สะบายดีวังเวียง
สะบายดีวังเวียง...
เตรียมตัวก่อนไปลาว ควรจะไปแลกเงินกีบซะให้เรียบร้อย 1 บาท / 240 กีบเจ้า หรือจะขี้เกียจแลกไม่ว่ากัน แต่อาจต้องเสียเปรียบกับแม่ค้าพ่อค้าชาวลาวบ้าง เพราะเขามักจะคิดราคาของเกินนิดหน่อย เช่น ของราคา 2000 กีบ ซึ่งจะเท่ากับ 8 บาท (ปัดเป็น 250 กีบ / 1 บาท เพื่อความง่าย เราก็ขาดทุนไปแล้ว ทุก 10 กีบต่อ 1 บาท) แต่แม่ค้าก็จะคิดปัดไปเลย 10 บาท เพื่อความง่าย เราก็เสียเปรียบไปอีก 2 บาท ถ้าไม่คิดมากก็ไม่ว่ากัน แต่บางร้านก็มีเหรียญบาททอน แต่น้อย ดังนั้นแม่ค้า จะชอบเงินไทยมากๆ ไม่ต้องกลัวว่าจะไม่มีเงินใช้
ดุ๊บๆ เดินทางถึง ผ่าน ตม.หนองคาย ข้ามขัวมิดตะพาบ ก็ได้เหยียบแล้ว แผ่นดินลาววว ท่าทางหนาว แต่จริงๆ ไม่หนาว เบื้องหลังอ่านได้ว่า สาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว มั่นยืน! แถวนี้คือ นครเวียงจันทน์ เมืองหลวงของประเทดลาวเจ้า
นั่งรถไปสักพักเข้าสู่นครเวียงจันทน์ สถานที่แรกที่เราแวะเยี่ยมชม วัดสีเมือง แวะทำบุญและถวายต้นเทียน เพื่อความเป็นสิริมงคล
เสี่ยงเซียมซี ให้ไกด์อ่านให้ แปลรวมๆ ว่าดี ยกหินอธิษฐานขอให้เรียนจบไวๆ เพี้ยง !
รถที่ลาว พวงมาลัยซ้าย ดังนั้นถนนหนทาง จึงตรงข้ามกับเมืองไทย จะข้ามถนน ก็ต้องระวังว่ามองรถถูกฝั่งหรือไม่ ค่อนข้างอันตรายทีเดียว
ออกจากนครเวียงจันทน์ จุดมุ่งหมายคือวังเวียง ระหว่างทางแวะกินข้าวเที่ยงที่เขื่อนน้ำงึม สวยมากๆ ....
อีกมุมของเขื่อนน้ำงึม
หกขะล้มหกขะลุกกว่า 80 โล หรือมากกว่านั้น ฟังไกด์ไม่ถนัด หลับๆ ตื่นๆ ขโยกเขยกกับสภาพถนนที่....อืม....ไม่ขอบรรยาย และแล้วเราก็มีถึงสวรรค์ของเมืองลาว ประมาณ 5 โมงเย็น วังเวียง มีหลายสมญานาม เช่น กุ้ยหลิน หรือเมืองปาย กลางคืนก็เป็นพัทยาดีๆ นั่นเอง สวยงาม สมกับความทุลักทุเล
กลางคืนที่วังเวียง บรรยากาศคล้ายๆ จะว่าพัทยาก็ไม่เชิง เพราะมันเงียบมาก...นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นฝรั่ง มีร้านขายโรตีขายมากกว่าจำนวนนักท่องเที่ยวเสียอีก อิอิ ราคาแพงไปหน่อย (หมื่นอัพ) และอิ่มมาก จึงไม่ได้ลองชิม และรสชาติความเป็นลาวของแก้วนี้...ใกล้เคียงกับช้างบ้านเรามาก
หลับสนิท ตื่นตอนหกโมงครึ่ง อากาศยามเช้า ไม่หนาวเกินไปนัก หมอกจางๆ เห็นลิบ ผิดหวังนิดๆ อยากเห็นหมอกเยอะๆ
อาหารเช้าวันนี้คือ ข้าวต้มหมู + ข้าวจี่(ขนมปังฝรั่งเศส) อืมๆๆๆ มันตีหัวหมาแตกได้แน่นอน ตามที่ไกด์บอก แข็งมาก และเหนียวดี บริหารฟันตอนเช้าได้เยี่ยมมาก กาแฟยี่ห้อ ดาว (DAO)
ก่อนจากชักภาพให้เห็นความงามของวังเวียง
โบกมือบายบายวังเวียง ไม่ผิดหวังแต่ก็ไม่ได้ประทับใจอะไรเป็นพิเศษ อาจเพราะบ้านเราก็อากาศและทิวทัศน์ไม่ได้ห่างไกลจากวังเวียงเกินไปนัก
บ้านแบบลาวแท้ๆ มุงสังกะสีหรือมุงด้วยจาก ฝาบ้านทำด้วยไม้ไผ่สานหรือเรียกว่า กระแตะ (ชนบทแถวอีสานยังมีให้เห็นบ้าง แต่น้อย ส่วนที่นี่ จะมีเป็นระยะ สลับกับบ้านแบบสมัยใหม่)
ตลาดแถววังเวียง มีปลาส้ม
และนี่อะไร ติ๊กต๊อก
มันคือหนังควายยยย ....อึ๋ย...
เดินทางย้อนกลับนครเวียงจันทน์ ถึงประมาณเที่ยงครึ่ง แวะเข้าร้านเฝอ(ก๋วยเตี๋ยว) ที่มีชื่อเสียงที่สุดแห่งหนึ่งในนครเวียงจันทร์ มัวตะลึง จนลืมชื่อร้านไปซะได้ เพราะขนาดของชามมันมโหฬาร และราคา 80 บาท เซิร์ฟพร้อมชาเย็น ผักดอง ผักสด และอะไรสักอย่างรสชาติคล้ายๆ กับน้ำจิ้มหมูสะเต๊ะ
ก่อนใส่เครื่องปรุง
เททุกอย่างลงไปในชาม ยกเว้นผักดอง คีบเข้าปากไป ตั้งแต่รอเผอชามโตแล้ว กินได้ไม่ได้ก็ลุ้นเอา หลังสำเร็จโทษ มันก็เหมือนจะเหลือเท่าเดิม เส้นออกแข็ง และเนื่องจากชามใหญ่โต ทำให้รู้สึกว่าไม่เจ้มจ้นเหมือนเตี๋ยวน้ำตกหรือต้มยำบ้านเราเลย (แถมบ้านเรา 25 พิเศษ 30 เอง)
แต่ที่เด็ดสุด นี่เสิร์ฟมาพร้อมหลอด เพื่ออะไรมีเฉลย
หลอด มันก็มีไว้ดูด แต่ข้าพเจ้าขอตัว
หลังอิ่มหนำ รู้สึกมันหยึยๆ ในท้องเลยแวะซื้อเป็บซี่เพื่อความสบายท้อง ราคา 25 บาท ที่นี่เป็บซี่มีผลิตในลาวเอง ส่วนโค้ก นำเข้าจากไทย
อิ่มแล้วก็พร้อมจะตะลุยนครเวียงจันทร์ต่อ.................................
Create Date : 19 พฤศจิกายน 2551 |
|
1 comments |
Last Update : 3 ธันวาคม 2551 16:01:31 น. |
Counter : 3019 Pageviews. |
|
|
|
อยากไปสักครั้งจังวังเวียง