Home is behind The world ahead
 
กุมภาพันธ์ 2555
 1234
567891011
12131415161718
19202122232425
26272829 
18 กุมภาพันธ์ 2555

แต่งงานกันหลอก ๆ .....ไม่ได้มีแต่ในละคร

        สองปีก่อน ในช่วงเดียวกับตอนนี้เป็นช่วงใกล้จบการศึกษาของญี่ปุ่น  ภาคเรียนที่ 1 ของที่ญี่ปุ่นจะเริ่มเดือนเมษายน ในช่วงใกล้จบการศึกษาแบบนี้  งานหลักของฉันก็จะเปลี่ยนเป็น งานจัดการให้แน่ใจว่า นักเรียนที่จะจบการศึกษาจากที่นี่ก็ต้องกลับประเทศกันทุกคน (ยกเว้นนักเรียนที่เรียนต่อ หรือได้งานทำที่ญี่ปุ่น)



        งานส่งเด็กไทยกลับประเทศไม่ใช่งานง่าย ๆ เหมือนงานเรียกคนไทยขึ้นมาที่ญี่ปุ่น งานเรียกคนไทยขึ้นมาที่นี่ แม้เอกสารแปลจะยุ่งยาก แต่ไม่เคยมีเรื่องลำบากใจ  แต่การส่งเด็กไทยกลับ มีเด็กไทยหลายต่อหลายคนยินดีจะทำยังไงก็ได้ให้ตัวเองได้อยู่ญี่ปุ่นต่อ  และทางเลือกยอดนิยมก็คือ แต่งงานกับคนญี่ปุ่นและเปลี่ยนเป็นวีซ่าคู่สมรสชาวญี่ปุ่น



        สำหรับฉัน ตลอดมางานแต่งงานคืองานมงคล เป็นเรื่องน่ายินดี  และฉันยินดีกับนักเรียนทุกคนที่แต่งงาน ไม่ว่าคู่สมรสจะเป็นคนชาติไหนก็ตาม จนกระทั่งวันหนึ่ง มีเคสเด็กไทยที่ฉันได้รับมอบหมาย เธอกำลังจะเปลี่ยนวีซ่าจากวีซ่านักเรียนเป็นวีซ่านักธุรกิจ ไม่มีปัญหาอะไร ฉันคิดว่าเคสนี้คงจบง่าย ๆ เปลี่ยนวีซ่าเสร็จ เอาวีซ่าใหม่มาให้โรงเรียนดู โรงเรียนถ่ายเอกสารเก็บไว้เป็นหลักฐาน และฉันก็อวยพรให้ธุรกิจของเธอประสบความสำเร็จ



        จนกระทั้งปลายเดือนกุมภาพันธ์เมื่อสองปีก่อน เหลืออีกหนึ่งเดือนก่อนวีซ่านักเรียนจะหมดอายุ  น้องเอาเอกสารการจดทะเบียนบริษัทมาให้ฉันดู  พร้อมบอกว่าทนายความบอกว่าหนูเปลี่ยนวีซ่าเป็นวีซ่านักธุรกิจไม่ได้



"ทำไมละคะ ทุนจดทะเบียนไม่สูงพอที่จะยื่นวีซ่าหรือคะ" ฉันถาม


"เปล่าค่ะ แต่ร้านที่ป้าหนูจะเปิด ป้าเอาชื่อหนูใส่ลงไปในหุ้นส่วน แต่หนูไม่ได้ออกตังค์"


"ไม่เป็นไรนี่คะ เค้าคงไม่ดูรายละเอียดขนาดนั้นมั้ง" ฉันพยายามคิดในแง่ดี


"ไม่ใช่ค่ะ ประเด็นคือ ป้าหนูจะเปิดร้านนวดแผนโบราณ"



           โอ....แล้วฉันก็ถึงบางอ้อ...ว่าทำไมทนายถึงยื่นเรื่องให้ไม่ได้  ยื่นไปวีซ่าก็ไม่ออก มันสุดปัญญาแล้วจริง ๆ 



"แล้วน้องจะทำยังไง เหลืออีกเดือนเดียว น้องจะกลับไทยใช่ไหมคะ" ฉันพยายามกดดัน ด้วยหน้าที่ของฉันคือส่งเธอกลับไทย น้องตอบมาด้วยเสียงสั่นเครือ



"พี่ หนูจะทำยังไงดี  ป้ากับแฟนป้า (สามีของป้า เจ้าของร้านตัวจริงที่เป็นคนญี่ปุ่น) จะให้หนูแต่งงานกับคนญี่ปุ่น ที่หนูเคยเจอหน้าเค้าแค่ 2 ครั้งเอง หนูจะทำยังไงดี หนูต้องแต่งงานกับเค้า ป้าบอกว่า ถ้าแต่งครบสี่ปี ขอวีซ่าถาวรได้เมื่อไหร่ ค่อยหย่ากันก็ได้"



