เดือนนี้มีซีรี่ส์ใหม่ๆ เด็ดๆ มาให้ลิ้มลองกันอีกแล้ว
ว่าแล้ว ก็อย่าชักช้า ไปชมการรีวิวคร่าวๆ กันเลยดีกว่า

24 Day 6



"หนึ่งวันอันแสนยาวนานครั้งที่ 6 ของแจ๊ค บาวเออร์ .... กับภารกิจไปตาย!?"

ซีรี่ส์ในตำนานกลับมาแล้ว...
หลังจากที่ซีซั่น 5 จบลง ด้วยอารมณ์อันค้างเติ่ง
การกลับมาของยอดมนุษย์พ่อหม้ายคนนี้
กับ 24 Day 6 ดูคล้ายกับว่า จะเป็นการเริ่มนับหนึ่งใหม่อีกครั้ง!

ส่วนเหตุผลที่มองว่าซีซั่นนี้เหมือนเป็นการเริ่มต้นใหม่ก็คือ ตัวละครหลักอื่นๆ นอกจากพระเอกได้......(โปรดคิดเอาเอง)......กันไปหมดแล้ว
และซีซั่นนี้ก็เริ่มมีการแนะนำตัวละครใหม่ๆ ที่จะต้องกลายเป็นตัวละครหลักในซีซั่นต่อไปแน่นอน(ถ้าไม่ตายกันไปเสียก่อนนะ หุๆ)
อาทิเช่น
นาเดีย ยัสเซอร์

(ในบทของรองผู้อำนวยการซีทียู ที่เป็นมุสลิม!?)

มอร์ริส โอไบรอั้น

(สามีของโคลอี้ ที่โผล่มาตั้งแต่ปลายๆ ซีซั่นที่แล้ว น่าจะเป็นตัวสร้างสีสันและช่วยเหลือ-หรือก่อกวน-โคลอี้ได้เป็นอย่างดี)

ไมค์ ดอยล์

(ข้าพเจ้าคาดว่า คนๆ นี้น่าจะมารับบทลุยแทนแจ๊ค บาวเออร์ในซีซั่นหลังๆ ที่เริ่มชราภาพแล้ว การแสดงของเขาดิบๆ โหดๆ ดีไม่แพ้แจ๊ค บาวเออร์เลยทีเดียว)

ขอยกตัวอย่างมาแค่นี้ครับ ยังมีตัวละครเด่นๆ อื่นๆ อีกเหมือนกัน แต่ยังไม่ขอกล่าวครับ....

การนับหนึ่งใหม่ในซีซั่นที่ 6 นี้จะเยี่ยมยอดเหมือนซีซั่นที่ผ่านมาหรือไม่
ก็แล้วแต่รสนิยมของคนดูครับ

สำหรับตัวผมแล้ว ก่อนได้ดูซีซั่นนี้
ได้ยินคำร่ำลือ ถึงความไม่ค่อยสนุกไม่ค่อยมันส์มาเยอะพอควร
แต่เนื่องจาก....
เหตุผลเดียวกับคนดูซีรี่ส์ท่านอื่นๆ

ได้ตามดูมัน
ตั้งแต่มันยัง-มีลูก-มีเมีย-มีเพื่อน
จนตอนนี้มันแทบไม่เหลือใครอีกแล้ว
จะให้ทิ้งอีตาแจ๊ค บาวเออร์ไปกลางครัน ก็กระไรอยู่

ว่าแล้วก็หวด วันที่ 6 ของเพื่อนรัก(ที่มิกล้าอยู่ชิดใกล้)
มาดูให้หายสงสัย ว่าทำไมใครๆ จึงว่าซีซั่นนี้ไม่ค่อยสนุก

