มิถุนายน 2550

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
22
23
24
25
26
27
28
29
30
 
ภาษาจีนกับภาษาญี่ปุ่น
大家好 ต้าเจียห่าว สวัสดีทุกคนค่ะ

จริงๆ แล้วดองกรุ๊ปบล็อกนี้ไว้นานมากๆ เลย ก็เกือบจะสองปีได้แล้วมั้งนะ แบบว่าไม่รู้จะอัพอะไร เพราะความรู้เกี่ยวกับภาษาที่ได้เรียนมา ลี่ก็มีน้อยเหลือเกิน ก็เลยไม่ได้อัพอะไรเพิ่มเลย

แต่ ณ วันนี้ หลังจากได้เรียนภาษาจีนกลางไปปีกว่า ก็จบระดับต้นไปแล้ว แต่บ่จี๊ไม่มีตังค์เรียนต่อ ก็เลยเบรกเรียนภาษาจีนกลางเอาไว้ และคิดว่าไปเรียนข้างนอกมาเยอะแล้ว ก็ควรจะถึงเวลาที่จะฝึกเองสักทีดีกว่า

การจะเรียนอะไรให้ได้ผล สิ่งสำคัญก็คือการเรียนรู้ด้วยตนเอง เพราะมันจะได้อะไรมากกว่าที่เราจะออกไปเรียนจากข้างนอกอย่างเดียว การออกไปเรียนข้างนอกเป็นเพียงแค่ปัจจัยเสริมที่จะทำให้เราเป็นภาษานั้นเท่านั้นเอง ปัจจัยหลักก็คือตัวเราเอง

ตอนนี้ก็ต้องเรียนภาษาญี่ปุ่น ซึ่งกลายเป็นวิชาบังคับที่ต้องเรียน ก็โอเค คิดว่าพอไปไหว ยังรู้สึกดีกว่าตอนเรียนภาษาอังกฤษเยอะเลยแหละ

แบบว่าตอนเรียนจีนกลางแรกๆ นั้น ก็ให้ความรู้สึกว่า ภาษาจีนกลาง ทำไม๊ทำไมง่ายกว่าภาษาอังกฤษจังเลยแฮะ ทั้งที่ภาษาอังกฤษเรียนมาตั้งแต่เด็กจนจะแก่ตายแล้ว ก็ยังไม่ได้เรื่อง แต่พอได้เรียนภาษาจีน กลับสนุกกับมัน แล้วก็รู้สึกรู้เรื่องกว่า

จุดสังเกตที่เห็นก็คือว่า อาจจะเป็นเพราะว่า ภาษาจีนกลางนั้น มีเสียงวรรณยุกต์เหมือนภาษาไทย ทำให้การอ่านออกเสียงนั้นง่ายสำหรับคนไทย รวมทั้งไวยากรณ์ก็คล้ายคลึงกับภาษาไทย จึงทำให้เข้าใจได้ไม่ยากนัก แตกต่างแค่คำขยาย ที่ภาษาจีนจะเหมือนภาษาอังกฤษคือเอาคำหลักอยู่หลังสุด คำขยายอยู่หน้าไปเรื่อยๆ

จริงๆ เรื่องคำขยายนี้ ลี่ก็ชอบพูดผิดบ่อย เพราะสับสน เอามาตีกับภาษาไทยเอง แต่ผิดนิดหน่อยตรงนี้ ถ้ารู้ตัวก็จะแก้ไขได้ไม่ยาก

จำได้ว่าตอนเรียนภาษาจีนกลางใหม่ๆ นั้น ก็ได้เปิดละครจีนเป็นภาษาจีนฟังจากทีวีดู มันให้ความรู้สึกว่าฟังรู้เรื่อง ว่าตัวละครคุยกันอะไรประมาณไหน แถมอ่านซับจีนข้างล่างอย่างเมามัน (มันเมื่อได้เห็นอักษรที่เคยเรียนมาแต่ละตัว) ทั้งที่อ่านไปก็ยังจับใจความไม่ได้ เพราะคุยกันไวเหมือนกัน

มันให้ความรู้สึกต่างกันมากกับตอนเปิดหนังฝรั่งดู เพราะมันฟังยากเหลือเกิน ฟังไม่ค่อยจะรู้เรื่องเลยจริงๆ ทำไมในใจถึงได้รู้สึกว่าภาษาจีนฟังง่ายกว่าก็ไม่รู้ ทั้งที่เคยมีคนบอกไว้ว่า ภาษาจีนกลาง ติดอยู่ในอันดับความยากอันดับแรกๆ เลยด้วย

แต่ก่อนช่องไททีวี มีเปิดเพลงจีนของเติ้งลี่จวิน แบบคาราโอเกะ ลี่ก็ชอบเปิดดู แล้วก็ร้องตาม แบบกระท่อนกระแท่น เพราะอ่านออกเป็นบางตัว แต่ก็มีความสุขดี บางครั้งก็มีหนังจีนที่พูดจีน ซับจีนให้ดู ก็สนุกดี แต่ไม่รู้ว่าทำไมเดี๋ยวนี้ไม่มีให้ดูเลย มีแต่ทีวีไดเร็คขายของอยู่ได้แหละ เฮ่อ เซ็งเลยเรา

จะซื้อดีวีดีมาฝึกดู ก็ไม่มีตังค์ ได้แต่รอให้ทีวีเอามาฉาย แบบเปิดฟังเสียงภาษาอื่นได้ แต่ใจจริงก็อยากได้ดีวีดีแหละ แบบที่ฟังได้ทั้งจีนและไทย แบบว่ารอบแรกฟังจีนดู ถ้าไม่รู้เรื่อง ก็ค่อยดูแบบไทยทีหลังก็ได้ เพราะการฟังจากทีวี บางครั้งพอไม่รู้เรื่องนานๆ ก็อยากจะเปลี่ยนกลับไปเป็นภาษาไทยจริงๆ เลย โดยเฉพาะหนังกำลังภายใน ศัพท์ที่พูดก็จะยากกว่าละครที่ออกแนวปัจจุบัน

ภาษาจีนกวางตุ้งก็ถือว่าไม่ยากนัก แม้เสียงวรรณยุกต์จะมีมากกว่า 5 เสียง แต่โดยรวมก็ออกเสียงได้ไม่ยาก แบบว่าเขียนทับศัพท์เสียงไทยได้ง่ายมากเลย เวลาดูละครฮ่องกงที่ช่อง 3 เอามาฉาย ก็สนุกไปอีกแบบเหมือนกัน แต่พูดเร็วมากๆ เลย ก็พอจะฟังรู้เรื่องแหละ

ที่สนุกๆ ก็คือว่า เวลาพูดภาษาจีนกวางตุ้งนั้น บางคำก็ดูเหมือนทะลึ่งในภาษาไทย แต่จริงๆ แล้วมันไม่ได้ทะลึ่งเลย เพียงแต่การออกเสียงที่ออกแนวว่าคล้ายกับคำที่มีความหมายทะลึ่งในภาษาไทยนั่นเอง

อย่างตอนนั้นจำได้ว่า เคยสอนพี่ข้างบ้านคำว่า "อรุณสวัสดิ์" ว่าเขาพูดกันตอนเช้าว่า "โจ๋วสั่น" พี่เขาก็ฟังคำแรกออกมาเป็นเสียงสระอู เราก็นั่งหัวเราะขำกันแทบตายว่าอ่ะนะ คิดไปได้

แล้วพวกเกี่ยวกับเครื่องใช้ไฟฟ้า อย่างเช่น ทีวี (ติ่นสี) ตู้เย็น (สิกวย) คอมพิวเตอร์ (ติ่นโล้) โทรศัพท์ (ติ่นหวา) ถ้าฟังไม่ดี พวกคำว่า ติ่น ทั้งหลาย ก็ฟังออกเป็นตีน แล้วคำที่แปลว่าตู้เย็น ถ้าออกเสียงไม่ดี ก็อาจจะเป็น...

