เกลือหวาน...อุปถัมภ์ กองแก้ว...นิยายเล่มเล็กๆ บางๆ ใช้เวลาอ่านไม่นานค่ะ แป๊บเดียวจบ...เห็นชื่อเรื่องก็รู้แล้่วว่า...พระเอกนางเอกนี่คงจะคู่กัดกันแน่...
เปิดเรื่องมา...แม่กับลูก ต่างความเห็น...แม่ปล่อยที่ดินว่างหน้าบ้านให้นายทุนเช่าทำตึกแถว...แต่ลูกชายกลับไม่เห็นด้วย เพราะต้องการคงความเป็นสวนไว้ และเขารักแผ่นดินผืนนี้มาก...แต่ทำไงได้เมื่อแม่ผู้เป็นเจ้าของที่ดินทำสัญญาไปแล้ว
หลิน...ลูกสาวของเสี่ยใหญ่ผู้รับเหมาก่อสร้าง...เธอเป็นลูกสาวคนที่สามของบ้านที่มีธรรมเนียมปฏิบัติแบบจีนแบบเก่า...แต่โชคดีที่หลินทำงานเก่ง พ่อจึงค่อนข้างไว้ใจและไม่ค่อยกระตือรือร้นเรื่องคู่ของลูกสาวเท่าไหร่ ยกเว้นแม่ที่พยายามจะให้ลูกสาวแต่งงานกับสกลลูกชายเพื่อน...แต่หลินไม่เคยสนใจเลย ให้แต่ความเป็นเพื่อนเท่านั้น เพราะชีวิตนี้ยังสนุกกับการทำงาน...
สรรค์...ทนายความลูกชายคนโตของเจ้าของที่ดิน ที่หลินมารับเหมาก่อสร้างตึกแถว...เขาคัดค้านหัวชนฝาเรื่องที่แม่ให้เช่าที่ดิน...ทำให้ไม่ถูกกับหลินไปด้วย
ความไม่ถูกกัน ไม่ชอบหน้ากัน...เริ่มตั้งแต่เจอหน้ากันครั้งแรกเลยค่ะ...หลินกับสกลมาดูพื้นที่เพื่อจะทำการปรับแต่ง...แต่มาเจอกับสรรค์...สกลโดนสรรค์ขู่จนหนีกลับไปก่อน ทิ้งหลินไว้คนเดียว...หลินเลยเดินออกจากซอยไปหาแท็กซี่...แต่สรรค์ก็อดเป็นห่วงไม่ได้ ตามขึ้นแท็กซี่ไปส่งจนถึงบ้าน...แต่พอวันถัดมา ทั้งคู่เจอกันอีก...ตามเคย...ทะเลาะกัน จนพระเอกเผลอเหวี่ยงนางเอกจนล้มลมกับพื้นทราย...ที่เล่ามาตั้งยาว เพื่อจะบอกว่าชอบประโยคของนางเอกมากค่ะ...
"มนุษย์ผู้ชายมีความป่าเถื่อนอยู่ในตัว เท่าๆกับความเมตตา...อยู่ๆคุณก็จะฆ่าคนที่คุณเคยพาไปส่งบ้านจนปลอดภัย"......."แต่ในโลกนี้ก็มีสิ่งที่เราไม่เข้าใจอยู่มากหลาย เอาเถอะ ถึงยังไงฉันก็จะทำงานอยู่ที่นี่จนเสร็จ คงจะได้เห็นกันชัดๆละว่า คุณมีธาตุอะไรอยู่ในตัวมากกว่า...ป่าเถื่อนหรือเมตตาจิต..."
ระหว่างนั้น...ก็ดันมีเรื่องที่สกลขับรถไปเฉี่ยวสาวน้อยชื่อแ๋ป๋ว (อยู่ข้างบ้านพระเอก เป็นเพื่อนสนิทกับน้องสาวพระเอก และยังชอบพระเอกอีกด้วย)...จนขาหัก ต้องพักรักษาตัวอยู่หลายวัน...นางเอกก็เลยพยายามให้สกลไถ่โทษด้วยการไปดูแลและจ่ายค่ารักษาพยาบาลให้...จนทั้งสกลและแป๋วรักกันในที่สุด...มันคือแผนการกำจัดสกลออกไปจากชีวิต...แต่จะเป็นแผนกำจัดแป๋วออกไปจากสรรค์ด้วยหรือเปล่าอันนี้ไม่แน่ใจค่ะ...
เจอกันแต่ละที พระเอกกับนางเอกก็ไม่ค่อยจะลงรอยกัน...นางเอกไม่เท่าไหร่หรอกค่ะ ดูจะมีเหตุมีผลมากกว่าพระเอกซะอีก...แต่พระเอกนี่ ไม่รู้จะขวางหูขวางตาอะไรนักหนาสิ...
