Group Blog
 
<<
กุมภาพันธ์ 2554
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728 
 
10 กุมภาพันธ์ 2554
 
All Blogs
 

ประวัติความเป็นมาของเค้ก (History of Cake)

Cake มีรากศัพท์มาจากภาษาของชาวไวกิ้ง (Old Norse word) ว่า "kaka" ประวัติเริ่มจากปี 1843 คุณอัลเฟรดเบิร์ด (Alfred Bird 1811-1878) นักเคมีชาวอังกฤษ ได้ค้นพบ "ผงฟู" หรือ"baking powder"ทำให้เขาสามารถทำขนมปังชนิดที่ไม่มียีสต์ให้กับภรรยาของเขาคือ อลิซาเบธ (Elizabeth) ได้เป็นครั้งแรก เนื่องจากภรรยาของเขานั้น เป็นโรคภูมิแพ้เกี่ยวกับ ..ไข่ และ ยีสต์... ย้อน หลังจากวันนี้ไปประมาณ 60 ปี ธุรกิจขนมอบไม่ได้เป็นที่รู้จักแพร่หลายเหมือนในปัจจุบัน จนไม่อาจเรียกว่าเป็นธุรกิจได้ ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ ก็ไม่ได้เป็นที่คุ้นเคยของทุกคนทั่วไป จะมีก็เพียงคนกลุ่มหนึ่งซึ่งได้รับอารยธรรมตะวันตกมาก่อนและผู้ที่มีความใกล้ชิดกับชาวต่างประเทศที่เข้ามาทำธุรกิจในเมืองไทยที่รู้จักขนมอบ และมีร้านขนมอบเพียงไม่กี่ร้าน เช่น ร้านมอนโลเฮียงเบเกอรี่ ย่านถนนเจริญกรุงเท่านั้น เพราะธุรกิจขนมอบในสมัยนั้นแคบมาก ไม่เป็นที่รู้จักแพร่หลาย

ต่อมาคนไทยโดยเฉพาะคนกรุงเทพฯ เริ่มรู้จักขนมอบมากขึ้นเมื่อหลังสงครามโลกครั้งที่สอง เมื่อสงครามโลกสิ้นสุดลงประเทศไทยเริ่มเป็นที่รู้จักของประเทศต่างๆมีการติดต่อค้าขายที่ธุรกิจกับต่างประเทศมากขึ้น มีชาวต่างประเทศเข้ามาเมืองไทย ทั้งนักธุรกิจและนักท่องเที่ยวทำให้ธุรกิจการโรงแรมของประเทศไทยขยายตัวจึงต้องผลิตอาหารประเภทขนมอบชนิดต่าง ๆ ขึ้น เช่นขนมปัง เค้ก เพสตรี้ เพื่อบริการลูกค้าชาวต่างประเทศที่ไม่คุ้นเคยอาหารไทยและนอกจากจะผลิตเพื่อบริการลูกค้าแล้วโรงแรมยังมีบริการรับจัดเลี้ยง ให้แก่หน่วยงานต่าง ๆ ทั้งของรัฐและเอกชน โดยมีการจัดประชุมสัมมนา งานพิธีมงคลสมรส งานวันเกิด และการจัดเลี้ยงสังสรรค์ด้วยเหตุนี้ผลิตภัณฑ์ขนมอบจึงเป็นที่รู้จักและแพร่หลายมากขึ้น ในขณะเดียวกันก็มีร้านเบเกอรี่ที่ผลิตขนมปัง ขนมเค้ก ขนมต่าง ๆ ออกขาย