การออกเสียงภาษาจีนกวางตุ้งนั้น ลี่ไม่แน่ใจนะคะว่าตัวเองเขียนทับศัพท์ถูก เพราะเขียนจากประสบการณ์ที่ตัวเองเคยพูดอ่ะค่ะ ก็อาจจะไม่ชัดก็ได้ แบบว่าเขียนมั่วๆ เอาเอง

แต่ประโยคหากินประจำเลยนะ ก็หนีไม่พ้นพวก กินข้าวหรือยัง (เสกฝ่านเบ่อ่ะ) อาบน้ำยัง (ช้งเหลิ่งเบ่อ่ะ) ดีไหม (โหวโหมว, โหวอื่มโหว) อะไร (เม่เหย่) อร่อย (โหเสก) ขอบคุณที่ให้ของ (โต้เจ) ขอบคุณแบบว่าทำให้ (อื่มก้อย) บายๆ (จอยกีน)


พอพูดภาษาจีนกวางตุ้งพอได้ เวลาเรียนจีนกลางโคตรๆ สับสนเลยอ่ะ แบบว่าเคยออกเสียงผิด ดันออกแบบกวางตุ้ง เวลาที่เหล่าซือ (อาจารย์) ให้ลุกขึ้นพูดหรืออ่าน เพราะมีหลายๆ คำที่ออกเสียงคล้ายคลึงกัน แต่ไม่เหมือนกัน อย่างเช่น

年 แปลว่า ปี ถ้าเป็นจีนกลางก็ออกว่า "เหนียน" กวางตุ้งก็ออกว่า "หนิน" ส่วนภาษาญี่ปุ่นยังไม่รู้คับ แต่เห็นพี่คันจิก็มีคำนี้แหละ

月 แปลว่า พระจันทร์ หรือว่า เดือน จีนกลางก็ออกว่า "เยยี่ว" กวางตุ้งก็ออกว่า "หยึด" ภาษาญี่ปุ่นก็ยังไม่รู้เช่นกันคับ แต่พี่คันจิก็มีคำนี้เหมือนกัน

山 แปลว่า ภูเขา จีนกลางออกเสียงว่า "ซาน" กวางตุ้งออกเสียงว่า "ซ่าน"

花 แปลว่า ดอกไม้ จีนกลางออกเสียงว่า "ฮัว" กวางตุ้งออกเสียงว่า "ฟ่า" ญี่ปุ่นก็ออกเสียงว่า "ฮานะ"

人 แปลว่า คน จีนกลางออกเสียงว่า "เหริน" กวางตุ้งออกเสียงว่า "หยั่น"

水 แปลว่า น้ำ จีนกลางออกเสียงว่า "สุ่ย" กวางตุ้งออกเสียงว่า "โสย"

火 แปลว่า ไฟ จีนกลางออกเสียงว่า "หัว" กวางตุ้งออกเสียงว่า "โฝ"

好 แปลว่า ดี จีนกลางออกเสียงว่า "หาว" กวางตุ้งออกเสียงว่า "โหว"

天 แปลว่า ท้องฟ้า จีนกลางออกเสียงว่า "เทียน" กวางตุ้งออกเสียงว่า "ทิ่น"

大 แปลว่า ใหญ่ จีนกลางออกเสียงว่า "ต้า" กวางตุ้งออกเสียงว่า "ต่าย" จะสังเกตได้ว่าเรื่องแดจังกึม คำว่า "แด" ก็คือ 大 นี่เอง แดจังกึมเขียนอย่างนี้ค่ะ 大长今 อ่านว่า ต้าฉางจิน ในภาษาจีนกลางค่ะ

小 แปลว่า เล็ก จีนกลางออกเสียงว่า "เสี่ยว" กวางตุ้งออกว่า "สิว" คำที่มี 小 ประกอบแล้วลี่จำได้แม่นๆ ก็คือ 小说 อ่านว่าเสี่ยวซัว ในภาษาจีนกลาง แปลว่า นวนิยายค่ะ เหตุที่จำได้ ก็เพราะว่าตัวเองชอบอ่านนิยายนี่เอง

我 แปลว่า ฉัน จีนกลางออกเสียงว่า "หว่อ" กวางตุ้งออกเสียงว่า "หงอ"

你 แปลว่า คุณ จีนกลางออกเสียงว่า "หนี" กวางตุ้งออกเสียงว่า "เหล"

有 แปลว่า มี จีนกลางออกเสียงว่า "โหยว" กวางตุ้งออกเสียงว่า "เหยา"

日本 แปลว่า ญี่ปุ่น จีนกลางออกเสียงว่า "รื่อเปิ่น" กวางตุ้งออกเสียงว่า "หยัดปุ๋น"

星 แปลว่า ดาว จีนกลางออกเสียงว่า "ชิง" ส่วนกวางตุ้ง ไม่รู้แฮะ 555+ แต่เท่าที่รู้มา ถ้าเราแยกอักษรจีนของคำนี้ จะได้เป็นคำว่า 日 (อ่านว่า "รื่อ" ในจีนกลาง และ"หยัด" ในกวางตุ้ง แปลว่า พระอาทิตย์ค่ะ) กับคำว่า 生 (อ่านว่า "เชิง" ในจีนกลาง และ "ซ่าง" ในกวางตุ้งค่ะ แปลว่า เกิด น่าจะนะคะ เพราะเพิ่งอ่านเจอ จริงๆ มันมีคำว่า 生日 แปลว่า วันเกิด อ่ะค่ะ ก็คิดว่าน่าจะแปลถูกแล้วนะ) ก็คาดเดาว่า คำว่า "ดาว" นี้อ่ะ น่าจะบอกว่า เกิดมาจากแสงอาทิตย์ส่องมา

男 แปลว่า ผู้ชาย จีนกลางอ่านออกเสียงว่า "หนาน" กวางตุ้งออกเสียงว่า "หล่าม" คำนี้จะสังเกตได้ว่าเกิดจากคำที่แปลว่า "ที่นา" ตัวสี่เหลี่ยม 4 ช่องข้างบนอ่ะค่ะ เคยรู้ความหมายมา แต่ไม่เคยเรียน เลยไม่รู้ว่าออกเสียงว่ายังไง กับคำว่า 力 แปลว่า แรง ก็มีเรื่องเล่ามาว่า สมัยก่อนที่เมืองจีน ผู้ชายมักจะถูกใช้แรงงานทำนา ก็เลยเป็นที่มาของอักษรภาพคำนี้ค่ะ

