให้พี่นิ่ม มาตามเราไปคุยด้วย

ลุงเลิศ "ผมนับถือคุณนะ ที่ทำงานแบบนี้ได้ ผมชอบผู้หญิงเก่ง ๆ
แบบคุณ เห็นแล้วอยากสนับสนุน อยากให้เอาสินค้าของผมไปลองขายดู"

มาพูดยั่วน้ำลายอีกละ คนยิ่งอยากรวย ๆๆ อยู่ด้วย

หรือเอาเคมีมาบรรจุขายซะเลย แต่ถ้าบึ้ม ขึ้นมา นี่ ตรูไม่มีบ้านจะอยู่
เลยนะเนี่ย แต่คงไม่บึ้มได้หรอก แค่กัดมือขาดแค่น้านเอง หุหุ

อยากทำก็อยาก กลัวมือพองก็กลัวพิลึก

หรือเอามาใส่กาละมัง แล้วตักใส่ถุงอีกทีดีหว่า ก็ที่เราเอามาขาย
ส่วนใหญ่ก็คงซื้อมาจากบริษัทฯ คุณลุง


คิดแล้ว ก็สำรวจราคาตลาดอีกทีดีกว่า ว่ามีกำไรเยอะไม๊

(อ้าว ไหง กลายเป็น เรื่องการค้าไปซะละ ว่าจะเขียนเรื่องรัก ฮ่วย มั่วจริงเรา)

-----------------------------------------------------------------------------
ตอนนั้นยังไม่อยากสำรวจราคาเท่าไหร่

พอดีเจ้านายเราให้หาราคาเคมีตัวนี้พอดี เราเลยโทรไปออฟฟิศลุงเลิศ
กะว่าจะขอราคาพิเศษ กับลุงเลิศ

เรา "ขอสายลุงเลิศค่ะ"

ลูกชายลุง "จากไหนครับ"

เรา "จากบริษัท....ค่ะ (ไม่บอกว่าเป็นเราดีกว่า)

ลูกลุง "งั้นก็คุยกับผมเลยครับ เพราะคุณพ่อไม่รู้เรื่องหรอกครับ"

แป่ว เราเลยถามราคาเสร็จสรรพ

เล่าให้พี่นิ่มฟัง วันหลังลุงรู้จากพี่นิ่ม
โวยวายใหญ่ ว่าไม่รู้เลย ว่าเราโทรหา เสียดายจริง ๆ

กะจะได้ค่าคอมพ์ซะหน่อย กลับแพงไปอีก เฮ้อ
เจ้านายเลยสั่งของจีนมาส่งให้ราชการซะเลย
คุณภาพต่ำ แต่ราคาถูกกว่า

และเจ้านายก็ให้เราไปเช็คดูว่า เคมีตัวนี้น่านำเข้ามาบรรจุขายไม๊

--------------------------------------------------------------------------------
ตอนแรกกะจะทำ SWOT ของเคมีตัวนี้อยู่แล้ว เชียว

มาเจอราคาที่ซื้อ กับราคาขาย ไม่ต้องซาว้งซาวอท มันแล้ว

คือมันกำไรน้อย ต้องขายโวลุ่มเยอะถึงจะอยู่ได้

เจ้านายเราเห็นแค่ เปอร์เซ็นต์กำไรต่ำอย่างนี้ก็ไม่เอาแล้ว

เจ้านาย "ราคาส่ง กำไรกิโลละแค่สามบาท จะไปทำให้เหนื่อยทำไม
เปลืองแรงคนงาน มายกทินเนอร์ดีกว่า 555"

เรา "แต่ถ้ามาขายปลีกหน้าร้าน กำไรกันเยอะจังเนาะ"

เสียค่าขนส่ง ค่าลูกน้อง ก็คงไม่คุ้มกัน พับโครงการดีกว่า
ไม่งั้นก็เน้นขายให้โรงงาน ขายให้ผู้ใช้โดยตรง

นอกเรื่องละ กลับมาที่ ลุงเลิศก่อน

ลุงเลิศมาร้านพี่นิ่มอีก มาสระผม แคะหู ครบถ้วน
และคุยธุรกิจ เหมือนเดิม เราก็ได้ความรู้ไปด้วย
ไม่เหมือนลุงดำ ชอบบ่นนั่นนี่


