It started with a kiss

ชื่ออังกฤษ It started with a kiss

ชื่อจีน 恶作剧之吻 (èzuòjùzhīwěn เอ้อร์จั้วจู้จือเหวิ่น) 恶作剧 แปลว่า "แกล้ง" ส่วนคำว่า 之吻 แปลว่า "จูบ" ค่ะ

ชื่อไทย แกล้งจุ๊บให้รู้ว่ารัก



กร๊าก ห่างหายจากบล็อกไปนาน ไม่ใช่เพราะอะไรหรอกค่ะ แต่เพราะว่าติดหนังนั่นเอง ทั้งที่ตัวเองไม่เคยเป็นมาก่อน เนื่องจากไม่เคยนั่งดูหนังซีรี่ย์เป็นแผ่นแบบนี้มาก่อน

แต่แล้วเมื่อช่วงต้นเดือนกันยายนที่ผ่านมา ก็ได้นั่งดูหนังเรื่องนี้จนจบ เป็นซีรี่ย์ไต้หวันที่ทำมาจากการ์ตูนญี่ปุ่น ที่จริงเพื่อนชื่อฟ้า ให้ยืมตั้งแต่ตอนเปิดเทอมใหม่ๆ ตอนนั้นลี่ลองถามเพื่อนว่า มีหนังอะไรบ้างไหมที่พูดจีน แล้วมีซับให้ เพราะอยากฝึกฟังภาษาจีน แต่แล้วก็เอามาดองไว้ เพราะเห็นชื่อเรื่องตอนแรก ก็ไม่กล้าเปิดดู เพราะคิดว่าจะมีแต่จูบ

จนเมื่อต้นเดือนกันยานี่แหละค่ะ เพื่อนอีกคนอยู่ๆ ก็เอาหนังให้ดู ลี่ก็เอากลับมา แต่พอดูชื่อเรื่อง เอ๊ะ คุ้นๆ นี่หว่า เลยรีบเปิดดูว่าเรื่องเดียวกันหรือเปล่า พอรู้ว่าเรื่องเดียวกัน ก็แอบคิดในใจว่า เพื่อนสองคนที่เขาไม่รู้จักกัน เอาเรื่องเดียวกันมาให้ยืม แสดงว่าเรื่องนี้ต้องสนุกแน่ๆ เลย เราจะช้าอยู่ไย เปิดดูเลยดีกว่า

และแล้วพอเปิดดู ก็ไม่สามารถถอนตัวเองออกจากหน้าจอได้เลย แบบว่าดูไปวันแรกก็ 5 ตอนแล้ว อิอิ แถมพอถึงเวลานอนก็ไม่ยอมนอนอีก ให้ตายเถอะ ก็ดูจบภายใน 4 วัน แบบว่านอนตี 2-3 เกือบทุกคืนเลย แถมยังไม่อยากนอน ไม่อยากกิน ไม่อยากไปเรียน ไม่อยากอะไรทั้งสิ้น นอกจากอยากจะดูให้จบ แล้วพอนอนก็ใช่ว่าจะจบกันนะ ยังฝันถึงพระเอกอีก กร๊าก เป็นเอามากเลยนะเนี่ย

จากนี้ไปอาจจะมีสปอย์เยอะมาก (ก็เล่นเล่าทั้งเรื่องอย่างละเอียด) ใครไม่ชอบอ่าน ก็ข้ามไปเลยได้ค่ะ แบบว่าตัวเองชอบเอ่ยถึงในเรื่อง

ที่ว่าตอนแรกไม่กล้าดู เพราะคิดว่าทั้งเรื่องจะมีแต่จูบ แต่จริงๆ แล้วทั้งเรื่อง 10 ตอนผ่านไปก็มีแค่ครั้งเดียว 555+ ไปเยอะเอาตอนใกล้จบ หุหุ แบบว่าแอบคิดว่าเรื่องนี้มันส่อเปล่า แต่จริงๆ ลี่เข้าใจผิดจากชื่อเรื่องเอง

ชื่อเรื่องเหมือนจะสื่อว่า พระเอกอ่ะเริ่มต้นรักนางเอกก็ตั้งแต่ตอนเผลอตัวจูบนางเอกครั้งแรก เพราะตอนแรกลี่เองแย้งว่า มันน่าจะชื่อเรื่องว่า It started with a love letter เหตุเพราะฉากแรกมา นางเอกก็ยื่นจดหมายรักให้พระเอกเลย โดยที่นางเอกหลงรักพระเอกมาตั้ง 2 ปี ส่วนพระเอกยังไม่ได้ชอบนางเอกเลย แต่ดูไปดูมา เพื่อนก็บอกว่า จูบครั้งแรก อาจจะทำให้เป็นจุดเริ่มต้นเรื่องราวของทั้งหมดก็ได้ ว่าพระเอกอ่ะรักนางเอกแล้ว แต่รักนะไม่แสดงออก อิอิ

ไม่รู้ตัวเองเป็นอะไรหรือเปล่า ชอบแต่พระเอกเย็นชา ตั้งแต่ตอนอ่านนิยายแล้ว พระเอกที่รักมากก็ คาโล คานาตะ โอ๊ย ทั้งคู่ต่างก็เย็นชา รักเข้าไปได้ไงฟระ พอดูหนังเรื่องนี้ เจียงจือชู ก็เย็นชาอีก แต่ทำไม๊ทำไมถึงได้หลงหัวปักหัวปำไปเลย หรือว่าเราโรคจิตเปล่าฟระเนี่ย คนน่ารักน่ารักธรรมดาอ่านแล้วเฉย ดูแล้วก็เฉย

แต่ก็คิดว่า ที่ดูหรืออ่านแล้วชอบพระเอกเย็นชา อาจจะเป็นเพราะว่า เดี๋ยวเขาอยู่ๆ ไป จะลดความเย็นชาลง เพราะมีนางเอกอยู่ใกล้ๆ มาลบปมในใจ มาทำให้ไม่เป็นตัวของตัวเอง มาทำให้พระเอกเริ่มแสดงความรู้สึกออกมา แล้วลี่เองก็จะตื่นเต้นด้วยว่า เมื่อไรพระเอกเขาจะแสดงว่าตัวเองรักนางเอก เมื่อไรที่จะน่ารักให้เห็น (เพราะพระเอกเย็นชา มักไม่ค่อยแสดงออก) เมื่อมีฉากน่ารักโผล่มา (นานๆ ที) ก็จะกรี๊ดกร๊าด แล้วก็ประทับใจไปอีกนานเลย

เคยแอบคิดนะว่า พวกหนังแนวนี้เนี่ย น่าจะให้ค่าตัวนางเอกเยอะกว่านะ อิอิ แบบว่านางเอกเล่นเยอะสุด ส่วนพระเอกถึงจะเป็นตัวหลัก แต่ก็โผล่มาบ้าง แถมยังไม่รู้อีกว่าพระเอกคิดอะไร

พระเอกแสดงโดยโจ เชง นางเอกแสดงโดยเอเรียล ในความรู้สึกแรกที่ดูนะ คิดว่านางเอกไม่สวยเลย แต่ดูไปดูมา ตอนหลังนางเอกสวยขึ้น แล้วก็น่ารักมาก อาจจะเป็นเพราะตอนแรกทรงผมนางเอกดูแปลกๆ หน้าตาดูเอ๋อๆ ก็เลยดูไม่สวยจริงๆ โดยเฉพาะตอนที่เรียนมัธยม แต่พอเข้ามหาลัยแล้ว ดูสวยขึ้นมากๆ เลย

ส่วนพระเอกนั้น ตอนแรกก็ว่าไม่หล่อนะ อาจจะเป็นที่ทรงผมก็ได้ แต่ดูไปดูมา ชักติดใจพระเอก กร๊าก แบบว่าพระเอกอย่างนี้แหละ ที่ลี่ชอบดู เพราะได้ลุ้น ได้ตื่นเต้นว่า แกจะแสดงออกเมื่อไรฟระ ว่ารักนางเอก ตอนนี้แกรู้สึกไงเนี่ย แล้วทำไมก็ไม่รู้ ดูๆ ไป พระเอกหล่อขึ้นแฮะ ยิ่งทรงผมตอนเข้ามหาลัย ทำไมหล่ออย่างนี้เนี่ย แบบว่าหลังจากนั้นมา ฉากไหนพระเอกโผล่มา ลี่จะเริงร่าเป็นพิเศษ


เรื่องราวก็ประมาณว่า นางเอกชื่อหยางฉางชิน เรียนอยู่ ม.6 แอบรักพระเอกมาได้ 2 ปี โดยแอบรักตั้งแต่แรกเห็น ตั้งแต่วันปฐมนิเทศ พระเอกได้ออกมาพูดที่หน้าห้องประชุม พระเอกชื่อเจียงจือชู เก่งมากมาย อัจฉริยะสุดๆ ก็ว่าได้ เรียนอยู่ห้องเอ ส่วนฉางชินเรียนห้องเอฟ

เปิดฉากมาก็เป็นฉางชินยื่นจดหมายรักให้จือชู แต่จือชูไม่สนใจ จากนั้นไม่นานบ้านฉางชินที่พ่อเพิ่งสร้างเสร็จ ก็ถล่มลงมา เนื่องจากแผ่นดินไหว (กร๊าก มันไหวนิดเดียวเอง แต่บ้านดันถล่ม 555+) เมื่อออกข่าว ทำให้อาลี่ (เพื่อนของอาไฉ พ่อนางเอก) เห็นข่าว ก็รีบมาหา แล้วชวนไปอยู่บ้านด้วย เพราะพ่อฉางชินทำให้อาลี่ได้พบรักกับภรรยา

พ่อฉางชินตกลงย้ายไปอยู่ด้วย ตอนแรกที่ไปถึง ฉางชินเห็นชื่อบ้านว่าเป็นตระกูลเจียง ก็คิดว่าคงไม่ใช่หรอก อาจจะซ้ำกันเยอะแยะไป แต่แล้วอยู่ๆ จือชูก็โผล่มา กลายเป็นว่า ฉางชินได้ย้ายไปอยู่บ้านเดียวกับจือชู

บ้านนี้อยู่กัน 4 คน จือชูมีน้องชายอีกคน พ่อแม่จือชูออกแนวฮาๆ แม่จือชูชอบทำอาหารมาก พอฉางชินย้ายเข้ามาอยู่ได้ไม่นาน ก็มีความตั้งมั่นที่จะสอบให้ติดในอันดับ 1 ใน 100 คนของโรงเรียนให้ได้ โดยที่ห้องเอฟไม่เคยทำได้มาก่อน

แม่จือชูได้เอารูปตอนเด็กๆ ที่จือชูแต่งเป็นผู้หญิงให้ฉางชินดู ฉางชินจึงเอาไปเป็นข้อแลกเปลี่ยนกับจือชู โดยให้จือชูติวหนังสือให้ แม่จือชูดีใจมากๆ เพราะจือชูไม่เคยอ่านหนังสือให้เห็นเลย นอนก่อน 4 ทุ่ม ทำให้แม่จือชูไม่มีโอกาสทำอาหารว่างให้กิน แต่เมื่อฉางชินมาอยู่ แล้วตั้งใจอ่านหนังสือ แม่จือชูก็คอยทำอาหารให้กินตลอด

จือชูสามารถติวให้ฉางชินสอบได้คนที่ 100 พอดี ส่วนจือชูอัจฉริยะ ได้ที่ 1 ของโรงเรียน โดยได้คะแนนเต็ม ฉางชินดีใจมาก ที่มีชื่อร่วมบอร์ดกับจือชู ถึงจะอยู่ต้นบอร์ดกับท้ายบอร์ด แต่ก็ได้อยู่บนบอร์ดเดียวกัน