หลายๆ คนคงรู้จักฮัวมู่หลานกันนะคะ ก็เขียนอย่างนี้แหละค่ะ 花木lan 555+ ตัวหลังไม่รู้ว่าตรงกับตัวไหนของจีนกลาง ส่วนจีนกวางตุ้งก็เรียกชื่อว่า "ฟ่าหมกหล่าน"


แล้วตอนนี้ลี่ก็ลองเอาภาษาจีนมาเทียบดูกับภาษาญี่ปุ่น อักษรที่เห็นว่าคล้ายกับจีนมากๆ ก็คืออักษรคาตะคานะ (ชอบเรียกผิดเป็นคานาตะอยู่เรื่อยเลย เพราะคิดถึง อิอิ) และอักษรคันจิ

จากการสันนิษฐานจากเสียงเรียกว่า "คันจิ" ลี่คิดว่าน่าจะมาจากคำว่า "ฮั่นจึ" 汉字 ที่แปลว่า "อักษรของชาวฮั่น" ชาวฮั่นก็คือชาวจีนนั่นเอง

พอตอนนี้ เห็นตัว 工 二 อยู่ในอักษรคาตะคานะด้วย ก็ชักจะเบลอๆ เหตุเพราะคุ้นเคยว่าจีนกลางออกเสียงตัวแรกว่า กง (gong) และตัวหลังว่า เอ้อร์(er) ซึ่งตัวหลังก็แปลว่า เลขสอง ตอนนี้ก็เลยยังจำไม่ได้ว่าญี่ปุ่นเรียกสองตัวนี้ว่าอะไร เดี๋ยววันหยุดนี้จะนั่งท่องให้ได้เลย

ความสุขอย่างหนึ่งของการเปิดหนังสือภาษาญี่ปุ่นสำหรับลี่ก็คือ เวลาเห็นพี่คันจิโผล่มาทีไร จะยิ้มทุกทีเลย ถึงจะอ่านเป็นแบบเสียงภาษาญี่ปุ่นไม่เป็นก็ตาม ยิ่งถ้าเจอตัวไหนที่รู้ความหมายภาษาจีนมาก่อน ก็ยิ่งรู้สึกมีความสุข เหมือนได้เจอเพื่อนเก่าที่ร้างลากันไปนาน

แต่เท่าที่รู้ ภาษาญี่ปุ่นเอามาจากจีนก็จริง แต่หลายๆ ตัวก็ไม่ได้เหมือนเดิมแล้ว เท่าที่เห็นก็เจอมาแล้วด้วย แต่คิดว่าคงไม่ต่างกันมากเท่าไรหรอก

บางคำออกเสียงอย่างกับถอดออกมาจากภาษาจีน อย่างเช่นคำว่า 爱 (ai) แปลว่า รัก ภาษาญี่ปุ่นที่เรียนมาก็เรียกว่า ai พูดเร็วๆ ก็ออกเสียงคล้ายๆ กันเลย จริงๆ พอเป็นพินอินกับอักษรโรมัน ก็เหมือนกันอย่างกับแกะเลย

อีกคำก็คือคำว่า 三 ที่แปลว่า สาม ถ้าจีนกลางก็จะออกเสียงว่า "ซาน" กวางตุ้งออกเสียงว่า "ซ่าม" ไทยออกเสียงว่า "สาม" แต้จิ๋วออกเสียงว่า "ซา" ญี่ปุ่นออกเสียงว่า "ซัน" สังเกตได้ว่าออกเสียงคล้ายๆ กันเลย แบบว่าไม่ค่อยต่างกันเท่าไรเลย

คำที่ลี่ชอบมากที่สุดก็คือคำว่า 可爱 แปลว่า lovely น่ารัก นั่นเอง ke-ai อิอิ แบบว่าใครรักลี่ ก็เท่ากับว่าน่ารัก 555+ ชอบใช้มุกนี้ประจำเลย

ส่วนอีกคำที่เจอบ่อยตอนเรียนภาษาจีน ก็คือ 爱人 อ้ายเหริน ai-ren แปลว่า คนรัก หรือไม่ก็คู่แต่งงาน มักจะเจอในบทสนทนาในหนังสือที่เรียน คำว่า 人 ก็แปลว่าคน เห็นในญี่ปุ่นออกเสียงว่า hito

แอบสังเกตเห็นคำว่า ka ของญี่ปุ่นทั้งฮิรางานะและคาตะคานะ ว่ามันคล้ายกับคำว่า 力 li แปลว่า แรงที่สามารถทำได้ เทหวัตถุเคลื่อนไหว หยุดนิ่ง

ช่วงเวลาที่คัดคาตะคานะนั้น รู้สึกว่าเขียนง่ายกว่าฮิรางานะ เพราะตัวอักษรคล้ายๆ กับภาษาจีน แต่เท่าที่เห็นก็มีหลายตัวที่ทำให้สับสน เพราะมีลักษณะที่คล้ายคลึงกันซะจนหาข้อแตกต่างได้ยากเหลือเกิน

สุดท้ายเรามานับตัวเลขด้วยภาษาต่างๆ กันดีกว่าคับ

一 二 三 四 五 六 七 八 九 十

จีนกวางตุ้ง ยัด หยี่ ซ่าม เซ อึ๋ม หลก ชัด ปะ เก๋า สับ

จีนกลาง อี เอ้อร์ ซาน ซื่อ หวู ลิ่ว ชี ปา จิ่ว สือ

ส่วนญี่ปุ่นนั้นขี้เกียจพิมพ์แล้ว 555+ (ที่จริงข้ออ้างของคนที่ยังจำไม่แม่นนั่นเอง) จริงๆ ท่องได้หมดแล้ว แต่ขี้เกียจพิมพ์เป็นอักษรโรมัน เพราะว่าตอนนี้ยังไม่ได้ลงอักษรญี่ปุ่นไว้ในเครื่องเลย

ไปๆ มาๆ รู้สึกว่าไม่ค่อยได้เทียบหรอกนะว่า ภาษาจีนกับญี่ปุ่นต่างกันยังไง ส่วนใหญ่จะพูดออกไปทางจีนกวางตุ้งกับจีนกลางมากกว่าเนอะ

แต่สิ่งที่ยากสำหรับภาษาจีนของลี่นั้นก็คือ การท่องจำตัวอักษร เป็นโรคขี้เกียจอย่างแรงในการท่องจำตัวอักษร ซึ่งมีเยอะมากเลย แล้วสอบย่อยทีไรนะ จำได้ก่อนสอบ หลังสอบก็ลืมหมด ยกเว้นคำง่ายๆ และคำที่เจออยู่บ่อยๆ ตามหนังสือ และหนังจีน เพราะฉะนั้นใครเรียนเกี่ยวกับอักษรภาพพวกนี้ คิดว่าควรจะต้องเป็นคนขยันหน่อยนะคะ เหอๆ จะพยายามทำตัวเองให้ขยันกว่านี้ค่ะ

