Group Blog
 
 
มีนาคม 2550
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
30 มีนาคม 2550
 
All Blogs
 
รวมทุกข่าว สัมภาษณ์ BOY

ชื่อ-นามสกุล.....พิษณุ นิ่มสกุล ( บอย )
วันเกิด.....10 สิงหาคม 2521
การศึกษา.....ปริญญาตรี สาขาอุตสาหกรรมการท่องเที่ยว มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
ภูมิลำเนา.....จังหวัดเชียงใหม่
ความสามารถพิเศษ.....ร้องเพลง
ความใฝ่ฝัน.....อยากมีอัลบั้มของตัวเอง และมีคนร้องตามเยอะๆ

ข้อดีที่สุด

  • ยิ้มเก่งครับ คือผมเป็นคนที่ไม่ว่าจะอะไรก็ตามก็ขอยิ้มสู้ไว้ก่อนครับ

    ข้อเสียที่สุด

  • เป็นคนอ่อนไหวครับ รู้สึกว่าเหมือนจะไม่ค่อยเข้าเลยใช่ไหมครับ ( หัวเราะ ) แต่มันก็เป็นไปแล้ว คือจะเป็นคนที่ชอบคิดอะไรไปล่วงหน้า บางทีคนอื่นเขายังไม่ได้คิดอะไรเลย แต่ผมก็ชอบคิดไปเองว่าเขาไม่ชอบเรา เขาเห็นเราแล้วหมั่นไส้ แต่จริงๆ แล้วเขาอาจจะยังไม่ได้คิด แต่ตัวผมเองคิดไปแล้วครับ

    ดีใจที่สุด

  • ได้เข้ารอบ 12 คนสุดท้ายในการประกวด ยูบีซี อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ปี 2 ครับ คือมันเป็นอะไรที่สุดในชีวิตแล้ว เพราะว่าปีที่แล้วได้ดูแล้วว่าโปรแกรมนี้มันเวิร์คกับความฝันของเรา พอมาปีนี้ก็เลยเข้ามาประกวดและได้เข้ารอบ 12 คนสุดท้าย ก็ดีใจมากๆ มันดีกับความฝันของตัวเองมากๆ

    เสียใจที่สุด

  • ไปสักมาแล้วคุณแม่ร้องไห้ครับ มันเป็นสิ่งที่คุณแม่คิดว่าผมเป็นคนไม่ดี และคุณแม่ก็ร้องไห้ด้วย ท่านก็ถามเลยว่า ไปสักมาทำไม ติดยาหรือเปล่า ซึ่งมันไม่ใช่เลย คือการสักมันเป็นความชอบของผมอยู่แล้ว ผมก็เลยเสียใจที่สุดที่คุณแม่ต้องร้องไห้เพราะตัวผมในเรื่องนี้ แต่การสักมันก็เป็นสิ่งที่ผมชอบ ผมก็ไม่ได้ไปทำร้ายใคร ไม่ได้ติดยา-ติดคุก เหมือนที่ท่านคิด แต่ด้วยในความที่ในยุคของคุณแม่คนที่ทำแบบนี้อาจจะมีปัญหาในด้านของการคบเพื่อนเกเรหรือเปล่า หรือว่าติดยาหรือเปล่า แต่ในสมัยนี้แล้วมันไม่จำเป็นหรอกว่าคุณความดีต่างๆ มันจะอยู่ที่การสัก หรือความเลวมันจะอยู่ที่การสัก มันไม่ใช่ครับ

    รักที่สุด

  • คุณพ่อ-คุณแม่ครับ ท่านเป็นคนที่มีบุญคุณกับเรา ท่านเลี้ยงดูเรามาโดยตลอด ถึงแม้เราจะทำตัวเกเรไปบ้าง แต่ท่านก็ยังรักเราด้วยความบริสุทธิ์ใจ โดยที่ไม่มีวันที่จะเลิกรักเราได้ครับ

    กลัวที่สุด

  • กลัวไม่มีเงินครับ คือสังคมในปัจจุบันนี้มันต้องดิ้นรน ถ้าเราเป็นคนที่ไม่มีเงินก็ไม่มีใครคบ ตัวผมเองรู้สึกอย่างนี้นะ คือสังคมไทยมันเป็นแบบนี้จริงๆ คือคนมีฐานะคนมีเงินเท่านั้นถึงจะมีคนเชิดชู มีคนเข้ามาหา ลองสักวันหนึ่งเราไม่มีเงินสิโทรศัพท์ก็จะไม่มีคนโทรเข้ามาหรอก ผมเห็นแบบนี้มาเยอะแล้ว เยอะจริงๆ ครับ ผมก็เลยกลัววันนั้นวันที่ตัวเองไม่มีเงินครับ

    ประทับใจที่สุด

  • บวชให้คุณพ่อ-คุณแม่ครับ เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อช่วงต้นปีที่ผ่านมานี้ครับ ก่อนที่จะได้เข้ามาในบ้านอะคาเดมี่ฯ ไม่กี่เดือน ที่ประทับใจเพราะว่าผมอยากบวชมาตั้งแต่อายุ 24 ปีแล้ว จนมาถึงตอนนี้อายุ 27 ปี คือมันเป็นช่วงเวลาที่ทุกอย่างมันพร้อมแล้ว ไม่ติดภาระอะไรแล้ว ก็เลยพร้อมที่จะบวช ผมก็เลยรู้สึกประทับใจมากๆ ครับ

    โรแมนติกที่สุด

  • กินข้าวใต้แสงเทียนกับอดีตแฟนครับ ตอนนั้นเป็นความรักครั้งแรกครับ อะไรที่ทำแล้วมันโรแมนติกก็อยากทำ เพราะว่าดูในหนังบ่อยว่าพระเอก-นางเอกจะต้องนั่งกินข้าวใต้แสงเทียนมันถึงจะมีความสุข ผมก็คิดว่ามันเป็นอะไรที่โรแมนติกมากๆ ก็เลยอยากลองทำดูบ้างครับ

    ภาพยนตร์ที่ชอบที่สุด

  • Notting Hill ครับ โรแมนติกมากๆ คือตัวผมเองชอบ จูเลีย โรเบิร์ต เขาเป็นผู้หญิงที่ยิ้มสวยมากๆ ยิ้มกว้างเหมือนตัวผมด้วย ผมดูเรื่องนี้ทีไรร้องไห้ทุกทีเลย คือเนื้อเรื่องมันจะได้รักกันแต่ก็ไม่รักกันซะที จากๆ ไปๆ มาๆ อยู่นั่นแหละ สุดยอดมากครับเรื่องนี้ โดนใจผมที่สุดครับ

    เพลงที่ชอบที่สุด
  • เป็นเพลงประกอบละครครับ ชื่อเพลง “ยามเมื่อลมพัดหวน” ผมเคยดูละครเรื่องนี้ ปกติผมจะเป็นคนที่ไม่ค่อยได้ดูละครสักเท่าไหร่ พอฟังเพลงนี้ทีไรก็จะนึกถึงละครที่เคยดู เป็นละครที่ประทับใจมากๆ พี่เจ-เจตรินกับพี่หมิว-ลลิตาแสดงนำ ช่วงนั้นก็เลยติดใจเพลงนี้มาก และทุกวันนี้ฟังทีไรก็ยังนึกถึงภาพที่เราเคยดูครับ

    ดารา-นักร้องที่ชอบที่สุด

  • ดาราผู้ชายชอบ “ชาคริต แย้มนาม” ครับ เพราะว่าชาคริตเขาเป็นคนที่แสดงเก่ง อินกับบทได้เจ๋งมากๆ อย่างเรื่องกุมภาพันธ์ ชอบมากดูกี่ครั้งก็ร้องไห้ ดูทุกเรื่องเขาก็อินกับบทได้ทุกบทบาทที่ได้รับ และผมชอบคาแรคเตอร์แบบชาคริต นิ่งๆ เหี้ยมๆ แต่จิตใจดี ส่วนดาราผู้หญิงชอบผมชอบ “พอลล่า เทเลอร์” เขาเป็นดารา เป็นวีเจ.ที่น่ารักมากๆ ผมชอบ ทุกคนก็คงชอบเหมือนผม เขาดูสดใส น่ารัก ร่าเริงตลอดเวลาครับ

    กีฬาที่ชอบที่สุด

  • ว่ายน้ำกับฟิตเนสครับ คือว่ายน้ำเป็นกีฬาที่เหนื่อยดีครับ ว่ายสัก 2 รอบก็เหนื่อยแล้ว ในความรู้สึกของผมมันได้ปอด ได้ไหล่ ส่วนฟิตเนสผมเล่นเพื่อจะได้มีบุคลิกภาพที่ดี ก็เลยชอบเล่นครับ

    บอยคิดว่าตัวเองเซ็กซี่ที่สุดตรงไหน

  • รอยยิ้มครับ บางคนเขาก็รักผมที่ตรงรอยยิ้มนี่แหละครับ ถ้าผมไม่ยิ้มก็จะดูเป็นคนดุครับ

    ผู้หญิงที่ดูดีที่สุดในสายตาของบอยคือใคร
  • จูเลีย โรเบิร์ต ครับ เขาเป็นคนยิ้มสวย ดูสดใสตลอดเวลาครับ

    นิสัยของผู้หญิงที่รับไม่ได้มากที่สุด
  • การโกหกครับ ผมเคยเจอมากับตัวเองเลยครับผู้หญิงโกหกเนี่ย ก็ประมาณว่าโกหกเราว่ามีเราคนเดียวนะ ไม่มีคนอื่นเลย จริงๆ แล้วที่ไหนได้พอไม่อยู่กับเราก็ไปอยู่กับคนอื่น จริงๆ เลยผู้หญิงสมัยนี้ ( ทำท่าโกรธแค้นมากๆ พร้อมกับหัวเราะ )

    ที่มา //star.sanook.com/newstar/newstar_11191.php


    Create Date : 30 มีนาคม 2550
    Last Update : 2 เมษายน 2550 16:15:31 น. 20 comments
    Counter : 1025 Pageviews.

     
    บอย-พิษณุ นิ่มสกุล

    หนุ่มหล่อ เสียงดี ขวัญใจสาวๆ ทุกเพศทุกวัน “บอย-พิษณุ นิ่มสกุล” ที่วันนี้เขาได้ทำความฝันของตัวเองให้เป็นจริง ด้วยการออกอัลบั้มเพลงชุดพิเศษร่วมกับเพื่อนๆ ในบ้านอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย อีก 11 คนในชื่ออัลบั้ม “ปฏิบัติการ...เร่ขายฝัน” วันนี้เป็นโอกาสพิเศษจริงๆ ที่เราสามารถจับหนุ่มคนนี้มานั่งพูดคุยถึงเรื่องราวต่างๆ มากมาย ทั้งเรื่องราวภายในบ้านอะคาเดมี่ฯ ข่าวลือเรื่องความรักต่างๆ รวมถึงงานเพลงที่ทุกคนกำลังสนใจ ไปทำความรู้จักกับหนุ่มคนนี้ให้มากขึ้นกัน.....

    ความรู้สึกตอนนี้เป็นยังไงบ้างได้ออกอัลบั้มแล้ว?

  • มีความสุขมากๆ ครับ ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ได้ทำงานสายบันเทิง เป็นสิ่งที่ตัวเองใฝ่ฝันมาตลอด คือเมื่อก่อนผมก็เคยออกอัลบั้มเพลงมาแล้ว แต่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จสักเท่าไหร่ และนี่เป็นครั้งที่ 2 ที่ผมได้มาลองทำดูครับ

    เคยทำอัลบั้มมาก่อน ทำไมไม่ลองนำเพลงไปเสนอค่ายใหญ่ๆ ดู ทำไมถึงเลือกที่จะมาประกวด อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย แทน?

  • คือผมทำงานร้องเพลงมาประมาณ 6 ปีแล้ว ซึ่งผมเคยดูรายการในซีซั่นครั้งที่แล้วว่าเป็นอย่างไร ผมคิดว่าถ้าเข้ามาที่นี่ ตัวเราเองก็จะได้ความรู้ค่อนข้างเยอะ เยอะกว่าการทำอัลบั้มแล้วไปเสนอค่าย พอเข้ามาในบ้านอะคาเดมี่ฯ เราก็ได้เรียนด้วย ทุกอย่างเค้าปูทางสายดนตรีไว้ให้อย่างดีแล้ว ก็เลยเปิดโอกาสให้กับตัวเองได้มาลองประกวดดูครับ

    แฟนคลับที่ชื่นชอบบอยตอนที่อยู่ในบ้านอะคาเดมี่ฯ พอออกมาทำอัลบั้มแฟนคลับจะยังให้การต้อนรับดีเหมือนเดิมหรือเปล่า?

  • ผมคิดว่าแฟนคลับยังให้การต้อนรับผมอย่างดีเหมือนเดิม ผมรู้ว่าทุกคนรักผมด้วยความบริสุทธิ์ใจ และด้วยความที่เห็นเราเป็นเด็กคนหนึ่งที่มีฝันและได้ทำตามความฝัน ผมคิดว่าทุกคนคงให้การต้องรับผมเป็นอย่างดีครับ<

    บอยหาแนวเพลงของตัวเองเจอหรือยัง?

  • เจอแล้วครับ ความลงตัวของผมที่ผมคิดเอาไว้คือแนวดนตรีเป็น 3 แนวรวมกัน ร็อค, ป๊อป, แดนซ์ ก็จะลงตัวมาเป็นตัวผมมากที่สุด จริงๆ แล้วผมเป็นคนไม่ชอบเพลงแดนซ์จ๋ามากมาย ผมไม่ชอบถึงขนาดนั้น อาจจะมีร็อคผสมด้วย มีป๊อปผสมด้วย น่าจะเป็นตัวผมมากที่สุด

    สัปดาห์ที่ได้โจทย์เป็นเพลงแดนซ์ รู้สึกว่าบอยจะกังวลเป็นพิเศษ?

  • กังวลมากครับ เพราะผมเคยร้องเพลง ฝากเลี้ยง ไว้ได้ดีมากๆ แล้วมาเจอเพลง Say Hi ซึ่งเป็นเพลงที่มีแนวฮิพฮอพมาผสมด้วย ซึ่งผมก็อยากทำให้ออกมาดี แต่ความที่เราตั้งใจเกินไปมันก็ทำให้เราไปกดดันตัวเอง มันก็เลยออกมาได้ไม่ดีตามที่ตั้งใจเอาไว้ คือจริงๆ แล้วมันก็ไม่ได้ผิดอะไรมากมาย มันเป็นช่วงหนึ่งที่ลืมเนื้อเพลงไป แต่ทุกอย่างมันก็น่าจะดีกว่านี้ถ้าเราไม่ไปเครียดกับมันมากจนเกินไปครับ

    แล้วตอนนี้สุขภาพร่างกายเป็นยังไงบ้าง?

  • ช่วงนี้ก็มีเจ็บป่วยบ้าง นอนไม่พอ ด้วยความที่ผมเป็นภูมิแพ้อยู่แล้ว ถ้านอนไม่พอปุ๊บน้ำมูกจะมาทันทีเ เจ็บคอมาทันทีเลย ก็มีเป็นไข้บาง ตอนที่ยังอยู่ในบ้านมีอยู่ช่วงหนึ่งที่ผมป่วยมากๆ ไม่ได้ทำกิจกรรมอะไรเลย นอนพักอย่างเดียว คือบางทีเครียดมากๆ ก็จะลงกระเพาะ ก็จะอ้วกออกมาหมดเลย แล้วอาการปวดหัวก็จะตามมาทันที ช่วงนั้นจะกังวลเรื่องเสียงมากๆ เพราะว่าคนที่เป็นนักร้องเวลาไม่สบายขึ้นมาก็จะกังวลว่าจะร้องเพลงได้หรือเปล่า แต่พอถึงวันคอนเสิร์ตทีไรมันก็พอจะไปได้ทุกที ตอนนี้ผมก็พยายามที่จะพักผ่อนเยอะๆ คือถ้ามีเวลาก็จะเอาเวลาไปนอนซะส่วนใหญ่ เพราะว่าจะทำให้เสียงเราไม่แย่ไปกว่านี้ครับ

    ถามถึงเรื่องรางวัลที่ได้รับนิดนึง บอยคิดว่าได้รางวัลน้อยไปหรือเปล่า?

  • ก็ไม่น้อยหรอกครับ จริงๆ แล้วตัวผมก็ทราบอยู่แล้วว่าตอนที่โหวตกลับเข้าไปใหม่ว่าผมจะได้แค่รางวัลที่ 10 เหมือนตอนอาทิตย์ที่ 3 ที่ตัวเองออกมา เลยไม่ได้รู้สึกเสียใจ หรือรู้สึกว่าได้รางวัลน้อย เพราะว่าตัวผมรู้อยู่แล้ว และผมก็อยากขอบคุณแฟนคลับมากๆ ที่เค้ารู้สึกแทนเราว่าจริงๆ แล้วที่เรากลับเข้ามาตรงนี้เราควรจะได้บ้าง ผมก็อยากฝากบอกแฟนคลับว่า โอกาสที่ตัวผมได้รับมันมากกว่าของรางวัล คือผมได้กลับเข้ามาและได้ที่ 3 เนี่ยเรื่องงานของผมก็จะดีกว่าอันดับที่ 10 เพราะว่าคนรู้จักผมมากขึ้น เรื่องงานก็จะเข้ามามากขึ้น ผมคิดว่าตัวผมได้งานผมก็มีความสุขแล้วครับ

    ตั้งแต่ออกจากบ้านมาบอยปรับตัวยากมั้ย ที่ตอนนี้กลายเป็นคนของประชาชนไปแล้ว?

  • คือตอนนี้ยังปรับตัวไม่ยาก เพราะยังไม่มีโอกาสได้ไปไหนเลยที่เป็นแบบส่วนตัว โอกาสที่จะไปในที่ที่คนเยอะๆ ยังไม่มีโอกาสเลยครับ ก็เลยยังไม่ว่าตัวเองรู้สึกอึดอัดมั้ย แต่คิดว่าคงไม่มีปัญหาสำหรับตรงนี้ เพราะว่าผมเตรียมใจมาแล้วว่าเวลาส่วนตัวจะต้องขาดหายไปบ้าง เพราะว่าเป็นอาชีพที่ตัวเองรัก และควรจะต้องทำอย่างไร แต่ก็มีเหนื่อยๆ บ้างเพราะทุกวันนี้นอนน้อยมาก นอนวันหนึ่ง 3-4 ชั่วโมงเอง เหนื่อยๆ เหมือนกันแต่ไม่ท้อครับ สนุกดีกับงานที่ได้ทำครับ

    บอยรู้สึกว่าตัวเองมีแฟนคลับติดตามเยอะขนาดนี้ตั้งแต่ตอนไหน?

  • ผมดีใจมากๆ ที่มีคนติดตามให้กำลังใจผมเยอะขนาดนี้ จริงๆ แล้วตั้งแต่อยู่ในคอนเสิร์ตผมก็รู้สึกว่ามีคนรักผมมากขึ้น เพราะในทุกๆ คอนเสิร์ตเริ่มมีคนมากรี๊ดผมมากขึ้น มาเชียร์ผมมากขึ้น และตั้งแต่ออกจากบ้านมาผมก็ยิ่งรู้สึกมากขึ้นเข้าไปใหญ่ เพราะว่ามีคนรักผมเยอะมากจริงๆ เยอะมากจนผมไม่เคยคิดเหมือนกันว่าจะมีคนมารักผมมากขนาดนี้ครับ

    บอยคิดว่าเพราะอะไรแฟนๆ เค้าถึงมากรี๊ดบอย มาชอบบอย มาเชียร์บอย?

  • คงเป็นเพราะว่าผมเป็นตัวของตัวเองครับ และผมฮาๆ แป๊กๆ มั้ยครับ ( หัวเราะ ) อาจจะเป็นตรงนี้หรือเปล่าผมก็ไม่แน่ใจเหมือนกัน ผมคิดว่าเค้าคงรักเราตรงที่ความเป็นตัวเราครับ

    เมื่อก่อนบอยร้องเพลงตามผับ พอมาตอนนี้ได้ร้องเพลงต่อหน้าแฟนๆ บนเวทีใหญ่ ความรู้สึกมันแตกต่างกันเยอะมั้ย?

  • รู้สึกแตกต่างกันมากๆ คือเมื่อก่อนผมร้องให้คนเมาฟังธรรมดา กับร้องให้คนที่ตั้งใจมาดูคอนเสิร์ตเราจริงๆ ความรู้สึกมันต่างกันมาก ร้องในผับในเธออาจจะไม่มีคนฟังเรา คืออารมณ์ประมาณว่าเขามาเที่ยวของเขา แต่ทุกๆ ครั้งที่ผมได้ขึ้นแสดงคอนเสิร์ตคือทุกคนให้ความสนใจที่จะมาฟังเพลงของผมจริงๆ และก็อยากจะมาให้กำลังใจผม ความรู้สึกมันแตกต่างกันมากๆ ครับ

    สมัยตอนที่บอยอยู่ในบ้านอะคาเดมี่ฯ บอยเคยบอกว่าตัวเองมีปัญหาเรื่องการใช้เสียหลบ ตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง?

  • คือตอนนี้ก็ยังไม่ได้ คือเมื่อ 2-3 ปีที่แล้ว ผมไปร้องเพลงผิดแนวตัวเอง คือไปร้องเพลงร็อคแบบฮาร์ดคอร์มากๆ ซึ่งไปร้องตอนนั้นทำให้เสียงของผมเสีย มันก็เลยกลายเป็นร้องเพลงเสียหลบไม่ได้ แล้วก็คิดว่าพอเข้าไปในบ้านมันก็จะได้ อาจจะมีวิธีฝึก แล้วมันก็ไม่ได้ ( หัวเราะ ) ก็คงต้องไปรักษาหาหมอให้เป็นเรื่องเป็นราวครับ

    มีกระแสออกมาว่าเสียงและการแสดงบนเวทีของบอยจะเหมือนกับพี่เจ-เจตริน?