อาจิน เพื่อนร่วมห้องของฉางชิน แอบรักฉางชินมานาน ฉางชินก็รู้ แต่ก็ไม่ได้ชอบ ก่อนเรียนจบ ม.6 ฉางชินได้ขอร้องให้จือชูติวหนังสือให้เพื่อนๆ ในห้อง จนเพื่อนๆ ในห้องสอบผ่านทุกคน ยกเว้นอาจิน

จือชูเป็นคนที่เย็นชา มักไม่ค่อยแสดงความรู้สึกออกมา นานๆ ถึงจะยิ้มที โดยทีตัวเองมีปมในใจว่า ไม่รู้ว่าอนาคตอยากทำอะไร แล้วก็สงสัยว่าทำไมเพื่อนๆ นางเอกในห้องเอฟ จะต้องพยายามในการเรียนขนาดนั้น แต่ถึงจะไม่ค่อยแสดงออก แต่ก็หลุดคำถามนี้ออกมาถามฉางชิน แล้วฉางชินก็จะคอยอยู่ข้างๆ ตอบคำถามพวกนี้ให้จือชูได้คิด

เมื่อวันเรียนจบ มีงานเลี้ยงฉลอง ห้องเอฟกับห้องเอพูดกระทบกระทั่งกัน แล้วก็มีพูดล้อเลียนถึงเรื่องที่นางเอกบอกรักพระเอก ทำเป็นเรื่องน่าสนุก จนทำเอาฉางชินโมโห ถึงขั้นเอารูปจือชูแต่งตัวเป็นเด็กผู้หญิงให้เพื่อนๆ ดู จือชูโมโห จึงดึงฉางชินออกมา แล้วก็จูบ จูบเสร็จก็แลบลิ้นให้อีก เหอๆ

ก่อนวันสอบเข้ามหาลัยชื่อดังของจือชู ฉางชินเมาเหล้า แล้วก็บอกว่า ไม่อยากให้จือชูเรียนที่นั่น วันต่อมาจือชูไปสอบ ฉางชินไปส่ง แล้วอยู่ๆ ก็เป็นลม จือชูเลยใช้เรื่องที่ต้องพาฉางชินเข้าโรงพยาบาลเป็นข้ออ้าง เพื่อที่จะได้ไม่ต้องเข้าสอบ

และแล้วทั้งคู่ก็ได้เรียนที่เดียวกัน พระเอกเรียนวิศวะ นางเอกเรียนพวกเลี้ยงเด็กประมาณนั้น ณ ที่นี้ ฉางชินก็มีคู่แข่งมาอีกล่ะ ซีหยูก็แอบชอบพระเอก นางเอกตามพระเอกเข้าชมรมเทนนิส ทำให้ได้รู้จักกับรุ่นพี่ ที่แอบชอบซีหยู นางเอกได้ย้ายออกจากบ้านพระเอก เพราะอยู่มานานแล้ว พ่อนางเอกเกรงใจ

ตอนไปค่ายเทนนิส ซีหยูจะบอกรักพระเอก แต่มีรุ่นพี่กับนางเอกไปแอบฟัง จนสุดท้ายพระเอกก็จับได้ พระเอกต้องแข่งเทนนิสคู่นางเอก สู้กับคู่ของรุ่นพี่และซีหยู หากนางเอกรับลูกได้เพียงลูกเดียว พระเอกก็จะไม่ต้องใส่ชุดผู้หญิง

ในค่าย นางเอกโดนรับหน้าที่ทำอาหาร แต่เธอทำไม่เป็นหรอก สุดท้ายทุกมื้อพระเอกจะโดดซ้อม มาทำอาหารให้ พระเอกให้นางเอกปิดเป็นความลับ ทุกคนต่างชมนางเอก แต่มื้อสุดท้าย พระเอกโดดไม่ได้ เพราะถูกจับได้ว่าโดดบ่อยไป เมื่อนางเอกทำออกมา ทุกคนก็อึ้ง แล้วสุดท้ายก็รู้ว่าพระเอกเป็นคนทำ

ก่อนวันแข่ง นางเอกขาบวม จนถึงวันแข่ง นางเอกก็ไม่ยอมบอกพระเอก แต่เอาผ้าปิดเท้าไว้ เล่นจนรับลูกได้ ก็ล้มลง จนสุดท้ายพระเอกต้องอุ้มพาไปหาหมอ แล้วขากลับก็ให้นางเอกขี่หลัง แล้วพากลับบ้านใหม่ที่นางเอกไปอยู่ แต่แล้วกลับพบว่าขายไปแล้ว



ตอนกลับมาเจอว่าบ้านได้ถูกขายไปแล้ว


เหตุเพราะพ่อนางเอกย้ายกลับไปบ้านพระเอก เพราะว่าแม่พระเอกดันรู้จากเพื่อนนางเอกว่า พระเอกจูบนางเอกแล้ว แล้วกลับไป พระเอกก็ยอมรับว่าใช่ ทำเอาน้องชายอึ้งไป แต่พ่อแม่กลับดีใจมากๆ หุหุ

รุ่นพี่กับนางเอกแกล้งทำเป็นชอบกัน พระเอกได้ยินก็หึง รุ่นพี่กับนางเอกก็นัดกันไปดูหนัง โดยที่พระเอกไปดูหนังกับซีหยู นางเอกแกล้งซีหยูสารพัด จนพระเอกเลิกหึง เพราะรู้ว่าเป็นแผนการ 555+

รุ่นพี่ได้นัดเพื่อนให้ทำเป็นมาเฟีย มีเรื่องกัน แต่แล้วรุ่นพี่ก็ดันมีเรื่องกับมาเฟียจริงๆ พระเอกรีบวิ่งมาดึงมือนางเอกหนีไป ส่วนรุ่นพี่ก็หนีไปกับซีหยู

นางเอกสงสัยว่าทำไมพระเอกถึงพาตัวเองมา แล้วทิ้งซีหยูไว้ พระเอกก็บอกว่า เปิดโอกาสให้รุ่นพี่เขาบ้าง อุตส่าห์ลงทุนมีเรื่องกับมาเฟีย (กร๊าก ฉลาดเกินไปแล้วนะ) จากนั้นพระเอกก็ชวนเที่ยว (ประโยคนี้อึ้งทั้งนางเอก แล้วก็คนดูอย่างเรา)