คิดว่าพอเรียนภาษาญี่ปุ่นแล้วจะต้องคอยมาจำอีกว่า คันจินี้ออกเสียงยังไง เดี๋ยวได้เอามาตีกับภาษาจีนแน่ๆ เลย

ฮา ยิ่งตอนนี้เรียนเขียนโปรแกรมภาษาซีด้วยอ่ะสิ ไม่ใช่ว่าเวลาต้องพูดขึ้นมา ได้เอาภาษาไทย + ภาษาจีนกลาง + ภาษาจีนกวางตุ้ง + ภาษาอังกฤษ + ภาษาญี่ปุ่น มาตีกันจนเละรวมกันอยู่ในประโยคเดียว คงจะฟังไม่รู้เรื่องกันแน่เลย แล้วถ้ามีภาษาซีมาพูดด้วย ได้กลายเป็นบ้าแน่ๆ 555+

จริงๆ เหล่าซือ (อาจารย์ คำว่า เหลา แปลว่า แก่ 555+) เคยเล่าให้ฟังว่า เขาเคยพูดว่า "You ชือฟ่าน หรือยัง" ก็แปลว่า คุณกินข้าวหรือยัง ในประโยคเดียวโผล่มาตั้ง 3 ภาษา ก็กลายเป็นเรื่องขำๆ กันไป

หวังว่าบล็อกเรื่องนี้คงมีประโยชน์ต่อผู้อ่านบ้างนะคะ แม้จะเขียนมั่วๆ ตามที่เคยพบเจอมาเองก็ตาม แต่ประสบการณ์ของลี่ก็ยังน้อยนิด หากผิดพลาดตรงไหน ก็ท้วงติงได้ตามสบายเลยค่ะ เพราะผิดเป็นครูค่ะ ต่อไปลี่จะได้จำไว้ว่าไม่ควรจะผิดตรงไหน

ถือว่าไม่ได้เขียนกรุ๊ปภาษานี้มายาวนานเป็นปี เพราะฉะนั้นเหมือนกับว่านี่เป็นครั้งแรกที่ลี่เข้าสู่โหมดมีสาระกับเขา ก็ยังมีอีกหลายคำที่อยากจะเอามาพูดถึง เอาเป็นว่า ถ้านึกออก จะต่อภาค 2 นะคะ สำหรับการเปรียบเทียบการออกเสียงระหว่างจีนกลางกับจีนกวางตุ้งนะคะ

สุดท้ายนี้ก็ขอบอกว่า 再见 ไจ้เจี้ยน บายๆ นะคะ แล้วโอกาสหน้าฟ้าใหม่จะมาอัพบล็อกค่ะ

สุดท้ายของสุดท้ายก็คือว่า จะมาพูดว่า 我爱 (ฉันรัก) Kalo, Kanata, Jessi และพระเอกนิยายทุกคนที่น่ารักนะจ้า จุ๊บๆๆๆ

ฝากไว้ด้วยค่ะ 百合花 ไป่เหอฮัว แปลว่า ดอกลิลลี่ค่ะ อิอิ ตรงกับชื่อเล่นของลี่พอดีเลย




Create Date : 21 มิถุนายน 2550
Last Update : 23 มิถุนายน 2550 21:48:31 น.
Counter : 3845 Pageviews.

38 comments
  
สวัสดีจ้า...ไป่เหอฮัว
ภาษาไทยพี่ยังไม่รอดเลยค่ะ พูดผิดๆถูกๆ พูดไปเพื่อนไม่เข้าใจ
ลี่เก่งนะเนี่ย ได้หลายภาษาเลย
แบบนี้จบตรีมาสอบทำงานที่กระทรวงการต่างประเทศนะคะ อิๆๆๆ
โดย: wanwitcha วันที่: 22 มิถุนายน 2550 เวลา:17:06:43 น.
  
คำอ่านภาษาญี่ปุ่นนะคะ

年 - เนน

月 - สึกิ

ปล.โทเคอยากเรียนฮกเกี้ยนกับกวางตุ้งเหมือนกันค่ะ ตอนนี้ได้แต่เรียนจีนกลางอยู่

เคยบอกแม่ว่าอยากเรียน แม่บอกว่าเอาให้ได้ดีสักภาษาก่อนเถอะลูก กร้ากก เลยต้องชะลอไปก่อน

ในความคิดโทเค จุดที่ง่ายของภาษาจีนคือไวยากรณ์จะคล้ายๆภาษาไทย ฉันกินข้าว - หว่อชือฟั่น สมองไม่ถึงกะต้องปรับมาก

แต่ไวยากรณ์ญี่ปุ่นนี่สุดยอดมาก เรียนแล้วเหนื่อยใจเนอะ

เขียนอะไรมาซะยืดยาว คงไม่ว่ากันนะคะ

โดย: tokei/tookei วันที่: 23 มิถุนายน 2550 เวลา:3:07:01 น.
  
ตัวเขียนเหมือนกันแต่พูดไม่เหมือนกันเรางง
โดย: meaw_1985 วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:12:03:29 น.
  
เคยเรียนภาษาจีนกลางอยู่เทอมเดียวค่ะน้องลี่ รู้สึกดีกว่าเรียนภาษาอังกฤษจริงๆ อาจจะเพราะพอพี่โตขึ้น มันมีแรงขยันกว่าตอนเด็กๆอ่ะ และภาษาจีนก็เป็นภาษาที่ทุกคนไม่มีพื้นฐานเหมือนกัน ทำให้มีกำลังใจเรียนขึ้นเยอะ


แวะมาเยี่ยมจ้า หวังว่าเราคงสบายดีน้า
โดย: ไกลนั้น วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:13:32:28 น.
  
มายืนย้นว่า ไวยากรณ์ ภาษาจีนไม่ยากเท่าภาษาอังกฤษ แต่ตัวจีนยากมากๆ ค่ะ ก่อนสอบใครถามก็ตอบได้หมด พอสอบเสร็จก็คืนไปหมดเหมือนกันค่ะ 555++

เห็นด้วยกับคุณไกลนั้นนะคะ ที่บอกว่าเพื่อนๆ ที่เรียนก็ไม่มีพื้นฐานเหมือนก้นเลยทำให้เรียนสนุก บูรินน้อยก็สนุกค่ะแต่เฉพาะในช่วงแรกๆ ที่เห่อ ตอนนี้เบื่อค่ะเรียนสูงขึ้นตัวจีนยากขึ้น หุหุ ไม่รู้เทอมนี้จะไปได้สักเท่าไหร่ แต่จะพยายามสู้ต่อไปค่ะ

เป็นกำลังใจให้ลี่แล้วก็เป็นกำลังใจให้ตัวเองด้วยค่ะemo
โดย: บูรินน้อย (เทพธิดาแห่งสายน้ำ ) วันที่: 24 มิถุนายน 2550 เวลา:21:30:11 น.
  