  • ใช่ครับ มีกระแสข่าวนี้ออกมาเยอะมากๆ คือพี่เจ-เจตรินเนี่ยเขาเป็นไอดอลของผมเลย เป็นศิลปินไทยที่ผมติดตามมาโดยตลอดทุกชุดเลย การฟังเพลงต้นแบบของใครสักคน มันก็จะซึมซับความเป็นตัวเขาเข้ามาในตัวเอง โดยที่ตัวเองไม่รู้ตัว ก็เลยมีบางส่วนที่จะคล้ายพี่เจไปบ้าง และตอนที่พี่เจมาเป็นกรรมการ ผมดีใจและตื่นเต้นมากๆ คือไม่เคยคิดเลยว่าศิลปินที่เราชื่นชอบมากๆ จะมาคอมเม้นท์เรา และก็มาให้กำลังใจเราครับ

    และก็มาถึงเรื่องของกระแสข่าวต่างๆ ที่เกี่ยวกับบอยบ้าง เริ่มที่ข่าวกับพี่หมู-พิมพ์ผภา ก่อนเลย?

  • กับพี่หมูเราเป็นเพื่อนกันครับ เป็นเพื่อนที่รู้จักกันมา 2-3 ปีแล้ว คือเขาคงเห็นว่าผมเป็นคนรักครอบครัว และพี่เขาก็มีครอบครัวแล้วด้วย ก็เลยมีความรู้สึกว่าคุยกันถูกคอ คุยกันได้ทุกเรื่อง ไม่มีอะไรมากกว่านี้ครับ เป็นเพื่อนกันครับ ตอนที่ผมแสดงคอนเสิร์ตผมก็เห็นพี่หมูมาเชียร์เหมือนกัน ก็ดีใจครับ มีแฟนคลับเป็นดาราด้วย ( หัวเราะ )

    แล้วรักสามเส้าระหว่าง บอย-กุ๊กไก่-พาส ล่ะเท็จจริงเป็นอย่างไร?
  • ทุกคนในบ้านเป็นน้องหมดครับ กุ๊กไก่กับพาสก็เป็นน้องที่ผมสนิท อยู่ในบ้านก็คุยด้วยแล้วมีความสุข และคุยไปในทิศทางเดียวกัน ก็ไม่มีอะไรครับ เป็นพี่เป็นน้องกัน คนภายนอกอาจจะมองว่าอาจจะมีกุ๊กกิ๊กกัน แต่จริงๆ แล้วไม่มีอะไรครับ

    และข่าวที่ฮอตที่สุดก็คือกับ น้องอ๊อฟ ?

  • กับอ๊อฟก็จะขำๆ กัน ผมชอบนิสัยอ๊อฟตรงที่อ๊อฟเป็นเด็กซื่อๆ พูดจาจริงใจเหมือนกับผม ซึ่งตัวผมจะพูดจาตรงไปตรงมา พอคุยด้วยแล้วมีความรู้สึกว่าสนุกดี เปิ่นๆ เป๋อๆ เหมือนผมเลย พอสนิทกันทุกคนก็จะคิดว่าเป็นอะไรกันหรือเปล่า มันก็ไม่ใช่ครับ เป็นพี่น้องกันจริงๆ

    แล้วบอยซีเรียทกับกระแสข่าวที่เกิดขึ้นมั้ย?

  • ไม่เคยเลย เรื่องข่าวผมไม่เคยซีเรียทเลยครับ ผมรู้สึกว่าถ้าไม่ดังก็คงไม่ทำข่าว ( หัวเราะ ) รู้สึกเฉยๆ ครับ

    มีข่าวเรื่องความรักเยอะมาก ถ้ามีแฟนจริงๆ จะเปิดตัวมั้ย?

  • ถ้าถึงเวลาหนึ่งมันก็คงต้องเป็นชีวิตของเรา แต่ทุกวันนี้ผมอยากทำงานก่อน ทำงานไปเรื่อยๆ เรื่องความรักเนี่ยผมไม่ค่อยจะเสาะหามัน ถ้ามันถึงเวลาก็คงจะเข้ามาเองครับ

    แล้ววางสเปกไว้ยังไงบ้าง?
  • เมื่อก่อนเคยชอบคนสวยครับ แต่ตอนนี้เนี่ยดูที่นิสัยก่อนเลยดีกว่า เพราะว่าจากประสบการณ์ทีผ่านมาสวยอย่างเดียวคบได้ไม่ค่อยนานครับ

    มีข่าวเยอะอย่างนี้ไม่กลัวว่าผู้หญิงเค้าจะมองว่าบอยเจ้าชู้เหรอ?

  • ไม่กลัวเหรอกครับ ก็ไม่มีใครรู้ตัวผมนอกจากตัวของผมเองครับ จริงๆ แล้วอาจจะมีคนเข้ามาในชีวิตผมแล้วออกไป ซึ่งคนที่เข้ามาเค้าจะรู้ว่าผมเป็นอย่างไร คนนอกที่มองเค้าก็จะมองในอีกมุมมองหนึ่ง ซึ่งเค้าไม่ได้เข้ามาสัมผัสตัวผมจริงๆ ส่วนตัวผมตอนนี้ไม่เจ้าชู้ครับ ( หัวเราะ ) คือเมื่อก่อนเคยเจ้าชู้ คือตอนนี้ผมรู้สึกว่าตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากขึ้นทุกวัน ความคิดเริ่มโตขึ้น ก็เริ่มมีความรู้สึกว่าอะไรมันถูก อะไรไม่ควร และก็เบื่อด้วยแหละ เคยมีอยู่ช่วงหนึ่งยอมรับเลยว่าเจ้าชู้ แต่ตอนนี้ทุกอย่างเริ่มหายไป ด้วยความที่เราโตขึ้นครับ

    และสำหรับกิจกรรมผับที่เปิดอยู่ที่ อ.ต.ก. ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?

  • คือตอนนี้ไม่ได้ทำแล้วครับ ก็ให้เพื่อนดูแลกิจการไป คือผมงานยุ่งตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านอะคาเดมี่ฯ แล้ว ก็เลยให้เพื่อนทำไป ผมก็คงไม่ได้เข้าไปแล้วตรงนั้นครับ

    รู้สึกเสียดายมั้ย เหมือนว่าบอยต้องทิ้งกิจการส่วนตัวไปเพื่องานนี้?

  • ก็รู้สึกเสียดายเหมือนกันครับ เพราะว่าทำมาตั้งแต่แรก แต่เราก็ได้มาทำอีกอาชีพหนึ่งที่เรารักมาโดยตลอด และเราก็มาทุ่มตรงนี้ให้ดีที่สุดดีกว่า ส่วนกิจการนั้นอีกวันหนึ่งที่เราพร้อมเราก็กลับไปทำใหม่ได้ครับ

    ที่มา //star.sanook.com/interview/interview_11164.php


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:24:42 น.  

     
    คุยกับคนดนตรี @ sanook

    บอย-พิษณุ นิ่มสกุล


    นักล่าฝันจากบ้าน อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย ปี 2 กับรางวัลอันดับที่ 3 จากการแข่งขัน สำหรับนักร้องหนุ่มอารมณ์ดี บอย-พิษณุ นิ่มสกุล ที่วันนี้เขาได้ทำตามความฝันแล้วกับอัลบั้มเดี่ยวชุดแรกในชีวิต Boy To Play ที่นำความสนุกสนานมาแบ่งปันให้กับแฟนๆ ได้ฟังกันอย่างเต็มที่ และวันนี้ทีมข่าวบันเทิงของเราก็คว้าตัวหนุ่มคนนี้มานั่งพูดคุยถึงการทำงานในอัลบั้มชุดนี้มาให้ทุกคนได้ฟังกันค่ะ.....

    คอนเซ็ปต์ในอัลบั้ม Boy To Play เป็นแบบไหนค่ะ?

  • ก็เป็นผู้ชายแบบสนุกสนาน ผู้ชายอารมณ์ดี และก็ไม่ได้มานั่งเก๊กหล่ออะไรครับ อยากแค่ให้ทุกคนฟังเพลงในอัลบั้มนี้แล้วมีความสุขครับ

    เป็นยังไงบ้างในที่สุดก็ได้ออกอัลบั้มเดี่ยวสักทีหลังจากที่รอมานาน?

  • ดีใจมากครับ แล้วก็ภูมิใจสุดๆ กับอัลบั้มแรกชุดนี้ เพราะว่าผมได้เข้าไปมีส่วนร่วมกับทุกๆ ขั้นตอนเลย ก็รู้สึกว่าตัวเองเต็มที่กับอัลบั้มชุดนี้ครับ

    ในอัลบั้มชุดนี้มีส่วนร่วมยังไงบ้างค่ะ?

  • ก็คงจะเป็นเรื่องของแนวเพลง คือทางโปรดิวเซอร์เขาก็ได้ทำเพลงมาให้ผมฟัง ถ้าเพลงไหนที่มันไม่ใช่ตัวผม ผมก็สามารถบอกพี่เขาให้ถอดออกไปได้ แล้วก็เปลี่ยนใหม่ให้ตัวผมเองชอบมากที่สุด ส่วนในเรื่องของเนื้อหาของเพลง ทางทีมงานก็เข้ามาคุยกับผมทุกเรื่อง ว่าเรื่องราวมุมมองในความรักของผมเป็นยังไง และเวลาอกหักผมเป็นยังไง ผิดหวังเป็นยังไง มีความสุขเป็นไง ส่วนเรื่องของเสื้อผ้าหรือว่าคอนเซ็ปต์ต่างๆ ก็ช่วยๆ กับทางบริษัทคิดครับ

    แล้วเพลงที่บอยเล่ามาจากประสบการณ์จริง มีเพลงไหนบ้างค่ะ?

  • คือเพลงทั้งหมดก็มาจากประสบการณ์จริงครับ ผมก็บอกพี่เขาไปว่าตัวองก็มีอกหักบ้าง ไม่ใช่ว่าชีวิตคนเรามันจะมีแต่ความสนุกสนานตลอดเวลา มันมีมุมมองหลายอย่าง แต่ที่เห็นได้ชัดก็คงจะเป็นเพลง “ประหยัดเวลา” ก็เป็นเพลงที่ความหมายประมาณแบบว่าคนเราถ้าไม่ได้รักกันก็จะทนมานั่งคบกันทำไม รู้สึกว่าต้องเลิกกันก็แค่บอกมาเท่านั้นเองครับ

    แนวเพลงในอัลบั้มนี้เป็นแนวไหนค่ะ?

  • ในอัลบั้มนี้ก็คงเป็นแนวป๊อบทั่วไปครับ เป็นเพลงป๊อบที่มีความสนุกในตัวของมันเอง บางเพลงก็เป็นป๊อบโซล เป็นป๊อบแดนซ์บ้าง มีกลิ่นอายของอาร์แอนด์บี มีฮิพฮอพบ้างนิดหน่อยๆ มารวมกันครับ

    แต่บอยเคยบอกว่าไม่ชอบเพลงแดนซ์?

  • คือว่ามันไม่ใช่เชิงแดนซ์ซะเต็มที่ อย่างเพลงแดนซ์ที่ผมเข้าใจมันคือจังหวะตึ๊ง ตึ๊ง ตึง ตึง คือมันจะออกแนวแดนซ์จ๋าในเรื่องของท่าทางหรืสิ่งที่ออกมา แต่ของผมไม่ถึงขนาดนั้น แต่ถามว่าชอบเพลงสนุกมั้ย ชอบครับ

    กับภาพของบอยมันออกมาเป็นแดนซ์เต้นๆ?

  • ครับเข้าใจ คงเป็นเพราะด้วยความที่ทั้ง 12 คนในบ้านอะคาเดมี่ แล้วอาจเห็นว่าผมแดนซ์มากที่สุด คนก็เลยอาจติดภาพว่าผมเป็นแดนซ์ไป ซึ่งจริงๆ แล้วส่วนตัวผมเองก็ไม่ได้ชอบแดนซ์กระจายสักเท่าไหร่นัก คือตัวเองก็ไม่ใช่เป็นคนที่เต้นเก่งมากแค่พอไปได้ ก็เต้นให้มันขำๆ สนุกๆ ไป แค่นั้นเอง เพราะมีความรู้สึกว่าถ้าแดนซ์จัดๆ คนร้องก็ต้องเต้นจัดๆ ด้วยครับ

    ตอนแรกหนักใจมั้ยว่าบอยจะพรีเซนต์ท่าเต้นออกมาในลักษณะไหน?

  • ตอนแรกก็หนักใจเหมือนกันครับ ก็กลัวแบบว่าจะทำยังไงให้มันเต้นออกมาดี ไม่ใช่เต้นออกมาแล้วก๊องแก๊ง แต่คนที่หนักใจมากกว่าตัวผมน่าจะเป็นคนที่เขาคิดท่าเต้นให้ผม ซึ่งเวลาดูเขาก็จะดูมาจากตัวผมว่าพื้นฐานการเต้นมีมากแค่ไหน หรือว่าการเต้นแบบไหนผมน่าจะรับได้ เขาก็จะใส่ให้ แต่ถ้าอันไหนยากมากเขาก็คงไม่ใส่ให้ครับ

    แล้วปัญหาเรื่องเสียงหลบที่บอยเคยบอกว่ายังร้องไม่ได้ล่ะค่ะ?

  • ตอนนี้ก็พยายามฝึกอยู่ครับ ก็คิดอยู่เสมอว่ามันต้องได้สิ ซึ่งจริงๆ มันก็ร้องได้นะ แต่มันจะมีอยู่คีย์เดียวเท่านั้นที่ร้องได้ แต่ถ้าเป็นคีย์อื่นก็ร้องไม่ได้ ไม่มีเสียงเหมือนเดิม ก็ลองฝึกดูอย่างน้อยๆ ได้มาเสียงหนึ่งก็ยังดี เดี๋ยวค่อยซ้อมให้มันเยอะขึ้นครับ

    เพื่อนๆ ในบ้านอะคาเดมี่ฯ เขาทยอยออกกันออกอัลบั้มไปแล้ว บอยรู้สึกกดดันบ้างมั้ยค่ะ?

  • ไม่รู้สึกกดดันครับ แต่ดีใจมากกว่าว่าเมื่อไหร่จะออกสักทีก็คือรออยู่ แค่ยังไม่มีเวลาก็เลยยังไม่ได้ออกมาให้ฟังกันซักที เพราะว่าเริ่มทำมาตั้งนานแล้วตั้งแต่ชุดเร่ขายฝันแล้ว และพอมาถึงคิวผมมันก็คือทุกอย่างเสร็จพอดีก็เลยออกตามออกมา ซึ่งก็ไม่ได้กดดันอะไร เพราะว่าแต่ละคนก็มีคาแรกเตอร์เป็นของตัวเอง ไม่ได้ไปซ้ำกับใครหรือว่าไปถอดแบบใครมาครับ

    ออกอัลบั้มแบบนี้จะมีผลกระทบกับงานละครบ้างมั้ยค่ะ?

  • ก็มีบ้างครับ แต่ว่าคนที่จัดคิวให้เขามหัศจรรย์อยู่แล้ว ที่เขาสามารถสลับให้ผมได้ ดูว่าเราไหวแค่ไหนต่ออาทิตย์หรือว่าต่อวัน ทั้งเรื่องงานเพลงและงานละครเขาก็จะคอยดูให้ครับ

    งานด้านเพลงกับงานละครชอบแบบไหนมากกว่ากันค่ะ?

  • ผมชอบเพลงมาตั้งนานแล้ว เพราะว่าฝึกร้องมานาน ส่วนงานละครก็ชอบเหมือนกัน เป็นอีกงานที่ได้ลองทำดูแล้วก็หลงรัก ก็ถือว่าเป็นประสบการณ์ดีอีกอย่างหนึ่งครับ

    คาดหวังกับอัลบั้มชุดนี้ยังไงบ้างค่ะ?

  • ก็คาดหวังให้ทุกคนฟังกันเยอะๆ น่ะครับ เพราะว่ามันเป็นสิ่งหนึ่งที่ผมเคยคิดไว้ว่า วันหนึ่งผมอยากมีเพลงของตัวเองแล้วให้ทุกคนร้องตามกันเยอะๆ ในฮอลล์ แล้วก็มีความสุขกับมันมากที่สุดแค่นั้นพอ


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:30:11 น.  

     
    บอย พิษณุ นิ่มสกุล



    ชื่อ : นาย พิษณุ นิ่มสกุล (บอย)
    วัน - เดิอน - ปีเกิด : 10 สิงหาคม 2521 (27 ปี)
    น้ำหนัก - ส่วนสูง : 65 กก. - 172 เซ็นติเมตร
    ภูมิลำเนาเกิด : เชียงใหม่
    การศึกษา : ประถม - โรงเรียนบ้านบางกะปิ
    มัธยม - โรงเรียนสาธิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง
    อาชีวะ - วิทยาเขต เทคนิคกรุงเทพฯ
    มหาวิทยาลัย - ปริญญาตรี มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม
    สีที่ชอบ : ขาว - ดำ - น้ำเงิน
    สิ่งที่ชอบทำยามว่าง : ขี่มอเตอร์ไซค์ Honda 4 สูบ คันโปรด เที่ยว
    ชอบออกกำลังกาย เล่นฟิตเนส
    ความสามารถพิเศษ : การร้องเพลง
    แนวเพลงที่ชอบ : Pop Rock
    ศิลปินคนโปรด : เจ - เจตริน วรรธนะสิน
    สุนัขตัวโปรด : สุนัขพันธุ์ปักกิ่ง ชื่อ ปั๊กปั๊ก 1 ตัว
    สุนัขพันธุ์สปริท ชื่อ ปิ๊กปิ๊ก 1 ตัว
    ความใฝ่ฝัน : อยากมีอัลบั้มของตัวเอง และมีคนร้องตามเยอะๆ
    นิสัยส่วนตัว : เป็นคนรักความสนุกสนาน อ่อนโยน รับผิดชอบต่อหน้าที่

    >>> "ผมอยากเป็นคนดัง" บอยเคยบอกกับใครต่อใครแบบนี้หลายครั้ง หลายหน เพราะตัวของบอยเป็นคนที่มี "ความฝัน" และความมุ่งมั่นที่จะก้าวเข้าสู่วงการบันเทิง ก็ประสบผลสำเร็จจนได้ เมื่อบอยก้าวเข้ามาอยู่ในบ้าน AF2
    >>> ครั้งนี้...ดูเหมือนจะเป็นการตัดสินใจที่ดีที่สุด ครั้งหนึ่งในชีวิต เพราะนั่นทำให้บอยทำ "ความฝัน" ของตัวเองให้เป็นจริงได้

    ้ >>> ภาพลักษณ์ของบอยในครั้งแรก สำหรับทุกคนที่ได้เห็นคือความเป็น "แบดบอย" อยู่ในตัว เป็นผู้ชายที่ไม่น่าสัมผัส สำหรับใครหลายๆ คน แต่พอเนิ่นนานวัน หลังจากที่บอยใช้ชีวิตในบ้าน AF2 ได้ไม่นาน ผู้ชายที่ไม่น่าสัมผัสคนนี้ กลับทำให้คนที่เคยคิดแบบนั้น เปลี่ยนความคิดไปอย่างสิ้นเชิง...
    >>> ความเป็นคนสนุกสนาน ความเป็นคนร่าเริง และการวางตัวเป็น "พี่ที่ดี" ให้กับน้องในบ้านหลายๆ คน ทำให้หลายๆ คนเริ่มจะมองเห็น "เสน่ห์" ที่มีอยู่ในตัวของบอย และหันกลับมามองบอย ได้อย่างเต็มอกเต็มใจ โดยไม่ต้องฝืนกับภาพลักษณ์ของ แบดบอย ที่ฉาบอยู่ภายนอก

    >>> ถ้าอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า ต้องกลายเป็นคนใบ้ ประโยคสุดท้ายที่จะพูดคือ "รักแม่ที่สุดในชีวิต"
    >>> จากคำถามสั้นๆ คำถามหนึ่งในนิตยสาร สุดสัปดาห์ รายปักษ์ คงพอจะบอกได้ว่า บอยเป็นคนที่รักแม่มากแค่ไหน ว่ากันว่าผู้ชายที่รักแม่มากๆ จะเป็นคนที่ค่อนข้าง "อ่อนโยน" และ "อ่อนไหว" ตัวตนของบอยจริงๆ ก็ไม่แตกต่างจากประโยคที่กล่าวไปเลย ถ้าใครได้สัมผัสตัวตนที่แท้จริงของบอย...
    >>> บอยเป็นคนที่มี "ความเป็นตัวของตัวเอง" ค่อนข้างสูง เป็นคนที่ดูเหมือนจะมั่นใจในตัวเองมาก แต่ไม่ได้มั่นใจ จนกลายเป็นคนที่ "ทะนงตัว" เป็นคนรู้จักวางตัว รู้จักใช้คำพูด รู้จักคิด คงอาจเป็นเพราะ ประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านๆ มา มันเป็นเหมือน "ครู" ที่ทำให้บอยต้องรู้จักว่า ควรทำตัวอย่างไร เมื่ออยู่กับผู้คนมากมาย หรือแม้แต่คนรอบข้าง

    >>> มาถึงวันนี้...บอยก้าวออกจาก AF2 มา ได้กลายเป็นคนดัง คนในวงการบันเทิง สมอย่างที่ฝันใฝ่ ผลงาน ที่มีออกมาสู่สายตาให้แฟนๆ ได้เห็น และรับฟัง นั่นเป็นเพียงแค่การเริ่มต้นความฝันของตัวบอย ยังมีสิ่งต่างๆ อีกมากมายหลายอย่าง ที่จะทำให้บอยต้อง "สร้าง" และ "พิสูจน์ตัวเอง" ว่าจะทำอย่างไร เพื่อให้ความฝันครั้งนี้ในชีวิตของตัวเอง "ประสบผลสำเร็จ" และ "คงอยู่" ไปอย่างเนิ่นนาน

    >>> ทุกวันนี้ ถึงแม้ชีวิตของบอยจะเปลี่ยนไป แต่สิ่งหนึ่งที่บอยยังไม่เคยเปลี่ยน ก็คือความเป็นตัวของตัวเอง ความเป็น "บอย" ที่เราเคยได้มองเห็นในบ้าน นั่นคือสิ่งที่ทุกคน "สัมผัส" ได้ เมื่อได้เจอะเจอ และพูดคุยกับตัวบอย

    >>> เมื่อเป็นเช่นนี้แล้ว พวกเราจะไม่ "รักบอย" ให้ "มากขึ้น" กว่าเดิม ได้อย่างไร

    ที่มา //www.virginradiothailand.com/@artits/artist.php?id=32


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:31:01 น.  

