อัลติส ปี2010 ที่ผมได้มาเป็นภาระครอบครองคันนี้ ฟังวิทยุได้ เล่นออดีโอซีดี และซีดีMP3 ได้อยู่แล้ว แม้ว่าแรกๆมองว่าเร่งเสียงได้ไม่ดังมาก ไม่ค่อยสะใจ พอใช้นานๆไปก็พบว่าต้องเบาเสียงลงเพื่อสมาธิในการขับรถอยู่ดี สุ้มเสียงถือว่าหนักแน่นเอาการ ไม่ใช่ดังนะครับ มี ASL ให้สามารถเพิ่มระดับทุ้มแหลมให้มากขึ้นเมื่อขับเร็วขึ้นด้วย ถือว่าพอใจเลยทีเดียวเชียว

ปัญหาคือแผ่นเริ่มเต็มหัวแล้ว หาซองมาใส่แล้วติดไว้กับแผ่นบังแดด ขับไปขับมาแผ่นร่วงใส่หัวอยู่เรื่อย ใส่เข้าใส่ออก แผ่นเป็นรอย เล่นสะดุดอีก แล้วก็ชักเริ่มไม่ขยันไร้ท์แผ่นซะแล้ว

เรื่องสำคัญคือการถอดวิทยุออกมาเพื่อจัดการสายข้างหลัง ผมหาอยู่นานมาก จนได้ลิ้งก์นี้มา ถือว่าชัดเจนมาก ขอขอบคุณ และ Thank You Very Much ไว้ ณ ที่นี้เลย (ขอแถมภาษาอังกฤษด้วย เผื่อเจ้าของเขากดมาเจอ)

ฟังก็งูๆปลาๆครับ แต่ดูแล้วเข้าใจทันที หลังจากหาข้อมูลมานับเดือน วันนี้ได้เริ่มลงมือกันละ...

เริ่มด้วยแกะกาบข้างออกก่อน ตามด้วยช่องแอร์ด้านบน สามารถใช้ไขควงปากแบนแงะๆบิดๆอย่างนิ่มนวลได้บ้าง บริเวณหัวท้ายของเส้นกาบ แล้วสามารถดึงออกได้ด้วยมือเปล่ากันเลย

ขันสกรูออก 2 ตัว ก็ยกครอบเกียร์และช่องเขี่ยบุหรี่ออกมาได้ทั้งยวง

จากนี้ก็ต้องมีประแจบล็อกเป็นผู้ช่วย สำคัญมาก เพราะน้อตอยู่ลึกเข้าไป 4 ตัว 

ทำไปดูคลิปไป ในที่สุดก็ถอดออกมาได้

ร้อนครับ...ผนังปูนบ้านผมมันหันข้างทางทิศตะวันตก ช่วงบ่ายรับความร้อนไว้เต็มๆ เก็บไว้รอผมกลับจากทำงาน แล้วก็ทะยอยส่งถ่ายความร้อนให้ผมตลอดคืน พอตกตอนเช้าความร้อนหมด ผมก็ต้องออกมาทำงานอีกที สรุปว่าเจอแต่บ้านร้อนทุกวัน ที่บ่นว่าร้อนนี่ จะแว่บเข้ามาตากแอร์ทำสายต่อกันก่อน

บางท่านไม่รู้จักสายแบบนี้ เพราะได้เลิกใช้กันมานานมากแล้ว เนื่องจากเมื่อก่อนนั้น ไดรฟ์ซีดีที่ใส่ในคอมฯต้องใช้สายแบบนี้เพื่อให้สามารถฟังเพลงจากแผ่นออดิโอซีดีได้ สมัยนั้น MP3 ยังไม่มีครับ พอโลกไอทีมันพัฒนาขึ้น สายแบบนี้ก็ถูกถอดวางทิ้งไว้ตลอด ที่บ้านผมก็มีเยอะ แต่พอจะใช้กลับหาไม่เจอ หาแทบพลิกบ้าน ได้มาเส้นเดียว...กรรม...