เป็นการเปรียบเทียบภาษาที่น่าสนใจครับ
เห็นด้วยกับจขบ.ที่ว่าภาษาจีนกวางตุ้งมีสำเนียงแปลกๆ ดูไม่ค่อยเพราะเลย 555
โดย: A_Mong วันที่: 26 มิถุนายน 2550 เวลา:20:06:47 น.
  
ดีค่ะน้องลี่
เรียนไปเถอะค่ะภาษาน่ะ พี่ยังอยากเรียนมั่งเลย อต่ตอนนี้ยังไม่มีโอกาสค่ะ แค่ภาษาอาหรับก็เต็มหัวอยู่แล้ว
ภาษาเป็นอะไรที่สนุกนะ มันดิ้นได้อ่ะ
อย่างภาษาอาหรับ รากศัพท์1คำ ผันได้เป็นสิบๆ ยิ่งผันมาก ความหมายยิ่งเปลี่ยน พี่เคยฝึกกับภาษาจีนเพื่อนคนจีนเหมือนกัน แต่ไปไม่รอดค่ะ5555
สู้ๆนะ เอาใจช่วยนะจ๊ะ
โดย: นิส (เจ้าหญิงแห่งMK ) วันที่: 27 มิถุนายน 2550 เวลา:0:25:32 น.
  
ไวยากรณ์ภาษาจีนง่ายสุดในทุกภาษาแล้วแหละ ง่ายกว่าภาษาไทยด้วยซ้ำ เอาจริงๆ ให้เรามานั่งเขียนภาษาไทยให้ถูกหลักไวยากรณ์เป๊ะๆ แบบเขียนเรียงความ นี่ลำบากมากๆๆๆๆๆๆๆๆๆ แต่กับภาษาจีนรู้สึกว่ามันง่าย กฏไม่มีหยุมหยิม เหมือนไปเรื่อยๆ ตามธรรมชาติ

เวลาเรียงประโยค ก็ฟังแล้วดูเมคเซนส์ดี แต่ถ้าเป็นญี่ปุ่นฟังแล้วงง ต้องมานั่งสลับตำแหน่งคำแล้วประมวลผลออกมาอีกที แล้วยังมีภาษาแบบสุภาพ กับแบบธรรมดา แม่เจ้า เวลาเห็นคันจิ ยังนึกถึงคำอ่านแบบจีนอยู่เลย มึนสุดๆ

แต่ถ้ายากสุด นับจากที่เคยผ่านหูผ่านตามาคือเกาหลี โอ้โฮ เขียนไม่เหมือนพูด รวบคำนู้น ขยายคำนี้ มึนไปเลย

สรุป กวางตุ้งง่ายที่สุด ฮ่า
โดย: LEE IP: 209.85.114.169 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:14:39:57 น.
  
เฮอะๆ หวาดดีค่ะพี่ลี่ แวะมาทักทายนะค่ะ

ส่วนเรื่องภาษาจีนนี่เห็นทีต้องขอผ่าน เนื่องจากว่าไม่ถนัดภาษาที่สามใดๆ เลยซ๊ากตัว

พี่ลี่รักษาสุขภาพนะค่ะ เด่วไม่สบาย ช่วงวนี้ไปไหนมาไหนพกร่มด้วยนะค่ะ ฝนตกบ่อยๆ เด่วไม่สบาย
โดย: เน็ท (ดอกพุทธ) IP: 124.121.124.113 วันที่: 29 มิถุนายน 2550 เวลา:23:34:59 น.
  
ภาษาจีนไม่เคยเรียนเลยค่ะ เคยเรียนญี่ปุ่นอยู่แป๊บนึง แต่ก็ลืมหมดแล้ว

คิดว่าการเรียนภาษาที่ได้ผลดี จะต้องได้ใช้ภาษานั้นอย่างสม่ำเสมอด้วย ไม่อย่างนั้นก็จะลืมเลือนไปตามกาลเวลาค่ะ

อย่างตอนนี้อ่านหนังสือภาษาอังกฤษบ่อยๆ ก็จำศัพท์ได้มากขึ้น แต่ก็รู้ว่าถ้าหยุดอ่านหรือหยุดฟังไปนานๆ คำที่จำได้แล้ว ก็จะลืมไปอีก

เฮ้อ...การเรียนรู้นี่ ช่างไม่จบสิ้นจริงๆ นะคะ เรื่องที่ยังไม่รู้มีมากมายเหลือเกิน
โดย: ศรีสุรางค์ วันที่: 1 กรกฎาคม 2550 เวลา:16:34:56 น.
  
ดีจ้าลี่จัง

เรารู้สึกว่าเราเราเหนื่อยและท้อเอามากๆ เลยช่วงนี้น่ะ เสาร์-อาทิตย์ผ่านไปไวเหมือนโกหก เราไม่อยากให้ถึงวันจันทร์เลย emo

เมื่อก่อนเราเคยคิดนะว่าอย่างน้อยๆ ก็มีภาษาไทยนี่ล่ะที่พอจะถนัดบ้าง แต่พอเอาเข้าจริงๆ ไม่มีวิชาไหนง่ายสำหรับเลย เทอมนี้เราจะมีชีวิตอยู่ถึงปลายเทอมหรือเปล่าเนี่ย เฮ้อ...

วิชาเดียวที่เราพอไปวัดไปวาได้ตอนนี้ก็ภาษาจีนนะ เรามีความสุขเสมอเวลาที่เข้าเรียนวิชานี้ ไม่มีความรู้สึกว่ามันน่าเบื่อหรืออะไรเลย สงสัยเราคงเรียนได้แต่ภาษาตะวันออกล่ะนี่ ฮี่ๆ

นี่ถ้าเราลงจีนแล้วมันยังเหลือหน่วยกิตให้ลงอ่ะนะ เราคงจะไปเรียนภาษาเกาหลีแน่ๆ เลยลี่จัง เห็นว่าปีหน้าจะเปิดเป็นวิชาเอกด้วย เห็นเพื่อนเราเรียนก็บ่นว่าไวยากรณ์ยากกว่าพูดอีกอ่ะ อะไรไม่รู้ขยายเยอะไปหมดเลย

ตอนนี้เริ่มอยากได้ Talking Dict อย่างแรงเลยล่ะหนูลี่ เอาไว้อ่าน Jack ฮา เหนื่อยที่จะต้องเปิดดิคแล้วอ่ะ นี่เรากลายเป็นคนเฉื่อยได้ขนาดนี้เลยเหรอเนี่ย (ใกล้จะได้เป็นนายกสมาคมแล้ว)emo

เราเหนื่อยและท้อก็จริง แต่มาคิดๆ ดูแล้วไม่ใช่มีแค่เราหรอกที่เป็นแบบนี้ ยังมีอีกหลายคนเลยที่อาจจะแย่กว่าเราด้วยซ้ำ เราคงหมกมุ่นและคิดมากเกินไป ถ้าเราเอาเวลาที่เสียไปมาลองพยายามดูก่อน ก็คงจะดีกว่า จริงไหม?

ลี่เป็นแบบเราหรือเปล่า? บางทีนะ เราคิดได้นะสิ่งที่พูดไป ปลอบใจ ให้กำลังใจคนอื่นๆ มาก็มาก แต่กับตัวเองเราไม่เห็นทำได้สักครั้งเลย แย่จัง...