     
    พี่บอยใน หนังสือ Smile
    NU_Karn-Kibkiw Posted on: Wednesday, February 1st, 2006, 20:43:59

    เปิดทุกห้องเผยข่าวทุกข่าว......กับทุกเรื่องราวที่อยากรู้
    เป็นอีกหนุ่มที่เนื้อหอมสุดๆ ในกลุ่ม AF สำหรับหนุ่ม บอย พิษณุ นิ่มสกุล ซึ่งตอนนี้ นอกจากมีผลงานอัลบั้มรวมแล้วยังมีผลงานละคร ทางช่อง 7 จ่อคิวตามมาอีก เรียกได้ว่า Smile ฉบับ นี้ ดดนจุยทุกแฟนคลับกันเลย ฉะนั้นอย่ารอช้ากันเลยนะ ...ไปกะเทาะ หัวจุยหนุ่ม บอยคนนี้กันเลยดีกว่า...แอ่น...แอ๊น

    สวัสดีค่ะบอย เป็นไงบ้าง คะตอนนี้

    "ก็มีความสุขครับที่ได้ทำงานที่ตัวเองรัก ในสายบันเทิงซึ่งเป็นสิ่งที่ตัวเองฝันมาตลอดคือจริงๆ แล้วผมเคยออกอัลบั้มมาแล้วแต่ไม่ประสบความสำเร็ตเท่าไหร่ คือก่อนจะเข้าประกวดผมทำงานร้องเพลงกลางคืนมาประมาณ 6 ปี แล้วผมเคยดูซีซั่นที่แล้วน่าสนใจ แล้วเข้ามาในบ้านอะคาเดมี นี่เราได้เรียนทุกอย่างเพิ่มเติมด้วย"

    ตอนนี้งานล่ะซิ

    "ตอนนี้ก็มีถ่ายแบบ มีเดินแฟชั่นโชว์ก็งานจ้างต่างๆ ผมเคยร้องเพลงอยู่ที่ โคลีเซียม
    กับ แดนซ์ ฟี เวอร์ ครับ แถวสุขุมวิทกับรัชดา ก็มีความสุขที่ได้ร้องเพลงและทุกคนก็ต้อนรับเราดี
    ผมก็จะมี แฟนคลับ ที่ติดตามให้กำลังใจมาตั้งแต่ผมเข้าไปอยู่ในบ้าน"

    บอยวางอนาคตต่อไปยังไงคะ

    "ผมอยากทำงานเพลงนะครับ อยากทำงานในวงการบันเทิงไปเรื่อยๆ มันเป็นอาชีพที่ผมรักและก็อยากทำมานาน จะเป็นงานอะไรก้ได้ครับที่ผู้ใหญ่เข้าป้อนให้เราทำไปเรื่อยๆ ถ้าเราเหมาะที่สุดก็คงจะร้องเพลงล่ะครับ"

    แตกต่างมั้ยคะกับที่เคยร้องในเธคในผับกับชีวิตตอนนี้

    รู้สึกมาก...มันกลายเป็นแบบว่าจากที่ร้องให้คนมาฟังธรรมดา
    กับมาร้องให้คนที่เขาตั้งใจจะมาดูคอนเสริต์ฟัง

    เนี่ยความรู้สึกมันต่างกันครับ เราร้องในผับในเธคเขาอาจจะไม่สนใจมาฟังเราก็ได้
    คือเขามาเที่ยวของเขา แต่ทุกครั้งที่ผมมาเล่นคอนเสริต์ ทุกวันนี้
    คือทุกคนสนใจจะมาฟังเพลงของผมจริงๆ
    มาให้กำลังใจจริงๆ"

    ได้เรียน รู้ การร้องเพลงเพิ่มเติมยังไงคะ

    "พอเข้ามาในบ้านก็ได้เรียนรู้การร้องเพลงที่ถูกต้องแต่ก่อน
    ผมร้องเพลงผมใช้วิธีแบบตะโกนมากเกินไป ใช้เสียงหลบไม่เป็นเลย
    จนร้องเสียงหลบไม่ได้ ต้องรักษาเส้นเสียงก่อน อย่างวีค สุดท้ายได้โชว์เป็นเพลงของ
    พี่เบริด์ แต่หลายคนบอกผมเหมือน พี่เจ เจตริน ซึ่งพี่เจเป็นไอดอลของผมเลย
    คือการที่เราชอบฟังเพลงใครมาก เราก็จะซึมซับเอาสไตล์ ของเขามา โดยไม่รู้ตัวไงครับ"


    ตอนออกจากบ้านกับอยู่ในบ้านเจอข่าวเยอะมาก

    "ทราบครับ...กับ พี่หมู พิมพ์ผกา
    นี่ก็คือรู้จักกันมา 2-3 ปี เขาก็รู้ว่าผมเป็นคนรักครอบครัว
    แล้วเขาก็มีครอบครัวเลยคุยกับถูกคอ พอเห็นพี่หมูมาเชียร์ เราก็ดี ใจ
    มีแฟนคลับเป็นดาราด้วย (หัวเราะ)
    ก็ต้อง ขอบคุนพี่หมูมากๆด้วยครับ"

    แล้วข่าวรัก 3 เส้าล่ะค่ะ

    "ในบ้านใช่มั้ยครับ (กุ๊กไก่ - บอย -พาส )
    ทุกคนก็เป็นน้องหมดล่ะครับ..เราอยู่รวมกันในบ้านก็มีความมสุข
    เป็นน้องที่ผมสนิทแล้วคุยกับถูกคอ
    แต่คนภายนอกเข้าใจไปอีกแบบเป็นงั้นไป "

    กับข่าวที่แรงมากกับ อ๊อฟล่ะค่ะ

    "ขำๆกันเลยครับ ตลกๆไปเลยเพราะผมชอบ
    นิสัยอ๊อฟตรงที่เขาเป็นเด็กๆ ซื่อๆ พูดจาจริงใจ
    เหมือนผมไงครับพูดจาตรงไปตรงมา คุยด้วยก็รู้สึกสนุกดี
    แล้วเขาก้เปิ่นๆ เป๋อๆ ดีเหมือนกัน ผมก็เลยคุยด้วยสนุกดี
    คนก็ไปคิดว่าเป็นอะไรไปเรื่อย ประสาข่าวชั่วโมงนี้ครับ"

    แล้วกับ พัด ล่ะค่ะ

    "เห็นมั้ย...ผมนี่มีข่าวทุกเพศเลยนะเนี่ย( หัวเราะ)
    คือกับ พัด เราได้เพลงคู่กันเป็นโจทย์มาเพลง "มหัศจรรย์แห่งรัก" เราก็ต้องมานั่งคิดโจทย์กันว่าจะมาจูนกันยังไง ต้องซ้อมด้วยกัน คือต้องเล่นละครคู่กันต้องให้มันอินไปกับเพลง ก็เลยเป็นข่าวขึ้นมาอีก
    ผมนี่ถนัดเป็นข่าวดุไปดูมา จะเหมือนละคร คือจะให้ทำไงครับอยู่บ้านหลังเดียวกันหมด
    หันไปทางนี้ ก็ พัด ทางนี้ก็ กุ๊กไก่ ทางนั้นก็เจอ พาส
    มันหนีออกจากบ้านไม่ได้ หันไปเจอ อ๊อฟ ก็ยังเป็นข่าวเลย" 5555+พี่บอย

    ซีเรียสกับข่าวต่างๆเหล่านี้มั้ย

    ไม่เลยสำหรับผม คือผมรู้สึกว่าถ้าไม่ได้รับความสนใจ
    ก็คงจะไม่มีข่าวอย่างนี้ออกมา ก็เลยเฉยๆกับข่าว

    แล้วข่าวบอยเป็นขวัญใจไฮโซล่ะคะ

    "จริงๆ ผมก็อยากเป็นขวัญใจของทุกๆคน ด้วยซ้ำครับ(หัวเราะ)
    คือเรา ร้องเพลงก้อยากให้มีคนชอบเยอะๆ ให้การต้อนรับดีทุกคน ทุกวัยรักเราก็รู้สึกดี "

    ทุกคนรักพี่บอยค่ะ อิอิ

    พอมีชื่อเสียงขึ้นมาแบบนี้ไปชอบใครแล้วไม่ลำบากหรอ

    "ก็คงต้องว่ากันอีกที ตอนนี้ก็แล้วแต่ ถึงเวลาก็คงเจอกันเอง"

    มีสเปกมั๊ยคะ

    "เมื่อก่อนผมชอบคนสวยครับ
    แต่ตอนนี้ เน้นที่นิสัยมาก่อน
    เพราะผมเคยมีประสบการณ์ สวยๆ คบกันไม่ได้นาน
    ขอเป็นคนดีดีกว่าและขอให้ รักเราจริงๆ "

    แล้วไม่กลัวผู้หญิงมองว่าบอยเจ้าชู้หรอ

    "ผมว่าคงไม่มีใครรู้เท่าตัวผมเองหรอกครับ จริงๆแล้ว
    อาจมีคนเข้ามาในชีวิตผมแล้วออกไป คนที่เข้ามาก็รู้ว่าผมเป็นอย่างไง
    แต่คนที่เค้าแค่มอง คือเค้าไม่ได้มาสัมผัส ตัวตนของผมจริงๆ...
    ยอมรับว่าเคยเจ้าชู้ครับ...คือรู้สึกว่าตอนนี้เราผ่านช่วงเจ้าชู้ไปแล้ว
    จนรู้สึกเบื่อครับ อยากจะเจอตัวจริง ด้วยความที่เราโตขึ้น
    ยิ่งทำงานตรงนี้ผมก็เตรียมใจมากกว่า ว่า จะต้องเจอข่าวอะไรบ้าง
    ก็เตรียมใจแต่แรกแล้วครับ"

    ได้อะไรจากการเข้าประกวดครั้งนี้คะ

    "ได้ประสบการณ์ครับ.....ได้เรียนรู้ว่าการเดินมา
    ในสายอาชีพดนตรีนี่ มันต้องทำอะไรบ้าง เรียนอะไรบ้าง คือเราเข้ามาในบ้านก็ได้เรียนหมดเลย แล้วก้ได้เรียนรู้การใช้ชีวิตอยู่รวมกันอย่างมีความสุข มองผ่าน ข้อเสีย ของกันละกันไป
    และมองข้อดีที่อยู่รวมกัน อย่าสันติสุขครับ "

    ที่มา //www.theboystergang.com/cgi-bin/foru...ws,m=1138801439


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:31:50 น.  

     
    เพลย์บอย
    >> "ผู้หญิง"พ.ค.2547

    พิษณุ นิ่มสกุล
    ศิลปิน/หุ้นส่วนร้าน Volcano

    "จริง ๆ ผมไม่ใช่เพลย์บอย แต่เป็นผู้ชายรักสนุกมากกว่า ด้วยอาชีพงานของผมนี่คนจะมองว่าผมเป็นเพลย์บอย เพราะว่าจะมีผู้หญิงเข้ามาคุยกับเราเยอะ คนอื่นที่มองก็จะมองว่าเราเป็นหนุ่มเจ้าสำราญล่ะ
    ...ถามว่าผู้หญิงควรจะดูอย่างไรว่าไอ้นี่มันเพลย์บอยนะ ผมว่าแต่ละคนก็บุคลิกไม่เหมือนกัน สไตล์ในการเข้าหาผู้หญิงต่างกัน ดูเอาเองละกัน ตัวใครตัวมัน ผมว่าผู้หญิงเค้าน่าจะรู้นะว่าอะไร ถ้าเป็นคนเที่ยวน่าจะรู้

    ...จะทำอย่างไรให้ผู้หญิงชอบนี่ ผมว่าไม่จำเป็น ต้องขรึม ทำตัวให้ดูเท่หรืออะไรอย่างนั้น เสน่ห์ของแต่ละคนอยู่ที่ความเป็นธรรมชาติของแต่ละคนละคนนะครับ ผมไม่ค่อยได้จีบใคร โดยส่วนตัวถ้าจะจีบใคร ผมคิดว่าให้เขามาชอบเราดีกว่า เพราะว่าผมไม่ชอบที่จะไปจีบใครให้วุ่นวาย หรือกังวลว่าเขาจะชอบเราไหม ผมเชื่อในเรื่องของพรหมลิขิต สักวันหนึ่งจะพบเอง

    ...ผู้หญิงจีบผมบ่อย ก็คือจะคุยกับเขา ให้เกียรติ อาจจะแลกเบอร์กันไว้ก่อน ไม่ปฏิเสธทันที กลัวเขารู้สึกแย่ หลังจากนั้นเขาคงรู้ไปเองว่าเขาชอบเราหรือเปล่า แต่ทำอย่างนี้ไม่ได้หมายความว่าเป็นเพลย์บอยนะ ไม่ได้หวังอะไรจากใคร บางทีโทรมาถ้าเราไม่ชอบอาจจะไม่รับสายก็ได้ แต่ถ้าผมชอบใครสักคน ก็จะชนเองเลย เข้าไปคุยเรื่องทั่วไป เรื่องเรียน รื่องทำงานให้รู้ว่าเราชอบอะไร สร้างความคุ้ยเคยให้เขารับเราได้ และค่อย ๆ สนใจเรา แต่จะไม่ตื้อใคร เพราะผมก็แห้วมาเยอะ ถ้าให้อยู่หมัดเลยนี่ก็พูดยากนะ เพราะแต่ละคนไม่เหมือนกัน ก็คุยกับเขาตะล่อมว่า เขาต้องการอะไรเป็นพิเศษ แล้วเซอร์ไพรส์เขาตรงนั้น

    ...เฮ้อ สรุปที่พูดมาคือ ผมเป็นเพลย์บอยใช่ไหมนี่ (หัวเราะสนุก ๆ) แต่การเป็นเพลย์บอยแบบไม่น่าเกลียดนี่พูดยากนะ และเจ้าชู้กับเพลย์บอยมันคล้ายกันมาก จริงแล้วเพลย์บอยน่าเกลียดอยู่แล้วล่ะ ในความรู้สึกของผู้หญิง กลายเป็นคนรักสนุก ผมคิดว่าผู้หญิงเขาก็ไม่อยากยุ่งแล้ว แต่กับผู้หญิงบางคนก็อาจจะชอบคบกับเพลย์บอย เขาอาจจะคิดว่ามันได้ลุ้นสนุกหรือเปล่าไม่รู้นะ ถ้าวันหนึ่งได้ชนะใจเขาจริง ๆ

    .....ผมว่าน่าจะมีข้อจำกัดก็คือ ไม่ให้เขาคิดว่าหลงรัก หรือทำทุกวิถีทางไม่ให้คนคนนั้นมาเป็นของเรา ให้อยู่ที่ความสมัครใจของผู้หญิง เราจะไม่เหนี่ยวรั้งมาให้ตกเป็นของเรา รับได้แค่ไหนก็แค่นั้น

    ...เพลย์เกิร์ล เจอเยอะนะ ความหมายเหมือนเพลย์บอยหรือเปล่า เปลี่ยนแค่เพศ ผมคิดว่า ผู้หญิงมีสิทธิ เริ่มคิดว่าผู้ชายทำได้ ผู้หญิงก็ทำได้ไม่เสียหาย แต่ถ้าถามว่าควรไหม ไม่หรอก เพราะเธอเป็นคนไทย"

    Cha_ohSteR Posted on: Tuesday, May 23rd, 2006, 17:19:59
    ที่มา //www.theboystergang.com/cgi-bin/foru...ws,m=1148379599


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:32:16 น.  

     
    ไม่แคร์ข่าวฉาวรุมเร้าลูกชาย คุณแม่เชื่อใจ “บอย” เป็นคนดี
    >> ทีวีพูล

    ตกเป็นเป้านิ่งให้ขาเมาส์เต้าประเด็นไปนินทาตั้งแต่ยังเป็นผู้เข้าแข่งขันในบ้านอะคาเดมี่ แฟนเทเชีย 2 ทั้งเรื่องเป็นเด็กเส้นบ้าง เป็นเกย์บ้าง
    แม้กระทั่งล่าสุดที่มีกระแสข่าวออกมาว่า “บอย-พิษณุ นิ่มสกุล” ไปซื้อบ้านหรูหลังใหม่ให้แม่บังเกิดเกล้าไปเมื่อเร็ว ๆ นี้ ก็ยังถูกกระแสข่าวลือกระหน่ำว่า มีผู้ใหญ่ใจดีเป็นสปอนเซอร์ให้ ที่มาที่ไปของบ้านหลังนี้ รวมถึงกระแสข่าวลือทั้งหมดจะเป็นอย่างไร “คนดี” มีคำตอบจาก “คุณแม่พรพรรณ สวสดินาค” มาเฉลยให้ฟังกันค่ะ

    ณ วันนี้ “บอย” ถือว่าประสบความสำเร็จในระดับหนึ่ง คุณแม่รู้สึกอย่างไรบ้าง
    - จริงๆ คุณพ่อเค้าเคยแพลนไว้ค่ะว่า อยากให้เค้าทำงานที่โรงพิมพ์ธนบัตรแห่งประเทศไทย แต่น้องบอยเค้าไม่ชอบ ก็ไปร้องรำทำเพลงของเค้า แต่ก่อนคุณพ่อกับคุณแม่ก็คิดว่า อาชีพนี้มันไม่จีรังยั่งยืน ก็อยากจะให้ลูกทำอะไรที่เป็นหลักเป็นฐาน แต่เค้าชอบ อยากจะทำ ก็เลยไปฝืนเค้าไม่ได้ แต่เค้าประสบความสำเร็จก็ดีใจค่ะ ดีใจมาก ๆ ดีใจที่สุดค่ะ

    ได้ข่าวว่า “บอย” ซื้อบ้านให้คุณแม่ด้วย
    - ก็ดีใจสุด ๆ เลยค่ะ ที่ได้บ้านหลังนี้ คุณแม่เองก็คิดกันไว้แล้ว ตั้งแต่ก่อนที่น้องจะเข้าวงการสองปี เราก็ไปดูบ้านกัน แต่ก็ด้วยหลาย ๆ อย่างมันยังไม่พร้อม พอน้องมาถึงตรงนี้ก็คิดว่าเค้าโอเคแล้ว แต่อีกส่วนหนึ่งที่เป็นของคุณพ่อ ซึ่งเรารวมกันแล้วเราก็สามารถจะทำตรงนี้ได้ น้องบอยเค้าก็ดูแลทุกอย่างเกี่ยวกับบ้านหลังนี้

    มีกระแสข่าวลือตามออกมาว่า มีสปอนเซอร์คอยอุปถัมภ์เรื่องบ้านให้ “บอย”
    - บ้านหลังนี้ได้ด้วยแรงจากเงินจำนวนนึงที่คุณพ่อเกษียณออกจากงาน ซึ่งจริงๆ ตอนแรกแม่เองก็กะว่า จะเอาไว้ตอนบั้นปลายชีวิต แต่พอน้องบอยก้าวเข้ามาตรงนี้ ก็รู้สึกว่าอิมเมจของน้องต้องดี เลยขวนขวายตรงนี้ บอกได้เลยว่า เป็นแรงของคุณพ่อแล้วก็คุณลูกรวมกัน ก็เกือบ ๆ 5 ล้านค่ะ คือ จริงๆ คนเรามันสามารถมองกันได้ทุกด้าน คือ น้องพูดง่าย ๆ ว่า เป็นคนดัง คือคนอื่นเค้าก็ไม่ได้มามองหรอกว่าเราเตรียมการกันไว้อย่างไร แต่จะมองแต่ส่วนของน้องว่า บอยจะเงินตรงไหนมาซื้อ แม่ไม่ได้สนใจกับคำพวกนี้เลย เพราะแม่ถือว่าความจริง ก็คือความจริง ครอบครัวเราเข้าใจกัน ก็โอเค สำหรับเรื่องกระแสมันเป็นเรื่องของมุมมองของแต่ละคน

    คุณแม่รู้สึกอย่างไรกับกระแสข่าวเหล่านี้บ้างคะ
    - ไม่ได้ซีเรียสตั้งแต่ลูกเข้าบ้านเอเอฟมา น้องมีข่าวค่อนข้างลบมาตลอด ว่าเป็นเกย์บ้าง อะไรบ้าง แม่เลี้ยงลูกแม่มาเอง แม่ย่อมรู้ดีว่า ลูกแม่เป็นอย่างไร แม่บอกบอยเลยว่า ไม่ต้องห่วงแม่กับพ่อ เราฟังข่าวทุกด้าน เราก็เฉย ๆ อันไหนที่ดี เราก็ยิ้มรับ แต่อันไหนไม่ดี แล้วถ้าไม่เป็นความจริง แม่ก็ไม่ซีเรียส

    เวลาเจอข่าวแบบนี้บ่อย ๆ “บอย” เป็นอย่างไรบ้างคะ
    - แรก ๆ เค้ามีความรู้สึกสะเทือนใจเหมือนกัน แต่พอมาหลัง ๆ น้องเค้าก็รับได้ ข่าวก็คือข่าว ทุกวันนี้เค้าปฏิบัติตัวดี เป็นเด็กดีของพ่อกับแม่ แค่นี้ก็โอเคแล้ว แม่ก็บอกเค้าว่า ปล่อยให้มันไปตามกระแส เดี๋ยวพอไม่มีอะไร มันก็หายไป

    อีกเรื่องที่หลายคนจับตามอง เห็นจะเป็นเรื่องสาว ๆ ตรงนี้คุณแม่ว่าอย่างไรคะ
    - น้องบอยยังต้องใช้หนี้ค่าบ้านอีกหลายเลย แม่เองก็ยังไม่อยากให้มี แต่มันก็แล้วแต่พรหมลิขิตด้วย แม่ก็ไม่ได้บังคับเค้า จะต้องมีเมื่อไหร่ อย่างไร อยากให้เค้าพร้อมมากกว่าค่ะ ไม่อยากให้เค้ามีภาระขึ้นมา โดยที่ทุกอย่างยังไม่พร้อม ไม่งั้น เราจะเป็นทุกข์มากกว่ามีสุขค่ะ


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:32:39 น.  

