มิถุนายน 2552

 
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
 
โหด มันส์ ฮา กับ สาวใช้ต่างด้าว EPISODE 2 ตอน มะโฉ่
โหด มันส์ ฮา กับ สาวใช้ต่างด้าว EPISODE 2 ตอน มะโฉ่

วันแรกที่เราไปรับ มะโฉ่ ที่บ้านเพื่อนรุ่นพี่ของมะโฉ่ ชื่อ พี่อ้อย
(คนที่มาอยู่ไทย นาน ๆ จะมีชื่อไทยแล้ว ) อ้อยย้ำกับเราว่า พี่มารับมะโฉ่
ภายใน 4 โมงนะคะ
เรารีบไปรับมะโฉ่จากหมู่บ้านแห่งหนึ่ง ที่อ้อยทำงานบ้านอยู่

พอเจอกัน มะโฉ่ ทักเรา "สวัสดีค่ะ" อ้อยบอกให้รีบ ๆ ขึ้นรถ เดี๋ยวเจ้านายเลิกงานมาเห็น
เราลืมสแตมป์บัตรจอดรถ เลยบอกมะโฉ่เอาไปสแตมป์ให้ มะโฉ่รีบวิ่งไปให้พี่สาว สแตมป์แล้วเราบอกให้ขึ้นรถ มะโฉ่นั่งข้างหลังทันที
เราต้องไปดึงออกมานั่งหน้าด้วยกัน

มะโฉ่ ทำหน้ายิ้มตลอด
เราเริ่มคำถาม "เมื่อกี้พี่สาวหนูเหรอ"
มะโฉ่ "ค่ะ"
เราถาม "หนูพูดไทยได้ไม๊"
มะโฉ่ "ค่ะ"
เราถาม "กลัวไม๊"
มะโฉ่ "ค่ะ"
เรา ไม่ต้องกลัวพี่นะ หิวข้าวไม๊
มะโฉ่ "ค่ะ"
เรา หนูเรียนจบชั้นอะไร
มะโฉ่ "ค่ะ"
เรา หนูอยู่เมืองไทยนานรึยัง
มะโฉ่ "ค่ะ"
และอีกหลาย ๆ คำถาม ก็ยังตอบค่ะ ทุกอย่าง โอเค เธอพูดได้คำเดียว
พูดไทยไม่ได้เลยนี่หว่า ทำไงดี
แต่เราได้ยินว่า เรียนจบประมาณ ม.5 แต่สอบขึ้น ม.6 ไม่ได้ เพราะสอบตกวิชาอังกฤษ แต่ไม่เป็นไร เราลองสื่อสารภาษาอังกฤษ กับมะโฉ่ดีกว่า
ถึงเราจะพูดไม่เก่งก็ไม่มีใครรู้นี่หว่า อยู่ในรถสองคน
เรา "can you speak english?"

มะโฉ่ "yes"

เรา "how old are you?"
มะโฉ่ มองหน้า "yes"

Oh ! I see. เอาไงดีหว่า

you are 18 years old. your sister told me.

มะโฉ๋ ตอบ "555 I understand.I 18 years old."

เรารีบกดโทรศัพท์ไปเล่าให้เพื่อนสองคน ช่วยด้วย กรูจะใช้หล่อนยังไงเนี่ย เพื่อนบอกว่า "เอาน่า ดีกว่า ไม่มีคนช่วยแกเฝ้าร้าน งานบ้านอะไรมันคงทำเป็นอยู่มั้ง"

หลังจากนั้นเราขับรถต่อไป หันไปมองมะโฉ่ เป็นระยะ ๆ มันก็น่าสงสารเหมือนกันเนาะ อายุเท่านี้ต้องมาทำงานซะแล้ว เฮ้อ ดีนะเนี่ยเธอได้อยู่กับชั้น ถ้าเธอถูกหลอกจะรู้เรื่องไม๊เนี่ย โชคดีแล้วที่ได้เจ้านายใจดีที่สุดในโลกอย่างเรา 555 ฮือ ๆๆ


ต่อ...
วันแรก เราให้มะโฉ่กวาดเช็ดบ้านเสร็จ มาเรียนภาษาไทยก่อน
โดยให้เอาแคตตาล็อกสีสเปรย์มาสอนก่อนว่า สีอะไร สีเขียว สีเหลือง สีแดง
และทุกสี เสร็จแล้วเอาเก้าอี้มานั่งหน้าบ้านด้วยกัน ดูรถวิ่งผ่าน รถคันนี้สีเขียว สีเหลือง สีแดง สีม่วงฯลฯ
มะโฉ่ พูดว่า "สีเขว สีเหลิง สีแดน สีโม่ง "
พูดถูกผิด เราจะใช้คำว่า โอเค กับ ไม่โอเค
เอาเป็นว่าวันแรกให้รู้จักสี พอแล้ว
เสร็จแล้วไปสอนซักผ้า ให้แยกผ้าขาว และผ้าบาง ๆ ลูกไม้ ไปซักมือ
สอนซักเครื่องเสร็จสรรพ

เข้าใจไม๊ "ค่ะ"