        ครั้งแรกที่ได้ยินความคิดอันแสนพิสดารนี้ ฉันนึกว่านี่มันนิยายชัด ๆ มันไม่ใช่เรื่องจริง มันไม่มีทางเป็นเรื่องจริง ขณะที่กำลังรวบรวมความคิด ว่านี่ฉันหลับกลางวันระหว่างทำงาน แล้วไอเดียพิสดารนี่เกิดจากการกินข้าวเที่ยงมากเกินไป  แล้วฉันก็เห็นน้ำตาหยดแรก หยดที่สอง แล้วไหล่ของน้องตรงหน้าก็เริ่มสั่นรัว ราวกับไม่อาจทนรับเรื่องราวทั้งหมดได้อีกต่อไป



"น้องไม่ต้องแต่งงานกับเค้าก็ได้  ไม่มีใครบังคับน้องได้"  แทบไม่ต้องคิดฉันตอบไปทันที 



"หนูอยู่บ้านป้า ป้าออกค่าเทอมให้หนูเรียนจนจบ แล้วหนูจะไม่ทำตามได้ยังไง แต่หนูไม่อยากแต่ง"



"เอาอย่างนี้...เรียนจบแล้วกลับไทยไปก่อนซักพักบอกว่าไปเยี่ยมบ้าน พอถึงบ้านแล้วกลับไปทบทวนเรื่องทั้งหมดให้ดี ๆ   ถ้าตอนนั้นน้องยังคิดว่าน้องจำเป็นต้องแต่งงานกับเค้า ก็ค่อยทำเรื่องแต่งงาน วีซ่าคู่สมรสคนญี่ปุ่นขอที่ไทยก็ได้"  ฉันตอบ รู้ดีกว่าการประวิงการตัดสินใจ ให้น้องได้มีโอกาสคิดให้รอบคอบจะได้คำตอบที่ดีที่สุดสำหรับตัวน้องเอง



        น้องยังร้องไห้อยู่อีกสักพัก ฉันไม่ได้พูดอะไรอีก แค่จับมือน้องแล้วยื่นกระดาษทิชชู่ให้ นั่งฟังน้องระบายความหนักอึ้งที่อยู่ในบ่าน้อย ๆ ความกตัญญู ต่อคุณป้า กับอนาคตของลูกผู้หญิงหนึ่งคน เธอสับสนและฉันทำอะไรไม่ได้เลย นอกจากนั่งอยู่ตรงนี้ ฟังเรื่องราวทั้งหมดของเธอ



         หลังจากพิธีจบการศึกษาเธอกลับไปเยี่ยมบ้าน และเธอไม่ได้ย้อนกลับมาที่ญี่ปุ่นอีก (อย่างน้อยเท่าที่ฉันได้ข่าวเมื่อปีที่แล้ว เธอยังบ่นเรื่องน้ำท่วมที่ไทยให้ฉันฟังอยู่)










Free TextEditor




 

Create Date : 18 กุมภาพันธ์ 2555
7 comments
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2555 10:30:24 น.
Counter : 1167 Pageviews.

 

เธอคงตัดสินใจแล้ว จริงๆค่ะ การแต่งงานมันเป็นเรื่องศักดิ์สิทธิ์ คิดกันให้ดีก่อนจะดีมาก

 

โดย: โจนบ้ากับป้าแก่ๆ 18 กุมภาพันธ์ 2555 10:42:46 น.  

 

แวะมาเยี่ยมในวันหยุด...สวัสดีครับ

 

โดย: **mp5** 18 กุมภาพันธ์ 2555 11:21:28 น.  

 

เรื่องแต่งงานหลอกๆเราได้ยินมาเยอะแต่ยังไม่เคยเจอกับคนรู้จักหรือคนใกล้ตัว
(แม้แต่เพื่อนๆเราที่มีปัญหาโดนจับมาก็ได้แต่งงานกับคนที่เขารักนะคะยังนับว่าเป็นเรื่องที่ดีอยู่)

เราเข้าใจว่าหลายๆคนก็มีเหตุผลของเขาที่จะแต่งงานหรือไม่แต่งงาน
แต่เราก็คิดว่าการแต่งงานน่าจะแต่งกับคนที่รักมากกว่าค่ะ

เราเห็นด้วยนะคะที่คุณปลาทองในกองหนังสือตอบแบบนั้นไป
มันเป็นคำตอบที่น่าจะดีที่สุดแล้วล่ะค่ะ
อย่างน้อยก้บอกว่ากลับไปดูที่บ้านก่อน
ถ้าไปแล้วป้าคนนั้นเขาจะให้ขึ้นมาอีกหรือบังคับยังไงก็ยากล่ะนะคะ

เราว่างานคุณปลาทองในกองหนังสือน่าสนใจมากค่ะ
ได้เจอหลายๆแบบ เหนื่อยแต่ก็น่าสนุกไม่เบื่อดี สู้ๆนะคะ

 

โดย: แม่บ้านมือใหม่ IP: 175.179.161.31 18 กุมภาพันธ์ 2555 13:45:27 น.  