     
    BOY, OH BOY!
    >> ผู้หญิงวันนี้ by songfa

    " พักก่อนนะ ฉันจะพาเธอไปพักก่อน เรื่องปวดหัว..."
    ไม่รู้ว่าเราต้องฟังเพลงตรงท่อนฮุคนี้กันกี่รอบกว่าผู้ชายที่เรารอคอยจะมานั่งตรงหน้าเพื่อให้เวลาพูดคุย
    ชายหนุ่มกำลังหัวเราะร่า กับการถ่ายเจาะฉากเต้นสนุก ๆ ที่พบว่าเขายังทำมันได้ไม่สมบูรณ์เท่าไหร่
    "ขามันพลิกครับพี่ เริ่มใหม่อีกทีก็ได้ "
    เขากำลังเริ่มใหม่อีกที อีกที และอีกที หลังจากถ่ายเสร็จเทคนี้ เขาจะเดินมาคุยกับเรา

    เราเปิดคำถามว่าเปิดประตูเข้าบ้านอะคาเดมี่ในทุก ๆ วัน มีความคิดอะไรอยู่ในหัว พี่บอยของสาวกบ้านอะคาเดมี่ยิ้มงง ๆ "อะไรนะครับ" แล้วเขาก็ตอบคำถามแรกของวันนี้ว่า " อ๋อ คิดอยากจะนอนครับ เมื่อคืนผมถ่ายถึงตี 3"

    ย้อนหลังจากวันนี้ไปประมาณหนึ่งปีฉันเคยเจอเขาครั้งแรกในฐานะพี่บอย นักร้องนำของวงดนครีร็อกนามสแน็ก และเป็นเจ้าของผับเล็กๆ ที่เราขอเขาสัมภาษณ์ในเรื่องเกี่ยวกับเพลย์บอย การพบกันระยะสั้น ๆบอกไม่ได้ว่าเขามีฝันอยากเป็นนักร้องจนกระทั่งเห็นหน้าเขาในเรียลลิตี้ทีวีปั้นฝันที่โด่งดังอย่าง อะคาเดมี่ แฟนเทเซีย ซึ่งเป็นหน้าเดียวกันกับผู้ชายที่อยู่บนป้ายโฆษณาขนาดใหญ่กลางสยามสแควร์
    "ความรู้สึกเปลี่ยนไปเยอะมากทุกอย่างในชีวิต เช่นเรื่องการพักผ่อนก็กลับเป็นคนละด้าน จากแต่ก่อนที่เป็นคนนอนเยอะมาก และหลับยาก ตอนนี้ถึงบ้านเมื่อไร อาบน้ำควานหาที่นอนก่อนเลย แล้วก็ตื่นแต่เช้าเพื่อมาทำงาน"

    แล้วเคยคิดบ้างหรือเปล่าว่าวันนี้คือบอยที่มีคนรู้จักแล้ว ฉันถามความรู้สึก
    "คิด คิดก่อนนอนอยู่บ่อย ๆ นะ มันคือสิ่งที่เราฝันว่าจะเข้ามาอยู่ตรงจุดนี้ แต่สิ่งที่คิดคือ เราจะทำอย่างไรต่อไปมากกว่า พรุ่งนี้จะดำเนินชีวิตต่อไปอย่างไร มาวิเคราะห์กับสิ่งที่เราทำในแต่ละวัน" เขาตอบคำถามสั้น ๆ และมักจบที่รอยยิ้ม

    จากความสำเร็จของอะคาเดมี่ปีแรก โยนลูกต่อสู่ปีที่สอง หลายคนเห็นว่าเวทีนี้คือการก้าวหาโอกาส และการคว้าโอกาสก่อนที่กระแสจะจาง ซึ่งบอยเองคิดเห็นไม่ต่างกัน
    "อะคาเดมี่คือกระแส ผมก็คือกระแส ตรงนี้ยอมรับ อะคาเดมี่เป็นรายการที่คนติดทั่วบ้าน และคนที่จะชอบเราก็ชอบจากสิ่งที่เขาได้เห็นเราทั้งหมดในบ้าน ทั้งนิสัย การแสดงออก แต่ก็อยู่ที่ว่าเราจะทำอย่างไรต่อไปจากนี้
    ...สำหรับผม อะคาเดมี่เปลี่ยนจุดมุ่งหมายของชีวิตผมไปเป็นคนละเรื่องจากที่เคยมีอยู่ จากสิ่งเล็ก ๆ เป็นสิ่งที่ใหญ่ขึ้น แต่เป็นไปในทางที่ดีขึ้น จากที่มีความคิดแค่ว่าได้ทำธุรกิจเล็ก ๆ ของตัวเองไปเรื่อย ๆ ก็กลายเป็นคนของประชาชน และไดมาทำงานเพลงที่เราชอบ "

    อย่างนั้นหากก้าวเข้าไปเป็นคนของประชาชนที่กว้างกว่านี้เรารับกับคำนี้ได้แค่ไหน
    "ก็รู้สึกรับได้นะ ผมเชื่อว่าประสบการณ์มันจะช่วยสอนผมต่อไปคือ ในวงการบันเทิงผมอาจจะเพิ่งเข้ามาสัมผัส มีประสบการณ์น้อย แต่ประสบการณ์ในชีวิตผมก็มีมาบ้าง 6 เดือนที่ผ่านมาก็ขอศึกษาให้มันรู้มากยิ่งขึ้น ซึ่งทุกอย่างผมก็วิเคราะห์เอง จากการที่เราได้ร่วมงานกับคนที่เขามีประสบการณ์ อย่างนักแสดงที่เก่งๆ ผมก็ถาม
    ...นับจากนี้ต่อไป AF รุ่นสองอย่างผมก็จะหายตัวไป ทุกคนต้องเติบโตไปในแบบตัวเอง ส่วนงานด้านอื่นๆ ที่บริษัทป้อนก็คืองานในวงการบันเทิง ผมเริ่มจากเด็กอะคาเดมี่ธรรมดา มาเล่นละคร มีอัลบั้มเดี่ยว ต่อไปผมจะไม่ใช่บอย AF แล้วจะเป็นบอย พิษณุ นิ่มสกุล เฉย ๆ "

    WHO'S THAT BOY
    "ผมเกิดที่เชียงใหม่ แล้วมาโตที่แม่ฮ่องสอน คุณแม่ผมเป็นคนเหนือ ผมก็มีความเป็นคนเหนือ พูดภาษาเหนือ ชอบกินน้ำพริก(หัวเราะ) คนเมืองน่าฮัก" เขาพูดภาษาเหนือก่อนเล่าเรื่องตัวเองคร่าว ๆ
    "ก็โตเป็นวัยรุ่นธรรมดา ไม่เกเร ไม่นักเลง คนเรียนช่างกลมาก็จะผ่านช่วงชีวิตวัยรุ่นเฮี้ยว ๆ กัน แต่ผมไม่เฮี้ยว คือถึงจะเจอเรื่องแบบนี้บ่อย มีทะเลาะ ตีรันฟันแทง แต่ผมคิดได้ว่าไม่อยากให้ที่บ้านเป็นห่วงเรื่องต่อยตีถ้าเป็นไปได้ก็หลบ ๆ เพราะมันไม่ใช่สิ่งที่คุ้มจะเสี่ยง แต่ถามว่าเป็นคนสู้ไหม ถ้าเราไม่ผิดก็นิดหนึ่งครับ

    ...คนมักจะบอกว่าผมเป็นคนมีเหตุมีผล แต่ก็ไม่ใช่ทุกเรื่อง คือเรื่องบางเรื่องก็ไม่ควรมีเหตุผลถามว่ากล้าได้กล้าเสียไหมก็ไม่ถึงกับขนาดนั้น คือถ้าดีก็ทำมัน ถ้าไม่ดีก็ไม่ควรทำ แค่นั้นจบ
    ...จริง ๆ ผมจะเป็นคนขี้เล่น พูดมาก อารมณ์ดี สนุกสนานกับคนอื่น แต่ก็เป็นคนเครียด บางครั้งถ้าอยู่กับตัวเองจะคิดมาก จะไม่บ้าบอ ถ้าคนรู้จักผมมาเห็น เขาจะงงว่าเราเศร้าหรือเปล่า จะนิ่ง ๆ หน้าตาเฉย ๆ ผมก็ไม่ได้ทุกข์หรอก แต่ถ้าอยู่กับคนอื่นจะไม่ทำหน้าเศร้า เพราะเราห่วงความรู้สึกคนอื่น อยู่กับคนอื่นจะยิ้มจนตีนกาขึ้นแล้วครับ แล้วจะให้ยิ้มตลอดได้อย่างไร "บอยชี้ให้ดูบาทาการ์ฟิลด์เล็ก ๆที่หางตา ของฝากจากความอารมณ์ดี ฉันสังเกตว่าแม้จะยิ้ม แต่หน้ากลับดูเหนื่อย ๆ เลยแกล้งแซวว่าตาโบ๋แล้วนะ
    "อย่าพูดสิ(หัวเราะ) นอนน้อยมาก เคยสงสัยมาตลอดว่า คนที่อ้างว่าทำงานจนไม่มีเวลามันมีด้วยหรอ มาเจอกับตัวเองรู้เลย สิ้นปีนี้ไม่รู้จะว่างหรือเปล่า"
    แล้วพักได้ไหมล่ะ ฉันถาม " ผมจะให้เหตุผลมากกว่าการปฏิเสธ พี่ๆ เขาจะถามเสมอก่อนรับงานว่าไหวไหม ไม่ไหวไม่เป็นไรนะโว้ย ถ้าเพียงแต่เราตอบว่าไหว เขารับให้ ผมเชื่อว่าสิ่งที่เขาเลือกให้เราทุกอย่างมันดีแล้ว แค่เราไหวเท่านั้น แล้วตอนนี้เรายังไหว"

    เคยให้สัมภาษณ์ว่าความกลัวของบอยคือ กลัวไม่มีเงิน
    "ใช่ครับ กลัวไม่มีเงิน คือเรารู้ว่าควรจะเก็บ เราต้องดูแลครอบครัว เราเคยรู้แล้วว่าไม่มีใครสักคนจะช่วยเราได้นอกจากตัวเอง แล้วเราจะรอถึงเมื่อไหร่ เราไม่ใช่คนฐานะดีที่ไม่ต้องทำงานก็มีใช้ตลอด ต้องเก็บไว้เพื่อวันต่อไปข้างหน้าที่ดีขึ้น
    ...ที่บ้านก็มีเป็นห่วงบ้าง เห็นเราทำงานเยอะแล้ว แต่เขาก็บังคับไม่ได้มาก เพราะว่าเราจะทำ(หัวเราะ) คือครอบครัวเขายินดีกับเราในความสำเร็จ เพราะเขาก็รับรู้มาตลอดว่าเรามีความฝันตรงนี้"

    แล้วตอนนี้ให้เวลากับครอบครัวแค่ไหนแล้ว
    "ไม่ค่อยได้ดูแลแม่เท่าไหร่ ผมว่าการเป็นลูกที่ดีไม่จำเป็นต้องดูแลพ่อแม่ดีตลอดเวลา แค่ทำตัวให้เขาไม่เดือดร้อนก็พอแล้ว แต่เราต้องทำดีในสิ่งที่เขาคิดว่าดีนะ ไม่ใช่คิดในมุมเราว่าเราดีแล้ว ผมจะเป็นคนประเภทช่วยได้ก็ช่วย ทำอะไรดีได้จะทำทุกอย่าง จัดการตรงไหนได้จะจัดการ"

    ถ้าอย่างนั้นบอยเอาตัวตนมาใส่ในการทำงานแค่ไหน
    "ทั้งหมด ผมเชื่อว่าเราเป็นตัวเองตั้งแต่ก้าวแรก ก้าวที่สิบ ที่ร้อย เราก็ยังเป็นตัวเรา ก้าวที่ร้อยก็เป็นเรา ถ้าก้าวที่สามสิบผมเปลี่ยนไป ผลกระทบมันก็เปลี่ยน คนที่เห็นผมก็คงคิดว่าผมเปลี่ยนไป มันคงไม่ดี"

    BOY TO PLAY
    เพลงเดิมแว่วลอดออกมาจากสตูดิโอ บอยขยับตัวนั่งบนถังน้ำแข็ง ซึ่งตอนนี้คือเก้าอี้จำเป็น เขาชอบใจเมื่อพีอาร์ของค่ายแง้มประตูให้ความเย็นจากแอร์ลอดออกมาถึง
    "ไฮโซมาก ๆ พี่" เขาหันไปขอบคุณ
    " ไปถ่ายเอ็มวีที่ต่างจังหวัดมาครับ ร้อนมากๆ วันนี้เช้าถึงเย็น ได้ถ่ายในสตูดิโอก็เลยชอบ(หัวเราะ) "

    ฉันลองถามว่าแล้วเขาไม่ชอบอะไร
    "เป็นร้อนใน ปากเป็นแผล เพราะนอนไม่พอ ตอนนี้มีงานเพลง แล้วก็ถ่ายละครทุกวัน "
    พิษณุหมายถึงงานละครเพื่อนรักนักล่าฝัน ทางช่อง 7 อัลบั้มเพลงเดี่ยวชุดแรกที่ชื่อ Boy to Play และละครโรแมนติกคอมเมดี้เรื่องรักหรรษาคาราโอเกะ ซึ่งเขาเป็นพระเอกเรื่องแรกในชีวิตประกบคู่กับสาวเก่งอย่างนาเดีย นับว่าเขาสอบผ่าน และเรตติ้งละครไปได้สวย

    "งานเพลงเริ่มทำตั้งแต่ออกจากบ้านครับ เป็นเพลงสนุก ๆ ที่ใช้ชื่อ Boy to Play เพราะว่าคนรู้จักผมในนามของบอยที่สนุกกับการร้องเพลงบนเวที ซึ่งผมก็อยากให้คนมีความสุขกับผม แล้วก็มีเพลงช้าด้วยครับ ไม่ใช่ว่าร้องเพลงช้าไม่เป็น
    ...ผมว่าการเป็นนักร้องก็ต้องร้องดีร้องเก่งนะ แต่การที่คนจะรักมันก็น่าจะเป็นเพราะเราสร้างความสุขให้เขาได้ ซึ่งผมอาจจะร้องไม่เก่งที่สุด แต่ผมสามารถทำให้คนฟังมีความสุข มันก็น่าจะเป็นอะไรที่มาทดแทนได้" เราคิดว่าเขาน่าจะพอร้องแนวร็อกแสบหูอย่างที่เคยร้องมาได้ เขาหัวเราะเสียงดังก่อนตอบว่า ไม่ร้องแล้ว เพราะทำให้เสียงเสีย ทุกวันนี้มีปัญหาเรื่องร้องเสียงหลบไม่ค่อยได้ แต่เขาว่าตอนนี้ดีขึ้นมาก

    ถามต่อว่าเขารู้สึกอย่างไรกับเพลงตัวเองเพลงแรกในชีวิต เจ้าตัวทำเสียงสูง ตอบประสาคนขี้เล่น
    " เพลงน่ารักออก ฟังทีแรกขนลุก ปวดอึ(หัวเราะ) คือสนุกดี มีความสุขแล้วก็แอบปลื้มว่าเพลงผมนะ ออกแล้วนะ มันเป็นความฝันมาตลอดที่มีเพลงของตัวเองที่คนร้องตามได้"

    ฉันแนะนำให้เขาไปเช็กเรตติ้งดูเพราะตอนนี้ละครของเขากำลังเป็นที่ชื่นชอบ
    "เหรอ ที่ไหนล่ะ แนะนำหน่อย วันหลังจะชวนแม่ไปเดินตลาด ดูว่ามีคนรู้จักหรือเปล่า(หัวเราะ) ตอนนี้เจอคนรู้จักมากขึ้น มีคนมาทักว่าหรรษาก็ดีใจครับ (ยิ้ม) คือด้วยคาแร็คเตอร์ที่ได้รับใกล้เคยงกับตัวเองมาก ผมเป็นคนสนุกสนาน ปากเสีย รักเขาแต่ชอบแซว ชอบกัด ก็ดีกว่ามาจ๊ะจ๋า ตรงนี้แหละที่หรรษาเหมือนผม

    ...ถามถึงนาเดีย เขาเป็นคนเล่นละครเก่ง และก็ธรรมชาติมาก ๆทำงานด้วยกันก็ต้องทำความรู้จักกันเพื่อให้ทำงานง่าย ก็มีครับ คนมองว่ากุ๊กกิ๊กกันไปหรือเปล่า แต่ไม่เลย เป็นเรื่องธรรมดามาก
    ...ข่าวรักโปรโมท ผมเลิกขำกับข่าวมานานแล้ว เพราะผมโดนมาเยอะมาก อย่างเช่นข่าวกับออฟ คนที่รู้จักเราจริง ๆ จะรู้ว่ามันไม่ใช่ อย่างเว็บไซด์ ผมก็เข้าไป มีรูปกิ๊กๆ กั๊กๆ กัน ผมว่าผมบริสุทธิ์ใจ ไม่ผิดอะไร ไม่ใช่อย่างที่เขามอง ก็คงไม่แคร์ให้ปวดหัวแล้ว และเคลียร์ไปทุกข่าวแล้ว" เขาลุกขึ้นยืนเป็นจังหวะเดียวกับบุคคลที่เป็นข่าวด้วยบังเอิญมาถ่ายทำรายการที่เดียวกัน

    "สวัสดีครับพี่ออฟ หล่อมาเลยนะ จะไปตกปลาที่ไหนครับ" บอยแซวกางเกงของฝ่ายตรงข้าม ก่อนที่คนทั้งคู่จะหัวเราะให้กัน เราก็มองว่าไม่น่าจะมีอะไรไปมากกว่าคำว่าพี่น้อง
    "ผมว่ามีคนส่วนน้อยที่คิดกับผมและออฟแบบนั้น คนส่วนเยอะ เขาจะมองว่าเราคือพี่น้อง" บอยกล่าวย้ำเพื่อยีนยันว่าเขายังชอบผู้หญิง จึงลองถามเขาว่ายังใช้วิธีเดิมๆ จีบผู้หญิงอยู่หรือเปล่า
    "จริง ๆ แล้วผมเป็นคนขี้อาย ไม่ค่อยกล้าจีบผู้หญิง ตอนนี้ไม่มีเวลาจะถามใครแล้วว่าเขาชอบอะไร คงใช้วิธีแซว ๆ ครับ(หัวเราะ) ผมชอบใครก็ได้ที่เขารักเรา แต่เราต้องรักชอบเขาด้วย อย่างที่รู้สึกว่าเราอยากได้เขาเป็นแฟน ถ้าจะจีบเขาก็คงแบบเดิม ใส่ใจสิ่งที่เขาชอบมากขึ้น ให้เวลา แต่ตอนนี้ไม่มีเวลา"

    ผมว่าความรักในชีวิตเกิดได้หลายครั้ง มีได้หลายครั้งในช่วงชีวิตหนึ่ง และมันจะมาตอนไหนไม่รู้ด้วย ผมไม่ไขว่คว้า ถึงเวลาคงจะมาเอง ซึ่งถ้ามันมาถึง ผมจะเก็บไว้

    MY BOY

    ต้องยอมรับว่าถึงทางเดินในวงการบันเทิงจะกว้างพอให้ไคร ๆ พากันปั้นคนใหม่ ๆ ในทุก ๆปี แต่พื้นที่ของคนที่จะอยู่ตรงนี้ได้นานก็มีที่ให้ยืนไม่มากนัก แต่ตอนนี้คนที่เราคุยด้วยพอจะรู้ว่าเขาจะไปยืนตรงจุดไหน
    "ตอนนี้ผมขออยู่ระหว่างคำว่า ศิลปินนักร้องและนักแสดงดีกว่า ผมว่าดาราเอื้อมไม่ถึง คำว่าดารา คือความโดดเด่น ตัวผมไม่โดดเด่นขนาดนั้น ผมว่าดาราจะมีคำว่าซูเปอร์สตาร์ อย่างกบ สุวนันท์ วิลลี่ อั้ม พัชรภา แต่ตอนนี้ผมเป็นแค่นักร้อง และก็นักแสดง
    ...ความจริงคนเราไม่มีใครพอใจในสิ่งที่ตนได้รับ ตรงนี้ผมยอมรับ แต่ไม่ใช่ว่าเราไม่รู้จักพอนะ แต่เราอยากทำให้มันก้าวหน้ามากกว่านี้ คือมันจะหยุดตรงไหนก็ได้ ขอแค่ครอบครัวสบาย และเป็นที่รักของทุกคน คนที่รักเราเข้าใจในตัวเรา เป้าหมายชีวิตผมคือ ความมั่นคง

    ...แต่ก็ขึ้นอยู่กับโอกาสนะ ถึงเวลาผมอาจจะหายไปก็ได้ ผมรู้ว่าชื่อเสียงไม่แน่นอน และไม่ยั่งยืน บางครั้งมันก็มีหลาย ๆอย่างมากำหนด ก็คิดเรื่องธุรกิจไว้บ้าง ผมแค่มีร้างกาแฟ ร้านอาหาร หรือไม่ก็ร้านนวดเท้า ผมชอบเรื่องธุรกิจ แต่คงไม่ทำร้านเหล้าแล้ว"

    สังเกตว่าบอยมักจะยกโทรศัพท์ขึ้นมาดูตลอด เลยถามว่าทุก ๆวันอยากโทรหาใครมากที่สุด
    "ผมดูติดโทรศัพท์หรอ(ยิ้ม) ความจริงจะดูว่าใคร missed call มาหรือเปล่า คือไม่ค่อยโทรหาใคร กลับบ้านไปแม่ก็หลับ แต่ก็โทรหาเพื่อนบ้าง เวลาขับรถผ่านหน้าบ้านใครก็คิดถึงคนนั้น แบบผ่านไปลาดพร้าวก็โทรไป เฮ้ย อยู่บ้านหรือเปล่า คิดถึง ตอนนี้ขับรถผ่านแถวบ้านแกอยู่นะ

    ...เพื่อนส่วนใหญ่ก็แซว เฮ้ย ดังใหญ่แล้วนะ รวยใหญ่แล้ว ผมก็ตอบว่าไม่หรอก พื้น ๆ (หัวเราะ) คนรอบข้างเหมือนเดิม สังคมเพื่อนอาจจะเปลี่ยนไปบ้าง เพราะเราใช้ชีวิตประจำวันด้วยกันน้อยลง แต่ผมก็เหมือนเดิมทุกอย่าง กินเหมือนเดิม เข้าถึงได้เหมือนเดิม อาจจะยากบ้างเพราะเรามีงานติด ๆ กันตลอด ก็อยู่ที่ว่าเขาจะกล้าเข้ามาหาเราหรือเปล่า"

    ทีมงานเรียกให้เขาไปถ่ายซ่อมเต้นอีกครั้ง เราถามเขาว่าคิดไหมว่าวันหนึ่งจะมาเต้นได้ขนาดนี้ เขาหัวเราะแล้วตอบว่า
    "ก็พอเต้นได้ครับ เต้นเป็น แหม ท่าเต้นน่ารักจะตาย"