รักลี่รักหนึ่งนะ จุ๊บๆๆๆๆemo
โดย: ใหม่จังภาคจิตตก IP: 161.200.255.162 วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:12:29 น.
  
อ่านแล้วคิดถึงภาษาจีนจังเลยคะ

สมบุกสมบันมันมา 4 ปีสมัยมัธยม

พอเข้ามหาลัยก็ลืมหมดแล้ว ..

ไปเรียนต่ออีกดีกว่า

ขอบคุณสำหรับความรู้ภาษากวางตุ้งนะคะ
โดย: fonejank วันที่: 2 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:22:25 น.
  
อัพบลอกได้แล้วลิลลี่

แฟนๆ บ่นคิดถึง

^_______^

โดย: untitled IP: 124.121.9.6 วันที่: 3 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:25:00 น.
  
นู๋ลี๋จ๋า เอาไว้ได้ประสบการณ์ใหม่ๆ พี่จะอัพละกันนะ อิอิ

กะไว้ว่าออกทริปคราวหน้าจะต้องหาอะไรมาอัพให้ได้ หวังว่าละนะ
โดย: บูรินจันทร์ (เทพธิดาแห่งสายน้ำ ) วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:17:55:09 น.
  
อัพแล้วนะเออ....

ไว้ออกทริปจะมาอัพใหม่ อิอิ
โดย: บูรินจันทร์ IP: 124.121.190.2 วันที่: 4 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:28:53 น.
  
แหมน้องลี่ ไปสาธยายอาหารที่ชอบเอาไว้ในบล็อก เล่นเอาพี่หิวเลย เรียนญี่ปุ่นมาแล้ว อย่าลืมกลับมาทำมาบล็อกสอนนะ กำลังงงได้ที่
โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 5 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:11:05 น.
  
อัพบล้อคหน่อยค่ะ คุณน้องลี่
อิๆๆๆ
โดย: wanwitcha วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:55:15 น.
  
こんにちは。

เป็นเหมือนกันเลย เวลาเห็นตัวคันจิจะเข้าความหมายนะ แต่ว่าในใจมันนึกเป็นเสียงจีน ตัวคันจิตัวนึงก็อ่านได้หลายแบบอีกต่างหาก มีคนแนะนำว่าให้จำคำอ่านเป็นคำๆ ไป อย่าจำเป็นตัวคันจิตัวนี้ว่าอ่านได้ว่าไงบ้าง

สู้ๆๆๆๆ 加油!!

来週の日曜日わたしは香港へ行きます。
โดย: LEE (lyfah ) วันที่: 6 กรกฎาคม 2550 เวลา:11:44:34 น.
  
อ่านแล้วสนุกดีค่ะ พี่เคยเรียนภาษาญี่ปุ่นตอนอยู่ปีหนึ่ง( 15 ปีที่แล้วนะ)
ลงไปได้เทอมเดียว บ้าย-บายเลย
ขี้เกียจท่อง พอมาอ่านของน้องลี่แล้วรู้สึกเสียดาย ตอนนั้นน่าจะอดทนสักหน่อย โตขึ้นมาถึงรู้ว่าภาษาสำคัญมาก
ฉะนั้น น้องลี่เรียนไปเถอะค่ะ เอาใจช่วย แล้วมาอัพบ่อยๆนะคะ จะตามเข้ามาเรียนกับน้องลี่ (นี่อ่านไปก็พูดตามไปนะคะ..สนุกดี..ชอบค่ะ)
โดย: natee IP: 209.6.167.75 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:15:50 น.
  
มาแอบสารภาพว่าเป็นเด็กเอกjap

แต่จำไรไม่ได้เลย

เคยคิดจะเรียนจีนก็ไม่ได้เรียนอีก เง้อ
โดย: อุรัสยา วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:21:14:15 น.
  
หวัดดีจ้าลี่น้อย วันนี้ลี่น้อยกับใหม่จังแอบไปจู๋จี๋กันสองคน ไอ้พวกคนตกข่าวอย่างเรานั่งน้ำลายหก 555+ อยากได้รางวัลดรีมแลนด์ฯอ้ะ เก็บบรรยากาศมาฝากกันบ้างสิตัว อยากได้รูปพี่ใหญ่กับน้องสามง่ะ

เราแอบเสียดาย เอิ๊ก ๆ ตอนสองอาทิตย์แรกที่เปิดเทอม เสาร์อาทิตย์เราว่างสุด ๆ พอสองอาทิตย์ที่ผ่านมาเรามีงานเฟรชชี่เดย์แอนด์ไนท์ กับไวท์เดย์ไวท์ไนท์อาทิตย์ที่แล้วอะ อาทิตย์นี้เราเลยกลับบ้านเป็นครั้งแรก แล้วอาทิตย์หน้าก็จะไปปั่นจักรยานไหว้พระที่อยุธยา เสียคนละ 50 บาทเองอะลี่น้อย ได้ข่าวว่ารายงานยังไม่ได้ทำ 555+

ว่างเว้นจากงานแจ่มใสมานาน งานหน้าคงเป็นงานหนังสือเด็ก แต่จอร์จคะ ซาร่ามีสอบมิดเทอม 28-29 แล้วก็ข้ามไปวันที่ 1 ฮือ..เสาร์อาทิตย์อีกแย้วง่ะ เศร้าใจ วันเสาร์นี่สอบตั้งสองวิชา ถึงสี่โมงกันเลยทีเดียว นี่ก็ยังเหนื่อย ๆ พิกล ยังไม่ได้รุ่นเมเจอร์ด้วยอะลี่
พี่ปีสองโหดฟ่ะ แบบเค้าไม่พอใจที่เวลานัดน้องแต่ละครั้ง มาไม่ค่อยครบอะ ก็ลงโทษให้คัดเพลงประจำคณะกับเพลงมหาลัยทุกวัน ต้องมาเอากระดาษที่พี่ทุกวันอะ แล้วเดินไปไหนก็ต้องแขวนป้ายชื่อจริง ชื่อเล่น ภาควิชา อันเท่าเอสี่ อายง่ะ

วันศุกร์ตอนบ่าย ๆ เราไปหมอชิตกับเพื่อน แอบหลงหมอชิตหน่อย ๆ แบบเพื่อนเราอยู่สิงห์บุรีไง ก็แยกกันกลับ เราก็ถามปชพ.ว่าต้องไปซื้อตั๋วที่ไหน พอหาเจอ ซื้อเสร็จ คนขายตั๋วก็บอกให้ออกประตูแล้วเลี้ยวขวาเพื่อจะไปขึ้นรถ เราก็ออกประตูที่มันออกไปนอกหมอชิต เห็นเขียนว่าทางเดินไปรถใต้ดิน 555+ เดินไปสักพักก็เอะใจ วิ่งกลับมาถามยาม ปรากฏว่ามันคนละประตูกัน ประตูที่ไปขึ้นรถมันเป็นอีกประตูที่อยู่ตรงข้ามกันอะลี่จัง เอ๋อรับประทานทีเดียวเชียว แถมนั่งรถทัวร์ เราได้นั่งหลังสุด (ก็ดันซื้อตั๋วตอนรถจวนจะออกเต็มที) รถเขย่า หัวโขกกับหน้าต่าง ตอนนี้หัวยังระบมอยู่เลยอะ หุหุ

ไว้เจอกันเมื่อชาติต้องการนะตัวเอง emo
โดย: NuenG IP: 222.123.5.193 วันที่: 7 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:19:20 น.
  