ก็ได้ไปเที่ยวขี่เรือกัน แล้วดันตกน้ำกันทั้งคู่ก่อนจะขึ้นถึงฝั่ง พระเอกกับนางเอกเลยไปโรงแรม เพื่อเปลี่ยนเสื้อผ้า นางเอกซื้อเสื้อให้พระเอก แต่พระเอกบอกให้นางเอกใส่ไปก่อน แล้วเดี๋ยวจะเอาทีหลัง ระหว่างนางเอกอาบน้ำ พระเอกก็ถอดเสื้อออกมาบิด จนตกหน้าต่างลงไปที่หน้าโรงแรม พระเอกต้องเดินถอดเสื้อลงมาเอาเสื้อขึ้นไป จากนั้นพระเอกก็บอกว่า คะแนนที่นางเอกสอบได้ครั้งนี้ จะแสดงว่านางเอกมีใจให้พระเอกเท่านั้น

และแล้วคะแนนก็ออก แต่นางเอกได้แค่ 38 คะแนน พระเอกรู้ ก็พูดว่า เธอมีใจให้ฉันแค่นี้เองเหรอ (กร๊าก ตอนพูด ทำไมต้องพูดต่อหน้าซีหยูด้วยนะ ใจร้ายที่สุดเลย)

อยู่มาไม่นาน พระเอกก็ย้ายออกจากบ้าน เพราะอยากลองใช้ชีวิตด้วยตัวเอง อยากลองหางานทำด้วยตัวเอง เพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยทำอะไรด้วยตัวเองเลย ทุกคนเศร้าใจมาก แต่ก็ยอมปล่อยให้พระเอกไป

นางเอกแอบตามไปดูพระเอกทำงานที่ร้านอาหาร เธอหมดเงินไปกับการซื้ออาหารในร้านที่พระเอกทำ แล้วก็ถูกซีหยูที่ตามมาทำที่ร้านนี้แกล้งบ่อยๆ ด้วย มีอยู่ครั้งนางเอกเห็นพระเอกตามไปบ้านซีหยู ก็เสียใจ แล้วคิดว่าจะเลิกชอบพระเอกให้ได้ นางเอกเหม่อลอย จนเพื่อนๆ ต้องตามไปพูดกับพระเอก

แล้วพระเอกก็มาง้อ (ตอนแรกที่มาก็น่ารักอยู่อ่ะนะ แต่หลังจากพูดกับนางเอกนิดหน่อย แล้วเหตุการณ์ต่อมาเกิดขึ้น พระเอกก็น่าตบขึ้นมาทันที) เพราะน้องของซีหยูโผล่มา แล้วก็บอกว่าชอบพระเอก พระเอกติวหนังสือให้ที่บ้าน ถึงวิธีง้อนี้จะดูงี่เง่า แต่ก็ทำให้นางเอกยิ้มได้

นางเอกตามไปร้านอาหารที่พระเอกทำอีก จนกินกาแฟไป 3 แก้ว แล้วเป็นลม วันนั้นฝนตกหนัก แม่พระเอกเลยให้นางเอกนอนที่หอพระเอกก่อน นางเอกก็ไปนอนที่หอพระเอก แต่ไม่ได้มีอะไรกันนะ (แต่ฮาดี ขำมากมาย) นางเอกนอนดิ้นซะเตะพระเอกหลายรอบ จนพระเอกนอนไม่ได้ทั้งคืน ก็เลยถ่ายรูปนางเอกนอนน้ำลายไหลแล้วทำเป็นเดสท์ท็อปที่หน้าจอคอม อิอิ

เพื่อนของน้องซีหยูเข้ามา ก็บอกว่ารักนางเอก แล้วขอนางเอกเดท นางเอกก็ไปเดทกันที่ร้านที่พระเอกทำงาน อาจินรู้ตามมาหาเรื่องกัน จนต่อยกัน ส่วนพระเอกก็ยืนดูเฉยๆ แต่สุดท้ายก็บอกทั้งคู่ว่า "แย่งกันยังไง คนที่ฉางชินชอบก็คือฉันอยู่ดี" (กร๊าก ถูกใจค้าบ พระเอกน่ารักจัง แถมขำ ดึงนางเอกมาได้หน้าตาเฉย โดยไม่เจ็บตัว) จากนั้นก็ดึงมือนางเอกพากลับบ้าน ระหว่างทางนั่งกลับบ้านก็หัวเราะกันไป

น้องพระเอกปวดท้องมาก ตอนที่อยู่กับนางเอกสองคน ส่วนพ่อแม่ไปงานเลี้ยงรุ่นกัน นางเอกก็โทรหาพระเอก แล้วรีบพาน้องพระเอกส่งโรงพยาบาล นางเอกขวัญเสียมาก จนพระเอกต้องกอดไว้ (ฉากน่ารักมาอีกแล้ว ครั้งแรกที่กอดเลยนะเนี่ย หุหุ) แล้วพอนางเอกหลับแบบแหงนหน้าข้างๆ พระเอก ในระหว่างที่นั่งเฝ้าน้องพระเอกในห้อง พระเอกก็แอบลักจูบนางเอก โดยน้องพระเอกตื่นมาเห็นพอดี ก็ช็อก เพราะน้องพระเอกไม่คิดว่าพี่ชายตัวเองจะชอบนางเอกได้ พระเอกเห็นก็ทำหน้ามองมาเฉยๆ (กร๊าก แหม ปากบอกไม่รัก แต่แอบจูบนี่นะ หมายความว่าไง หึหึ)

ณ โรงพยาบาล ทำให้น้องพระเอกได้เพื่อนอีกสองคน คนหนึ่งชื่ออาโนลด์ คนนี้แหละที่เป็นแรงบันดาลใจให้พระเอกอยากเรียนหมอ โดยมีนางเอกเป็นคนพูดกระตุ้นว่า อยากให้พระเอกเป็นหมอ ออกจากเก่งอย่างนี้ เป็นหมอได้สบาย แล้วก็จะได้รักษาอาโนลด์ให้หายด้วย