    ภาพบนจอมอนิเตอร์ของเอ็มวีที่ยังไม่ผ่านการตัดต่อ คือบอยอะคาเดมี่กับเพลงเปิดตัวที่ตอนนี้คงออนแอร์ไปทั่วประเทศแล้ว เราเห็นภาพซ้อนทับของคน ๆหนึ่งที่ตั้งใจจดจ่อกับมัน และนั่งยิ้มเมื่องานออกมาสมบูรณ์ บอย อะคาเดมี่ จะเป็นบอย พิษณุ นิ่มสกุล ที่มีชื่อเสียงมากขึ้นเรื่อย ๆ และโตเลยไปกว่าที่กระแสอะคาเดมี่จะพัด หรือจะแผ่วลงหรือเปล่า ยังไม่มีใครตอบได้ อย่างน้อยเรารู้สึกว่าผู้ชายที่เราเพิ่งคุยเสร็จไปเมื่อสักครู่ จริงจังจริง ๆ กับทุกขั้นตอนการทำงาน และมีความสนุกอย่างที่เขาบอกว่ามันคือเป้าหมายของการทำงานเพลงของเขา

    "ผมมองว่าจะเริ่มต้นเมื่อไหร่ไม่สำคัญ แต่การได้เริ่มต้นแล้วทำให้ดีที่สุด และประสบความสำเร็จมันสำคัญกว่า" เป็นประโยคตอบคำถามที่ว่าเขาเริ่มหาความฝันช้าไปหรือเปล่า เพลงเดิม ท่อนเดิมดังมาอีกรอบ และคงดังอีกหลายรอบ เพื่อส่งความตั้งใจของคนร้องไปในวงกว้างขึ้น แต่แค่ไหนอันนี้ก็ตอบไม่ได้ แต่ว่าถ้าลองฟังอีกที และอีกทีแบบฉัน เพลงนี้ก็น่ารักดีอย่างที่เขาว่า

    INTIMATE TO BOY

    คนใกล้ชิดแอบมากระซิบถึงบอยให้เรากิ๊กกั๊ก มีหรือที่จะไม่รีบนำมาฝาก

    ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ / นักร้อง
    "ตอนมีข่าวด้วยกัน ออฟก็ไม่ค่อยเข้าใจว่าเขาหมายถึงอะไร เพราะเราก็เพิ่งมาจากต่างจังหวัด แต่พี่บอยจะเครียด จะพยายามบอกว่ามันต้องซีเรียส ออฟก็ซีเรียสก็ได้(หัวเราะ)
    พี่บอยจะมีความเป็นผู้ใหญ่ แต่มีความเป็นเด็กอยู่สูงด้วย บางอย่างผมยังไม่เล่นเลย แต่พี่เขาเล่นคือ เขาเห็นใครเครียดไม่ได้ เขาจะทำให้สนุก จะมนุษยสัมพันธ์ดีมากแล้วก็คิดมากจริง ๆ ถ้ามีปัญหากัน บางทีจะเดินมาไหว้น้องเอง ยอมรับผิดเอง นอกจากนั้นเป็นคนมีเหตุผลที่สุด เขาจะคอยสอนน้อง ๆทุกคน ไม่ว่าจะเรื่องการตอบคำถามกับสื่อ หรือการวางตัว ประทับใจพี่บอยหลายอย่าง เขาเป็นคนเปิดเผย และจริงใจ เรื่องที่รู้สึกดีล่าสุดคือ เขาบอกว่าชอบเพลงผมมาก เราก็นึกว่าพูดเล่น แต่พอโทรไปหาเขา เขาเอาเพลงผมเป็นเสียงรอสาย อันนี้ก็แอบดีใจ
    ...ตอนนี้พี่เขาออกเทปแล้ว อยากบอกว่าออฟให้กำลังใจพี่บอยนะ ขอให้ประสบความสำเร็จ "

    เทพโยธิน สุวรรณกองกุล / Artist Management Manager UBC Fantasia
    "เรื่องมีน้ำใจขอยกให้เขา คือเราดูแลศิลปินมาเยอะนะ แล้วเราก็ไม่ได้อยากได้อะไรจากใคร แต่บอยจะเป็นคนใส่ใจในรายละเอียดเล็ก ๆ อย่างเช่น ไปกินข้าวกันหลังงานเสร็จ เขาก็จะขอออกเองเพราะไปงานของเขามา หรือไปเจอของที่เราชอบ ก็จะซื้อมาฝาก เรามองว่าเด็กคนนี้ใช้ได้
    ...ตอนนี้งานเขาเยอะ ไม่ค่อยได้พักผ่อน แล้วจะชอบขับรถเองทั้งที่เราก็มีรถตู้ให้ ห่วงที่สุดก็เรื่องขับรถ ก่อนกลับทุกครั้งก็จะไปตบไหล่ บอกให้ขับรถดีๆ นะ
    ...บอยเป็นคนตลก มีอยู่ครั้งหนึ่งนั่งรถตู้ไปด้วยกัน คนขับก็หันมาบอกว่าชอบเขามาก ร้องเพลงเพราะ บอยก็ดีใจมาก ถามใหญ่ว่าชอบเพลงอะไร เขาก็ตอบว่าทั้งอัลบั้ม โดยเฉพาะเพลงเรื่องบนเตียง บอยก็อ้าว ! บอย พีช เมกเกอร์ เป็นเรื่องขำที่เรายังแซวเขาอยู่"

    ปนัดดา เนื่องรักษา (พี่จุ๋ม) / Artist Relation
    " เป็นคนตั้งใจกับการทำงาน มุ่งมั่น รู้จักหน้าที่ตัวเอง จะคอยไฟท์เรื่องงาน อย่างนี้ดีไหมครับ แบบนี้ดีกว่านะ ไว้ใจเขาได้ ช่วงแรก ๆ เขาจะกังวลเรื่องร้องเพลงบ้าง เพราะคิดว่ายังร้องได้ไม่ดี ซึ่งเราก็บอกว่าบอยมีความสนุกเป็นจุดเด่น แต่ละคนก็มีจุดเด่นต่างกันไป
    ...ที่ประทับใจเสมอก็คือ เขาเป็นคนมีน้ำใจ แม้แต่เรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น เขารู้ว่ารถเราเสีย เขาก็จะไปรับให้ จะถามตลอดว่ามีอะไรให้เขาช่วยได้นะ ซึ่งบางครั้งเราก็คิดไม่ถึง
    ...คืออาจจะดูว่าเขาเข้มๆ แต่ความจริงอ่อนไหว และขี้น้อยใจพอสมควร บางทีเราไม่ได้ไปดูแล ปล่อยเขาไปถ่ายละครคนเดียว เขาก็จะมากระตุ้นประมาณว่า เดี๋ยวนี้ไม่ดูบอยแล้วเหรอ แกล้งทำเสียงน้อยใจ เขาแกล้งๆ มากกว่า แต่จริง ๆ แล้วก็รู้เหตุผลว่าเรามีศิลปินที่ต้องดูแลเยอะ
    ...บอยจะโดนข่าวเยอะเรื่องความรัก เขาจะห่วง ๆ มากกว่าว่าผู้หญิงจะเสียหายหรือเปล่า แต่หลังๆ ไม่บ่นแล้ว บ่นว่าอยากมีแฟนแทน(หัวเราะ)



    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:33:25 น.  

     
    นายบอย มากับคำถามก๊วน..กวน
    >> polyplus

    สัปดาห์นี้มีคำถามที่ไม่เคยมีใครถาม แบบฮาๆ กวนๆ ไปทายใจ หนุ่มบอย-พิษณุ ถึงกองถ่าย “รักหรรษาฯ” ดูสิว่าหนุ่มบอยจะมีวิธีกวนกลับ หรือตอบแบบกวนๆ ยังไง

    1. หากโลกนี้เหลือ พี่บอย เป็นมนุษย์เพียงคนเดียว อยากได้สัตว์อะไรมาเป็นเพื่อนคู่หู
    อยากได้ลิงครับ เพราะลิงใกล้เคียงเหมือนมนุษย์มากที่สุด และฉลาด คือผมจะสอนลิงและจะให้ลิงสอนผมด้วย เพื่อที่ผมจะได้ทำตัวให้กลมกลืนกับสัตว์อื่นๆ

    2. หากมีคนให้เงิน 20 ล้าน โดยมีเงื่อนไขว่าจะต้องใช้จ่ายในวันเดียว คิดว่าจะซื้อหรือทำอะไร
    คงจะเป็น...(ใช้เวลาคิดนาน) ซื้อรถครับ สัก 10 ล้าน ซื้อคอนโดสักห้องนึง เอาแบบสวยก็ประมาณ 5 ล้าน ที่เหลือก็คงจะไปเที่ยวหรือซื้อของอย่างอื่น แต่ถ้าไปวันเดียว ก็คงจะเป็นอะไรที่ใกล้ๆ ฮืม...ไปฮ่องกงน่าจะดี

    3. สมมติว่าตื่นนอนตอนเช้า แล้วกลายเป็นผู้หญิงจะทำอะไรเป็นสิ่งแรก
    จะทำยังไงดีล่ะ ก็คงจะเข้าห้องน้ำสำรวจร่างกายก่อน แล้วก็จับหน้าอกเล่น...555

    4. ให้เลือกผู้หญิง สวย-โง่ กับ ขี้เหร่แต่ฉลาด จะเลือกแบบไหน
    คิดว่าจะเลือกผู้หญิง สวย-โง่ คืออันดับแรกก็เลือกสวยไว้ก่อน (หัวเราะ) เพราะผู้หญิงสวยเราสามารถสอนได้ ค่อยทำความคุ้นเคยกันไป คนโง่สามารถฉลาดได้ถ้าหากเรียนรู้ แล้วที่ไม่เลือกผู้หญิงขี้เหร่แต่ฉลาดนะ คือ ต้องขี้เหร่จริงๆ นะ มันคงจะทำให้สวยขึ้นลำบาก (หาเหตุผลแย้งจนได้)

    5. แล้วสาวสวย กะ น่ารัก ล่ะชอบแบบไหนมากกว่ากัน
    ชอบสาวน่ารักครับ (ตอบทันทีทันใด)

    6. ถ้าวันนึงตื่นขึ้นมาแล้ว ฟันหมดปาก จะทำยังไง
    คงจะเคี้ยวหญ้าอ่อนไม่ได้ (555) และก็ต้องผอมลงเรื่อยๆ แล้วใส่ฟันปลอมได้ป่ะ ถ้าได้ก็คงจะพยายามใช้ชีวิตให้เป็นปกติ

    7. สมมติว่าเคยหลงรักผู้หญิงคนหนึ่ง แล้วเวลาผ่านไป 10 ปี เค้ากลับมาบอกว่ารักเรา พี่คิดว่าผู้หญิงคนนี้จะเป็นยังไง แล้วจะตอบรับมั้ย
    ก็ต้องดูก่อนว่าเรามีแฟนหรือยัง และอีกอย่างดูว่าเค้าคิดกับเรายังไง เป็นขบวนสุดท้ายของเค้ารึเปล่า ก็ผ่านไปตั้ง 10 ปีแล้วนี่

    8. ถ้าหากว่า อกหัก คิดจะไปรักษาแผลใจที่ไหน
    ทะเลครับ เพราะผมชอบทะเล และอีกอย่างไปทะเลเจอสาวสวย เดี๋ยวก็ลืม (ล้อเล่น)

    9. แล้วถ้าให้เลือกระหว่าง ดวงอาทิตย์ กับ ดวงจันทร์ ล่ะ
    ผมขอเลือกดวงจันทร์ เพราะดวงจันทร์สวย เย็นและสามารถมองได้ แล้วก็สามารถเปรียบเป็นผู้หญิงได้ด้วย คือดวงอาทิตย์เปรียบกับสาวเซ็กซี่ และดวงจันทร์เปรียบกับสาวน่ารัก (คำคม..แหะ) เห็นมั้ยว่าตรงสเป็กผมอีกแล้ว

    10. หากว่าโลกเกิดเหตุวิกฤต แล้วจะต้องไปกู้โลก อยากแต่งชุดเป็นแบบไหน
    อยากแต่งเป็น โดเรมอน เพราะโดเรมอน มีกระเป๋าข้างหน้าที่ใส่ของวิเศษไว้ ทำให้ช่วยโลกไว้ได้ (น่ารักจริงจริ้ง)

    11. หากราคาน้ำมันสูงถึง ลิตรละ 100 บาท คิดว่าจะปรับเปลี่ยนการเดินทางเป็นยังไง
    ตอนนี้ก็เยอะแล้วนะ 30 บาท แน่ะ วิธีแก้ก็คงจะหันมาใช้จักรยาน หรือไม่ก็นั่งรถเมล์มั่ง ส่วนรถก็เอาไว้จำเป็นจริงๆ ถึงจะเอามาขับ เพราะถ้าใช้การเดินคงไม่ไหวเพราะถ่ายละครประชาชื่น แต่บ้านผมอยู่พระราม 5 คงต้องเดินทางมาล่วงหน้า 2 วัน

    12. ถ้ามีคนมาเซอร์ไพรส์วันเกิด โดยมอบเครื่องบินให้ 1 ลำ คิดว่าจะบินไปไหน
    อยากจะบินไปญี่ปุ่น เพราะประเทศเค้ามีเทคโนโลยี่ที่ทันสมัย มีอะไรที่แปลกใหม่ และสาวญี่ปุ่น น่ารักด้วย (อันนี้ประเด็นหลัก)

    13. อยากแต่งชุดประจำชาติไหน นอกจากไทย
    ก็คงจะเป็นญี่ปุ่นแหละ ชอบนะ

    14. หากย้อนอดีตได้ จะไปยุคไหน
    อยากไปยุค ก็คงจะเป็นยุคของไทยนี่แหละ แต่เป็นยุคดึกดำบรรพ์ แบบว่าไปดูเค้าใช้ชีวิต ตั้งแต่อยู่ถ้ำเลยนะ หาของกิน การแต่งกาย

    15. ลองออกแบบพาหนะ ที่เราอยากจะได้ในอนาคตหน่อยค่ะ
    คงจะมีรูปทรงเป็นแบบรถสปอร์ต แล้วอุปกรณ์ภายในก็ตกแต่ง มีตั้งเครื่องเสียง ทีวี อะไรทุกอย่างครบครัน และอีกอย่างถ้าลงเรือ ก็ดำน้ำได้ ถ้าบนบกก็สามารถบินได้ (สะเทินน้ำสะเทินฟ้าเจ้าค๊า)

    16. หากว่ามีคาถาเสกคนได้ แล้วอยากเสกใครให้มายืนตรงหน้าและคิดว่าจะทำอะไรกับเค้า
    เสกใครดี เสกคุณอั้มดีกว่า แต่เป็นคุณอั้ม-พัชราภา นะ ไม่ใช่ อั้ม-อภิชาติ (เล่นเอง ตบเอง..ฮิ้ว) และคิดว่าจะทำอะไร ก็คงจะจูบเค้าทีนึง (ถ้าเค้าให้จูบนะ)

    17. สมมติกำลังเล่นคอนเสิร์ตอยู่ แล้วมีผู้หญิงคนหนึ่ง ขึ้นมาบนเวทีพร้อมกับตะโกนว่า รักมาก และจะขอแต่งงานด้วย คิดว่าจะแก้สถานการณ์ตรงนั้นยังไง
    ก็คงจะเปลี่ยนเรื่องให้เป็นเรื่องตลกไป ทำเป็นเฮฮา เพราะที่ผ่านมายังไม่มีเหตุการณ์นี้และไม่อยากเจอด้วย

    18. หากต้องเลือกระหว่างนั่งเรือ กับ เครื่องบิน คิดว่าจะเลือกอะไร
    เลือกเครื่องบินครับ ส่วนเรือไม่ได้กลัวนะ แต่มันช้า ไม่ทันใจผม

    19. มีอยู่ 2 เส้นทาง ระหว่างเส้นทางที่โรยด้วยกลีบกุหลาบ แต่ระยะทางยาวไกล และ เส้นทางที่มีขวากหนามแต่สั้น
    ผมเลือกเส้นทางแรก คือ โรยด้วยกลีบกุหลาบแต่ยาวไกล เพราะเหมือนกับชีวิตเรา ที่จะพยายามทำงาน มีความลำบาก สร้างชีวิต สร้างครอบครัว ตั้งแต่ต้นๆ แล้วบั้นปลายสบายนะครับ

    20. สมมติของกินบนโลกนี้หมด เหลือแต่ “แมงมุม” กับ “ตุ๊กแก” จะเลือกอะไร (ภาคบังคับ)
    ถ้าต้องเลือกจริงก็คงจะเลือกแมงมุม เกลียดน้อยลงมาหน่อย ส่วนกรรมวิธี ก็คงจะเป็นการต้มให้สุก แล้วเอาไปสับๆ ให้เหลือรูปร่างเค้าน้อยที่สุด (ท่าทางจะอร่อย)

    21. สมมติ ว่าเป็น “อาลาดินบอย” แล้วต้องเลือกระหว่าง “พรมวิเศษ” กับ “จินนี่ยักษ์ในตะเกียง” คิดว่าจะเลือกใคร
    ต้องเลือกอีกแล้วเหรอ ...งั้นขอเลือกเจ้าหญิงจัสมินได้มั้ย (หัวเราะ) กับ พรมวิเศษ จะได้ไปเที่ยวในที่ต่างๆ กับเจ้าหญิง

    22. อยากรู้ว่าหากต้องตัดสิ่งใดสิ่งหนึ่งบนใบหน้าทิ้ง คิดว่าจะตัดอะไรดี
    นึกไม่ออก เพราะดีไปทุกส่วน เอาเป็นว่า คิ้วแล้วกัน เพราะสามารถขึ้นมาใหม่ได้

    23. ถ้าหากตัวสูง 3 เมตร คิดว่าจะทำอาชีพอะไร
    ก็คงจะไปทำอาชีพเช็ดกระจกตึกมั่ง หรือไม่ก็ไปเล่นกีฬาบาสไปเลย

    24. ถ้าเป็นครู อยากสอนวิชาอะไร
    คงเป็นวิชา พละศึกษา เพราะเด็กได้ผ่อนคลายทำให้ไม่เครียดดี (นึกว่าจะสอนวิชา ดาราศาสตร์)

    สวัสดี!


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:38:39 น.  

     
    "บอย AF 2 และ ออฟ AF 1 "
    >> "เปรียว" ปักษ์หลังเดือนมิถุนายน

    สองหนุ่มแห่งบ้าน AF 1 และ AF 2 ที่เรียกเสียงกรี๊ดสนั่นหวั่นไหวจากสาวน้อย (และสาวใหญ่) ทุกครั้งที่ขึ้นเวทีคอนเสิร์ตจนฮอลล์แทบแตก คงหนีไม่พ้น น้องออฟ ปองศักดิ์ รัตนพงษ์ หรือที่เคยเรียกกันติดปากว่า "ออฟ V6" หรือจะเป็น "ออฟ V Friends" ก็แล้วแต่และอีกคน คือ หนุ่มบอย พิษณุ นิ่มสกุล หรือ Boy to Play (โปรโมทเทปนิดนึง) นั่นเอง

    หลายคนบอกว่า สองคนนี้สูสีกันในหลายๆเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นหน้าตา การแสดงบนเวที ความมีเสน่ห์ หรือแม้แต่ความฮา เอาอย่างนี้แล้วกัน เราให้คุณตัดสินใจเองดีกว่า

    ถาม - คอนเสิร์ตที่ผ่านมาเป็นอย่างไรบ้าง
    ออฟ - "สุดยอดฮะ"
    บอย - "ครับ สนุกมาก เพราะว่าได้เจอกันทั้ง 23 คนเลย แล้วแบบ...วุ่นวายไปหมด มันเยอะไงฮะ"

    ถาม - พูดถึงโชว์ของแต่ละคน
    ออฟ - "อ๋อ ของออฟดีกว่าอยู่แล้วฮะ (หัวเราะ) ไม่ช่ายยย..."
    บอย - " โชว์ของออฟเขาเพอร์เฟ็กต์อยู่แล้ว"
    พูดไม่ทันจบ น้องออฟรีบขัดขึ้นมาทันที่ "เขาให้พูดทับกัน"
    ได้ที บอยของเราเมาท์ทันทีว่า "หูย โชว์ห่วย ห่วยมาก อะไรก็ไม่รู้ ออกมาร้องไห้ โอ๊ย อะไรน่ะ" ตามมาด้วยเสียงคิกคักชอบใจ
    ออฟ - "ก็คือเพลง จากคนรักเก่า น่ะฮะ พอร้องแล้วก็อินไปกับเพลง อะไรอย่างงี้ คือ เราปล่อยอารมณ์ตามเพลงไป ก็ร้องไห้ออกมา "
    บอย - "มีประวัติหรือเปล่าอ่ะ" บอยแอบแซว
    ออฟ - "อ้าว...ยุ่งทุกเรื่องเลยนี่"
    บอยเลยสวนกลับทันทีว่า "ก็เขาให้พูดทับกัน"
    ออฟนึกขึ้นได้ "อ้าว เหรอๆ (หัวเราะ) ไม่มี ไม่มีประวัติ"

    ถาม - แล้วโชว์ของบอยล่ะ
    บอย - "ของผมก็สนุกดี (มีเสียงออฟ "แหวะ" อยู่ข้างๆ) ก็คือใช้เพลงอัลบั้มขึ้นไปเล่น ถือว่าได้เปิดตัว แล้วคนก็เยอะดี"
    ออฟรีบถาม "เพลงอะไรอ่ะ"
    บอย - "จักรยานสีแดง"
    ออฟ - "อือ (หัวเราะ) ไม่ใช่! จักรยานแห่งรัก"
    บอย - "เฮ้ย จักรวาล"
    ออฟเลยร้องอ๋อ

    ถาม - แล้วบอยมองโชว์ของออฟเป็นยังไง
    บอย - "ดีครับ คือออฟเค้าร้องเพลงเพราะอยู่แล้ว (เสียงออฟแว่วมาว่า "ใช่ครับ") ไม่ได้เห็นออฟร้องเพลงบนเวทีใหญ่ๆอย่างนี้มานานแล้ว ที่เคยดูเค้าบนเวที เขาร้องเพราะมาก แล้วก็แบบว่าอินไปกับเพลง คือ มีความสุขที่ได้ดู พอมาเห็นอีกทีก็...อืม"
    ออฟ - "ไม่น่าเลย"
    บอย - "ฮะ ไม่น่าเลย" ได้ทีบอยเอาคืนบ้าง หัวเราะร่วนเชียว
    ออฟ - "อย่างออฟมองพี่บอย คือ เขาเป็นเอนเตอร์เทนเนอร์อยู่แล้ว ไม่ได้มองว่าเขาเป็นนักร้องที่เก่งอะไรมากมาย แต่ว่าเขามีเสน่ห์
    เพราะความเก่งมันสามารถพัฒนาหริอฝึกกันได้ แล้วโชว์ของพี่บอยที่ประทับใจ คือเพลงอยากบอกเธอเหลือเกิน ออฟรู้สึกว่ามันเพราะมากๆ"