อีกวันต่อมา ในกาละมังซักผ้า มีชุดใหม่ ของเรา ลอยน้ำอยู่
(ชุดนี้เป็นสีชมพู และมีลูกไม้สีดำ)
เอ๊ะ แล้วทำไมมันมีกลุ่มควันดำ ๆ เป็นหย่อม ๆ ล่ะ
"ตายแล้ว มะโฉ่ หนูทำอะไรชุดพี่
มะโฉ่ ชี้ไปที่ ผงซักฟอก สำหรับซักผ้าขาว ไว้แช่ผ้าก่อนซัก
แล้วทำภาษาใบ้ ว่า ใส่ผ้าลงไป แล้วเทไปตรงกลาง ทิ้งไว้คืนหนึ่ง
สรุปแล้ว สีดำหลุดออกมา ระบายชุดสีชมพูเป็นหย่อม ๆ
"หนูทำแบบนี้ไม่ได้นะ แต่ไม่เป็นไร เพราะว่าหนูไม่รู้ ไม่ต้องกลัว โอเคนะ"
หลังจากนั้น ชุดนี้เราก็ดันทุรังใส่ แต่ใส่เป็นชุดนอน ลั้ลลา อยู่บ้าน แล้วก็
ค้อนมะโฉ่ ทุกครั้งที่ใส่ มะโฉ่ จะหัวเราะขำตลอด ถ้าเราใส่ชุดนี้ เธอจะหัวเราะเสียงดังเป็นบุคลิกอยู่แล้ว
ก็บอกแล้วมะโฉ่ เธอไม่สวยแต่น่ารักดี เราโกรธเธอไม่ลงหรอก


ตอน มะโฉ่ถ้ำมอง ร้ายบริสุทธ์

ที่ห้องนอนของมะโฉ่ กับห้องแต่งตัวเรา จะมีบานเกล็ดกั้นเอาไว้ เพราะว่า
เมื่อก่อนตรงห้องมะโฉ่จะเป็นระเบียงแต่ถูกกั้นเป็นห้อง
ดังนั้น เราจึงต้องหาผ้าม่านมากั้น ตอนที่ติดตั้งผ้าม่านเราก็คิดอยู่ว่า เราควรติดฝั่งไหนดี แต่ยังไงก็ต้องให้ความปลอดภัยกับห้องนอนไว้ก่อน
แต่แล้ว วันหนึ่ง หลังจากเช็ดตัว ร้องเพลงลั้ลลา และหาชุดใส่อยู่นั้น เราก็หมุนตัวไปเจอเข้ากับ มุมผ้าม่านที่เปิดตรงปลาย และตาดำ ๆ ของมะโฉ่จ้องมองเข้ามา
(ไม่ได้มาแต่ตา มาทั้งหัว)

"กรี๊ด วี๊ด ว้าย" เรารีบคว้าผ้าเช็ดตัวมาปกปิด
"มะโฉ่ ดูพี่ทำไม ไม่ต้องดู"
เราก็หันมาแต่งตัวต่อ หันกลับไป

มะโฉ่ ยังมองอยู่ที่เดิมเหมือนหนังผี มันโผล่ขึ้นมาหยอก
แถมยังหัวเราะอีก โดยไม่รู้สึกผิด ไม่รู้ว่าเราห้ามดู หรือเป็นเพราะฟัง
ภาษาไทยไม่รู้เรื่องหว่า

สรุป วันนั้นเราแต่งตัวเสร็จ รีบโทรไปฟ้องญาติมะโฉ่ ชื่อพี่นก
ให้แปลให้มะโฉ่ ฟัง ทำเอาเธอจ๋อยไปเลย
ป้านกเล่าให้ฟังว่า มะโฉ่บอกว่า "คุณผู้หญิงส๊วยสวยเหมือนดารา (ดาราพม่ามั้ง) หนูก็เลยอยากเห็นให้หมดเลย" เฮ้อ เวรกรรม แล้วยังคะยั้นคะยอให้ป้านกมาดูคุณผู้หญิงอีก
(มาจีเรียกเราว่าเจ๊ มะโฉ่เรียกคุณผู้หญิง) 555 ยังกะบ้านทรายทอง

หลังจากนั้น เราไม่เคยเห็นตอนมะโฉ่ แอบดูเราอีก แต่จะเห็นร่องรอยผ้าม่านที่เราไปปิดทีไร มันก็เปิดอีก เหมือนแอบดูไม่ให้รู้ตัว

ถ้าเราเจอ ก็จะบอก "มะโฉ่ มาอาบน้ำด้วยกันเลยมา ชั้นก็อยากเห็นเธอเหมือนกัน แหละ ฮึ่ม ฮึ่ม อาบน้ำระวังพี่แอบดูก็แล้วกัน"

เรื่องงานบ้าน มะโฉ่จะทำไม่ค่อยสะอาด เพราะมาทำงานที่แรก เราเลยต้องโทรไปหาป้านกบ่อย ๆ เสร็จแล้วป้านกก็บอกมะโฉ่ต่อ ถ้าตรงไหนที่ไม่ได้สั่งก็จะไม่ทำ เช่น เช็ดกระจกหน้าต่าง มะโฉ่ก็บอกว่า "พี่ไม่บอกก็เลยไม่เช็ด"