สู้ๆ ลี่

สำหรับพี่แล้ว คงได้มีโอกาสศึกษาสองภาษานี้อย่างจริงจังสักที แต่เมื่อไรหนอ
โดย: O-HO วันที่: 8 กรกฎาคม 2550 เวลา:10:59:01 น.
  
เราก็ดีใจที่ได้เจอหนูลี่นะ ตัวจริงพูดเก่งมากๆ ดีแล้วล่ะ จะได้มีคนชวนเราคุยemo

ปล.คราวหน้าเจอกันแบบให้ครบสำนักเน้อ คิดถึงหนึ่งจังเลย emo
โดย: ใหม่จัง IP: 161.200.255.162 วันที่: 10 กรกฎาคม 2550 เวลา:15:44:46 น.
  
ดีจ้า .. นู๋ลี่
พี่นึกว่าเข้าบลอคสอนภาษาซะอีกนะ
พี่ก็เรียนแต่ภาษาบ้านเกิดอ่ะคับ
ก็ ภาษาญี่ปุ่น ไง ตะเอง

แต่ก็ทิ้งไปนาน ตอนนี้คือจารย์ไปหมดแระ

ฝึกไว้ก็ดีคับ .. จะได้รุ่ง ๆ
แล้วมาเลี้ยงพี่ด้วยนะ
(เกี่ยวมั้ยนี่ ฮี่ ๆ)

ตั้งใจเรียนคับ
โดย: P'นุ่น (bewitched ) วันที่: 11 กรกฎาคม 2550 เวลา:8:36:34 น.
  
หวัดดีจ้าลี่น้อย เพิ่งเข้าไปดูสำนักหยากไย่ขึ้นมามะกี๊ ขอโทษน๊าที่ไม่ได้ดูเล้ยว่าหนูลี่ถามอะไรไว้อะ ไม่เข้าสำนักนานมาก emo หุหุ แต่เราไม่รู้จักพลอยอะลี่

เอิ่ม ตกตะลึงไปกับข่าวอัพเดทใหม่ล่าสุด emo ขอบคุณม้าเร็วลี่น้อยนะจ๊า อิอิ งานหนังสือเดือนตุลา เราหวังอย่างยิ่งว่าเราจะได้ไป เราแอบสงสัยว่างานหนังสือเด็กเราจะได้ไปมั้ยอะ ตกลง เราสอบมิดเทอมวันที่ ใกล้จะสอบแล้วหนังสือยังไม่ได้อ่าน รายงานเหลือเวลาอีกเดือน เพิ่งจะมาหอสมุดวันนี้อะ

ลี่น้อยอะ เป็นยังไงบ้าง จะรอยลโฉมพี่ใหญ่คนงามนะจ๊ะน้องสามที่เลิฟ emo
โดย: NuenG IP: 158.108.92.55 วันที่: 14 กรกฎาคม 2550 เวลา:12:37:11 น.
  
น้องลี่ ต่อไปพี่ก็คงแจกหนังสือผ่านเว็บไอซ์อะจ้า แหะๆ อยากแจกมานานแล้วแต่มัวแต่ขี้เกียจไง

เรื่องอื่นๆของเม็กจะมีอีกสองเล่มนะในปีนี้ คือไซซ์ 12 และ 14 ส่วนเจ้าหญิงยังไม่แน่ใจว่าอมรินทร์จะให้รอเมืองนอกเขียนจบก่อนค่อยแปลรวดเดียวหรือเปล่า ได้ยินว่าจะจบที่เล่มสิบแน่ะ

พันแปดแวอายูเนี่ยไม่รู้จริงๆว่าผลิตไปถึงไหนแล้ว รักมันๆเล่มสองก็คงรอพี่อยู่มั้ง ฮา ทีนไอดอลด้วย ตอนนี้มั่ววุ่นอยู่กับฮาร์ลาน โคเบน

ไงก็ติดตามเว็บพี่ไอซ์ไปเรื่อยๆนะจ๊ะ จะส่งหนังสือไปแจกเป็นระยะๆจ้า
โดย: มณฑารัตน์ วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:0:56:00 น.
  
ขอดองบล็อกไว้ก่อนนะคะ ตอนนี้ปั่นงานระดับนรกเลยค่ะ เพราะอาทิตย์หน้าก็สอบแล้ว ต้องเคลียร์งานทุกอย่าง ทั้งทำเว็บ (ก็ทำเสร็จเมื่อคืนตอนตี 3 ครึ่ง) ทำฟิสิกส์ ทำภาษาญี่ปุ่น คิดบทสนทนาภาษาอังกฤษไว้สอบมิดเทอมกับเพื่อน ไหนจะเตรียมตัวอ่านหนังสืออันหลายวิชาเนี่ย ให้จบให้ได้ภายในอาทิตย์นี้

เดี๋ยวช่วงวันหยุดเข้าพรรษา จะมาอัพบล็อกนะคะ ได้กลับบ้านอยู่บ้านตั้ง 4 วันแน่ะ หุหุ

โดย: lily <lovekalo> IP: 124.121.19.182 วันที่: 15 กรกฎาคม 2550 เวลา:19:06:19 น.
  
เห็นแล้วก็อยากเรียนภาษาจีนอีกจังเลยค่ะ

ลี่จ๋า เดี๋ยวพี่ส่งของให้หลังสอบน้า ไม่ลืมจ้า แต่ช่วงนี้ยุ่งมากๆ เลย ขอโทษนะคะ
โดย: เบบูญ่า วันที่: 16 กรกฎาคม 2550 เวลา:18:18:32 น.
  
แวะมาทักทายน้องรี่ค่ะ ไม่ได้เจอกันนาน คิดถึง

emo
โดย: พิมลพัทธ์ วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:9:36:20 น.
  
แวะมาทักทายลี่ที่บล็อกบ้างค่า หลังจากที่ห่างหายไปนาน งืด ช่วงนี้สอบมิดเทอมอยู่รึเปล่าเอ่ย สู้ๆ น้า
โดย: bookmark วันที่: 19 กรกฎาคม 2550 เวลา:22:01:36 น.
  
หนีห่าว

หนีห่าวมา

หว่อเหินห่าว

ไจ้เจี้ยน
โดย: d0nra3m0 IP: 125.24.60.173 วันที่: 26 สิงหาคม 2550 เวลา:16:38:04 น.
  
รักการเรียนภาษา เพราะภาษาไม่ทำให้คนอดตายคับ
โดย: panita3010 M เอง IP: 203.146.63.185 วันที่: 8 กันยายน 2550 เวลา:0:06:38 น.
  