    ถาม - แล้วที่เขาบอกว่าเราสองคนหล่อไม่แพ้กัน
    ออฟ - "อ๋อ ออฟหล่อกว่าอยู่แล้ว พี่บอยก็...พื้นๆ"
    บอย - "ออฟก็เฉยๆ พื้นๆ เขาได้เสียงดีไง ถ้าเสียงไม่ดีอย่ามาสูสีกัน"
    ออฟ - "แต่ออฟสูงกว่าครับ แค่นี้แหล่ะ"
    บอย - "ก็จัดรายการอยู่ชั้น 38 แน่ะ ไม่สูงกว่าได้ไง"
    ฮ่าๆๆ ทำเอาคนถามงงว่าเกี่ยวกันตรงไหน

    ถาม - เทียบตัวเองตอนอยู่ในบ้านกับออฟ
    บอย - "อูย...ผมแรดไม่ถึงออฟ (ตามมาด้วยเสียงเฮมากมาย) โห ออฟเนี่ยแบบสุดๆ เลยจริงๆ แต่ก็สนุกดี เวลาดูก็เพลินๆดีฮะ
    ตอน AF 1 ก็เชียร์พี่วิทย์กะพี่ออฟสองคน"

    ถาม - แล้วออฟเชียร์บอยหรือเปล่า
    ออฟ - "ไม่เชียร์อ้ะฮะ" (ออฟทำหน้าตายมากๆ)
    บอย - "มันไม่เคยเชียร์ผมหรอก เพราะตอน check ในเนต ไม่มีผมเข้ามาในรายชื่อเลย (หัวเราะ) ไอ้คนนี้ได้เข้ารอบแน่นอน
    มองข้ามผมไปเลย"
    ออฟ - "ก็จริงๆรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องได้"
    ไม่ทันไร บอยก็เก็บอาการไม่อยู่ "โอ้...ถุย"
    น้องออฟทำท่ารับทันทีแบบรู้กัน
    "จริงๆออฟรู้อยู่แล้วว่าเขาต้องได้ หนึ่งคือคนภายนอกจะชอบคนลักษณะแบบนี้ น่ารักๆ เอนเตอร์เทนๆ อะไรอย่างนี้"

    ถาม - ออกมาจากบ้านมีงานอะไรกันบ้าง
    ออฟ - "โอ๊ย เยอะแยะ" แล้วคิดว่าของใครเยอะกว่ากัน
    "โห มันก้อแน่...พี่บอยอยู่แล้ว" เล่นเอาทุกคนฮากันครืน

    ถาม - แล้วบอยจะมีหนังเหมือนของออฟบ้างหรือเปล่า
    บอย - "ยังไม่มีครับตอนนี้"
    ออฟรีบบอก "ก็มันไม่ดังน่ะ...อืม" (หัวเราะ)

    ถาม - แนะนำเรื่องงานกันไหม
    ออฟ - "ไม่ยุ่งกันอยู่แล้ว"
    บอย - "คือ จริงๆไม่ค่อยจะได้เจอกันมากกว่า
    (ออฟแทรกสุดฤทธิ์ "ไม่ยุ่งกันจริงๆฮะ")
    เฮ้ย...เพิ่งมาเจอกันในคอนเสิร์ตเนี่ย ตั้งแต่ออกจากบ้านต่างคนก็ต่างทำงาน AF 2 ก็มีงานของเขาไป AF 1 ก็ไปอยู่ในที่ของเขา อยู่ในที่ที่ควรอยู่" (หัวเราะ)
    ออฟ - "อาจจะเป็นงานของแต่ละคนซึ่งมีเต็มทุกวัน จริงๆแล้วอยากเจอกัน"
    พูดจบ ออฟก็หันไป "แหวะ" รอบสอง

    ถาม - มอง AF 2 เป็นยังไง
    บอย - "โอ๊ย รุ่นหนึ่งเค้าเจ๋งกันอยู่แล้ว มีพลัง
    (ออฟรีบสะกิดทันที "เค้าให้คุยทับกัน")
    อ้าวเหรอ ..อุ๊ย ห่วยๆ อะไรก็ไม่รู้ รู้สึกว่าเราจะหลุดคอนเซ็ปต์บ่อย"
    บอยพูดไปหัวเราะไปที่เผลอชมกันเองทุกที
    "คือ ยังไงดี เขาก็เจ๋งนะ แต่เราก็เจ๋งในแบบของเรา แบบน่ารักๆ"

    ถาม - จุดเด่นของออฟ คือ
    ออฟ - "ออฟว่า..."
    บอย - "เรอเหม็นกับตดเหม็น"
    ออฟหัวเราะร่วน แต่ก็ไม่ยอมโดนอยู่ฝ่ายเดียว
    "จ้า...โถ พี่บอยไม่ตดเลย"
    สุดท้ายพี่บอยของน้องออฟยังไม่วายตอบแบบข้างๆคูๆ
    " ผม...ไม่เหม็นครับ"


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:39:11 น.  

     
    >> ภาพยนตร์บันเทิง July 2006

    1. คำถามไหนที่บอยไม่อยากตอบเลย
    บอย เป็นแฟนกับคนนั้นคนนี้หรือเปล่า โดนถามบ่อยจนไม่อยากจะตอบแล้วเพราะไม่รู้จะตอบยังไง

    2. อารมณ์ไหนที่บอยต้องการความเป็นส่วนตัวสุดๆ
    บอย เวลานอนไม่อยากให้ใครกวน ไม่อยากให้โทรมาหา

    3. คำพูดไหนที่แทงใจดำบอย
    บอย เรื่องความอ้วน เพราะตอนนี้พุงเริ่มปลิ้นแล้ว

    4. คำอุทานของบอยเวลาโมโห
    บอย ไอ้ส้าด

    5. เพลงที่บอยชอบร้องฮัมบ่อยๆ
    บอย ช่วงนี้คงเป็นเพลงอยาบอกเธอเหลือเกิน

    6. ถ้ามีสาวที่รู้จักมาบอกรักบอยจะทำยังไง
    บอย ผมก็จะกระหยิ่มยิ้มย่องครับ รู้สึกเขินนิดๆ

    7. รองเท้าคู่โปรดของบอย
    บอย ผมมีรองเท้าคู่โปรดหลายคู่และเปลี่ยนบ่อยมากแต่ตอนนี้ที่ใส่บ่อยคือไทเกอร์


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:39:36 น.  

     
    >> ดาราเดลี่ 8/7/49

    เพิ่งจะเสร็จจากภารกิจคอนเสิร์ต ทูบีนัมเบอร์วัน ตอน นักล่าฝัน มาหมาดๆ ทำเอาหนุ่มบอย พิษณุ นิ่มสกุล แห่ง เอเอฟ 2 ถึงกับเป็นปลื้มเอามากๆ แถมละครและอัลบั้มเดี่ยวเรทติ้งพุ่งปรี๊ดซะขนาดนั้น ฮอตขนาดนี้ อินไซด์ใจเธอ เลยคว้าหนุ่มคนนี้มาล้วงลึกฝากแฟนคลับกันซะหน่อย

    เวลาท้อกับข่าวกำลังใจมาจากไหน
    "ก็มีหมดกำลังใจบ้างครับ แต่ไม่เคยท้อ เพราะเตรียมตัวและทำใจมาตั้งแต่ตอนที่อยู่ในบ้านอะคาเดมี่แล้ว ถ้าหมดกำลังใจสิ่งแรกที่นึกถึงเลยคือคุณแม่ครับ เวลาเหนื่อยหรือท้อแท้ถ้าได้คุยหรือปรึกษากับท่านจะทำให้เราสบายใจขึ้น พูดตรงๆก็เหมือนกับท่านเป็นที่ปรึกษา พอเราได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นกับท่าน ก็ทำให้เรามีกำลังใจฮึดสู้ขึ้นมาอีกครั้ง ท่านจะคอยสอนคอยเตือนเราว่าในเมื่อเราเลือกที่จะตามหาฝัน และเราได้สิ่งนั้นมาแล้วก็ต้องยอมรับมันให้ได้ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น"

    ตอนนี้มีชื่อเสียงแล้วเปลี่ยนไปไหม
    "ก็มีกระแสมาจากแฟนคลับเหมือนกัน ซึ่งอยากจะบอกเลยว่าจริงๆแล้วคงเป็นเรื่องเข้าใจผิดกันมากกว่า ซึ่งจริงๆแล้วบอยก็ไม่คิดเลยว่าตัวเองเป็นคนดังหรือมีชื่อเสียง ก่อนเข้าวงการเป็นยังไงตอนนี้ก็ยังเหมือนเดิมไม่เคยเปลี่ยน โดยเฉพาะเรื่องแฟนคลับบอยยังเหมือนเดิม เพราะทุกวันนี้ถ้าไม่มีพวกเขาก็คงไม่มีบอย เค้าเปรียบเสมือนผู้มีพระคุณกับเรา เป็นเหมือนทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิต บอยอยากจะบอกว่าบอยรักทุกคนครับ"

    อนาคตวางแผนยังไงบ้าง
    "อยากอยู่ในวงการนี้นานๆด้วยความสามารถของตัวเอง ไม่ใช่เพราะกระแส อยากจะทำทุกสิ่งทุกอย่างให้ครอบครัวมีความสุขเท่าที่จะทำได้ อยากให้ผลงานทุกอย่างของบอยออกมาถูกใจแฟนๆ ถ้ามีโอกาสอยากจะลองทำงานหลายๆด้าน ไม่ว่าจะเป็นพิธีกร วีเจ ส่วนทางด้านความรักยังไม่รีบร้อน ตอนนี้อยากจะเก็บเงินสร้างฐานะให้มั่นคงก่อน ถ้ามีเวลาก็อยากจะไปศึกษาต่อให้จบปริญญาตรี"


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:39:59 น.  

     
    50 คำถามกับ "บอย"
    >> เธอกับฉัน August 2006

    นายบอย Af2 ฉายา "ไอ้ขี้มูก" ของเพื่อนๆ

    โด่งดังจากบ้าน AF2 แถมยังมีงานละครต่อเนื่องอย่าง "รักหรรษาคาราโอเกะ" ให้บรรดาแม่ยกได้เชียร์กันอีกยาว ฉบับบนี้ของเอาใจบรรดาแฟนคลับของ "นายบอย พิษณุ นิ่มสกุล" สักหน่อย ไปคุยสนุกๆกับ"50 คำถาม"ของเขากันเลย

    1. ที่มาของชื่อและความหมาย
    เมื่อก่อนชื่อ”วสันต์” แปลว่า”ฤดูฝน” ครับ แล้วก็มาเปลี่ยนตอนอายุ 24-25 เนี่ย ไปดูหมอแล้วเขาก็ให้ชื่อ “วิษณุ” มา แล้วทีนี้เขตเขาไม่ให้ผ่าน แต่มีชื่อใกล้เคียงคือ “พิษณุ” ซึ่งความหมายจำไม่ได้อ่ะ

    2. สถานทีเกิด
    โรงพยาบาลนครเชียงใหม่

    3. พี่น้อง
    เป็นลูกคนเดียวครับ

    4. ฉายาขำๆที่เพื่อนตั้งให้
    ตอนประถมก็มี "ไอ้ขี้มูก” เพราะตอนนั้นขี้มูกเกรอะกรังมาก

    5. งานอดิเรก
    ดูต้นไม้ ปลูกต้นไม้ เป็นคนชอบไม้ใบมากกว่าไม้ดอก ไม้ดอกไม่ค่อยเห็นดอกหรอก มันจะตายก่อน ก็เลยชอบไม้ใบมากกว่า มันเขียวๆดี แล้วก็เดินเล่น เดินช็อปปิ้ง

    6. น้ำหอมกลิ่นโปรด
    Davidoff ครับ

    7. สถานที่ช็อปปิ้ง
    ก็คงเป็นสยามฯ แล้วก็เซ็นทรัล ชิดลม

    8. รถยนต์ที่ใช้
    Toyota Altis สีดำ ใช้มา 3 ปีกว่าแล้วครับ

    9. สถานที่พักผ่อนหย่อนใจ
    พัทยา ผมชอบไปทะเลครับ ไปค่อนข้างบ่อย ไปทีก็ 1-2 วันอ่ะครับ

    10. โรงภาพยนตร์ที่ไปดูบ่อยๆ
    เมเจอร์ รัชโยธิน มั้งครับ ใกล้บ้านดีอ่ะ

    11. โรงพยาบาล
    พญาไท 1 ครับ ผมไปหาหมอไม่ค่อยบ่อยนะ จะเป็นคนที่เวลาไม่สบายก็จะกินยาเอา ถ้าเป็นแบบหนักๆ ค่อยเข้าโรงพยาบาล

    12. ร้านตัดผม
    Toni &Guy สยามดิสคัฟเวอรี่ครับ

    13. เครื่องดื่ม
    ผมชอบกาแฟเย็นครับ ทุกวันนี้อยู่ได้ด้วยกาแฟ นอนน้อยไง ก็ต้องใช้กาแฟช่วย(หัวเราะ)

    14. ร้านอาหารที่ไปบ่อยๆ
    “บ้านน้ำเคียงดิน” ชอบทานขาหมูเยอรมัน ไส้กรอกอะไรอย่างเนี้ยครับ

    15. 3 คำที่บ่งบอกความเป็นบอย
    ยิ้มง่าย พูดมาก ร่าเริง

    16. สไตล์การแต่งตัว
    กางเกงยีนส์ เสื้อยีด รองเท้าผ้าใบสวยๆ สักกคู่นึง แค่นี้อยู่แล้ว

    17. เว็บไซต์ที่เข้าไปบ่อย
    มีอยู่ 4-5 เว็บครับ ก็มี theboystergang.com แล้วก็มี theboyster.com แล้วก็มี aof-boy.com แล้วก็จะมี pissanu.com ครับ แล้วก็มี pantip.com ครับ จะเข้าไปดู เข้าไปคุยกับแฟนคลับ

    18. ของสะสม
    ตุ๊กตาหุ่นทหารมั้งครับ เพิ่งเริ่มสะสม มีสิบกว่าตัวเองครับ แล้วก็ CD หนัง มีเป็นร้อยแผ่นครับ หมวกแก๊ปก็มีเกือบร้อยใบ

    19. เปิดกระเป๋าแล้วเจออะไรบ้าง
    เจอเกม PSP แล้วก็เจอขยะเต็มไปหมด (หัวเราะ) ลูกอม ยาแกปวดหัวบ้าง ภูมิแพ้บ้าง แค่นั้นแหละ

    20. เวลาเหงาๆมักจะทำอะไร
    ถ้ามีเวลาก็คงไปเที่ยวทะเลแหละ ชอบไปทะเลมาก แต่ไม่ชอบตัวดำ ไม่ชอบเล่นน้ำทะเลเท่าไร ชอบไปนั่งชมบรรยากาศ แล้วก็ถ่ายรูปเล่น

    21. หนังแนวที่ชอบ
    แอ็คชั่นก็ชอบ ชอบโรแมนติกด้วย อย่างหนังเรื่องโรแมนติกก็คงเป็น Nothing Hill มั้งครับ

    22. แนวเพลงที่ชอบ
    ทั่วไปฟังได้ทุกแนว เพลง Pop Rock เพลง Rock ฟังได้หมด

    23. เครื่องประดับติดตัว
    แหวนที่นิ้วโป้ง นาฬิกา แล้วก็สร้อยคอ

    24. แวบแรกเวลามองผู้หญิง
    ถ้าแค่มองก็คงเป็นความน่ารัก สวยอะไรอย่างเนี้ย ดูดี บุคลิกภาพโดยรวม

    25. หญิงเดียวในดวงใจ
    คุณแม่ครับ แม่เขาเก่ง ดูแลผมมาจนถึงทุกวันนี้ เขามีความรักให้เราตลอดเลย ถ้าถามถึงผู้หญิงคนไหน ก็คงสู้แม่เราไม่ได้สักคน

    26. ความสามารถพิเศษ
    ทำเสียงเป็ดได้นิดหน่อย ทำมานานแล้วฝึกจากเพื่อน เห็นมันขำๆ ดี เลยลองทำตามดู

    27. อาหารจานโปรด
    น้ำพริกทั่วไปอะไรก็ได้ครับ ชอบทานกับน้ำพริกปลาทูอะไรอย่างเนี้ยครับ ต้องแม่ทำให้ทานครับอร่อยมาก

    28. ของที่เห็นแล้วต้องซื้อ
    เป็นคนชอบรองเท้ามากครับ รองเท้าผ้าใบแฟชั่นทั่วไป

    29. สัตว์ที่ชอบ
    ปลากับหมาครับ เลี้ยงปลาคาร์ฟ ปอมปาดัว ปลาทองหัววุ้น มีเยอะเหมือนกัน 20-30 ตัว หมามี 2 ตัว พันธุ์ปักกิ่ง ชื่อ "ปั๊ก ปั๊ก" ส่วนไซบีเรียนฮักกี้ ชื่อ "V8"

    30. สิ่งที่เห็นแล้วต้องยี้
    สัตว์เลื้อยคลานทั่วไป ตุ๊กแก งู อะไรอย่างเนี้ย

    31. โรคประจำตัว
    ภูมิแพ้ครับ อากาศเปลี่ยน แพ้ฝุ่น แพ้ที่อับๆ

    32. โรงเรียนตั้งแต่อดีตถึงปัจจุบัน
    เรียนโรงเรียนอนุบาลแม่ฮ่องสอนตั้งแต่อนุบาล-ป.2 แล้วมาเรียนบ้านบางกะปิ ป.3-ป.6 แล้วก็ไปโรงเรียนสาธิตมหาวิทยาลัยรามคำแหง ม.1-ม.3 วิทยาลัยเขตเทคนิคกรุงเทพ ปวช.1-ปวช.3 และก็ค่อยมาอยู่มหาวิทยาลัยราชภัฎจันทรเกษม แต่ตอนนี้ยังไม่จบ

    33. คำพูดที่เราได้ยินแล้วรู้สึกดี
    คำพูดป็นห่วง แล้วก็ให้กำลังใจเราอย่างเนี้ยครับ

    34. ประเทศที่อยากไป
    อยากไปเยอะแยะมากมายเลย รอบโลกยิ่งดี อยากไปญี่ปุ่น ทิเบต อยากไปอเมริกา ยุโรป

    35. เวลานอนต้องกอด
    กอดหมอนข้างหรือหมอนอะไรก็ได้ ก็ยังไม่มี่ใครให้กอดต้องกอดหมอนข้าง ไม่ติดหมอนแต่กอดก็หลับเร็วหน่อย

    36. ชุดที่ใส่นอน
    เสื้อยืด กางเกงขาสั้นทั่วไป

    37. เวลานอนไม่หลับจะทำยังไง
    สวดมนต์ครับ น่าจะช่วยได้

    38. กิจกรรมที่ทำบนเตียง
    ไหว้พระ สวดมนต์ครับ

    39. อย่างแรกที่ทำเมื่อกลับถึงบ้าน
    เปิดประตูบ้านมั้งครับ (หัวเราะ) ไม่ใช่ สวัสดีพ่อ แม่ครับ

    40. ตอนเด็กๆ กลัวอะไรที่สุด
    กลัวผีครับ เพราะโดนขู่ โดนหลอกว่าผีมีจริง

    41. เห่อที่สุด
    เห่อบ้านใหม่ครับ เนื้อที่ 70 ตร.ว เป็นบ้าน 2 ชั้น แถวพระราม 5 เพิ่งสร้างเพิ่งปลูกครับ ก็จะเห่อหน่อยกลับบ้านเร็ว มีเวลาก็อยู่บ้านทำโน่นทำนี่ที่บ้าน

    42. นิสัยแย่ๆที่แก้ไม่ได้
    เป็นคนคิดมาก แต่ตอนนี้เริ่มดีขึ้น เริ่มปลงอะไรได้แล้ว ก็จะไม่ยอมคิดมัน แต่ก็ยังไม่ขาดซะที

    43. เมื่อตื่นเต้นสุดๆ จะ...
    เข้าห้องน้ำ ฉี่มั้งครับ

    44. คำถามแบบไหนที่ไม่อยากตอบ
    จริงๆก็ตอบได้แหละ แต่ถามว่าเป็นเกย์หรือเปล่าไม่อยากตอบ ดูเอาเองก็แล้วกันขี้เกียจตอบ ถามเยอะเหลือเกิน

    45. Idol ในดวงใจ
    "พี่เจ เจตริน" กับ "ร็อบบี้ วิลเลี่ยม" พี่เจเนี่ยผมเคยดูเขาตั้งแต่แรกๆ เขาเก่งดี ดนตรีก็ฟังเพราะ อาจจะเพราะแนวเราด้วยเราเลยชอบเขาตั้งแต่แรก ส่วน "ร็อบบี้ วิลเลี่ยม" ผมชอบที่เขาเท่ ความที่เขาเป็นศิลปินมีสูง มีเปิดก้นกลางคอนเสิร์ตบ้าง ฮาดีชอบ

    46. อยากทำอะไรในอนาคต
    อยากมีธุรกิจส่วนตัว เปิดสปาอะไรก็ได้ ที่เป็นธุรกิจของเราเอง และเราเป็นคนดูแล

    47. ผู้หญิงในสเป็ค
    ดูดีครับ ไม่จำเป็นต้องสวยมาก ขอให้รักเราและก็รักความที่เป็นเรา ก็ต้องเป็นแม่บ้านแม่เรือนพอสมควร ชอบหมวยๆ หน่อย

    48. ผู้หญิงแบบนี้หนีให้ห่าง
    ผู้หญิงปากร้าย ปากจัด ไม่ชอบครับ เราปากจัดอยู่แล้ว ไปเจอผู้หญิงปากจัดอีกคงบันเทิงเริงใจจริงๆ

    49. วิธีจีบผู้หญิง สไตล์บอย
    คุยแบบให้ความสนใจ เข้าไปทำความรู้จัก ชวนไปทานข้าว ไปดูหนัง ผมก็อาจจะรู้สึกชอบแล้วก็คงจีบ

    50. รักครั้งแรก
    รักครั้งแรกของผมตอนอายุ 17 ก็ดีครับ เค้าเป็นผู้หญิงคนนึงเรียนอยู่คนละโรงเรียน รู้สึกว่าเราชอบเขา แล้วเขาก็ชอบเราด้วย คบมา 4 ปีแล้วก็เลิกกันไป เพราะผมมีคนใหม่ (หัวเราะ) แต่ตอนนี้ก็เป็นเพื่อนที่ดีต่อกัน คงไม่มีอะไรที่จะทำให้เราไม่คุยกัน


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:40:22 น.  