ปกติมะโฉ่จะลงมาทำงานบ้านช่วงเช้าก่อน จัดโต๊ะข้างล่างให้เรียบร้อย
พอเราลงมา มะโฉ่จะรีบไปเปิดประตูร้าน เราก็จะ make up ข้างล่าง

แต่ว่า สองสามวันมานี่ มะโฉ่ แต่งหน้า ทาลิป เราก็ถาม "หนูมีเหรอ"
พูดมากเดี๋ยวมะโฉ่ไม่เข้าใจ มะโฉ่ตอบ "ค่ะ"
มะโฉ่มีเครื่องสำอางมาด้วยจริง ๆ เราก็บอกว่าแต่งหน้าบ้างอย่างนี้ดีแล้วล่ะ พี่ชอบให้สวย ๆ
มะโฉ่ ทำหน้าไม่เข้าใจ คำว่า สวย

เราก็เลยเปิดทีวี ให้ดู ดารา แล้วพยายามสอนว่า คนนี้ เรียกว่าสวย
คนนี้เรียกว่า ไม่สวย นะ
มะโฉ่ ทำหน้าเข้าใจ "ค่ะ"

ทีนี้ บอกซิว่า "มะโฉ่ สวยไม๊ "
มะโฉ่ "สวยค่ะ" อืม โอเค
แล้วพี่ล่ะ "พี่สวยไม๊"
มะโฉ่ "ไม่สวยค่ะ"

โอ๊ย งั้นเริ่มเรียนใหม่ เปิดดูทีวีใหม่ 555 สอนใหม่ จนกว่าจะได้คำตอบ
ที่ถูกใจ
(จนอีกสองอาทิตย์ มะโฉ่ รู้ภาษาไทย เรามานั่งคุยกันขำทุกเรื่อง ทั้งเรื่องพูดค่ะได้อย่างเดียว เพราะพี่สอนมาว่าพูดค่ะอย่างเดียว อยู่ไทยได้แล้ว)

ต่อ ตอนที่เราจะแต่งหน้า แล้วเปิดแป้งออกมา (แป้งนี้น้องสาวเพิ่งซื้อมาให้ใหม่)
เปิดออกมาเจอแป้งแตกเหลือเศษอยู่นิดเดียว

"มะโฉ่ หนูทำแตก แล้วทำไมไม่บอกพี่ "
"หนูไม่ได้ทำ"

เรารีบโทรไปบอกป้านก เล่าให้ป้านกฟัง ทั้งเรื่องทำแป้งแตก ทำแก้วแตก
แล้วก็ชอบแอบดูห้องแต่งตัว
"ป้านกบอกมะโฉ่ด้วยว่าถ้าทำของตกแตกน่ะ ไม่โกรธ แต่ถ้าปาของแตกนี่
โกรธแน่ ๆ แล้วก็บอกด้วยว่าต่อให้ทำทีวีตกแตก ทำของเสียหาย ก็ไม่โกรธ แค่ขอโทษพอแล้ว" ถ้าผิดยอมรับก็คือจบ
แต่เราบอกป้านกห้ามด่านะ เพราะเดี๋ยวเค้าจะเครียด อยู่ไม่ได้อีก

ไม่รู้ป้านกพูดอะไรบ้าง มะโฉ่จ๋อยนิดหน่อย
แต่พอหลังจากนั้นพอมะโฉ่พูดไทยได้แล้ว
เราก็แซวกับมะโฉ่ "บ้านนี้ไม่มีผีนะ ถ้าแป้งมันตก แล้วมันจะมาเก็บกวาดได้" "เห็นไม๊รีดเสื้อผ้าพี่ไหม้พี่ก็รู้นะ ไม่ต้องไปซ่อนหรอก" มะโฉ่ หัวเราะ "ค่ะ"
แล้วมะโฉ่ก็ปรับปรุงตัว ยอมรับผิดที่ตัวเองทำตลอด


ตอน มะโฉ่ "I love you"

มะโฉ่ชอบไปเที่ยวข้างนอกกับเรามาก นึกถึงครั้งแรกที่ไปด้วยกัน
พาไปเดินซีคอนสแควร์ มะโฉ่ไม่มีมือถือ เราบอกว่า "อย่าทิ้งพี่นะ เดี๋ยวพี่หาย" "ค่ะ"

อ้าว มะโฉ่ หายไปไหน เราก็เดินตามหา หันซ้าย หันขวา ก็ไม่เห็น
ว้า ทำยังไงดีอะ
เพื่อน ๆคะ ไม่ได้เวอร์จริง ๆ นะ มะโฉ่อยู่ข้างหลัง เหยียบตามรอยเท้าเรา แบบเนียน ๆ ถูกจังหวะ เหมือนเป็นเงาของเรา เพราะเธอกลัวหลง