ธุรกิจ ขนมอบเริ่มจัดว่าเป็นธุรกิจได้เมื่อสมัยสงครามเวียดนาม ประมาณ 30 กว่าปีมาแล้วประเทศไทยเป็นประเทศหนึ่งที่เป็นที่พักของทหารอเมริกันระยะนี้กิจการขนมอบเริ่มขยายตัวมากขึ้น เนื่องจากความต้องการอาหารประเภทนี้สูงจนถึงกับมีผู้คิดโรงโม้แป้งสาลีขึ้นในประเทศไทยคือบริษัทยูไนเต็ดพลาวมิล์ ได้ผลิตแป้งสาลีเพื่อใช้ในการทำผลิตภัณฑ์ขนมอบ และส่งมาได้มีโรงโม่แป้งสาลีเพิ่มขึ้นอีก 23 แห่งได้แก่บริษัทสยามฟลาวมิลล์ บริษัทแหลมทองสหการ แต่ละโรงไม่ก็ผลิตแป้งสาลียี่ห้อต่าง ๆ ออกจำหน่ายพร้อมกับมีการสาธิตการทำผลิตภัณฑ์ให้กับลูกค้า จัดการฝึกอบรมแนะนำลูกค้าผู้ใช้แป้งสาลีและผู้ประกอบกิจการขนมอบซึ่งมีปริมาณเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อให้สามารถนำแป้งไปใช้ทำผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและมีความถูกต้อง นับว่าเป็นประโยชน์ต่อผู้ใช้แป้งสาลีเป็นอย่างยิ่ง

เมื่อ สงครามเวียดนามสิ้นสุดลง ธุรกิจขนมอบก็ยังดำเนินต่อไป และกับขยายตัวเพิ่มมากขึ้น คนไทยเริ่มบริโภค ขนมปัง ขนมเค้ก คุกกี้ พาย พัฟ ฯลฯ ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ขนมอบมากขึ้นนักธุรกิจหลายรายได้เริ่มมองเห็นลู่ทางในการลงทุนทำ ธุรกิจขนมอบนี้ เนื่องจากเห็นว่าผลิตภัณฑ์ขนมอบมากขึ้นนักธุรกิจหลายรายได้เริ่มมองเห็นลู่ทางในการลงทุนทำธุรกิจขนมอบนี้ เนื่องจากเห็นว่าผลิตภัณฑ์ขนมอบได้เข้ามามีความสำคัญต่อชีวิตประจำวันของคนไทยมากขึ้น นอกจากนั้นยังมีหน่วยงานต่าง ๆ เช่น วิทยาลัยสารพัดช่างวิทยาลัยการอาชีพ วิทยาลัยอาชีวศึกษา มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ โรงเรียนของเอกชนที่เปิดสอนด้านขนมอบ เป็นต้น ได้ช่วยกันเผยแพร่ความรู้เกี่ยวกับขนมอบมากขึ้น พร้อมกันมีตำราการฝึกปฏิบัติทำขนมอบ มีประชาชนให้ความสนใจมาฝึกอบรมรับความรู้เพื่อไปประกอบเป็นอาชีพ หรือทำบริโภคเองภายในครอบครัว




 

Create Date : 10 กุมภาพันธ์ 2554
4 comments
Last Update : 10 กุมภาพันธ์ 2554 11:19:26 น.
Counter : 1586 Pageviews.

 

มาอ่านทุกครั้งเลย อิอิ

 

โดย: allenalina 10 กุมภาพันธ์ 2554 14:14:08 น.  

 

^
^
ยินดีค่ะ ดีใจมากๆๆที่แวะมาค่ะ

 

โดย: นับหนึ่งด้วยกันไหม 10 กุมภาพันธ์ 2554 16:40:37 น.  

 

ขอบคุณสำหรับความรู้ดีดีนะคะ

 

โดย: Patissier_Eve 11 กุมภาพันธ์ 2554 15:54:08 น.  

 

ขอบคุณข้อมูลดีๆ ที่น่าศึกษาค่ะ

 

โดย: CoffeeBake 17 กุมภาพันธ์ 2554 7:07:29 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


นับหนึ่งด้วยกันไหม
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 8 คน [?]




แพ้ชนะ ทุกข์หรือสุข มันเป็นเช่นไร คนหนึ่งคนกว่าจะเข้าใจ ต้องรู้ต้องโดนด้วยตัวเองไม่มีใครสอนให้มองเห็น ต้องล้มเอง รับเอง แพ้เอง รู้เอง ถึงจะค่อยๆเข้าใจ
>"*'^'~*-.,_,.-* in my life...i love you more *-.,_,.-*~'^'*"
Friends' blogs
[Add นับหนึ่งด้วยกันไหม's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.