หนี่เตอะฮั่นหยู่เหิ่นห่าว หวอสี่ฮวานเจ้อเกอเลี่ยนสี ^__^


โดย: 1412 IP: 124.120.56.96 วันที่: 4 กุมภาพันธ์ 2551 เวลา:22:19:59 น.
  
ว้าวๆๆ ชอบบล็อกพี่มากๆเลยอะ

พอดีก็เพิ่งมาหลงไหลวัฒนธรรมจีน แต่ก่อนเรียนญีปุ่่นมา ชอบมากๆเลย ได้ความรู้มากๆเลยพี่

ขอบคุงมากๆเลยน้า

และก็มีความรู้สึกว่าจีนง่ายกว่าญีปุ่่นเยอะเลย แต่ก่อนเคยเรียนญี่ปุ่นมา

ภาษาจีนเรียนแล้วสนุกมั่กๆ ส่วนญี่ปุ่นอะน่าเบื่อมั่ก ตอนนี้ทิ้งภาษายุ่นไปแระ อิอิ
โดย: เด็กม.6 IP: 124.120.175.94 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:0:25:26 น.
  
แต่ว่า ไอคำว่า

爱人 ในภาษาญี่ปุ่น มันอ่านว่า

อั้ยจิ้น อ่ะนะ มะช่าย อั้ยฮิโตะ นะ อิอิ

人 ในญี่ปุ่น มัน อ่านว่า ฮิโตะ บิโตะ หรือ จิน ก็ได้ อะไรของมันไม่รู้ เนอะ เมหือนภาษาแต่งกันขึ้นมาเองเลยอะ
โดย: เด็กม.6 IP: 124.120.175.94 วันที่: 21 เมษายน 2551 เวลา:0:37:52 น.
  
ตอนนี้ก้อเรียนจีนอยู่อ่ะค่ะ



สนุกดีนะ แต่ก้อต้องเลือกวิชาโทอีกอ่ะ



ก้อด้ายหลายภาษาดีอ่ะ



แต่จะเบลอๆหมดแล้ว



ปนๆกันยังไงชอบกล อิอิ
โดย: 林紫薇 IP: 125.26.187.113 วันที่: 10 มิถุนายน 2551 เวลา:19:18:58 น.
  
ขอบคุณนะคะกำลังหาอยู่พอดี
โดย: Wo ai ni IP: 203.172.112.133 วันที่: 7 กันยายน 2551 เวลา:23:25:20 น.
  
อยากเกี่ยวกับการแนะนำตัว

เล่าประวัติ อะไรประมาณนี้ค่ะ



บอกหน่อยได้มั้ยค่ะ

เป็นพินอินก้อได้ค่ะ


พอดีสมัครเรียนจีน


เรียนมาแล้ว3เทอม แต่ไม่ค่อยได้เท่าไหร่เลย


ช่วยหน่อยนะค่ะ



ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


pla_99999_9@hotmail.com

โดย: pla ssk IP: 125.26.73.51 วันที่: 12 ตุลาคม 2551 เวลา:20:31:21 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

lovekalo
Location :
นนทบุรี  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]





รายละเอียดของบล็อกแปลเพลง คลิกที่นี่เพื่อดูได้เลยค่ะ

สารบัญแปลเพลง ==>

สารบัญแปลเพลงจีน
สารบัญแปลเพลงญี่ปุ่น


Update 18 May 2009

แปลเพลงจีน ==> 沉默的瞬間 chén mò de shùn jiān...ช่วงเวลาของความเงียบ / 張棟樑 (Nicholas Teo, จางต้งเหลียง)

Update 20 เม.ย. 2009

แปลเพลงญี่ปุ่น ==> このまま ずっと konomama zutto อย่างนี้ตลอดไป / Thelma Aoyama (เพลงประกอบเรื่อง Q.E.D. อย่างนี้ต้องพิสูจน์)์

Update 6 Mar 2009

บ้าซีรี่ส์แล้วมาโม้ ==> Q.E.D. อย่างนี้ต้องพิสูจน์

บล็อกแปลเพลงจีนค่ะ อาจจะแปลเพลงญี่ปุ่น หรือเพลงฮ่องกงในบางครั้ง แล้วแต่โอกาส (ถ้าทำได้)

ถ้าใครอยากให้แปล ก็ลองเอาชื่อเพลง กับคนร้องมาลงไว้นะคะ ถ้าแปลได้จะแปลให้ค่ะ

เนื้อเพลงจะใช้จีนตัวเต็มนะคะ เพราะเพลงที่ฟังส่วนใหญ่ก็ของไต้หวัน อิอิ แล้วจะมีเนื้อเพลงตัวย่อให้ อยู่ข้างล่างถัดจากที่แปลเสร็จ คำศัพท์ก็จะมีวงเล็บตัวย่อให้

ตอนนี้ทยอยแก้ไขเพลงเก่าๆ ให้มีเนื้อเพลงตัวย่อ และมีคำศัพท์เพิ่มเข้าไป





เวลา
เพลงประกอบละคร
เวลาในขวดแก้ว

เคยคิดไหมทำไมคนเราต้องร้องไห้
ทำไมต้องเสียใจกับสิ่งที่แล้วมา

เคยคิดไหมทำไมคนเราต้องเสียน้ำตา
วันที่เลยมากับเวลาที่เสียไป

ทุกๆ ความเจ็บ
ฝังเป็นตะกอนแห่งความหลัง
ไร้หนทางจะเปลี่ยนอะไร

ไม่มีใครที่จะย้อนเวลา
คืนกลับมาเพื่อจะแก้ไข
ทุกเรื่องราวที่เคยผิดไป

ไม่มีใครจะฉุดรั้งเวลา
มันผ่านมาเพื่อจะผ่านไป
แต่ชีวิตคนยังมีให้ก้าวไป
เก็บความเจ็บไว้ในกาลเวลา

เคยคิดไหมทำไมคนเราต้องร้องไห้
ทำไมต้องเสียใจกับสิ่งที่พ้นไป

เคยคิดไหมทำไมเราจึงพึ่งรู้ได้
ในวันที่สายไปเมื่อเวลาเดินล่วงเลย




ส่งข้อความหลังไมค์ที่นี่ค่ะ





Link






















คนที่กำลังชมบล็อก

百合花's bookshelf: read

พันธะสีเพลิง
5 of 5 stars
tagged: novel, word-for-word, 2015-read, and my-favorite
ฉันคือเธอจนเจอรัก
5 of 5 stars
tagged: 2015-read, jamsai, love, novel, detective, and my-favorite
หัวขโมยจำนนใจ
3 of 5 stars
tagged: 2015-read, chinese-novel, cookie, jamsai, and novel
รักเท่าร้าย
4 of 5 stars
tagged: feel-good-love, novel, 2015-read, and jamsai

goodreads.com




2015 Reading Challenge

2015 Reading Challenge
百合花 has read 137 books toward her goal of 150 books.
hide

2016 Reading Challenge

2016 Reading Challenge
百合花 has read 1 book toward her goal of 150 books.
hide
New Comments
Friends Blog
[Add lovekalo's blog to your weblog]
MY VIP Friends