เราเรียกมะโฉ่ "จะบ้าเหรอ มาอยู่ข้างหลังพี่ทำไม มาเดินพร้อมกันนี่"
เธอเลยเปลี่ยนจากเงา มาเป็นเพื่อนซี้ เดินคล้องแขนเจ้านาย
โอเคเลย ไปไหนไปกัน
และเรื่องไปเดินซื้อของ ไม่ต้องขอให้เธอช่วย เธอจะไม่ยอมให้เราถือของซักอย่าง ถือให้ทุกอย่างแม้แต่กระเป๋าตังค์ก็ดึงจากมือไปเลย
ตอนแรกก็จะเอาคืนมากลัวน้องเขาเสียใจว่าเราไม่ไว้ใจอีก ก็เลยตามเลยละกัน


มะโฉ่ชอบดูทีวี ใช้เวลาทำงานบ้านแค่สองชั่วโมงก็มานั่งดูทีวี แล้วชอบแย่ง
ช่องเรา พอเผลอปุ๊บเปลี่ยนเป็นช่องพม่าปั๊บ แต่งานขายของหน้าร้านไม่ค่อยยอมช่วยเท่าไหร่ นั่งเฉย
เราก็โทรไปบอกป้านก ช่วยบอกมะโฉ่ให้หน่อย เวลาเราไปขายของน่ะ
ช่วยหยิบถุงมาใส่ แล้วก็บางทีคนมาซื้อเยอะ ๆ ก็ช่วยยืนเป็นเพื่อนด้วย
(บางทีลูกค้าที่มาซื้อ ก็ท่าทางน่ากลัว คนงานก่อสร้างนี่คะ ไม่ใช่นายแบงค์จะได้ดูดี) มายืนให้ดูมีหลายคนไว้ก่อน แล้วบางทีเราต้องไปหยิบของในห้องด้วย จะได้มีคนยืนมองลูกค้าไว้

(ปกติเราจะให้มะโฉ่คุยกับป้านกทุกวันวันละประมาณสิบห้านาที เพื่อไม่ให้มะโฉ่เหงาเกินไป เพราะคุยกับเราไม่รู้เรื่อง มะโฉ่เล่าให้ป้านกฟังว่าคุณผู้หญิงใจดี ให้กินของกินเยอะแยะ และคุยทับป้านกว่ารักหนูเหมือนลูก หนูโชคดีได้อยู่ที่นี่ ป้านกสอนอะไรก็เถียงว่า คุณผู้หญิงไม่ดุด่าหรอก ตอนนี้ฟังภาษาไทยออกเยอะแล้ว)

ตามเคย เรื่องให้ช่วยขายของ เราบอกป้านกห้ามดุนะ ป้านกก็ไปดุมะโฉ่อีกละ
เราถาม "ป้านกพูดอะไรกับมันน่ะ จ๋อยเชียว เดินขึ้นไปบนบ้านละ"
ป้านก "ก็บอกให้มันมีอะไรก็ช่วย ๆ คุณผู้หญิงสิ ไปนั่งดูทีวีได้ยังไง ฯลฯ"
เราถาม "แล้วมะโฉ่ว่าไงล่ะ"
ป้านก "บอกว่าทำอะไรก็ไม่ถูกใจคุณผู้หญิง อยู่ไม่ได้ละ ให้มารับด้วย แต่ป้านกไม่ไปรับหรอก เด็กก็ยังงี้แหละ"
เราบอก "โธ่ ป้านกไม่น่าว่ารุนแรงเลย แค่ให้ช่วยขายของ หนูรักมันนะ มันน่ารักเหมือนลูกเลย หน้าตาก็เด็ก โกหกอายุใช่ไม๊เนี่ย หน้าอย่างกับ 13 ปี
งั้นเดี๋ยวขอขึ้นไปดูก่อนนะ พูดกันก็ไม่รู้เรื่อง "


"มะโฉ่ อยู่ไหน ทำอะไรอยู่"

มะโฉ่เช็ดห้องข้างบนอยู่ แบบซึมเศร้า

เราเลยเดินไปใกล้ ๆ หวังว่าเธอคงเข้าใจ

"มะโฉ่ I Love you นะ หนูอย่าทิ้งพี่นะ "
มะโฉ่หันมายิ้มหวาน "ค่ะ I love you"

เราโทรไปหาป้านกอีกครั้ง บอกให้คุยกับมะโฉ่ให้หน่อย
ป้านกมาบอกเราว่า
"มะโฉ่บอกว่าไปไหนไม่ได้แล้ว เพราะคุณผู้หญิงบอกว่า I love you จะอยู่
กับคุณผู้หญิง อีกสิบปีเลย"


เห็นมะ ภาษาไม้ตายเรายังใช้ได้ผล 555 my english very well


ตอน มะโฉ่ พนักงานขายหน้าร้าน

หลังจากป้านกสอนมะโฉ่ ว่าคุณผู้หญิงทำอะไรก็ให้ช่วย ให้คิดเอง ไม่ใช่รอคำสั่งอย่างเดียว มะโฉ่ก็ช่วยงานหน้าร้าน พอลูกค้ามาซื้อของมะโฉ่จะถาม "ซื้ออะไรดีคะ" (เธอเริ่มพูดไทยได้แล้ว)
พอลูกค้า บอกว่า "ซื้อกระดาษทรายครับ"
มะโฉ่จะมาบอกเราว่า "พี่คะกระดาษทรายค่ะ"