......................................................................................................................................
และเมื่อดูจบ(อย่างรวดเร็ว)
ตัวซีรี่ส์ยังทำได้น่าติดตามดี (ออกจะน่าติดตามกว่าซีซั่น 5 ด้วยซ้ำ เพราะซีซั่น 6 ผมใช้เวลาดูจบภายใน 3 วัน ผิดกับซีซั่น 5 ที่กว่าจะดูจบก็ 2 สัปดาห์)
แต่เรื่องความสมเหตุสมผลนั้น ดูจะด้อยกว่าซีซั่นก่อนๆ ครับ

แต่ถึงอย่างไร การวางปมต่างๆ (ที่อาจไร้เหตุผล และเป็นอคติแบบอเมริกาไปบ้าง)
ก็มีการคลายเงื่อนคลายปมรวดเร็วกว่าซีซั่น 5 และดูให้ชวนติดตามดี ไม่เยิ่นเย้อมากมายครับ
แต่เมื่อถึงช่วงปลายๆ ซีซั่น
24 Day 6 อาจจะเป็นการจบแบบแผ่วปลายไปหน่อย แต่ผมว่ายังน่าประทับใจกว่าซีซั่น 5 เยอะ

และที่สำคัญซีซั่นนี้ แจ๊คดูน่าสงสาร มากกว่าน่าหมั่นไส้(ที่เก่งและบ้าเกินกว่าเหตุ)อย่างที่แล้วๆ มา
ส่วนจะน่าสงสารยังไง โปรดอ่าน Quote ข้างบนที่ผมเอามาจากประโยคของท่านนึงที่พูดกับแจ๊คในซีซั่นนี้ครับ...

ยังเป็นซีซั่นที่น่าติดตามดี ผมไม่กล้าพูดอะไรมาก
เพราะรู้ๆ กันอยู่ว่าซีรี่ส์ 24 ถ้าดูโดยไม่รู้อะไรล่วงหน้าเลย
จะเป็นการดูที่สนุกสนานมากครับ

ยังแนะนำให้ดูเช่นเคยครับผม..............

(ขอเว้นไว้ก่อนครับ แผ่นไม่อยู่....ดูจบเดี๋ยวมาแก้รีวิวให้

"ฮีโร่ในคราบฆาตกร ........ เขาคือยมทูต ที่พาเหล่าฆาตกรไปลงนรก!"

แรกเริ่มเดิมที บอกตามตรงไม่เคยรู้จักซีรี่ส์ชื่อเหมือนการ์ตูนเรื่องนี้เลย ให้ตายเถอะ!

แต่เมื่อได้ดูแล้ว
ยอมรับเลยว่า เป็นอีก 1 ซีรี่ส์ที่น่าลองชม(แต่ก่อนชม ต้องเปิดใจนิดนึงนะ อิอิ)
มีความแปลกใหม่ในระดับน่าทึ่ง และช่างกล้านำเสนออย่างเหลือเกิน
และแน่นอน เนื่องด้วยความล่อแหลมของเรื่องราว บวกกับความโหด
ทำให้ซีรี่ส์เรื่องนี้ถูกจัดเรท R ในช่วงการฉายถึงช่วงกลางซีซั่นไปเรียบร้อยโรงเรียน MPAA

DEXTER เล่าเรื่องราวเกี่ยวกับ "เด๊กเตอร์" ชายหนุ่มที่ทำงานอยู่ในสถานีตำรวจแห่งหนึ่ง
เขาอยู่ฝ่ายนิติเวช มีหน้าที่ตรวจหาการสาดกระจายของเลือดในที่เกิดเหตุฆาตกรรม
เพื่อใช้เป็นการสันนิษฐานว่าเหยื่อถูกฆ่าด้วยวิธีใด และเวลาใด....
ดูเผินๆ แล้ว "เด๊กเตอร์" เป็นคนน่ารักน่าคบหา
หากแต่ลึกๆ แล้วสิ่งที่ผู้คนมองเห็นเขาภายนอก
แท้จริงก็เป็นเพียงแค่การแสดงตบตา เพื่อซ่อนสิ่งวิปริตที่อยู่ในใจเขา

ใช่ครับ! เด๊กเตอร์ คือพระเอกของซีรี่ส์สุดฉาวเรื่องนี้
"พระเอก" ของซีรี่ส์แนวสืบสวนสอบสวน ที่ดันกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่องเสียเอง!