ได้มาแล้วก็มาตัดออกด้านนึง ส่วนด้านที่เหลือก็ใช้ไขควงปากแหลมๆ กดลงไปตรงช่องที่มองเห็นโลหะชิ้นเล็กๆ ตรงสายสีขาว จากนั้นก็ดึงย้อนออกมา แล้วนำกลับมาเสียบคืนให้ติดกับเส้นสีดำ ก็จะกลายเป็นว่าสายสีแดง-ดำ-ขาวเรียงติดกัน แล้วเหลือช่องว่างไว้อีกช่องนึง

ส่วนอีกปลายที่ตัดออกมาแล้ว ผมใช้กรรไกรตัดแยกออกมาช่องหนึ่ง(อันขวาสุด) และอันกลางในรูป ผมก็ตัดออกให้เหลือเส้นเดียวเหมือนกัน(ลืมถ่ายไว้)

การนำไปใช้งาน จะเป็นดังรูปของคุณ ตะพานหิน ที่โพสต์ไว้ในบอร์ดพันทิป ซึ่งผมขออนุญาตนำมาให้ดูกันข้างล่างนี้

วิทยุในรถผมเป็นยี่ห้อพานาโซนิค จากการทดสอบด้วยตัวเองพบว่าต้องต่อขา 19 ลงกราวด์จึงจะเป็นการสั่งให้วิทยุเปิดรอรับ AUX เมื่อเทียบเคียงกับรูปของคุณตะพานหินก็จะต่างกันเพียงของผมสลับสายแดงกับสายขาวส่วนขา 19 ที่เป็นหางปลาเปลือยนั้น ผมใช้กรรไกรตัดออกมาจากรูปข้างบนถัดไปมาใช้ แล้วบัดกรีเชื่อมกับสายสีดำไว้เลย

เมื่อนับไล่ขาจากซ้ายไปขวาในรูปก็คือ 15-L, 16-G, 17-R, 18-ว่าง, 19-G, 20-ว่าง

สังเกตสายสีม่วงจากรูปข้างล่างนี้

ปลั๊กด้านขวาที่ผมวงเอาไว้ เป็นอันที่ผมถอดออกมาจากเต้าเสียบตัวซ้าย โดยตัวมันเองมีสายสีม่วงต่ออยู่ 1 เส้น จากข้อมูลที่ค้นมาได้ว่าสายนี้คือสายควบคุม ASL ที่เอาไว้ปรับเสียงขึ้นตามความเร็ว แต่เมื่อผมต้องถอดปลั๊กอันนี้ออก ผมจึงต้องตัดสายสีม่วงออก แล้วนำมาต่อเข้ากับขั้วซีดีที่ผมตัดออกมาไว้เส้นเดียว เมื่อเอามาต่อกันแล้ว ก็เสียบกลับเข้าไปที่ขา 3 ตามเดิม ตามรูปนั่นเอง (งงมั้ยนี่ อ่านเองยังงง...ค่อยๆตามละกันครับ)

เอารูปมาลงเล่นๆ เป็นตอนที่ผมทดลองต่อขา 19 มาลงกราวด์ แตะมันหลังเครื่องนี่แหละ...

จากนั้นมากดปุ่ม CD สังเกตได้ว่า ถ้าเล่น CD อยู่ จะสลับมาที่ AUX ทันที แต่ถ้าฟัง FM อยู่ จะสลับไป CD ก่อน ต้องกดอีกทีถึงจะมา AUX ก็ถือว่าโอเคมาถูกทาง ดำเนินการต่อไปได้

จากนั้นก็ลอดสายลงไปทางช่องที่จุดบุหรี่ ที่ได้ยกออกไปทั้งยวงนั่นละ แล้วก็ตัดต่อสายไฟ + และกราวด์ตรงที่จุดบุหรี่นี้ออกมารอไว้อีก 2 เส้นด้วย เพื่อไว้จ่ายให้กับเครื่องเล่น MP3 ที่จะนำมาใช้งาน