"พี่คะ สเปรย์ค่ะ"
"พี่คะ สีค่ะ"
"พี่คะ ตะปูค่ะ"ฯลฯ



มะโฉ่วิ่งมาบอกเรา "พี่คะ แบบว่าค่ะ"

เรารีบวิ่งไปขายของ (พร้อมระงับอาการขำไว้ เดี๋ยวเถอะมะโฉ่)
"น้องเอาอะไรดีคะ "

ลูกค้าวัยรุ่น "พี่ครับ แบบว่ามันจะเป็นสายยาว ๆ แบบว่าเอาไปใส่ในรถ
แบบว่า ๆๆ " อธิบายไปแต่เราก็ไม่มีขาย บอกให้ไปซื้อร้านอะไหล่มอเตอร์ไซค์

พอลูกค้าไป เท่านั้นแหละ
เราก็ยืนหัวเราะมะโฉ่ 555 พี่ไม่มีแบบว่าขายหรอก
พร้อมกับอธิบายให้มะโฉ่ฟัง พอรู้ความหมายมะโฉ่ก็หัวเราะก๊าก
และเราก็โทรไปเล่าให้ป้านกฟังด้วย


ตอน มะโฉ่ แม่ครัวคนเก่ง

สืบเนื่องมาจาก คราวที่แล้วป้านกสอนให้มะโฉ่รู้จักคิดเองทำเอง
ไม่ต้องรอคำสั่งคุณผู้หญิง

วันนึง ตอนเย็นเราก็ทำกับข้าว ซึ่งมะโฉ่ยังไม่เคยเห็นเราทำแกง วันที่ผ่าน ๆมา ทำแต่ผัดกับทอด
วันนี้เราจะทำแกงผักกาดใส่ไก่(อาหารเหนือเมนูเด็ด)
เราชอบทำกับข้าวเพราะเราดูแลความสะอาดของผักได้ ต้องล้างหลายๆครั้ง กลัวยาฆ่าแมลง พวกจานชาม กะทะ นี่ล้างแล้วเราต้องดม ดูด้วยนะคะ
"นี่ มะโฉ่ ไม่ต้องล้างให้หอมกลิ่นซันไลท์หรอกนะ เอาไปล้างใหม่"
มะโฉ่ " หอม ๆ ไม่ดีเหรอคะ"
เราบอก " ถ้าอาบน้ำ ตัวหอม ๆ น่ะดี แต่ล้างจานน่ะ ไม่ต้องหอมน้ำยาล้างจาน"
เตรียมผัก พริก กระเทียม ฯลฯ ให้มะโฉ่โขลกเครื่องแกงเสร็จแล้ว
เราก็คั่วน้ำมันใส่เครื่องแกงลงไปใส่ไก่ลงไป

แต่เดี๋ยวก่อนลูกค้ามาตอนนี้อีกแล้ว เราเลยปิดเตาแก๊ส วิ่งไปขายของ และยังมีโทรศัพท์ลูกค้าโทรมาสั่งของอีก พักใหญ่ ๆ
ตายแล้ว เราลืมทำกับข้าวต่อ วิ่งไปห้องครัว

มะโฉ่ตักแกงใส่ชามรอเรามากินข้าวด้วยกัน
" มะโฉ่ หนูเก่งจังเลย ทำเองเลยเหรอ เก่งมาก ดีมาก"
ไหนลองชิมดูซิ (ในใจก็หวั่นๆ)
"เค็ม ๆๆๆ หนูใส่อะไรลงไปคะ"
มะโฉ่พูดไทยยังไม่ได้มาก วิ่งไปเอา... น้ำมันหอย พริกไทย ซีอิ้วขาว ซีอิ้วดำ ซอสถั่วเหลือง ผงรสดี ฯลฯ ที่มีอยู่ในตู้เอามาเรียงให้เราดู
"ใส่นี่หมดเลยค่ะ"
"โอ๊ยแล้วจะแก้ยังไงเนี่ย พี่ยังไม่เคยแกงให้หนูดูเลยนะ วันหลังให้ดูพี่ครั้งนึงก่อน"
วันนั้นหิวมาก ๆๆ เราบอกให้มะโฉ่เอาผักในตู้เย็นมาใส่เพิ่ม ใส่น้ำลงไปต้มใหม่อีกรอบ ไม่อร่อยแต่ขำค่า เราเลยตักป้อนมะโฉ่ใหญ่เลย
"อั้ม ๆๆ อร่อยไม๊จ๊ะ นี่ภาษาไทยเรียกว่า เค็ม หนูรู้ภาษาไทยเพิ่มแล้วนะวันนี้ เค็มๆๆๆๆ ท่องให้ขึ้นใจน๊า"
มะโฉ่ ตอบ "ค่ะเค็มค่ะ" แล้วยิ้มหวานทำเราใจอ่อนอีกละ (จะด่าลงที่ไหนล่ะเนี่ย)

(ฮือ ฮือๆๆ ให้มะโฉ่คิดเองทำเอง ดีหรือไม่ดีเนี่ย)