 

น่าสงสารน้องจังนะคะ โชคดีที่ไม่ต้องแต่งงานทั้งๆที่ไมได้รัก

 

โดย: เก่ง (keng_toshi ) 18 กุมภาพันธ์ 2555 21:51:23 น.  

 

ขอบคุณที่แวะเข้ามาเยี่ยมนะคะ เรื่องแต่งหลอก ๆ ที่เล่านี่เป็นเคสแรก แต่ที่เคยได้ยินมา คือหญิงไทยจ่ายเงินให้คนญี่ปุ่นมาแต่งงานด้วย เพื่อเอาวีซ่าถาวรค่ะ เศร้า...

 

โดย: ปลาทองในกองหนังสือ 21 กุมภาพันธ์ 2555 7:37:19 น.  

 

แวะมาอ่านเรื่องน่าสนใจ อ่านแล้วได้ความรู้หลายอย่างในญี่ปุ่นเลยค่ะ

 

โดย: เวียงแว่นฟ้า 6 มีนาคม 2555 22:21:25 น.  

 

weddinginlove แหล่งรวมข้อมูลที่มีประโยชน์เกี่ยวกับงานแต่งงาน สำหรับคู่บ่าวสาว และผู้สนใจด้านงานแต่งงาน อาทิเช่น บทความที่น่าสนใจเกี่ยวกับ Idea & Trend แฟชั่น เทรนด์แต่งหน้า ทำผมเจ้าสาว ประเพณีการแต่งงานแบบไทย ประเพณีการแต่งงานแบบจีน ประเพณีการแต่งงานแบบมุสลิม การขอสมรสพระราชทาน กฏหมายแต่งงาน กฎหมายสมรส สคริปต์พิธีการ เที่ยวทั่วไทย ประเพณีการแต่งงานคริสเตียน ประเพณีแต่งงานแบบล้านนา ประเพณีการแต่งงานแบบอินเดีย การ์ดแต่งงาน & ของชำร่วย ชุดแต่งงาน ชุดวิวาห์ ชุดเจ้าสาว สถานที่ถ่ายรูป Pre Wedding (Out Door) Sweet Memories คู่รักดารา ธีมงานแต่งงาน เค้กแต่งงาน คัพเค้ก ขนม ฤกษ์แต่งงาน โต๊ะจีน กิจกรรมร่วมสนุกกับ Weddinginlove ดนตรีในงานแต่งงาน สถานที่แต่งงาน สถานที่จัดเลี้ยง เตรียมความพร้อมก่อนแต่งงาน วางแผนแต่งงาน สถานที่ถ่ายรูป Pre Wedding (In Door) ข่าวและกิจกรรมเกี่ยวกับงานแต่งงาน วีดิโอ&มิวสิค

รายละเอียดเพิ่มที่ : //www.weddinginlove.com

 

โดย: weddinginlove IP: 58.8.137.177 18 เมษายน 2555 20:32:58 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ปลาทองในกองหนังสือ
Location :
Kawasaki Japan

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 13 คน [?]




เป็นคนทำงานด้านเอกสารวีซ่านักเรียนของชาติต่าง ๆ ที่จะมาเรียนที่ญี่ปุ่น ในนั้นมีนักเรียนไทยประมาณ 10%

นอกจากนี้ยังเป็นล่ามจำเป็นให้นักเรียนเวลามีเรื่องกับตำรวจ หรือกรมตรวจคนเข้าเมือง

ดังนั้นเรื่องราวที่เกี่ยวข้องกับนักเรียนที่เขียนในบล็อคจึงมักจะเป็นเรื่องของนักเรียนที่มีปัญหาเสียส่วนมาก ซึ่งเป็นนักเรียนส่วนน้อย ประมาณ 0.5% ของนักเรียนทั้งหมด ไม่ได้หมายความว่าที่ที่เราทำงานอยู่มีแต่เด็กมีปัญหาแต่อย่างใด
[Add ปลาทองในกองหนังสือ's blog to your web]