     
    X-RAY

    แผลเป็น......... มีตามตัวครับเต็มไปหมด แผลที่แก้มขวาโดนเล็บเพื่อนตอนอนุบาล 2 ทะเลาะกับเพื่อนผู้ชายแล้วเพื่อนข่วนเอา
    สายตา.............ปกติ
    ผม.................. สีดำ
    จุดเด่น............ คิ้วเข้ม เรียวๆเป็นทรงดี
    ส่วนที่ไม่ชอบในร่างกาย... ขาเล็กไปไม่สมส่วน
    ถ้าเพิ่มอวัยวะได้ 1 อย่าง... อยากเพิ่มตาที่ 3 บนหน้าผากจะได้เห็นเยอะๆ
    ส่วนสูง......... ...175 ซม.
    หนัก................ 70 อ้วนขึ้นมา 3 โล ขึ้นๆ ลงๆ อยู่อย่างเนี้ย เบื่อ
    รอบเอว........ ...33 นิ้ว
    เบอร์รองเท้า... .43-44

    คนบันเทิงบอกรัก"แม่"
    12 สิงหาคม ของทุกปี ถือเป็น "วันแม่แห่งชาติ...
    >> แนวหน้า 12/8/49

    "บอย-พิษณุ นิ่มสกุล"
    "ทุกคนที่ได้อยู่กับแม่ถือว่าโชคดีที่สุดแล้วครับ เพราะไม่ว่าเราจะผ่านเหตุการณ์อะไรมาท่าน จะให้กำลังใจเราตลอด สำหรับใครที่ต้องห่างท่านไม่ว่าจะด้วยหน้าที่การงาน หรือความจำเป็นอื่น ๆ ก็อยากให้ระลึกถึงท่านเสมอ สำหรับวันแม่บอยก็อยากจะชวนทุกคนที่ไม่เคยบอกรักคุณแม่เลย ให้ ใช้โอกาสนี้เป็นโอกาสแรกที่จะแสดงความรักกับคุณแม่ครับ"

    " พิษณุ นิ่มสกุล เผยธาตุแท้ตัวตน "
    >> TV Gossip ปักษ์หลัง สิงหาคม 2549

    แม้จะไม่ได้คว้ารางวัลที่หนึ่งบนเวที อะคาเดมี่ แฟนเทเวีย ปี 2 มาครอบครอง แต่หนุ่มอารมณ์ดี บอย - พิษณุ นิ่มสกุล ก้อสามารถเข้าไปนั่งอยู่ในใจแฟนเพลงเกือบทั่วประเทศ ด้วยน้ำเสียงอันเป็นเอกลักษณ์และบุคลิกที่น่ารักน่าชัง ทำให้เขากลายเป็นนักร้องหนุ่มอนาคตไกล พร้อมกับเส้นทางของการเป็นนักแสดงในฐานะ พระเอกละคร
    ที่ใครหลายๆคนแอบเผลอยิ้มยามที่เขาโลดแล่นอยู่บนหน้าจอทีวี

    บอยไม่เคยคิดฝันว่าวันหนึ่งจะก้าวไกลมาถึงจุดนี้ เขามองแค่ว่าชอบการร้องเพลงเป็นชีวิตจิตใจ ในเมื่อมีโอกาสเขาจึงไม่รอช้า รีบสร้างฝันจนประสบความสำเร็จในอาชีพนักร้องมีอัลบั้มเดี่ยวและกลุ่ม ในเวลาที่ไล่เลี่ยกัน แต่สำหรับการเป็นกระเอกนั้น ถือเป็นความชอบอีกด้าน ซึ่งเขาคิดว่าจะต้องทำให้ได้ และทำให้ดีซะด้วย

    " ถึงผมจะไม่เคยผ่านงานแสดงมาก่อน แต่ผมรู้สึกว่า ถ้าเราชอบอะไรแล้วและทำมันให้ดีที่สุด มันก้อน่าจะออกมาดีนะ อีกอย่างหนึ่ง ผมได้เพื่อนร่วมงานที่ดีด้วย อย่างนักแสดงด้วยกัน เขาก้อจะคอยช่วยเหลือผม ซึ่งผลงานที่ผ่านมา อย่างละครเรื่อง เพื่อนรักนักล่าฝัน ทางช่อง 7 หรือ รักหรรษาคาราโอเกะ ทางไอทีวี ฟีดแบ็คที่กลับมาดีมาก ดีจนผมรู้สึกชื่นใจ โดยเฉพาะ รักหรรษาคาราโอเกะ ซึ่งเขาวางไว้ 48 ตอนจบ แต่ถึคงวันนี้เขาขยายตอนไปถึง 60 ตอนจบ มันทำให้ผมรู้สึกว่า เออ...เราก้อสามารถทำได้ และคนก้อชอบงานของเราด้วย"

    ถึงจะได้รับการตอบรับดีแค่ไหน แต่วลีหนึ่งที่เขานึกถึง Nobody Perfect ไม่มีใครพร้อมไปซะทุกอย่าง ซึ่งตัวเขาเองก้อเป็นอย่างนั้นเช่นกัน

    " ผมไม่ได้ชมตัวเองว่าเล่นเก่ง หรือดีอะไรนะครับ คำชมที่ผมได้รับ คือ เล่นได้เป็นธรรมชาติ แต่ข้อเสียก้อมีเหมือนกัน คือ ผมชอบขมวดคิ้ว ซึ่งเป็นสิ่งที่ผมต้องแก้ไขให้ได้
    เพราะถึงวันนี้ผมก้อรู้สึกว่าชอบการแสดงมากๆ อยากได้ลองทำอะไรใหม่ๆ หรือแก้โจทย์ที่เขาให้มา แต่ถ้าถามว่า ระหว่างการร้องเพลงกับงานแสดง อะไรเป็นตัวตนของผมมากที่สุด ผมคงตอบว่าการร้องเพลงนะ แต่สำหรับการแสดง มันก้อเป็นอีกแขนงหนึ่งซึ่งผมก้อสามารถทำมันให้ได้ดี และน่าจะเดินควบคู่ไปด้วยกันได้ แล้วผมก้อมีบทที่ผมอยากเล่นมากที่สุด คือ โรแมนติกดราม่า รู้สึกว่าอยากเล่นอะไรที่มันใช้อารมณ์หวานๆ โรแมนติกหน่อยๆ มันคงจะซึ้งดี แต่ผมจะไม่ค่อยชอบประเภทโรแมนติกคอเมดี้นะ"

    พูดแบบนี้ ทำให้เรารู้สึกว่า เส้นทางการเป็นพระเอกของเขายังอีกไกลแน่ๆ แต่เขากลับบอกว่า

    " ไกลหรือเปล่า มันขึ้นอยู่กับหลายๆ อย่างนะ ทั้งผู้ใหญ่, ผู้จัดฯ ที่เขาเห็นความสามารถของเรา ที่สำคัญคนดูด้วยครับว่า เขาจะตอบรับงานแสดงของเราแค่ไหน
    เราเล่นโดนใจเขาหรือเปล่า เพราะผมไม่สามารถบอกได้ว่า ตัวเองจะไปอยู่ถึงจุดไหน ต้องให้คนเหล่านี้เป็นคนตัดสินมากกว่า แต่สำหรับผม เวลาทำอะไร ผมก้อทำเต็มที่อยู่แล้วครับ"


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:40:47 น.  

     
    IN PERSON - พิษณุ นิ่มสกุล ความฮิตต่อเนื่องของสมาชิกบ้าน AF
    >> IMAGE - Sep 2006

    บรรดาแฟนคลับจัดกิจกรรมอะไรให้ในวันเกิดหรือเปล่า

    ใช่ครับ (ยิ้มกว้าง) เซอร์ไพรส์ครับ แฟนคลับเยอะมากเลยครับ ประมาณสอง-สามร้อยคนได้ เขาได้รับจดหมายลับสุดยอดเรื่องที่จะจัดงานวันเกิดให้กับผม ซึ่งทุกคนรู้ล่วงหน้าเป็นเดือน ส่วนผมไม่รู้อยู่คนเดียว พอถึงวันเกิด วันนั้นเผอิญผมมีงานอยู่สามงาน ถ่ายละครเสร็จ (รักหรรษา คาราโอเกะ) ก็มีงานต่อที่เซ็นทรัลเวิลด์ หลังจากนั้นก็มีอีกงานที่ Reflection ซึ่งก็เป็นงานปกติ


    แล้วพี่คนดูแลคิวงานก็บอกว่า ยังมีอีกงานหนึ่งเขาจ้างไปร้อง backing track ได้เงินแปดหมื่น เขาถามว่าจะไปหรือเปล่า แต่ก็บอกเหมือนกันว่า วันนี้วันเกิดอยากให้ผมพักบ้าง แต่ผมก็บอกพี่เขาว่า ทำสิ เงินน่ะเอาสิ วันเกิดจะพักเมื่อไหร่ก็ได้ ดีใจ งานชั่วโมงเดียวจ้างตั้งแปดหมื่น ก็รีบ พอไปถึงสถานที่ก็เจอเหมือนฉากในหนังเลย เปิดประตูเข้าไป มีเค้กวันเกิดสามชั้น แล้วมีแฟนคลับยืนล้อมรอบเค้กอยู่สอง-สามร้อยคน มันทำให้ผมรู้สึกเซอร์ไพรส์มาก ดีใจน่ะครับ


    และที่ดีใจมากกว่านั้นก็คือว่า ความจริงแฟนคลับของผมก็มีอยู่หลายกลุ่มน่ะครับ อยู่กันคนละที่ละทาง แต่ในวันเกิดของผมพวกเขาสามารถมาอยู่รวมกันได้เป็นหนึ่งเดียว ผมรู้สึกดีใจและเซอร์ไพรส์มากที่ทุกคนทำเพื่อผม ดีใจสุดๆ จนน้ำตาไหลเลยครับ

    เพราะผมไม่คิดเหมือนกันว่าวันหนึ่งจะมีคนรักผม และทำเพื่อผมได้ขนาดนี้...


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:41:14 น.  

     
    โห่รับ! พระเอกหน้าใหม่ เพลย์ (บอย) อะคาเดมี่
    ข้อมูลโดย: นสพ.บันเทิงวันหยุด
    อัพเดท : 1 กุมภาพันธ์ 2549



    เป็นอีกหนึ่งหนุ่มฮอตแห่งบ้านอะคาเดมี่ 2 เลยทีเดียว สำหรับหนุ่มบอย-พิษณุ นิ่มสกุล หลังจากที่มีอัลบั้มร่วมกับเพื่อนๆ ไปแล้วก็กลายเป็นหนุ่มเนื้อหอม ทั้งโชว์ตัว คอนเสิร์ต ล่าสุด หนุ่มบอยก็ผันตัวเองไปเป็นพระเอกทีเดียวสองเรื่องรวด คือ "เพื่อนรักนักล่าฝัน" และ "รักหรรษาคาราโอเกะ" ที่ประกบคู่กับนางเอกสาว นาเดีย นิมิตรวานิช

    และข่าวคราวที่มาพร้อมกับความเนื้อหอมของหนุ่มบอย ก็คือฉายาเพลย์บอยตัวจริงนี่นะสิ เจอะเจอหนุ่มบอยในวันบวงสรวงละคร "รักหรรษาคาราโอเกะ" ทีมข่าวบันเทิงวันหยุดเลยถามให้หายสงสัยว่าเป็นอย่างไรกันแน่ หนุ่มบอยได้โอกาสเลยเปิดเผยกับเราอย่างหมดเปลือกว่า

    "ผมยอมรับนะว่าเมื่อก่อนเคยเจ้าชู้ แต่ย้ำว่าเป็นเมื่อก่อนนะ เดี๋ยวนี้โตขึ้นก็เริ่มรู้แล้ว เมื่อก่อนจะคุยได้หลายๆ คนในเวลาเดียวกัน แต่ถ้าคนไหนรู้สึกโอเคก็คุยเยอะหน่อย ตอนนี้ก็เหลือแค่คนเดียว ไปกินข้าว ดูหนัง คุยกันปกติ ยังต้องรอดูกันไปเรื่อยๆ ตอนนี้อยากทำงานก่อน ผมรู้สึกว่าถ้ามันเยอะเกินไปก็น่าเบื่อ จากประสบการณ์เวลาที่เรารักใครหลายๆ คน แต่พอถึงเวลาจริงๆ ก็ไม่มีใครรักเราสักคน ส่วนมากจะอกหักมากกว่าครับ เคยคิดว่า เออ! ถ้าเราจริงจังกับใคร เขาก็คงจริงจังกับเรา แต่ความจริงมันไม่ใช่อย่างนั้น"

    แต่เมื่อพูดถึงสาวที่ตกเป็นข่าวด้วย เจ้าตัวกลับออกอาการอดีตเพลย์บอยอกหัก เพราะสาวเจ้าจำกัดความสัมพันธ์ไว้ให้แค่พี่ชายเท่านั้น

    "กับคนนี้ก็แค่คุยกันไม่มีอะไร เขาเป็นเพื่อน คุยกันปรึกษากันได้ ก็ประทับใจเขาตรงที่เขาค่อนข้างที่จะมีความคิดเป็นผู้ใหญ่ แต่ติดที่ว่าเขาชอบผมแบบพี่ชายแค่นั้นเอง ตอนนี้ทำงานก็เลยไม่ค่อยคิดอะไร ไม่เหงา เพราะมีแฟนคลับอยู่ข้างๆ คอยให้กำลังใจ คนที่เข้ามาตอนนี้ก็มีแค่ในฐานะแฟนคลับ แฟนเพลง"

    สรุปใจความแล้ว สาวๆ แฟนคลับของนายบอยคงถอนหายใจโล่งอกไปตามๆ กัน ก็เจ้าตัวยืนยันแล้วนี่ว่าโสดสนิทจริงจริ๊ง... แถมยังเมาธ์ให้ฟังอย่างสนุกกับประสบการณ์ถูกลวนลามขณะที่กำลังเล่นคอนเสิร์ต ขณะที่เพื่อนๆ คนอื่นรอดพ้นเงื้อมมือมืดไปได้จนโดนเพื่อนๆ ในกลุ่มแซวไปนานเลยทีเดียว

    "ตอนนั้นไปทัวร์คอนเสิร์ตที่จังหวัดกำแพงเพชร ระบบความปลอดภัยวันนั้นไม่ค่อยดีเท่าไหร่ เขาเข้ามาจับน้องชายผม ผมก็งงนะ แล้วก็จุกจนหน้าเขียวเลย แต่ก็ไม่ได้โกรธนะเพราะมันงงมากกว่า แต่ที่ไปก็ไปกันหลายคน คนอื่นไม่เห็นโดน อย่างออฟเขาก็จะแค่โดนจับแก้ม อะไรแค่นั้น เพื่อนๆ ยังแซวเลยว่ ผมคงเป็นวัยเจริญพันธุ์มั้ง เลยอยู่ในกลุ่มเป้าหมาย"

    สงสัยคงต้องร้องเพลงนี้แล้วสิจ๊ะบอย..."จุกมากๆ ไม่รู้จะจุกจนถึงเมื่อไหร่!..."


    ** รับหน้าชื่นอกตรม...ผมเจ้าชู้ แต่ตอนนี้รักเดียวใจเดียว สำหรับหนุ่มบอย-พิษณุ ที่ตอนนี้กำลังเนื้อหอมสุดๆ


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:41:36 น.  

     
    "บอย AF2” ยอมรับแอบชอบ "หญิง-ฌัชชา"
    ข้อมูลโดย: นสพ.ข่าวสด



    "ถ้าถามเรื่องหญิง ผมก็บอกอย่างไม่อายเลยนะครับเมื่อก่อนผมชอบเขา เป็นเพื่อนร่วมชั้นเรียนเดียวกันที่โรงเรียนสาธิตรามฯ ผมแอบชอบเขาแต่ไม่ได้พูดออกไป" หนุ่ม "บอย"พิษณุ นิ่มสกุล 1 ใน 12 ผู้ประกวด อะคาเดมี่ แฟนเทเชีย 2 แจงข่าวแรกที่ว่าแอบชอบ "หญิง" ฌัชชา รุจินานนท์
    "มาเจอหญิงหลังจากที่ไม่ได้เจอกันมา 10 ปีแล้ว ได้มาเจอคนที่เราชอบ คือเขาเยี่ยมที่บ้านเอเอฟ เราก็รู้สึกดี ผมรู้สึกเขิน ซึ่งหญิงอาจจะไม่ได้คิดอะไรหรอกแต่ผมคิดไปเอง ซึ่งผมก็พูดกับเขาในบ้านตอนที่มีโอกาสอยู่กับเขาสองต่อสองก็พูดว่าชอบเขา จำบ้านของเธอได้นะ เคยกลับบ้านด้วยกัน เคยไปต่างจังหวัดด้วยกัน ซึ่งเขาอาจจะรู้ว่าผมชอบเขาแต่เขาอาจจะไม่ชอบผมหรอกครับ"

    จากนั้นก็แจกแจงข่าวที่พัวพันกับม่ายสาว "หมู"ภรผกา(พิมพ์ผกา) เสียงสมบุญว่า "หมูก็เป็นเพื่อนคนหนึ่งเจอกันก็คุยกัน สนิทกันอาจจะปรึกษากันอยู่พักหนึ่ง ถือเป็นเพื่อนสนิทมีอยู่ช่วงหนึ่งก็อาจจะมีการนัดกันไปกินข้าว ไปดูหนัง ก็ไม่มีอะไร ข่าวออกมาเยอะอาจจะเป็นเพราะ ทุกคนเห็นว่าเขามาเชียร์ผมก็อาจจะคิดว่ากุ๊กกิ๊กกันหรือเปล่า ผมก็เป็นห่วงหมูเหมือนกัน กลัวเขาจะโดนข่าวแรงๆ หรือบางทีอาจจะไม่แรงหรอกแต่ถ้าเป็นข่าวบ่อยๆ มันก็ไม่ดี"

    ส่วนข่าวที่ว่ากุ๊กกิ๊กกับ "อ๊อฟ" ศุภณัฐ เฉลิมชัยเจริญกิจ เพื่อนสมาชิกบ้านเอเอฟนั้น หนุ่มบอย บอกว่าความจริงเป็นข่าวกับผู้หญิงดีกว่าผู้ชาย แต่ตอนนี้ตนตกลงเป็นข่าวกับทั้ง 2 เพศ ทั้งชายและหญิง เป็นไส้เดือนไปแล้ว ก็ไม่สับสนอะไร เชื่อว่าตัวเองเริ่มมีชื่อเสียงเลยทำให้มีข่าวออกมามากมาย กับอ๊อฟเขาจะเข้าใจ เขาจะรู้ว่าเราสองคนเป็นเพื่อนกันเป็นพี่น้องกัน

    วางสเปคไว้มั้ยว่าต้องเป็นยังไง "ไม่ได้ดูใครเลยผมอยากทำงานก่อน ยังไม่พร้อมที่จะรักใคร แต่ถ้ามีเข้ามาก็ดีทำให้เรากระชุ่มกระชวยเป็นธรรมดา ผมไม่ต้องการคนสวยเลิศเลอเพอร์เฟ็กต์ขอให้เขาเข้าใจเรารักเราก็พอแล้ว"

    เอ้า!!! สาว ๆ คนไหนที่มีคุณสมบัติดังกล่าวก็รีบ ๆ สมัครเข้าไปอยู่ในหัวใจบอยได้แล้วนะจ๊ะ เพราะประเดี๋ยวหัวใจบอยจะไม่มีที่ว่าง


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:42:05 น.  

