ตอนที่ 1 บินโลวคอสต์ท่องกัวลาลัมเปอร์
ตอนที่ 1 บินโลวคอสต์ท่องกัวลาลัมเปอร์ ตอนที่ 2 KL ในมุมสูง ตอนที่ 3 สีสันมะละกา ตอนที่ 4 เก็บตกกัวลาลัมเปอร์และไปปุตราจายา
ตอนที่ 1 บินโลวคอสต์ท่องกัวลาลัมเปอร์ประเทศสุดท้ายในการเดินทางเยือนเอเชียคราวนี้ก่อนกลับสวีเดนก็คือมาเลเซีย คราวนี้ไม่ได้เที่ยวอย่างโดดเดี่ยวเพราะมีเพื่อนติดสอยห้อยตามไปด้วย คนหนึ่ง วันที่ 31 ก.ค. พวกเราออกเดินทางจากบ้านราวๆตีสี่ครึ่ง จัดการเรื่องเช้คอินเรียบร้อยเวลาราวๆ เจ็ดโมงเช้าเครื่องพาเราออกเดินทางไปยังสนามบิน KLIA อาคาร lcct สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำ ในเวลาสิบโมงเช้าของมาเลเซีย ซึ่งเร็วกว่าประเทศไทยหนึ่งชั่วโมง เมื่อรับกระเป๋าเรียบร้อยแล้ว พวกเราก็นั่งรถสกายบัสเข้าเมืองในราคาเก้าริงกิต ใช้เวลาราวๆชั่วโมงหนึ่งรถก็เข้ามาส่งที่สถานีกลางหรือ KL sentral ซึ่งเป็นศูนย์กลางในการต่อรถไฟต่างๆ พวกเราลงรถแล้วก็เดินมาอีกไม่กี่เมตรเพื่อมาขึ้นรถไฟรางเดียวหรือ Monorail ซึ่งตัวสถานีไม่ได้อยู่ติด KL sentral ก่อนขึ้นรถพวกเราก็แวะซื้อของเซเว่นกันแป๊บหนึ่งแล้วมาซื้อตัวกับเจ้าหน้าที่ ไปสถานี Imbi การซื้อตั๋วที่นี้ต้องซื้อกับเจ้าหน้าที่เนื่องจากเครื่องขายตั๋วไม่มี หรือมีก็พัง ได้ตั๋วแล้วก็ขึ้นไปรอรถชั้นสองตั๋วของที่นี้ก็เหมือนกันกับตั๋วรถไฟฟ้าบีทีเอสของเมืองไทย ระหว่างทางก็ได้ชมวิวไปเรื่อยๆเพราะเป็นรถที่ลอยฟ้าไม่ได้อยู่ใต้ดิน จนถึงสถานีอิมบี พวกเราก็ลงไปหาห้องน้ำเข้าก่อนที่ห้างหรูหราแห่งหนึ่งคือห้าง ไทม์สแควร์ แล้วก็ข้ามฝั่งมาด้านตรงข้ามลัดเลาะไปหาเกสเฮ้าส์ที่พัก ซึ่งก็ยังงงๆว่ามันอยู่ที่ไหนเพราะแผนที่กับถนนจริงทำไว้ไม่เหมือนกันเท่าไหร่ ยืนงงอยู่ชั่วครู่พวกเราก็ดันมองไปเจอที่พัก ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากจุดที่พวกเรายืนงงงวยกันอยู่ พอเข้าไปถึงเกสเฮ้าส์ก็จัดการเช็คอิน อะไรให้เรียบร้อยทางที่พักให้ห้องมาผิดอีก เพราะพวกเราจองเตียงคู่แต่ดันให้เตียงเดี่ยวมา ที่พักเลยให้ไปนอนห้องเตียงสองชั้นก่อน สภาพห้องที่เกสเฮ้าส์แห่งนี้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ห้องค่อยข้างอับแถมยังจัดห้องให้ไม่ตรงกับที่จองไว้ แต่เจ้าหน้าที่นิสัยดีเป็นมิตร ตกแต่งที่พักได้น่ารักดียกเว้นห้องนอน เหอะๆๆ เอาอะไรมากมายกับที่พักราคาถูก เมื่อจัดการอะไรเรียบร้อยแล้วพวกเราก็นอนเอาแรง แต่ตอนนั้นยังนอนไม่หลับเท่าไหร่ เพราะกำลังตื่นเต้นรอการออกตะลุยเมือง ราวๆบ่ายสองก็ออกจากที่พักลัดเลาะไปแถวๆขนส่งปูดูรายา ซึ่งเดินไกลเหมือนกันเพราะพวกเรายังไม่รู้จักทางลัด พวกเราหาสถานีรถไฟฟ้าพลาซ่ารักยัตอยู่นาน จนเจอหายากพอสมควร พอเจอก็นั่งไปแค่สถานีเดียวไปยังสถานีมัสยิดจาเม็ก เพื่อเดินเที่ยวแถวๆนั้น ตอนนั้นก็หิวแล้ว แต่ยังไม่รู้จะกินอะไรเลยเดินวนหาอยู่แถวนั้นก็ไม่ค่อยจะมีอะไรน่ากินเท่าไหร่ ดังนั้นเลยเดินเข้าไปในร้านอาหารมุสลิม สั่งอาหารมาทานคนละอย่างปรากฏว่ารสชาติอร่อยดี อาหารพร้อมน้ำตกคนละร้อยบาทได้ เมื่ออิ่มแล้วก็ออกเดินเล่นบริเวณมัสยิดจาเม็ก บริเวณจตุรัสเมอเดก้า ซึ่งแปลว่าจตุรัสอิสรภาพ บริเวณนั้นมีสถานที่สำคัญๆหลายอย่างเช่น มิสยิดจาเม็ก อาคารที่ว่าการยุคอังกฤษปกครอง วังสุลต่านและอื่นๆอีกมากมาย พวกเราถ่ายรูปบริเวณนี้กันมากพอสมควร แต่ตอนนั้นรู้สึกอ่อนเพลียมาก เนื่องจากพักผ่อนมาน้อยแถมยังมาเดินล่นตอนแดดเปรี้ยงมากขนาดนี้ ทั้งเดินเล่นพักอยู่นานเลยเดินต่อไปยังตลาดกลางหรือ Central market ที่แห่งนี้พวกเราไม่ได้ทำอะไรเลยนอกจากไปนอนฟุบบริเวณศูนย์อาหารเนื่องจากทั้งง่วงและไม่มีแรงเอาเสียเลย พักอยู่พอสมควรก็เดินไปยัง หน้าทางเข้าไชน่าทาวน์หรือถนนเปตาลิง ซึ่งฝั่งตรงข้ามเป็นห้างขายของที่มีสินนค้าเหมือนๆกับประตูน้ำบ้านเรา พวกเราไปเข้าห้องน้ำที่ห้างนี้เสร็จแล้วก็ข้ามสะพานลอยมาเพื่อเข้าไปเดินในย่านไชน่าทาวน์ ซึ่งมีการวางขายสินค้าพวก กระเป๋ารองเท้า ของก็อปเกรดเอก็มีขาย มีเกาลัด อะไรต่างๆที่เหมือนๆกับบ้านเรา พวกเราเดินไปเดินมามีคนมาตะโกนร้องให้เข้าร้าน เลยพูดเล่นๆว่าอยากขายให้พวกเราต้องพูดภาษาไทยสิ เดินไปซักพัก คนคั่วเกาลัดพูดว่าอร่อยๆเอาไหมๆ ดันพูดภาษาไทยอีก แต่ดันไม่ซื้อของเขาเหอะๆ คนขายแถวๆนี้พูดภาษาไทยได้นิดๆหน่อยพอขายของให้คนไทย ไชน่าทาวน์ที่นี้ไม่ได้ใหญ่โตอะไรมากมายเหมือนเยาวราชบ้านเรา ออกจากไชน่าทาวน์พวกเรากลับไปยังจตุรัสเมอเดก้าอีกครั้งหนึ่งเพื่อไปรอเก็บภาพยามค่ำคืน และแล้วตกเย็นพวกเราก็ไปหาของกินที่หน้าเกสเฮ้าส์ ซึ่งมื้อนี้เป็นบะหมี่ผัดแบบจีนกับโรตีกินกับแกงแบบอินเดีย เมื่อเรียบร้อยก็เข้าที่พักนอนเอาแรงไว้สำหรับตะลุยกัวลาลัมเปอร์พรุ่งนี้ต่อไป