พระเอกได้ย้ายกลับมาบ้าน ในวันเกิดตัวเอง นางเอกไม่รู้ ก็ได้เอาของขวัญไปวางไว้ที่หน้าห้องพักพระเอก พระเอกรู้ก็รีบวิ่งกลับไปเอา (ตอนนางเอกบอก ก็ทำหน้าเฉยๆ อ่ะนะ แต่แหมรีบวิ่งกลับไปเอาซะ)

ปิดเทอมพระเอกกับนางเอกได้ไปทำงานที่บริษัทพ่อพระเอก โดยพ่อพระเอกโกหกว่าโดนเลขาโกง นางเอกทำงานอะไรไม่เป็นเลย แต่ก็เป็นผู้จุดประกายความคิดพระเอก จนเกิดผลงานที่ดีมากๆ ให้กับบริษัท (แหม นางเอกพูดแค่ถ้ามีเวทมนตร์ก็ดีสินะ พระเอกก็คิดออกเลยนะ หุหุ)

พระเอกก็ได้ย้ายไปเรียนหมอ โดยที่ไม่มีใครรู้ นอกจากนางเอก (หุหุ ปากบอกว่าไม่รักก็อ่ะนะ พูดอะไรก็ทำตามไปหมดเลยนะ)

พ่อแม่พระเอกรู้ว่าพระเอกย้ายไปเรียนหมอ ก็โมโห มีเรื่องกัน สุดท้ายพ่อพระเอกก็เข้าโรงพยาบาล พระเอกต้องไปทำงานแทน บริษัทมีปัญหาการเงิน จนต้องติดต่อกับบริษัทของท่านเบ พระเอกได้เจอกับฮุ่ยหลัน หลานสาวของประธานเบ ฮุ่ยหลันประทับใจพระเอกตั้งแต่แรกพบ

ในวันคริสต์มาส พระเอกได้ไปงานเลี้ยงกับครอบครัว นางเอกอยู่บ้านคนเดียว เพราะตอนแรกเพื่อนอกหัก แล้วจะไปเที่ยวกับเพื่อน แต่แล้วเพื่อนๆ ก็ไปกับแฟนหมด นางเอกเลยอยู่บ้านกับเสี่ยวเข่ออ้าย (หมาที่บ้านพระเอก ชื่อแปลว่า น่ารัก) พระเอกโผล่มา เพราะเห็นเพื่อนนางเอกไปเที่ยวกับแฟน แล้วโทรมาหานางเอก ก็รู้ว่านางเอกอยู่บ้าน



ภาพตอนวันคริสต์มาส


พระเอกมาพร้อมกับไก่ทอดเคเอฟซี 2 ถัง แล้วนางเอกเข้าใจว่าซื้อให้เสี่ยวเข่ออ้าย (เออเนอะ พระเอกเขามาหาตัวเอง ดันเข้าใจว่าซื้อให้หมาซะงั้น) พระเอกเลยบอกว่าใช่ หุหุ แล้วก็บอกว่าหนีกลับมา เพราะว่ามีคนให้เขาดูตัว มีตั้งแต่เด็ก 8 ขวบเลย (555+ เสน่ห์แรงมากเลยเนอะจือชู) แล้วงานเลี้ยงก็น่าเบื่อ (จริงๆ จะบอกว่าเพราะไม่มีนางเอกใช่ไหมล่ะ หุหุ แล้วอยากกลับมาฉลองกับนางเอกใช่ไหมล่ะ)

นางเอกให้ของขวัญพระเอกเป็นหนังสือตำราหมอ ส่วนพระเอกก็บอกว่าไม่มีอะไรให้ (ก็ไม่เคยเห็นพระเอกจะให้อะไรนางเอกเลย ก็อย่างนี้แหละนะ รักนะแต่ไม่แสดงออก) พระเอกก็บอกว่าเคยอ่านแล้ว จากนั้นพระเอกชวนไปกินเค้กช็อกโกแลต ซื้อมาไว้แล้ว นางเอกสงสัยว่าทำไมไม่เอาสตรอเบอรี่มา เพราะพระเอกชอบ พระเอกเลยบอกว่ามีแต่รสช็อกโกแลต (แหม จริงๆ คงมีหรอกสตรอเบอรี่ แต่ตัวเองอยากซื้อรสที่นางเอกชอบใช่ไหมล่ะ รู้ทันนะ) นางเอกไม่กล้าตัดเค้ก สุดท้ายพระเอกก็บอกว่าเอาช้อนมากินกันเลย โดยไม่ต้องตัด แล้วก็มีเค้กของเสี่ยวเข่ออ้ายแยกต่างหากด้วยล่ะ (น่ารักจังเลย)

บริษัทตั้งท่าจะไม่ดี พระเอกเลยตัดสินใจจะแต่งงานกับฮุ่ยหลัน (กรี๊ด เกลียดความคิดนี้ของพระเอกมากๆ) แล้วยังพูดกับแม่ให้นางเอกได้ยินว่า ตัวเองอ่ะชอบฮุ่ยหลัน รับไม่ได้ สงสารนางเอกชะมัดเลย

นางเอกเลยวางแผนกับซีหยูในวันดูตัว โดยจะแกล้งเอาบุ้งขึ้นไปตอนตีระฆัง แต่แล้วบุ้งก็เข้าปากนางเอกเอง แล้วพระเอกรู้ทัน ก็แกล้งลงมาข้างล่าง ตอนนางเอกขึ้นข้างบน แล้วก็ตีระฆัง ทำเอานางเอกหูชา (พระเอกใจร้ายมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ ทำร้ายจิตใจ แล้วยังจะทำร้ายนางเอกอีก ใจร้าย แต่โคตรๆ ฉลาดอ่ะ รู้ด้วยว่านางเอกตามมา)

