Group Blog
 
 
ตุลาคม 2548
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
5 ตุลาคม 2548
 
All Blogs
 
สุดท้ายของการเดินทางในแดนมังกรที่เขาง๊อไบ๊ (Emeishan)

"อีเม่ยซาน" (Emeishan) หรือที่คนไทยรู้จักกันในชื่อของ"เขาง๊อไบ๊" อยู่ที่เมืองอีเม่ย (Emei) มณฑลเสฉวน ห่างจากเมืองเฉินตูไม่ไกลมากนัก ใช้เวลาเดินทางประมาณ 2ชั่วโมง (เดี๋ยวนี้มีทางด่วน ทำให้สามารถเดินทางได้เร็ว)

เริ่มจากที่พักที่ประทับใจที่สุดของการเดินทางในประเทศจีนครั้งนี้ .. .. อยู่ที่อีเม่ยซาน

Teddy Bear Hotel (หรือ New Teddy Bear Hotel .. ที่เดียวกัน) มีเจ้าของชื่อ Andy He (พูดภาษาอังกฤษได้)
ที่อยู่: 43 Baoguo Road, Mt. Emei, Sichuan, China. (อยู่ใกล้ๆกับสถานนีรถบัส .. Baogou Temple Bus Station)
โทรศัพท์: 13890681961 (cell), 0833-5590135 (Teddy Bear cafe)
website: //www.teddybear.com.cn
(ขอโฆษณาให้แล้วกัน .. เผื่อใครจะไปจะได้มีทางเลือกเพิ่มอีกแห่งนึง )

แนะนำว่าให้โทรศัพท์ไปจองที่พักก่อน.. แล้วจะได้ราคาพิเศษที่ถูกว่าในโบชัวร์ที่เห็น.. ยิ่งถ้าจะwalkin ก็จะได้ราคาที่แพงกว่าโทรจองอยู่ดี.. เจ้าของและพนักงานที่นี่อัธยาศัยดี สถานที่และห้องพักสะอาด สว่าง (มีการดูแลสถานที่ตลอดเวลา .. เค้าบอกว่าเปิดมาหลายปีแล้ว .. ห้องนอนดูใหม่มาก )

นอกจากนี้แล้วเค้าก็ยังมีร้านอาหารชื่อ Teddy Bear Cafe .. เป็นอาหารมื้อนึงที่ถูกปากที่สุดตั้งแต่มาเที่ยวประเทศนี้ .. ตรงกำแพงในร้านเค้าก็เอากระดาษมาติดให้นักท่องเที่ยวเขียนข้อความที่ระลึกให้ฝากไว้ (ไม่ได้ถ่ายรูปมา.. มัวแต่เขียนอยู่..) เห็นมีภาษาไทยอยู่ด้วย2แห่ง ..แปลว่ามีคนไทยเคยมาที่นี่แล้วด้วย



** ในที่ต่างๆจะเห็นมีหมีเท็ดดี้วางอยู่ .. น่ารัก(ลัก)มาก


สัญลักษณ์ที่บ่งบอกว่าที่นี่ก็เป็นแหล่งมรดกโลกแห่งหนึ่ง




ไปดูพิพิธภัณฑ์ .. ศึกษาก่อนไปเดินจริง




ไปดูแผนที่ก่อนเลย .....




เดินดูตามส่วนต่างๆที่จัดไว้ .. มีทั้งห้องที่จัดเกี่ยวกับนิเวศน์วิทยา (ทั้งพืชและสัตว์) ห้องอื่นๆ รวมทั้งห้องนี้ ...




ส่วนด้านนอกก็มีการให้ความรู้เกี่ยวกับต้นไม้ต่างๆ




บนอีเม่ยซานนี้มีเส้นทาง 2เส้นทาง

จุดแรกที่จะไปเป็นยอดเขาจิงติ้ง (Golden Summit)
ขึ้นไปได้โดยนั่ง Cablecar แล้วต่อด้วย Monorail อีกทีนึง




ฝกตกและหมอกลงเยอะมากทำให้มองไม่เห็นข้างทางเลย .. ทำให้ไม่รู้ว่าผ่านเส้นทางยังไงมาบ้าง




ถึงแล้ววัดทอง .. แต่หมอกลงเยอะมาก เลยถ่ายรูปมาได้เท่านี้

แถมไม่ได้ดูปรากฎการณ์แสงรังสีพระพุทธด้วย ..(พระอาทิตย์ยังไม่เห็นเลย..)




เดินลงดีกว่า .. ไม่มีอะไรให้ดู .. ก็หมอกลงซะ

กว่าจะมาถึงด้านล่าง (ช่วงต่อระหว่างโมโนเรลกับเคเบิ้ลคาร์) ก็ 10.30am แล้ว .. หมอกเริ่มหายไปแล้ว ก็เลยเห็นสิ่งที่ตอนเช้ามาไม่เห็น ..