อย่างตอนที่นางเอกมาประสานงา...เอ๊ย ประสานงานกับพระเอก เรื่องที่สกลทำไว้ แล้วต้องพาพระเอกไปกินข้าว...เอ ทนายโจทก์กินสินบนจำเลยหรือเปล่านี่...
"ผมจะไปกินข้าวนะคุณ ไม่ใช่ลงนรก"
"ที่นรกน่ะ มีอาหารนะคุณ อร่อยมากสำหรับคนไม่มีศิลธรรม"
"เป็นไรไป ผมรู้ว่าจะได้พบคุณแน่...ที่นั่น!"
เมื่อเรื่องของสกลจบไป...เรื่องการเผาไล่ที่ก็เข้ามา และพ่อของนางเอกคือผู้ต้องสงสัยในคดีนี้...จนหลังจากที่พลาดหวังจากสกลไป ก็พยายามชักจูงนายตำรวจหนุ่มเข้ามาให้ลูกสาว...ไม่แน่ใจว่าต้องการอาศัยความสัมพันธ์นี้หรือเปล่านะคะ...แต่นางเอกเธอก็ไม่พอใจ...ยิ่งมารู้จากพระเอกว่าพ่อตัวเองอาจจะมีส่วนเกี่ยวข้องในเรื่องนี้ ยิ่งเสียใจ เพราะไม่คิดว่าพ่อจะทำได้...ช่วงนี้ความสัมพันธ์กับพระเอกก็ดูงงๆอยู่ค่ะ คนอ่านงงว่าอ่านมาทั้งเรื่องยังไม่เห็นพระเอกจีบนางเอกตอนไหน...คู่นี้เค้าไม่เคยพูดจาหวานๆกันสักที...รู้สึกแต่ว่าพระเอกกับนางเอกต้องแอบสนใจกันอยู่ลึกๆแน่นอน...พอพระเอกมาชวนไปภูเก็ต นางเอกที่ดีเป็นใครก็ต้องปฏิเสธ แฟนกันก็ยังไม่ได้เป็น...แ้ล้วจะไปทำไม???
"คนบ้าอยากบอกคุณว่า ผมมีตั๋วเครื่องบินสองที่นั่ง แต่ผมจะไปคนเดียว เครื่องขึ้นเวลาสิบแปดตรง คุณตัดสินใจให้ดี กว่าคนเราจะรักใครสักคนหนึ่งได้เนี่ยมันไม่ง่ายนัก และที่จะรอจนสูญเสียความรักนั้นไป ก็น่าจะไม่ใช่คนอย่างรินวลี...และไม่ใช่คนอย่างนายสรรค์!"...เอ่อ...ใครก็ได้ช่วยบอกหน่อยเถอะว่านี่คือเค้ากำลังสารภาพรักกันอยู่ใช่ไหม
อ่านจบ...อาจจะไม่คุ้นกับนิยายยุคปี2530 มั้งคะ...เลยรู้สึกแปลกๆ เรื่องดูห้วนๆสั้นๆ ถ้าลงรายละเอียดมากกว่านี้น่าจะสนุกขึ้น กับสำนวนที่ไม่ค่อยคุ้นเท่าไหร่ด้วย...โชคดีที่เล่มบาง อ่านแป๊บเดียวจบ ไม่งั้นอาจจะมีเกิดอาการไม่อยากอ่านต่อขึ้นมาได้...ขนาดฉากหวานยังมีให้เห็นแค่ตอนจบ...ระหว่างเรื่องไม่มีเลย...คนอ่านถึงเกิดอาการงง ว่าเค้าสองคนแอบไปรัก ไปคบกันตอนไหน...เฝ้าตามอ่านมาตลอดเรื่องรู้แค่ว่าเค้าสนใจกัน เหมือนมีแรงดึงดูดเข้าหากันนั่นแหละ...พอจบปุ๊บ อ๊าววว นางเอกตามพระเอกไปภูเก็ตเฉยเลย...แล้วไงต่อ พ่อนางเอกจะยอมรับไหม...เรื่องคดีอีกล่ะ ตกลงพ่อนางเอกทำจริงๆใช่ไหม...จริงถ้าเขียนเพิ่มต่อไปอีก เรื่องน่าจะสมบูรณ์ขึ้นนะคะ
ปล...เข้าไปหาข้อมูลในกูเกิ้ล ถึงได้รู้ว่า คนเขียนมีผลงานหลายเรื่อง แถมยังมีที่เป็นละครมาแล้วด้วย ไม่ว่าจะมัจจุราชสีน้ำผึ้ง ตลาดอารมณ์ ระเบียงรัก...ทำให้อยากอ่านเรื่องพวกนี้ขึ้นมาเลยค่ะ...