นางเอกเลยไปออกเดทกับอาจิน เจอพระเอกกับฮุ่ยหลัน พระเอกก็ดันพูดกระทบใจว่าให้แต่งงานกับอาจินซะ (ใจร้ายที่สุดเลย) นางเอกก็ตัดสินใจว่าจะแต่งดีไหม

และแล้ววันที่อาจินขอแต่งงานก็มาถึง วันนั้นเพื่อนนางเอกไปบอกพระเอก พระเอกต้องออกไปซื้อแหวนกับไปกินข้าวกับฮุ่ยหลัน แต่ในขณะที่อาจินขอนางเอกแต่งงาน พระเอกก็เอาแต่นั่งนึกถึงนางเอก แล้วก็ยิ้มกับตัวเอง เหม่อเห็นแต่นางเอก

ส่วนอาจินขอแต่งงานแล้ว จะจูบนางเอก นางเอกพยายามที่จะให้จูบ แต่สุดท้ายก็ทำไมได้ ก็บอกว่าแต่งงานด้วยไม่ได้

ฝนกำลังจะตก นางเอกถือร่มไว้ แล้วก็บอกกับตัวเองว่า ชาตินี้สงสัยจะไม่ได้แต่งงานแน่ๆ เลย เพราะในใจมีแต่จือชูเท่านั้น

ส่วนพระเอกพอรู้ตัวว่ารักนางเอกมาก แล้วฮุ่ยหลันก็ดูออก ก็บอกว่าพระเอกรักนางเอก พระเอกเลยรีบออกมาหานางเอก ฝนตกแล้ว และสุดท้ายพระเอกก็เจอนางเอกถือร่มรอรถอยู่ (น่าจะนะ) ก็วิ่งเข้ามาหา

นางเอกก็มองอย่างงงๆ พระเอกก็บอกว่าไม่ใช่ผีนะ จากนั้นพระเอกก็ถามว่ารับคำขอแต่งงานจากอาจินยัง นางเอกก็ตอบประมาณว่า รับแล้วจะแต่งงาน มีร้านอาหารแล้วอยู่ด้วยกันอย่างมีความสุข พระเอกโมโห บอกว่า นางเอกรักพระเอกไม่ใช่เหรอ สุดท้ายนางเอกก็บอกว่าใช่ แล้วกำลังจะพูดต่อ พระเอกก็ก้มมาจูบกลางสายฝน

จูบเสร็จ แทนที่จะบอกรัก กลับพูดว่า "ต่อไป เธออย่าไปกับผู้ชายคนไหนอีก" แล้วกอดนางเอกไว้ นางเอกก็เพ้อว่า จูบครั้งที่สอง ส่วนพระเอกก็บอกว่า ครั้งที่สามต่างหาก แล้วนางเอกก็งง พระเอกก็บอกว่าไม่ต้องนับแล้ว จากนั้นก็พานางเอกกลับบ้าน พระเอกขอนางเอกกับพ่อนางเอก จากนั้นก็หันมาขอนางเอกแต่งงาน แล้วนางเอกก็เป็นลมไป

ตื่นมาก็พบว่าพระเอกนอนเฝ้าอยู่ (กรี๊ดกร๊าดมากๆ เลย พระเอกน่ารัก) แล้วพระเอกก็นอนกอดนางเอกไว้ แม่พระเอกก็ตามมาถ่ายวีดีโอ (555+)



ฉากนี้แหละที่พระเอกนอนเฝ้านางเอกไว้



วันต่อมาพระเอกไปทำงานด้วยความเครียด เพราะว่าประธานเบยกเลิกให้ความช่วยเหลือ นางเอกเลยไปหาพระเอกที่บริษัท พระเอกก็เอาหัวตัวเองซบพุงนางเอก (ฉากนี้น่ารักมากมาย เสียดายพระเอกหันหลังให้ เลยไม่เห็นพระเอกยิ้ม)

แล้วนางเอกก็ไปนั่งคุกเข่าหน้าบริษัทเบ พระเอกเดินมาเจอ ก็บอกว่านั้นเข้าไปฮุ่ยหลันแล้วแต่งงานกับเธอดีกว่า นางเอกก็ไม่ยอม พระเอกก็บอกว่า ถึงจะยอมแต่งตอนนี้ เขาก็ไม่แต่งด้วยแล้ว แล้วก็บอกว่านางเอกอ่ะไม่รู้อะไรเลย ขนาดฮุ่ยหลันยังดูออก ว่าพระเอกรักนางเอก แล้วพระเอกก็ก้มมาจูบนางเอกเบาๆ หนึ่งที แล้วก็ยอมนั่งคุกเข่าด้วย

โดยบอกว่าถ้านางเอกทำวิธีนี้สำเร็จ จะยอมทำตามใจนางเอก 1 ข้อ (กร๊าก ข้อตอบรับนี้น่ากลัวชะมัดเลยอ่ะ รับไม่ได้กับตอนจบ) และแล้วทั้งคู่ก็กอดกันคุกเข่าจนหลับไป

ประธานเบเรียกเข้าไป แล้วบอกว่าถ้านางเอกยอมเลิกกับพระเอกจะเซ็นให้ นางเอกตกลง (ขำตอนนี้แหละ ชอบอ่ะ) พระเอกหันมามองนางเอกแล้วพูดว่า ไม่ตกลง ก็พูดตกลง ไม่ตกลง สลับกันไปมา จนสุดท้ายนางเอกเรียกชื่อพระเอก พระเอกก็เรียกชื่อนางเอกกลับไป นางเอกบอกว่า เพื่อบริษัทจะได้ไม่ล้ม ส่วนพระเอกก็บอกว่า ถึงจะล้ม ฉันก็ต้องหาทางกู้กลับคืนให้ได้ จนท้ายที่สุดประธานเบก็ให้เซ็นสัญญากัน ที่จริงฮุ่ยหลันเป็นคนขอร้อง