ตอน กาเปลี่ยนเป็นหงส์
หลังจากมาอยู่กับเราสองอาทิตย์ มะโฉ่ บอกว่า อยากยืดผม เพราะตอนอยู่บ้าน ขอเงินแม่ยืดผมแม่ไม่ให้ บอกว่า ถ้ามาทำงานแล้วค่อยหาเงินยืดผมเอง

เราถามว่า "ไม่ส่งเงินให้แม่เหรอเดือนแรก จะยืดผมเลยเหรอ"
"ค่ะ"

"จริงๆ ดิ งั้นพี่โทรไปถามป้านกก่อนนะ "
ป้านกบอกว่าเป็นพันมะโฉ่ก็จะทำ พ่อแม่ไม่เดือดร้อน
เพราะที่บ้านมะโฉ่ ค่อนข้างมีฐานะดี พ่อมีรถหกล้อขับ
ที่มะโฉ่มาทำงานเพราะว่าอาย ที่ต้องเรียนซ้ำชั้น เพราะตกภาษาอังกฤษ

โอ้ ผู้ดีตกยาก เจ้ามะโฉ่แห่งแคว้นเชียงรุ้ง หึหึ
มิน่า ทำงานบ้านไม่เป็นเลยเพราะงี้เอง

และแล้วเราก็เรียกช่างผมมาทำให้มะโฉ่ ในราคาที่คนไทยบางคนยังไม่ยอมเสียตังค์ทำ วันนั้นเจ้ามะโฉ่ ก็สวยสมใจ ใช้เวลายืดผม 6 ชั่วโมง
ไม่ต้องทำงานทำการกัน เพื่อความสวย

เพื่อนบ้านก็มาถาม "ให้มันสวยทำไม ให้มันทำทำไม เสียเวลางาน"
"แล้วทำไมต้องพามันไปดูหนัง พาไปเที่ยว พาไปทานข้าวนอกบ้านด้วย ทำยังกับเป็นลูกฯลฯ "

เราตอบว่า "ก็เรามีความสุขที่ทำแบบนี้ ไปไหนก็ต้องไปด้วยกัน จะให้ทิ้งไว้ก็ทำไม่ได้หรอก เราไปก็ห่วงมันอีก" (because I Love you มะโฉ่)




width='450' height='337' border=0>


ทางที่ต้องเลือก

ก่อนที่มะโฉ่จะมาอยู่กับเรา เรามีลูกน้องเป็นอิสลาม ชื่อจุมมา
(ซึ่งเราจะเก็บไว้เล่า ตอน จุมมา อีกที)

จุมมาต้องออกจากงานเพราะเป็นเดือนรอมาดอน(เขียนถูกป่าวไม่รู้)
ของอิสลาม ซึ่งเธอต้องถือศีลอด หนึ่งเดือน เธอขอลาไปบวชกับญาติ
เราเลยบอกว่าคงรอไม่ไหว ต้องหาคนมาอยู่แทน และหลังจากออกบวช
เราได้หางานใหม่ให้ ไปทำงานบ้านพ่อแม่แฟนเพื่อนเราเอง จุมมามีน้องสาวตามมาทำงานด้วย บ้านแฟนเพื่อนเราเป็นครอบครัวคนจีน ตึกแถวหกชั้น 2 คูหา

ระหว่างที่จุมมาทำงานที่ใหม่ เราโทรคุยกันตลอดถ้ามีเวลา

วันหนึ่ง จุมมาโทรมา "พี่คะ หนูอยู่ไม่ไหวแล้ว โอ๊ย งานเยอะ ขี้เหนียว ด่า ๆๆ" (รายละเอียดค่อยเล่าตอน จุมมา)

เรา บอกว่า "งั้นหนูกลับมาอยู่กับพี่ เดี๋ยวพี่จะฝากงานให้มะโฉ่"
ต่อ

เราบอกมะโฉ่ให้ไปทำงานบ้านเพื่อนพี่นะ เดี่ยวถ้าหนูทำงานบ้านเก่งแล้วค่อย
กลับมาอยู่กับพี่อีกที งานบ้านพี่ไม่รู้จะสอนหนูยังไง

มะโฉ่ "ค่ะ"

แล้ววันที่มะโฉ่ ต้องไป เธอทำหน้าเศร้ามาก เก็บเสื้อผ้า ทาแป้ง มีร่องรอย
ของการร้องไห้ เราไม่อยากทำแบบนี้ แต่เพื่อจุมมา ต้องทำให้ได้
อีกทางหนึ่งก็เป็นการให้มะโฉ่มีประสบการณ์ในการทำงาน ที่อื่นดูด้วย
เพราะมะโฉ่ทำงานไม่เรียบร้อย เฉื่อย ๆ

เราขับรถ พามะโฉ่ไปส่งที่ห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง
มะโฉ่ พูดว่า "พี่ค่ะ โฉ่อยากได้โทรศัพท์" เรารีบพาไปซื้อโทรศัพท์
มะโฉ่เอาเงินไปซื้อหนึ่งพันบาท แต่โทรศัพท์ พร้อมซิม ราคา 1200 บาท
เราบอกเพื่อนว่า "เธอออกเงินให้มะโฉ่สองร้อย เดี๋ยวไปเอาคืนกับมันที่รถละกันนะ"