อ๊ะๆ ยังไม่ต้องตกใจครับ ผมไม่ได้มาสปอยล์จุดหักมุมเรื่องราวแต่ประการใด
เพราะเพียงแค่เปิดตัวมาตอนแรก
DEXTER ก็โชว์ลีลาสังหารเหยื่อให้เราเห็นภายใน 5 นาทีแรกทันทีทันใด

แต่ถึงอย่างไรแล้ว การฆ่าของเขาก็เลือกเฉพาะเหยื่อที่เป็นฆาตกรจอมวายร้าย
ที่รอดพ้นการถูกจับกุม หรือไม่มีใครทราบว่าพวกเขาเป็นฆาตกร
แล้วนำไป สับ สับ สับ ชำระโทษ อย่างไม่มีชิ้นดี!

DEXTER ก็รู้ตัวดี ว่าสิ่งที่เขาเป็น คืออาการโรคจิตประเภทหนึ่ง
(ซึ่งในหนังไม่ได้กล่าวถึง ถ้าใครเจอพี่ผมอยู่ข้างหลังคุณ ฝากถามเขาด้วยว่าอาการชอบฆ่าคน เป็นโรคจิตประเภทไหนด้วยครับ?)
แต่ด้วยการอบรมมาอย่างดี(?) ของผู้เป็นบิดาบุญธรรม
ทำให้DEXTER สามารถควบคุมอาการนี้ ด้วยการไปลงกับเหยื่อที่เป็นพวกฆาตกรต่อเนื่องเช่นเดียวกันกับเขาแทน...

แต่จะเกิดอะไรขึ้น เมื่อการกระทำของเขาถูกจับตามองโดยฆาตกรต่อเนื่องลึกลับรายใหม่
ที่ดูเหมือนจะชอบพอวิธีการกระทำแบบนี้ของ Dexter
และชวนเขามาเล่นเกมส์ "แมวจับหนู" ในรูปแบบถึงลูกถึงคน!
ที่มีเหยื่อผู้บริสุทธิ์นับสิบเป็นเดิมพัน
และดูเหมือนจะเป็นการท้าทายDEXTER ขึ้นไปอีก
เมื่อเหยื่อแต่ละรายของฆาตกรลึกลับรายนี้ สภาพศพ....ไม่มีเลือดเหลือให้เห็นสักหยด!
แล้วเขาจะทำการสืบหาฆาตกรจอมวายร้ายตัวนี้ได้อย่างไรกันนี่?

นี่คือซีรี่ส์ ที่สร้างจากหนังสือขายดีเรื่อง "Darkly Dreaming Dexter" ซึ่งมีแปลเป็นไทยในสำนักพิมพ์แพรวในชื่อว่า "หรือว่าผมฆ่า"

เป็นซีรี่ส์ที่ดูตอนแรกแล้วค่อนข้างตกใจนิดนึงกับเรื่องราวที่ค่อนข้างรุนแรง
แต่พอดูไปสักระยะ และเริ่มจับประเด็นได้ว่าตัวซีรี่ส์ต้องการนำเสนออะไร
กลับกลายเป็นซีรี่ส์แนวสืบสวนสอบสวน ที่แอบจิกกัดเสียดสีความเป็นคน ได้อย่างสนุกสนานนักแล...
แนะนำให้ลองชมกันอีกเรื่องครับ เรื่องนี้
(คงเข้าฉายบ้านเราได้ยากครับ เรื่องราวมันโหดอย่างล่อแหลมเหลือเกิน)

(ได้เวลานอนตั้งนานแล้วครับ ขอไปงีบก่อน เดี๋ยวมาแก้รีวิวให้ครับ ......)

Create Date : 05 สิงหาคม 2550
Last Update : 3 กันยายน 2550 21:06:57 น.		16 comments
Counter : 1007 Pageviews.
Share Tweet