พระเอกต้องไปเคลียร์กับอาจิน อาจินเกือบจะบีบคอพระเอกตาย (พระเอกคอแดงเลย) สุดท้ายอาจินก็เคลียร์กันได้ (แอบสงสารอาจิน แต่นิดหน่อยเอง เพราะเดี๋ยวภาค 2 ก็มีคู่แล้ว)

เมื่อทุกอย่างเรียบร้อยลงตัว ระหว่างกินข้าวกันที่บ้านเจียง แม่พระเอกก็ถามขึ้นว่า วันที่ 21 ก็คือาทิตย์หน้า ติดธุระอะไรกันไหม พระเอกบอกว่าจะลงทะเบียนเรียนหมอ พ่อนางเอกไปงานอาหารกับอาจิน พ่อพระเอกไปตีกอล์ฟกับประธานเบ น้องชายมีเรียน แม่พระเอกบอกให้ยกเลิกทั้งหมด แล้วก็จัดงานแต่งงานของพระเอกกับนางเอก นางเอกกับพระเอกก็อึ้งกันไป พระเอกก็บอกว่า ไม่เร็วไปเหรอ เพราะได้บอกว่าจะแต่งเมื่อนางเอกเรียนจบก่อน แม่พระเอกบอกว่า นางเอกรอมานานแล้ว ต้องตีเหล็กตอนไฟร้อนๆ

นางเอกใส่ชุดแต่งงาน น้องพระเอกรออยู่ข้างนอก ก็ได้แอบบอกนางเอกถึงจูบที่สองของนางเอกที่โรงพยาบาล

จากนั้นแม่พระเอกได้ถ่ายวีดีโอที่พระเอกกับนางเอกนั่งหันหน้าเข้ากล้อง แล้วก็พูด (ชอบฉากนี้อ่ะ พระเอกน่ารักดี แถมพูดอะไรโคตรปรัชญาเลย)

และแล้วก็ถึงงานแต่งงาน พระเอกแต่งชุดเจ้าสาว (กร๊าก รับไม่ได้อ่ะ) มันเป็นข้อตกลงของพระเอกที่บอกว่าจะยอมทำตามใจนางเอก พระเอกเลยแอบบ่นว่า สุดท้ายชีวิตก็ตกอยู่ในกำมือแม่ ส่วนนางเอกก็แต่งเป็นชุดเจ้าบ่าว (ทีนางเอก น่ารักเชียว)



พระเอกก็พัฒนาความน่ารักขึ้นเรื่อยๆ แหม ปากบอกว่าไม่ชอบ แต่พอนางเอกบอกว่าไม่อยากให้เข้ามหาลัยนั้น ก็ไม่เข้า พอนางเอกบอกว่า น่าจะเป็นหมอได้ ก็ย้ายจากเรียนวิศวะเป็นหมอ เหอๆ

555+ แล้วอีกอย่าง พระเอกเรื่องนี้มันฉลาดเกินไป กร๊าก นางเอกแอบฟังทุกครั้ง จือชูจะรู้ตัวตลอด แล้วเวลานางเอกจะทำให้พระเอกหึง พระเอกก็ดันไม่หึง เพราะดันรู้ทันอีก คนอะไรฟระ ฉลาดชะมัดเลย แต่ลี่จังรู้สึกโมโหพระเอกในช่วงตอน 17 ที่จะแต่งงานกับฮุ่ยหลัน ตรงนั้นทำร้ายจิตใจนางเอกโคตรๆ แบบว่าดูไปก็แอบว่าว่า พระเอกใจร้าย แล้วก็อยากให้ฉากพวกนี้ผ่านไปไวๆ จังเลย

พระเอกอ่ะ กว่าจะรู้ตัวว่าขาดนางเอกไม่ได้ ก็เกือบสายไปซะแล้ว แต่คิดว่าตอนแรกที่ตัดสินใจแต่งกับฮุ่ยหลัน เพราะอาจจะคิดว่าตัวเองคงอยู่ได้ ถ้าหากทำเพื่อบริษัท แต่พอนางเอกจะตอบแต่งงานกับอาจิน ก็เพิ่งรู้ตัวอ่ะนะ หุหุ

---

เรื่องนี้มีภาค 2 ด้วยค่ะ จะฉายที่ไต้หวันวันอาทิตย์ที่ 25 พ.ย. 50 นี้ค่ะ ก็ต่อจากเรื่อง Romantic Princess ที่อู๋จุนแสดง

ภาค 2 จะมีฉากสวีทกันแน่นอน เพราะเป็นช่วงชีวิตหลังแต่งงาน โดยพระเอกเรียนหมอ นางเอกเป็นพยาบาล (ตามฝันของฉางชินเลย ที่อยากให้พระเอกเป็นหมอ ตัวเองเป็นพยาบาล) ก็ต้องฝ่าฟันอุปสรรคอะไรกันเล็กๆ น้อยๆ แล้วก็เอ่ยถึงความรักของอาจิน ความรักของน้องชายพระเอก (ที่จะเจริญรอยตามพี่ 555+)

ถ้าภาค 2 มาแล้ว จะคอยตามติดอย่างเหนียวแน่นเลยค่ะ เหอๆ แบบว่าต่อให้ดูไม่รู้เรื่องก็จะนั่งดู ยอมดูแบบไม่มีซับก่อนก็ได้ ยังดีที่พูดจีน พอฟังออก ดีกว่าพูดอังกฤษก็แล้วกัน อิอิ

อย่างตอนนี้ก็ดูเรื่อง Romantic Princess (กงจูเสี่ยวม่าย กงจู แปลว่า เจ้าหญิง เสี่ยวม่าย เป็นชื่อนางเอก) ก็ดูรู้เรื่องนิดหน่อย เพราะยังไม่มีซับ แต่ก็เป็นข้ออ้างในการติดหนังที่ดี ว่าจะได้ฝึกภาษาด้วย