ลอดสายทั้งหมดออกมา แล้วเอาเคเบิ้ลไทร์รัดไว้ก่อน กันมันเหวี่ยงสะเปะสะปะไปชอร์ตนั่นนี่ได้ ทดลองเอามัลติมิเตอร์มาแตะสายสัญญาณเมื่อเป็น AUX ก็ออกซ้ายออกขวาได้ถูกต้อง แล้วไปงัดตัวนี้มาลอง

ต่อใช้งานอยู่ในกล่องแอมป์คาราโอเกะตัวเก่าที่ผมเคยทำไว้ ไม่ได้ใช้งานมาแล้วร่วมๆ 2 ปี เอามาลองต่อดู ปรากฏว่าร้อนอย่างเดียวไม่ยอมทำงาน เอากลับไปต่อในกล่องเดิมก็ไม่ทำงานเหมือนกัน อ้าว...เสียได้ไงเนี่ย...งง

ไม่เป็นไร รอสั่งใหม่ ได้ของแล้วค่อยมาต่อครับผม

เอ...จะลอยสายรอไว้ดื้อๆอย่างนี้ถือว่าเสียเปล่า หาแจ็คมาต่อไว้เสียบฟังเพลงจากโทรศัพท์ดีกว่า

เรียบร้อยครับ ไปคว้าโทรศัพท์มา เปิดเพลง เสียบแจ็ค กด AUX เสียงมาละ เร่งโทรศัพท์สุด ต้องเร่งวิทยุรถยนต์ไปที่ประมาณ 35 จึงจะเป็นระดับเสียงที่ฟังประจำ แต่เสียงทำไมไม่ซิบไม่แน่นเลย?

ลองปรับที่วิทยุรถยนต์ดูหน่อย ถึงได้รู้ว่า การปรับเสียงทุกอย่างจะจำไว้ของใครของมัน ฟังซีดีไว้อย่างไร เมื่อมาฟัง AUX ก็ต้องปรับแต่งใหม่ จะดังหรือทุ้มแหลมอย่างไรก็ได้ พอกลับไปซีดีก็จะได้ค่าของซีดี กลับมาที่ AUX ก็ได้ค่าที่เคยปรับไว้เลย ดังนั้น การที่ผมฟังซีดีด้วยการเร่งเสียงไว้ที่ 18 กับฟัง AUX ด้วยการเร่งเสียงที่ 35 จึงได้เสียงที่ดังในแบบที่ผมฟังพอดีพอๆกัน...ชอบๆๆๆ

แนะนำนิดนึงว่า ในพื้นที่ที่ไฟแช็คเข้าไปได้ และไม่น่าจะลามไปโดนอะไร การใช้ท่อหดแทนการพันด้วยเทปพันสายไฟ จะให้งานที่เรียบร้อยดีกว่า และไม่มีการลื่นหลุดได้ง่ายๆในอนาคตครับ

วันอาทิตย์ว่างๆเดินไปเดินมาในบ้าน ไปเจอะเครื่องเล่น MP3 ตัวเก่าแก่ยี่ห้อ OKER ใช้ถ่านก้อนเล็กๆ 1 ก้อน ไปขโมยถ่านรีโมท PSI มาลอง...อ้าวๆๆๆ...ยังใช้ได้ เอามาลองซะเลย...

อั๊ยยะ!!!...เสียงแน่นใสซิบๆดีกว่าเสียงจากโทรศัพท์เยอะเลยแฮะ...แต่พื้นที่แค่ 256M น้อยไปนิดแต่ก็ถือว่าแก้ขัดได้เป็นอย่างดี

เพื่อไม่ให้เป็นการเสียเวลา ก็จะเจาะช่องสำหรับติดตั้งตัวเล่นที่สั่งไว้ซะก่อน แต่ฝีมือทางด้านนี้ไม่มีเอาซะเลย จึงแว่บไปไหว้วานน้องชายที่มีเครื่องไม้เครื่องมือจัดการให้

งานไม่เนียนหรอก แต่เดี๋ยวมันก็จะถูกบังไว้แบบนี้

อ่ะ...พอดูได้ แต่ทางฝั่งซ้ายจะเจาะยึดไลน์อินไว้สักอัน รอก่อน...