วันนั้นพี่นิ่มประคองแกขึ้นรถ เรายืนอยู่หน้าร้าน
ลุงเลิศ ขับรถออกจากซอยร้านพี่นิ่ม พร้อมโบกมือบ๊ายบายเรา

เรา "บ๊ายบาย ค่ะคุณลุง"

"โครม"

ลุงเลิศ ขับรถชนรถผู้หญิงคนนึง ชนแรงพอสมควร
รถเบนซ์บุ๋มเลย

ผู้หญิง ลงมาด่าใหญ่ ลุงเลิศหน้าเสีย
ยื่นนามบัตรให้ผู้หญิง
ลุงเลิศ "ขับตามผมมา ที่บริษัทฯผม จะให้ประกันเคลียร์ "
พูดเสร็จลุงก็ขึ้นรถขับไปเลย ไม่สนใจคู่กรณี

ผู้หญิง "ชั้นรีบไปเปิดร้านที่ซีคอน ใครจะรับผิดชอบ"

โธ่ ป้า ลุงเค้าขับไปโน่นแล้ว มาบ่นอะไรให้พวกเราฟังเนี่ย

พี่นิ่ม "รีบขับตามคุณลุงไปเถอะค่ะ "

ผู้หญิง โวยวายตลอดเวลา เราถอยเข้าร้านดีกว่า
คนอะไร คู่กรณีไปโน่นแล้ว ด่าอยู่ได้ ฮ่วย

และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เราเจอลุงเลิศ

พี่นิ่มไปหา แกก็บอกว่า ลูกชายไม่ให้ขับรถอีกแล้ว
ให้พี่นิ่มไปบริการตัดผมที่บ้าน และให้ชวนเราไปด้วย


จะว่าไปเป็นเพราะตรูบ๊ายบายรึป่าวเนี่ย บาปกรรมจริง ๆ

ใครจะกล้าไปสู้หน้าแกเนี่ย T_T

-----------------------------------------------------------------------------
ขอเล่าเรื่องลุงขายผลไม้หน้าประตูราชมงคลนิดนึงค่ะ


เรา "ลุง ผลไม้นี้ ถุงละเต้าใดเจ้า"

ลุง "อะไรทำไม ลุงขายถุงละ สิบบาท แต่ถ้า เจ้าๆ นี่กะขายถุงละห้าบาท"

เรา "อะไรทำไม นี่ อะหยังน่ะลุง"

ลุง "อะไรทำไม นี่กะคนกรุงเทพฯนะก่า"

เรา "555 "


ดีที่ทักคำเมืองไป ไม่งั้นโดนถุงละสิบบาทแน่ตรู 555

-----------------------------------------------------------------------------เราไปฝึกงานได้เกรดน้อย ฉุดเกรดร่วงลงไปอีก ฮือฮือ
ไม่เป็นไร ไปเรียนโท เอาเกรดมากลบ ๆ เกลื่อน ๆ ของ ป.ตรี ก็ได้ ฮ่วย

แต่เราได้ใจนศ. ที่เราสอนมาตรึม

"อาจารย์คะ ต้องเขียนเฟรนชิพ แลกกันนะคะ"
เรา "จ๊ะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ ครูจะเตรียมมาเหมือนกันจ้า"

แลกกันเขียนซะยังกะเป็นเพื่อนกันซะงั้น

นศ. ขอถ่ายรูปหมู่กะเราอีก เฮ้อ คิดถึงจัง ลูกศิษย์ช้าน
มีรุ่นนี้ รุ่นเดียว หุหุ

เพราะเรียนต่อเนื่อง เค้าเปิดรับแต่คณะศึกษาศาสตร์ (บริหารธุรกิจ)


ไม่ว่าเธอจะอยู่ส่วนไหนของโลกใบนี้
ให้เชื่อเถอะว่าความรู้สึกดี ๆจะไปถามหา
จะมองเห็นได้หรือไม่ด้วยสายตา
ภาพของเธอจะชัดเจนทุกเวลาในหัวใจ
-----------------------------------------------------------------------------ตอนไปเดินเล่นที่สวนหลวงร.9 ที่เชียงใหม่