ก่อนหน้านี้ก็ดูเรื่อง Hana Kimi (ฮัวหยางส่าวเหนียนส่าวหนื๋ว) หรือที่เอามาจากการ์ตูนเรื่อง สับขั้วมาลุ้นรัก ทั้งสองเวอร์ชั่น ตอนนี้ก็ดูเวอร์ชั่นญี่ปุ่นจบแล้ว สนุกดีฮับ แถมยังฟังญี่ปุ่นออกเป็นคำๆ ด้วย ดีใจจังเลย เวอร์ไต้หวันก็สนุก แต่ดูไปได้แค่ตอนแรกๆ กับตอนจบ แล้วตอนจบก็คาใจอีก สงสัยจะมีภาค 2 แน่ๆ เลย ของเวอร์ชั่นไต้หวัน นางเอกพูดเก่งมากๆ เลย ลี่จังคงได้ฝึกจีนจากเรื่องนี้แหงๆ เลย นางเอกพูดไม่หยุด 555+

แล้วก็กำลังดูเรื่อง "โรงเรียนนักสืบคิว" สนุกชะมัดเลย ชอบแฮะ เพื่อนเอามาให้ดู แล้วก็กำลังต่อคิวด้วยเรื่อง "Coffee Prince" หรือที่ลี่กับเพื่อนเรียกว่า เจ้าชายโคฮี (โคฮี แปลว่า กาแฟ ในภาษาญี่ปุ่น) เป็นหนังเกาหลีค่ะ รอยืมแผ่นจากเพื่อนอยู่

แล้วก็เริ่มเบื่อๆ ละครไทยอ่ะค่ะ ไม่รู้ทำไมนะคะ แต่ก่อนก็ดูมากนะคะ แล้วก็ชอบทุกช่องเลย แต่เดี๋ยวนี้เทคโนโลยีการถ่ายทำสูงขึ้น แต่ความน่าดูกลับถดถอยลง ไม่รู้ว่าเป็นเพราะอะไรเหมือนกัน จนสุดท้ายก็ไม่ได้เปิดทีวีดูอีกเลย แล้วก็อยากมีช่องต่างประเทศดูจังเลยแฮะ

ตอนนี้ก็เลยบ้าตามเก็บรูปจากในบอร์ดเรื่องนี้ภาค 2 แล้วก็เข้าไปเป็นสะใภ้บ้านเจียงอีกคนแล้วค่ะ หุหุ

แล้วก็ชอบเพลงประกอบละครเรื่องนี้ด้วยค่ะ แบบว่าเพราะมากๆ ความหมายก็ดี ตรงกับนางเอกมากๆ ที่แอบเฝ้ามอง แล้วก็คอยตามพระเอกตลอด เลยบ้าเปิดเนื้อเพลงมาร้องอยู่บ่อยๆ ค่ะ ก็ได้เรียนรู้ภาษาจีนเพิ่มขึ้น ก็จากเนื้อเพลงนี่แหละค่ะ

ช่วงนี้เลยไม่ค่อยได้อ่านนิยายเลยค่ะ แบบว่าบ้านั่งดูหนังนั่นเอง อาจจะหายไปนานก็เพราะติดหนังแหละค่ะ

แต่ก็ถือคติที่ว่า ดูหนังเพื่อฝึกภาษาค่ะ ตอนนี้เลยชอบหนังซับมากกว่า แต่แบบไร้ซับก็ดีค่ะ เพียงแต่ดูไปแล้วได้ฝึก แต่สุดท้ายก็ยังงงๆ ว่าเรื่องมันเป็นยังไง

เคยคิดว่าอยากดูหนังแบบไม่ต้องแปลก่อน แล้วตอนหลังค่อยดูซับเอา แต่เวลาดูในทีวี มันฉายแค่ครั้งเดียว เราจะเปลี่ยนภาษาให้ฟังไม่รู้เรื่องก่อน แล้วมาดูแบบไทยเอาก็ไม่ได้ บางครั้งเวลาดูในทีวี เลยเปลี่ยนแปบเดียว จากนั้นก็นั่งฟังเป็นไทยทั้งหมด เพราะกลัวดูไม่รู้เรื่อง ไม่รู้ใครเคยเป็นบ้างไหม พยายามฝึกภาษา แต่สุดท้ายก็อดใจไม่ไหว

พอได้ดูหนังในคอม ก็ดีค้าบ ถ้ายิ่งถอดซับกับใส่ซับได้ยิ่งดี จะดูแบบไม่มีซับก่อน แล้วค่อยใส่ซับดูอีกรอบ

วันที่ 7-21 ต.ค. 50 ไม่อยู่นะคะ ชีพจรลงเท้าค่ะ ถ้ากลับมาเมื่อไร คงได้นั่งดูหนังต่อแน่ๆ เลย

ตอนนี้ช็อกกับหนังสือแจ่มใสค่ะ ออกเยอะเหลือเกิน แค่ปกติยังซื้อไม่ทัน คราวนี้ไม่ทันแหงๆ อ่ะ สาธุ ขอให้เล่นเกมได้รางวัลหนังสือบ้างเถอะ ขนาดมีน้องสาวช่วยซื้อ ยังซื้อไม่ทันเลย แถมยังล้นตู้ที่บ้านอีก ดีที่ลี่ได้ย้ายหนังสือส่วนหนึ่งไว้ที่หอ

ป.ล. คิดถึงพี่ใหญ่ (ใหม่จัง) กับพี่รอง (หนึ่งจัง) มากๆ นะจ้า เราสามคนไม่ได้คุยกันนานแล้วเนอะ ปิดเทอมนี้ศิษย์พี่ทั้งสองคงมีเวลาแวะมาคุยบ้างเด้อ ส่วนลี่น้อยคงตามอ่านได้อย่างเดียว อาจจะไม่ได้พิมพ์ตอบนะ แล้วเราจะแนะนำหนังให้ดู 555+ (ข้ออ้างบอกว่าพี่ทั้งสองจะได้ฝึกภาษาจีนที่เรียนไง)

Create Date : 03 ตุลาคม 2550 Last Update : 26 ตุลาคม 2550 18:56:25 น. Counter : 2503 Pageviews.		57 comments
Share Tweet