ก่อนไปมะโฉ่ หันมาบ๊าย บาย เรา เป็นภาพติดตามาก แต่เราเมมเบอร์ไว้แล้ว

หลังจากส่งมะโฉ่เสร็จ รีบโทรหาจุมมา แต่เธอไม่ยอมรับสายเลย

เราโทรไปบอกน้องสาว ทำยังไงดี ส่งมะโฉ่ไปแล้ว จุมมาก็ไม่รับสาย
น้องเลยโมโห บอกว่า "ช่างมันเถอะ คนอื่นมีเยอะแยะ"

เย็นนั้นน้องเราก็เลยพาไปรับคนใหม่ ชื่อมะเหง่ มาอยู่ด้วย
ตอนเย็นเราโทรไปหาจุมมาอีกที
จุมมาบอกว่า "น้องสาวร้องไห้ ไม่ยอมแยกจากกัน หนูเลยไม่รู้จะทำยังไงดี"
เราบอกว่า "ไม่เป็นไร พี่ได้คนใหม่แล้ว แต่พี่เสียใจ เพราะพี่ยอมเสียมะโฉ่เพื่อเธอ น่าจะโทรบอกพี่ให้เร็วกว่านี้ ไม่งั้นพี่ไม่มีวันส่งมะโฉ่ไปไหนหรอก"

มะเหง่อยู่กับเรากลางคืนนั้น แต่ใจเราคิดถึงแต่มะโฉ่
โทรไปหามะโฉ่ เสียงมะโฉ่น้อยใจ
เราถาม "หนูอยู่ได้ไม๊" มะโฉ่ตอบ "อยู่ได้ค่ะ"
"ถ้าอยู่ไม่ได้โทรมาบอกพี่นะ" "ค่ะ"

ตอนกลางคืนเรานอนไม่หลับ รู้สึกเหมือนปล่อยแมวเข้าป่า
โทรไปบอกป้านก
"ป้านก ถ้ามะโฉ่อยู่ไม่ได้ให้กลับมานะ"

อีกวัน ป้านกถามว่าพาใครมาอยู่ กลายเป็นญาติมะโฉ่ โดยบังเอิญ
ป้านก กับมะเหง่คุยกัน มะเหง่ถามป้านกว่า "มะโฉ่ จะกลับมาอยู่เหรอ"
ป้านกบอก "ไม่ล่ะมั้ง"

ตอนกลางคืนโทรไปหามะโฉ่อีก
ประชุมสายกับป้านกด้วย
"มะโฉ่ หนูเป็นไงมั่ง โอเคไม๊ " มะโฉ่ตอบ "ไม่โอเคค่ะ"
เราถาม"จะกลับมาอยู่กับพี่ไม๊" "กลับค่ะ หนูคิดถึงพี่ค่ะ"
ป้านก พูดว่า
"อยากให้ฝึกงานที่นู่นซักเดือนหนึ่งก่อนค่อยให้กลับ จะได้เก่ง ๆ"
มะโฉ่ ตอบว่า "อยู่ไม่ด๊ายค่ะ" เสียงเหมือนจะร้องไห้

เราบอกว่า "งั้นพรุ่งนี้เช้าพี่จะไปรับเธอนะ"
เรารีบโทรไปลาออกให้ รีบตื่นแต่เช้าไปรับมะโฉ่

มะโฉ่ ขึ้นมาบนรถ เราถาม "เป็นยังไงบ้าง"
"เช็ด ๆๆๆ กระจกเยอะแยะเลย ตอนกลางคืนเลี้ยงเด็กอีก 5 คน"
เธอเล่าให้เราฟังว่านั่งไม่ได้เลย ทำงานๆ มีเวลากินข้าว 10 นาที
ตอนไปรับมะโฉ่ เราพามะเหง่ ไปด้วย โทรไปบอกป้านกช่วยแปล
ให้มะเหง่เข้าใจว่าเรารักมะโฉ่ไปแล้ว และน้องเขาพึ่งมาแค่สองวัน เราขอโทษ ที่ทำให้เสียเวลา เดี๋ยวให้ค่าแรงไปเยอะหน่อยแล้วก็แถมเครื่องสำอาง เสื้อผ้าให้ไป

กลับมาบ้านเราครั้งนี้ มะโฉ่เปลี่ยนไป ขยันขึ้น เช็ดกระจกทุกบาน
เราก็นั่งหัวเราะ "555โฉ่ แบบนี้น่าจะไปอยู่นั่นซักสองอาทิตย์ค่อยมานะ
หนูทำสะอาดขึ้นเยอะเลย"

มะโฉ่ทำงานไม่ยอมนั่งดูทีวีกับเราเลย (เมื่อก่อนว่างปุ๊บก็จะดูหนังเกาหลี
ด้วยกัน) เพลงลูกทุ่ง กับละครนี่มะโฉ่ไม่เคยพลาดเลย เป็นอย่างนี้อีกสอง
อาทิตย์ เหตุการณ์ก็เข้าสู่สภาวะปกติ
ตอนนั่งรถ กลับจากซีคอนสแควร์ เราจับมือกับมะโฉ่ แล้วโทรไป
บอกน้องสาวว่า มะโฉ่จะอยู่กับเราสิบปี จะอยู่ที่นี่ไม่ไปที่ไหนแล้ว
(พร้อมกับเราบอกมะโฉ่ พูดให้น้องสาวเราได้ยินด้วย อยู่กับพี่อีกสิบปีใช่ไม๊
มะโฉ่ ตอบว่า "ค่ะ")
น้องสาวบอกว่า กรูไม่เชื่อหรอก เชอะ กรุจะคอยดู


แต่แล้วความสุขก็อยู่กับเราได้ไม่นาน....