มีวัดด้วย ... แต่ไม่อยากเข้าไปดู




ขาลงจากเคเบิ้ลคาร์ ก็เดินลงไปอีกระยะนึง .. ตอนเดินขึ้นไม่ได้ดูอะไรเลย (ก็มีแต่ฝนกับหมอก..) .. แต่ตอนลงนี่เริ่มมีลิงมารับแขกแล้ว บางตัวก็อยู่ข้างทาง บางตัวก็อย่บนรั้วข้างทาง บางตัวไม่กลัวคนมาอยู่กลางทางเดินเลย ..

ลิงที่นี่เค้าห้ามแหย่ด้วยและต้องระวังของที่ถือมาให้ดีเพราะอาจถูกฉกไปได้ .. (ลิงที่นี่เป็นสัตว์คุ้มครองของที่นี่ด้วย..)




มีป้ายบอกด้วย




ตอนบ่ายก็ไปเส้นทางที่2 .. เส้นทางนี้จะมีวัดตั้งอยู่ตามทางเป็นระยะๆ ....

เริ่มจากนั่งเคเบิ้ลคาร์ไปยังจุดบนสุดของที่นี่ก่อน แล้วค่อนเดินลงมาเรื่อยๆ




วัดที่อยู่ด้านบนสุดคือวัดวั่นเหนียน (วัดหมื่นปี) .. ลงจากเคเบิ้ลคาร์แล้วต้องเดินต่อไปอีกหน่อยก็จะถึงวัด (บันไดเยอะมาก)




เส้นทางเดินตามเขา .. เป็นแบบนี้ตลอดทั้งเส้นทาง

ใครไม่ชอบเดินป่าเขา .. ขอบอกว่า .. อย่ามาเลย เพราะมีแต่ภาพแบบนี้ให้ดูกับวัดต่างๆ .. วิวในส่วนเส้นทางนี้แทบไม่มีอะไรเลย ต้องหาต้นไม้ แมลง สัตว์ต่างๆ ตามข้างทางดูเอาเอง




หรือไม่ก็ต้องมองหาป้ายตามข้างทางอ่านเล่น




ลงมาถึงด้านล่างแล้ว .. น้ำตกสองสะพาน (ตั้งชื่อง่ายดี..ไม่ต้องคิดเลย )




เดินช่วงสุดท้ายที่เป็นทางราบอีกประมาณ 2กม. (ช่วงเดินลงเขาประมาณ 6.5กม.) บางช่วงก็มีขายของที่ระลึก .. ของที่นี่มักจะมีลิงเป็นตัวหลัก เช่นตุ๊กตาลิง เป้สะพานหลังรูปลิง ฯลฯ

ภาพสุดท้ายของการเดินทางนี้เป็นภาพที่ถ่ายจากอีเม่ยซาน .. อืม ใช้ได้



หลังจากเที่ยวที่เขาง๊อไบ๊เสร็จแล้วก็เดินทางกลับไปที่เฉินตูเพื่อจะนั่งรถไฟจากเฉินตูไปยังคุนหมิงเพื่อนั่งเครื่องกลับกรุงเทพฯ

เส้นทางเที่ยว (สถานที่) ในเสฉวน: เฉินตู - จิ่วจ้ายโกว - หวงหลง - อีเม่ยซาน (14-23/Sept/05)

ถึงคุนหมิง .. อยู่ต่ออีก2วัน ก่อนเดินทางกลับกรุงเทพ .. รวมใช้เวลาท่องแดนมังกร 19วัน (7-26/Sept/05) 2มณฑล (ยูนานกับเสฉวน) ...

การเดินทางครั้งนี้.. สิ่งที่ยากลำบากที่สุดคือ คนจีนที่นี่ไม่พูดภาษาอื่นเลยนอกจากภาษาจีน (มีพูดภาษาอังกฤษได้ประมาณ5%) แม้แต่ในโรงแรม พนักงานก็ไม่สามารถพูดภาษาอังกฤษได้ (จะมี1-2คนที่สามารถพูดได้ .. แต่อาจจะไม่อยู่ตอนที่คุณต้องการติดต่อ ..) ..
ส่วนของอาหารก็ไม่ค่อยถูกปากคนไทยเท่าไรนัก ... อาจเป็นเพราะรสนิยมการกินที่แตกต่างกัน ซึ่งได้สอบถามคนจีนที่นั่นที่เคยมาประเทศไทยแล้วเค้าก็ตอบเหมือนกันว่าไม่ค่อยชอบรสชาดอาหารแบบของไทยเท่าไรนัก

แนะนำว่าผู้ที่จะไปเที่ยวเมืองจีนควรนำเครื่องปรุงติดตัวไปบ้าง เช่นพริกป่น น้ำปลา(ขวดเล็กๆ) หรือซี่อิ๊ว...

ขอบคุณที่ติดตามดูนะคะ .. เที่ยวหน้าจะไปเนปาล กลับมาแล้วจะมาลงให้ดูต่อ


Create Date : 05 ตุลาคม 2548
Last Update : 14 ตุลาคม 2548 19:00:43 น. 0 comments
Counter : 1402 Pageviews.

Lop'ster
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




.. ในโลกไหนเลยมีที่สุด หากแม้นมีที่สุด
ไยมิใช่หมายถึงความสะดุดหยุดอยู่กับที่ ...


Friends' blogs
[Add Lop'ster's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.