========================================================

บ่ายวันจันทร์ของมาแล้วครับ

ชุดนี้รับไฟ 12v. ได้แน่ เพราะเห็น 7805 อยู่ตัวนึง กลับถึงบ้าน กินข้าว อาบน้ำอาบท่าเรียบร้อยก็ลุยเลย

ด้านซ้ายว่างๆว่าจะทำไลน์อิน ปล่อยโล่งไว้อย่างนั้นก่อนก็ได้ สวิทซ์ปิดเปิดก็ไม่มี นึกๆจะเอาไฟรีโมทจากวิทยุมาใช้งาน เปิดวิทยุเมื่อไรไฟค่อยมา ก็หาข้อมูลกันอีกรอบ

ยืมภาพมาจากเน็ตนะครับ ขอบคุณเจ้าของภาพด้วย แต่จากการทดลองของผม กับ Panasonic 86120 ตัวนี้ ปรากฏว่าขา 8 รีโมทสำหรับเสาอากาศ จะจ่ายไฟก็ต่อเมื่อฟัง FM หรือ AM เท่านั้น ก็ถูกของเขาละ เป็นอันว่าข้ามไป มาที่ขา 9 ใครๆก็บอกว่าเป็นรีโมทแอมป์ ลองแล้วลองอีกก็จ่ายไฟตลอด ไม่ว่าจะเปิดหรือปิดฟร้อนท์ก็ตาม...แอบมีเซ็ง...

พอละ ปวดหลังและก็ร้อนจะแย่แล้ว บัดกรีสาย ร้อยท่อหด ประกอบกลับ...

ลองไปลองมา อ้าว ฟังก์ชั่น ASL ที่คอยเพิ่มทุ้มแหลมตามความเร็วรถหายไปใหน...?

เห็นมีบางข้อมูลที่เขาไปต่อสายเพื่อให้ ASL ทำงานนั้นบอกว่า ให้รถวิ่งไปสักร้อย-สองร้อยเมตรมันจึงจะมีผล ก็เลยอดใจไว้รอตอนเช้าเวลาวิ่งไปทำงาน และก็จริงตามนั้น พอรถออกวิ่งไปสักครู่ ฟังก์ชั่น ASL ก็โผล่มาให้ปรับ LOW-MID-HIGH ได้เหมือนเดิม เครื่องคงสูญเสียการจำค่าที่ตั้งไว้ ตอนที่ผมถอดสายทั้งหมดออก เพราะมันถูกตัดขาดจากไฟ 100% นั่นเองครับ(แอบใจคอไม่ดีเหมือนกัน...)

เรียบร้อยซะทีครับ เจ้าเครื่องเล่น MP3 ราคาไม่ถึง 200 บาทตัวนี้ มี EQ ให้ลองเล่น 6 แบบ เร่งวอลลุ่มเพื่อส่งไปเข้า AUX ได้เหลือเฟือ ถ้าไม่ได้ฟังกลัวรำคาญตา ก็สั่งปิดจากรีโมทได้ (แต่ไฟ 12v. จากรถก็ยังคงไปจ่อไว้อยู่) สุ้มเสียงออกมาถือว่าเป็นรองออดิโอซีดีไม่เท่าไร เครื่องดนตรีขิ้นเล็กชิ้นน้อย การแยกซ้ายแยกขวาชัดเจน คุ้มค่ากับการปวดหลังและร้อนตับแตกเป็นอย่างยิ่งครับผม...

แหล่งข้อมูลเพิ่มเติมครับ :

และตัวเล่น MP3 อยากได้ไปสั่งเอาโลด...

ขอขอบคุณทุกๆแหล่งความรู้อีกครั้งครับผม