มีพ่อค้าแม่ค้า ขอเป็นสปอนเซอร์ ส่งเราเข้าประกวดนางงามอะไรซักอย่าง

พ่อค้า "น้อง เดี๋ยวพวกพี่รวมกัน ส่งน้องเข้าประกวด แต่ต้องใส่สายสะพาย ส้มตำสวนหลวง ร.9 นะ"

เรา "555 ถ้าตกรอบเดี๋ยวจะเสียชื่อร้านส้มตำเปล่า ๆ นะซีคะ "

เล่าให้เพื่อนฟัง เพื่อนขำกันใหญ่
คนอื่นเค้า บริษัทฯ โน่น นี่
แต่ น้องเนื้อฯ ส้มตำสวนหลวง ส่งเข้าประกวด

------------------------------------------------------------------------

เรื่องสิทธิพิเศษ

เรายังได้สิทธิพิเศษ จาก รปภ. สถานที่สำคัญแห่งหนึ่ง

ให้เราผ่านเข้าได้ โดยไม่ต้องแลกบัตร หรือเสียค่าใช้จ่ายในการเข้าเยี่ยมชม
(บอกไม่ได้ว่าที่ไหนเน้อ กลัวพี่เค้าโดนไล่ออก อิอิ)

เรื่องนี้พี่เจ๋งทึ่งมากมาย (รึหมั่นไส้ก็ไม่รู้ อิอิ)


--------------------------------------------------------------------------------
เล่าต่อ นึกเรื่องพี่เจ๋งได้อีกละค่ะ


พี่เจ๋งเป็นเซียนหมากฮอส ยังไงเราก็สู้ไม่ได้ อันนี้เรายอมแพ้ ถอยดีกว่า

พี่เจ๋ง "เล่นโดมิโน กันดีกว่า คนชนะ เขกหัวเข่าคนแพ้นะ"

เรา "ได้เล้ย "

เล่นไป ทำไมเราแพ้มากกว่าชนะฟระเนี่ย

พี่เจ๋ง เขกหัวเข่าเรา ด้วยน้ำหนักคงที่เหมือนเดิม

แต่หลายทีก็เจ็บชะมัด สร้างความแค้นในหัวใจเราจัง
ไม่สนุกด้วยแล้ว

พอเราชนะมั่ง ต้องเอาคืนให้ได้

เราเขกไปเต็ม ๆ แรงซะเจ็บนิ้วเลยเรา

พี่เจ๋งหัวเราะ "ไอ้งี่เง่านี่ เล่นแบบนี้เลยเหรอ"

เรา "เออดิ "

พี่เจ๋ง ซัดเราเต็มเหนี่ยวมั่ง

"นี่แน่ะ 555"

เรา "พอๆ เขกอีกข้างมั่ง ข้างนี้เจ็บจะตายอยู่แล้ว"

ผลก็คือ หัวเข่าเราช้ำทั้งสองข้าง T_T
ก็พี่เจ๋ง เล่นชนะเรามากกว่านี่ กรำ

เรา "ไม่ล่ง ไม่เล่นมันละ เบื่อ"


กลับถึงหอพัก เราไปแอบร้องไห้น้อยใจ

พี่เจ๋งนี่ ไม่คิดว่าตรูเป็นผู้หญิงมั่งรึไง เฮ้อ



Create Date : 05 มิถุนายน 2552
Last Update : 5 มิถุนายน 2552 21:16:44 น.
Counter : 384 Pageviews.

2 comments
  
อ่านเพลินเลยค่ะ
โดย: Aisha วันที่: 5 พฤศจิกายน 2552 เวลา:20:27:16 น.
  
เข้ามาลงชื่ออ่านด้วยคน
โดย: Wac วันที่: 20 เมษายน 2553 เวลา:17:43:24 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

เนื้อคู่ประตูถัดไป
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Friendship iz not a game 2 play, It iz not a word 2 say,
It doesnt start on March & ends on May, It iz tomorrow, yesterday, today & every day.
น้องเพนกี้
น้อง DoryKong 1
น้อง DoryKong 2
น้อง DoryKong 3
X
X
X
X
Friends Blog
[Add เนื้อคู่ประตูถัดไป's blog to your weblog]