ตอนกลับจากไปอยู่บ้านเพื่อนเรามา มะโฉ่เหลือเงิน 22 บาท
ต่อมามะโฉ่ อยากเติมเงินโทรศัพท์ ก็มายืมเงินเรา 100 บาท
พอเราจะให้ก็บอกว่า เพื่อนเติมเงินให้จากปลายทางแล้ว

กลับมาครั้งนี้มะโฉ่ ติดโทรศัพท์ คุยกับเพื่อนทุกคืน
หลังจากนั้น เราแปลกใจว่าทำไมมะโฉ่มีเงินเติมค่าโทรศัพท์
บ่อย ๆ (เธอแอบไปซื้อที่เซเว่นบ่อย ๆ)

เราเลยแอบเข้าไปเปิดกระเป๋ามะโฉ่ดูว่า มีเงินเท่าไหร่
เห็นเงินมีประมาณ 300 กว่าบาท ก็โทรไปปรึกษาน้องสาวและเพื่อน ๆ
"ทำไงดี จะพูดกับมันยังไงดีล่ะ"
น้องบอกว่า "ถ้าพูด รับรองมันออกแน่ เพราะมันอาย พร้อมกับหัวเราะเยาะ
555 ไงล่ะจะอยู่สิบปี"

เราตัดสินใจพูดไปเลยดีกว่า
"มะโฉ่ เงินในกระเป๋ามาจากไหน พี่รู้ว่าหนูไม่มีเงิน อาทิตย์ที่แล้วยัง
ขอยืมพี่อยู่เลย"
มะโฉ่ บอกว่า "หนูไม่ได้เอา"
เราบอก "ถ้าหนูขอโทษ พี่ก็จะไม่โกรธ แล้วอย่าทำอีกนะ"

มะโฉ่ ร้องไห้ ขอคุยกับป้านก

ป้านกบอกเราว่า มะโฉ่บอกว่า ไม่ได้เอา
เราก็บอกป้านกว่า เงินคราวก่อนมะโฉ่ให้พี่สาวส่งกลับบ้านหมดแล้ว
เหลือมาแค่ 22 บาท แล้วอาทิตย์ก่อน ถ้ามีเงินทำไมต้องมายืม100 บาท ล่ะ แล้วยืมตอนป้านกอยู่ในสายด้วย
เราบอกให้มะโฉ่ขอโทษ แล้วเราจะไม่ว่าอะไร ให้อยู่ต่อ
มะโฉ่ไม่ยอมอยู่ต่อ เราคิดว่ามันคงอาย
ก็ให้ป้านกมารับไปละกัน

วันนั้นป้านกก็มารับมะโฉ่ ไป อีกสามวันมาจีก็มาอยู่กับเรา มาจีบอกว่า มะโฉ่ไม่อยู่กับพี่สามวัน หรือสามปี ฝุ่นเขรอะเชียว


เพื่อน ๆ รู้ก็ถามกันใหญ่ บางคนก็บอกว่า ไม่ต้องไปเอาใจพวกนี้หรอก
บางคนก็บอกว่า ลูกน้องที่มาจากบ้านพี่น่ะ เคยตัว เคยสบาย อยู่ที่อื่นไม่ได้หรอก

(ณ ตอนนี้ เราไม่กล้ารักลูกน้องอีกแล้ว คงเป็นเหมือนบางคนที่บอกว่า
ถ้าคนเคยอกหัก ครั้งต่อไปจะไม่ให้ใจใครเต็มร้อย ค่อย ๆ ดูคนไปก่อน)

(แหง่ว คนเค้าอกหักจากแฟน ชั้นอกหักจากลูกน้องมาสองคน เฮ้อ
คนอกหักมันคงรู้สึกเหมือนกันนี่ล่ะมั้ง)

width='450' height='337' border=0>





Create Date : 01 มิถุนายน 2552
Last Update : 1 มิถุนายน 2552 19:13:45 น.
Counter : 160 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะ VIP Friend
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เนื้อคู่ประตูถัดไป
Location :
  

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed

 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



Friendship iz not a game 2 play, It iz not a word 2 say,
It doesnt start on March & ends on May, It iz tomorrow, yesterday, today & every day.
น้องเพนกี้
น้อง DoryKong 1
น้อง DoryKong 2
น้อง DoryKong 3
X
X
X
X
Friends Blog
[Add เนื้อคู่ประตูถัดไป's blog to your weblog]