     
    เปลือยหัวใจ 'บอย-พิษณุ' คบ 'นาเดีย' กลบข่าว 'เกย์'
    >> เดลินิวส์ 19/5/49

    กลายเป็นหนุ่มฮอตที่ถูกจับตามองมากที่สุดอีกคนหนึ่ง สำหรับ “บอย AF 2” หรือ “พิษณุ นิ่มสกุล” เพราะนอกจากนะมีละครถึง 2 เรื่อง คือ “เพื่อนรักนักล่าฝัน” และ “รักหรรษาคาราโอเกะ” แล้ว ล่าสุดยังจับไมค์เป็นศิลปินเดี่ยวออกอัลบั้ม “Boy To Play” อีกด้วย ส่วนเรื่อง “ความรัก” ก็ร้อนแรงไม่เบา เพราะแว่ว ๆว่า กำลังเร่ขายขนมจีบให้นางเอกสาวคนเก่ง “นาเดีย นิมิตรวานิช” อยู่ ฮอตทั้งเรื่องงานและความรักอย่างนี้ “กามเทพ..ตัวดำ” มีหรือจะพลาดที่จะเชิญมาพูดคุยกับเราแบบหมดเปลือก

    ตอนนี้ดูเหมือนว่ามีงานเยอะขึ้นนะ
    - ใช่ครับ มีละคร 2 เรื่อง เพื่อนรักนักล่าฝัน กับรักหรรษาคาราโอเกะ แล้วก็มีอัลบั้ม Boy To Play ที่งานเยอะอาจเป็นเพราะโอกาสที่ได้เข้ามามากกว่าครับ ทางบริษัทต่าง ๆ ก็อยากจะเอาเราไปทำงานด้วย เพราะเห็นว่าเราคงทำได้ เราก็เลยเห็นว่า มันเป็นงานในวงการบันเทิง เราก็เลยรับงานทั้งหมดที่เป็นงานบันเทิง ก็คิดว่าลองทำดู อย่างเพื่อนรักฯ ก็ใกล้จะปิดกล้องแล้ว ส่วนเรื่อง รักหรรษาฯ กระแสถือว่าดีมาก วันก่อนไปโคราช ก็มีคนทักว่า “หรรษาฯ” ซะส่วนใหญ่ เรื่องที่ต้องปรับผมว่ามีนะ เพราะว่าอารมณ์เราไม่เคยสัมผัสมาก่อนกับอารมณ์บางฉากบางตอนนั้นก็ต้องให้ผู้กำกับบอก

    เล่นกับนาเดีย เป็นอย่างไรบ้าง
    - น่ารักครับ เป็นคนเล่นละครธรรมชาติแล้วก็ให้ความเป็นกันเองกับเรา และทำให้รู้สึกว่า ทุกซีนที่ผมต้องเข้ากับนาเดีย ถึงแม้ว่าบทจะยาวขนาดไหน เราก็มานั่งต่อบทกัน เวลาไปเล่นปุ๊บ จะเล่นได้เลย มันเหมือนคุยกันออกมาจากความรู้สึกมากกว่า เลยไม่รู้สึกว่ามันยาก ต้องยอมรับว่าช่วยผมได้เยอะนะ ผมว่านักแสดงส่งอารมณ์ให้เรามันทำให้อารมณ์ออกมาง่าย แต่ถ้าเค้าไม่ส่งอารมณ์มาก็ต่อยาก แต่นาเดียเค้าเป็นคนส่งอารมณ์ได้ดี

    ถ้าอย่างนี้ก็ทำให้มีข่าวออกมาตลอดเลย
    - ใช่มั๊ง ก็อาจจะใช่นะ เล่นเนียนเกินไปรึเปล่า ก็ไม่จริงหรอก ไม่มีอะไร ในเรื่องมันมีฉากกุ๊กกิ๊กกันบ้าง เพราะว่าในเรื่องเราเป็นแฟนกัน

    ครั้งแรกที่มอง “นาเดีย” มองเค้ายังไง
    - ตอนแรกมอง กลัวเค้าหยิ่ง เพราะเป็นนักแสดงที่อยู่มานานแล้ว เราก็กลัวว่า เค้าจะหยิ่งหรือเปล่า รังเกียจเราหรือเปล่า เพราะเราเป็นนักแสดงหน้าใหม่ ถ้าเราไปทำเค้าช้า เค้าจะโกรธเราหรือเปล่า คิดเยอะแยะมากมายที่มาทำงานร่วมกับเขา ถ้าถามว่าเขาเป็นผู้หญิงในอุดมคติหรือเปล่า ก็ใช่นะ เพราะว่าไม่เด็กจนเกินไป มีความรับผิดชอบแล้วก็เป็นคนเอาใจใส่ พูดจารู้เรื่อง แต่ผมไม่รู้ว่า เขาเป็นแม่บ้านแม่เรือนรึเปล่า

    ทำไมไม่ลองคบเป็นแฟนหละ
    - ก็ไม่รู้สิครับ อันนี้มันเป็นเรื่องของอนาคต เวลามันก็ไม่ตรงกันด้วย (ก็เนี่ย บอยชอบพูดกั๊กๆ ไว้) มันไม่ได้กั๊ก มันไม่มีอะไร ปัจจุบันก็คุยกัน มีความสุข เป็นเพื่อนกัน มีโอกาสพัฒนามั๊ย ก็มีเหมือนกัน ทำงานร่วมกัน ใกล้ชิดกัน ก็ต้องมีความรู้สึกที่ว่า เค้าก็น่ารักอยู่เหมือนกันนะ บางมุมก็น่ารักดี

    สร้างภาพหรือเปล่าว่าเราเป็นแฟนกับ “นาเดีย” เพื่อกลบข่าวว่าเป็นเกย์
    - ไม่รู้นะว่าคนมองยังไง แต่ผมรู้สึกว่า ก็เราสนิทเวลาทำงาน ก็โอเคแล้ว คือ คนจะคิดว่าเราเป็นแฟนกันหรือเปล่า มันก็เป็นความคิดของแต่ละคน แต่ผมกับนาเดียก็เป็นแค่เพื่อนร่วมงานกันเท่านั้นเอง ถ้าไปไหนมาไหนก็มีชวนกันไปบ้างก็เท่านั้น แต่ถ้าถามว่า ลึกซึ้งกว่านั้นมั๊ย ไม่มีครับ

    ณ วันนี้ ความรักคืออะไร
    - ผมคิดว่า ถ้ามันจะเจอมันก็ต้องเจอแหละ แต่มันยังไม่เจอ และไม่โหยหา แต่บางครั้งอยู่คนเดียว ทำอะไรคนเดียว แบบว่าไปกินข้าวเอง ดูหนังคนเดียว เราอาจจะมีความรู้สึกว่า ทำไมเราไม่มีใคร เรากลัวข่าวหรือเปล่า หรือเราไม่มีใครเลยจริง ๆ เราปิดกั้นตัวเองไหม สรุปเลยว่าช่วงเวลาที่เราอยู่คนเดียวมันน้อย ไม่จำเป็นต้องมีใครก็ได้ ถ้าจะมีก็คงไม่ใช่ตอนนี้แน่นอน

    แสดงว่าบอยก็เปิดอยู่ใช่มั๊ย
    - เปิดนะ รู้สึกดีกับใครก็คุย อาจจะมากกว่าเพื่อนก็ได้ แต่ขอให้เจอคน ๆ นั้นก่อน แต่ตอนนี้มีก็ได้ ไม่มีก็ได้ ถ้าจะบอกว่าผู้หญิงที่เข้ามาหาผม หวังชื่อเสียงผมอยากจะบอกว่า บอย AF กับบอยคนก่อนมันก็คนเดียวกัน ผมก็เป็นคนที่ไม่ได้มีอะไรมากมาย เลยไม่ต้องห่วงว่า คนที่เขาจะเข้ามา เพราะหวังชื่อเสียง หรือเงินทอง และการที่บอยจะคบใครก็ต้องดูคน เพราะเราโตแล้ว อายุ 27 แล้ว เราก็ต้องรู้สิว่า เขาต้องการอะไร คบเราเพราะอะไร

    ผู้หญิงแบบไหนจะมาเป็นแม่ของลูก
    - ค่อนข้างจะเป็นแม่บ้านแม่เรือน มีความคิด เข้าใจตัวเราสูงมาก ๆ เพราะเราทำงานในวงการบันเทิง เป็นคนเข้มแข็งอดทน มาเป็นแฟนบอยต้องอดทน (หัวเราะ) เพราะผมทำงานอยู่ตรงนี้ ก็ต้องมีแฟนคลับเข้ามาหาผม ถ้าเขาทนไม่ได้ ก็ต้องมีปัญหากันแน่ ๆ

    ถ้ามีแฟน แม่เป็นส่วนสำคัญในการเลือกมั๊ย
    - แม่ขึ้นอยู่กับผม เพราะผมเป็นคนที่ต้องอยู่กับแฟน ไม่ใช่แม่อยู่กับแฟน ถ้าพร้อมจะคบคนนี้ แม่ก็จะคอยดูอยู่ห่าง ๆ ก็เหมือนแม่ผัวทั่วไป แม่ก็เคยพูดถึงนาเดียนะ แต่ก็ไม่บ่อย วันนั้นไปออกรายการ แม่ก็ยังบอกให้ ผมแต่งงานตอนอายุ 37 แก่ไปรึเปล่า สเปิร์มไม่วิ่งแล้วมั๊ง แม่ไม่หวงนะ ถ้าลูกจะมีแฟน จะมีก็มีไป แต่ให้เลือกหน่อย อย่าดูแต่ผิวเผิน ผมเคยมีประสบการณ์เรื่องความรักมาแล้ว ก็ให้ดูคนดี ๆ ถ้าผมรักใครก็จะรักแบบไม่ค่อยดูเหตุผล คือหวังว่ารักเขาร้อยก็จะได้กลับคนมาร้อย แต่ก็ไม่ได้ดูเลยว่า เขาจะรักเราเท่าที่เรารักเขามั๊ย แบบว่า รักแล้วรักเลย

    มุมมองของความรักโตขึ้นหรือเปล่า
    - โตขึ้น เราดูแค่ว่าอนาคตเราจะเข้ากันได้มั๊ย จะพูดจาภาษาเดียวกันหรือเปล่า ไม่งั้นเราจะอยู่ด้วยกันไม่รอด รวมถึงวิถีชีวิตความชอบ เราจะดำเนินไปในทิศทางเดียวกันได้หรือเปล่า ก็เท่านั้น

    และนี่ก็คือ “มุมมองความรัก” ของผู้ชายชื่อ “บอย – พิษณุ” เชื่อว่าบรรดาแฟนคลับคงจะถูกอกถูกใจกับบทสัมภาษณ์พิเศษที่เรานำมาฝากกัน ส่วนสัปดาห์หน้าเราจะพาไปเปิดหัวใจของใคร ห้ามพลาด

    กามเทพ…ตัวดำ


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:42:37 น.  

     
    "บอย" คุยเลิกเจ้าชู้
    >> คมชัดลึก 23/1/49

    "บอย" พิษณุ นิ่มสกุล ออกตัวเลิกเป็นหนุ่มเจ้าชู้ เพราะเริ่มโตเป็นผู้ใหญ่ ลั่นไม่ยึดติดบทพระเอก ขอแค่เป็นตัวละครที่มีความสำคัญกับเรื่องพอ

    เป็นหนุ่มหน้าตาดี มีเสน่ห์คนหนึ่งของบ้านอะคาเดมี แฟนเทเชีย 2 สำหรับ "บอย" พิษณุ ซึ่งกำลังมีงานบันเทิงเข้ามารุมล้อมไม่เว้นแต่ละวัน แต่เมื่อถามถึงเรื่องความรัก บอยโปรยยิ้มทันทีก่อนจะออกตัวว่า ตอนนี้มีสาวที่กำลังคุยอยู่ด้วยเหมือนกัน แต่ไม่ได้มีมากมายเหมือนเมื่อก่อน

    "เมื่อก่อนผมยอมรับเลยว่าผมเคยเป็นคนเจ้าชู้ เดี๋ยวนี้ไม่เป็นแล้ว รู้ว่าอะไรควรไม่ควร ตอนนี้ผมก็จะคุยเป็นคนๆ ไป คุยพร้อมกันหลายคนก็มากเรื่อง อีกอย่างผมก็ไม่มีเวลาจะคุยกับใครด้วย ที่รู้ว่าตัวเองเลิกเจ้าชู้ เพราะความคิดที่เป็นผู้ใหญ่มากขึ้น เวลาช่วยทำให้เราโตขึ้นด้วย" บอย กล่าว

    บอยยังบอกต่อว่า ที่เลิกคุยกับสาวๆ เพราะรู้สึกเบื่อ และทำให้เรียนรู้ว่า เขาเคยมอบความรักแบบไม่จริงใจให้หลายคน แต่เมื่อถึงเวลาที่เขารักใครจริง กลับไม่มีใครให้ความรักเขาสักคน

    "เหมือนเป็นเวรกรรมแน่ๆ เลย เพราะที่ผ่านมาผมก็เป็นฝ่ายอกหักมาตลอด ไม่ค่อยได้สมหวังเรื่องความรักกับเขาหรอก จริงจังกับใครแล้วเขาไม่ค่อยจะจริงจังกลับมา" บอยกล่าวเสียงน้อยใจ

    หันมาถามถึงสาวที่กำลังคุยด้วยคนปัจจุบัน บอยอึ้งครู่หนึ่ง ก่อนจะบอกว่า เป็นเพื่อนสาวที่คุยกับมานาน 7 เดือนแล้ว ตั้งแต่ก่อนเข้าบ้านอะคาเดมี แฟนเทเชีย 2

    "กับคนนี้เขาก็คิดกับผมเป็นพี่ชายนะ เฮ้อ...แต่ก็ยังดีกว่าไม่มีคนคุยแล้วกัน เขาเป็นคนคุยสนุก ร่าเริงตลอดเวลา แต่ไม่ใช่แฟนนะ แค่คนคุยด้วยเฉยๆ มีอะไรก็ปรึกษาออกความคิดเห็นกัน เป็นแบบนี้บางทีผมก็เหงาเหมือนกัน แต่ช่วงนี้ไม่เท่าไรเพราะงานเยอะ" บอย กล่าว

    ละครเรื่อง "รักหรรษา...คาราโอเกะ" ซึ่งบอยเป็นพระเอกครั้งแรก เลยอดไม่ได้ที่จะถามว่า หากได้รับบทเป็นพระเอกแค่เรื่องเดียวจะรู้สึกอย่างไร บอยบอกทันทีว่า

    "ผมไม่กลัวว่าจะได้เป็นพระเอกแค่เรื่องเดียยว เพราะผมเต็มที่กับงานที่ทำ ผมไม่ได้หวังว่าจะต้องเป็นพระเอกไปตลอด เรื่องแบบนี้ผมแล้วแต่ผู้ใหญ่ ขอแค่ให้คนรับได้ในตัวผมก็พอ ไม่จำเป็นต้องเป็นพระเอกหรอก ขอแค่บทดีหน่อยผมก็พอใจแล้ว แต่ทั้งนี้ทุกสิ่งทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับผู้ใหญ่ด้วย" บอย กล่าวปิดท้าย


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:44:15 น.  

     
    เรื่องต้องห้ามของหนุ่ม ๆ ที่ห้ามยุ่งเด็ดขาด
    >> Lisa Weekly No.44 November 2006,

    สาว ๆ อย่างพวกเรา…หากจะริรู้ทันหนุ่ม ๆ ไปซะทุกเรื่อง ไม่ว่านอกใน ลึกลับซับซ้อนขนาดไหน ก็ต้องรู้เคล็ดลับที่จะไม่ทำให้พวกหนุ่ม ๆ เค้าสงสัยว่าคุณน่ะ ได้ล้วงลึกเข้าไปในเขตส่วนตัวของเค้าแล้ว โดยเฉพาะเรื่องโทรศัพท์มือถือ กระเป๋าสตางค์ ห้องส่วนตัว หรือกลุ่มเพื่อนซี้สุดขั้วของเขานั่นล่ะ…พวกผู้ชายเค้าไม่อยากให้คุณเข้าไปก้าวก่ายนักหรอก จะเป็นการดีที่แฟนสาวสุดเฟรนด์ลี่อย่างคุณควรรู้ล่วงหน้าเอาไว้ว่า ควรจะเข้าไปก้าวก่ายชีวิตเขาได้มากน้อยแค่ไหน….และจะช่วยสานต่อสัมพันธภาพของทั้งสองคนให้ครองรักอันหวานชื่นยาวนานยิ่งขึ้น หลายมุม หลากหลายอารมณ์ที่สาว ๆ เคยคิดว่ายากจะเข้าใจ Lisa ฉบับนี้ จึงเชิญหนุ่มมากความสามารถมาไขข้อข้องใจของเราในประเด็นร้อนที่ว่าด้วยเรื่อง ‘โลกส่วนตัวของชายหนุ่ม’ ซึ่งก็คือหนุ่มสุดฮอตเสียงดีที่ผ่านเวทีใหญ่การันตีมาแล้วอย่าง บอย-พิษณุ นิ่มสกุล หรือที่รู้จักกันดีในนาม บอย AF2 แต่เห็นหน้าก็อยากรู้กันแล้วสิว่า คำตอบจากปากชายหนุ่มคนนี้จะเป็นยังไง ฉะนั้นอย่ารอช้า…รีบไปฟังทัศนะของเขาดีกว่า

    “สำหรับผม จริง ๆ แล้วคงต้องออกตัวก่อนว่า โลกส่วนตัวของผมเป็นอะไรที่ส่วนตัวมาก ๆ เป็นโลกที่เป็นตัวตนแท้ ๆ ของเรา บางทีก็ไม่อยากให้ใครเข้ามานะ แต่อาจจะเข้ามาเห็นบ้างก็ได้ ผมก็ไม่ว่าหรอก แต่อันที่จริงขอดีกว่าครับ ความเป็นส่วนตัวของผมมีไม่มากเท่าไหร่ ที่สำคัญที่คงเป็นแค่เรื่องโทรศัพท์มือถือ เพราะมันเป็นอะไรที่ส่วนตัวมาก ๆ จะมีเหตุผลบางอย่างที่ไม่สามารถบอกให้ใครรู้ได้ แม้กระทั่งคนรัก ไม่ใช่ว่าผมปกปิดเพราะว่าทำผิดอะไร แต่บางทีโลกของเราก็ไม่มีคำบรรยายใด ๆ มาอธิบายได้ และถ้าเกิดโลกของผมที่คุณพบเจอเกิดทำให้คุณโกรธหรือไม่พอใจขึ้นมาล่ะ ดังนั้น ผมขอตรงจุดนี้ไว้ดีกว่า เพื่อเป็นโลกที่เป็นของผมอย่างแท้จริง แต่ก็ไม่ถึงกับว่า จะแตะต้องอะไรตรงจุดนี้ไม่ได้เลย ถามได้ พูดคุยถึงได้ครับ ไม่มีปัญหา แต่ถ้าหากเราเลือกที่จะคบกันแล้ว ผมว่าเค้าควรจะให้เกียรติว่า นี่คือโลกส่วนตัวของผมนะ ถ้าหากเธอคนนั้นก้าวล้ำเข้ามาในโลกส่วนตัวของผมแล้วล่ะก็ ผู้ชายอย่างผมอาจจะแสดงออกว่า โกรธแบบเก็บเงียบ ๆ

    หากเป็นครั้งแรกที่เธอก้าวล้ำเข้ามาเกินขอบเขต ผมก็คงยังจะไม่ซีเรียสอะไรมาก แต่หากว่าเราเคยคุยกันแล้วนะว่า เรื่องนี้คือเรื่องที่ผมขอจริง ๆ แล้วคุณยังจะทำอีก ก็คงจะต้องพูดคุยกันเป็นเรื่องเป็นราวแล้วล่ะครับ และถ้าไม่ไหวจริง ๆ ผมเองก็คงต้องถอยออกมาจากเธอซะที เพราะทุกคนต่างรู้กันดีว่า โลกส่วนตัวนั้นมีค่ากับคุณมากแค่ไหน เพราะจริง ๆ แล้วผู้หญิงเองก็คงมีโลกส่วนตัวไม่แพ้ผู้ชายเหมือนกัน

    อันที่จริงโลกส่วนตัวของผู้ชายมีไม่มากมายหรือซับซ้อนมากเกินไปหรอกครับ เพราะเพียงแค่เรื่องที่ขอเพียงเรื่องนั้นเรื่องเดียว เรื่องอื่น ๆ คุณแทบจะเป็นโลกของผมอยู่แล้ว ผมเองก็อยากจะให้คุณเข้ามาอยู่ในทุก ๆ อย่างของผมนั่นแหละ อาจจะเรียกได้ว่าเป็นคนเดียวกันก็ว่าได้ ขอแค่เรื่องนี้เองครับ ที่เหลือผมก็ยกให้คุณหมด

    ผมโชคดีตรงจุดหนึ่งที่ว่า หากผมคิดจะคบกับใครสักคน ผมคงจะต้องดูนิสัยของคนคนนั้นว่า เป็นคนยังไง ชีวิตประจำวันของเค้าไปในทิศทางเดียวกันกับเราหรือเปล่า หรือว่าพูดภาษาเดียวกันมั๊ย มีอะไรหลาย ๆ อย่างในตัวที่คล้ายกัน เข้าใจกัน ในที่นี่คือ พูดคุยกันคลิก เข้าใจตรงกัน แล้วถ้าเรารู้ว่าคนข้าง ๆ ของเราเป็นคนแบบนี้ ทุกอย่างก็ง่ายครับ จะไม่มีการก้าวล้ำเส้นกั้นเด็ดขาด

    สำหรับสาว ๆ แล้วอย่าคิดมากเลยครับ ผมคงฝากอะไรให้สาว ๆ คิดนิดหนึ่งว่า คุณผู้หญิงอย่าพยายามทำอะไรที่เยอะจนเกินไป ทำให้พอดี ๆ ผมว่าเรื่องนี้คุณน่าจะรู้ตัวเองดีครับ ขอให้คุณเปลี่ยนเอาความหึงหวงความระแวงมาเป็นความเชื่อใจในตัวผู้ชายที่คุณรักจะดีกว่า ถ้าในเมื่อเรามั่นใจต่อกันแล้ว ทุกอย่างก็จะ Happy Ending ครับ…อย่าลืมนะครับ อย่าล้ำเส้นเกินไป อยู่ในความพอดี…แล้วความรักความเข้าใจ จะอยู่ได้อย่างมั่นคงครับ”


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:44:39 น.  

     
    "บอย" ศีรษะจรดปลายเท้า "OUT ไม่เป็น"
    >> I Spy ปักษ์หลังตุลาคม 2549

    กลายเป็นหนุ่มสปอร์ตแมน 2006 ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้ว สำหรับหนุ่ม บอย-พิษณุ นิ่มสกุล พระเอกจากละครเรื่อง "รักหรรษาคาราโอเกะ" หรือหนุ่มบอย AF 2 นั่นเอง
    เห็นหุ่นอวบอย่างนี้ แล้วออกจะเจ้าเนื้อนิดๆด้วยซ้ำ ไม่อยากเชื่อเลยว่าจะได้คะแนนจากแฟนๆท่วมท้นทีเดียว อย่างนี้แหล่ะ คนทั้งหล่อ ทั้งน่ารัก แถมอัธยาศัยดีอีกต่างหาก
    ยังไงๆคนก็ให้ความสนับสนุนอยู่ดี และวันนี้เลิฟเบิร์ดได้นายบอยมาอวดเสื้อผ้าให้พวกเราได้ดูกัน

    ดำเท่ห์...ถูกใจ

    บอยเป็นคนชอบใส่หมวกเอามากๆ ไม่ว่าจะไปไหนก็ต้องมีหมวกพกติดตัวไปตลอดเวลา ยิ่งวันไหนไม่ได้สระผมด้วยแล้ว ก็ต้องมีหมวกใส่นะ ( หัวเราะ )
    แล้วหมวกใบนี้เป็นของ Rip Curl ราคา 800 บาท บอยชอบตรงด้านหน้าหมวกเป็นผ้าลูกฟูก ส่วนด้านหลังหวกเป็นผ้าตาข่าย ใส่แล้วไม่ร้อนดีครับ"

    แวววับ...สะดุดสายตา

    จำได้ว่าตอนที่เจาะหูมาใหม่ๆ อยากเปลี่ยนใส่ตุ้มหูที่เท่ๆเก๋ๆ แต่ก็ยังเปลี่ยนใส่ไม่ได้เพราะหูยังไม่แห้ง พอหูแห้งปุ๊ป บอยก็ซื้อตุ้มหูอันใหม่มาใส่ทันที เปลี่ยนเป็นตุ้มบ้าง จิลบ้าง จนมาถึงตุ้มหูห่วงเพชรอันนี้แหล่ะ บอยไม่ถอดเลยนะ ใส่อยู่ตลอดเวลา แล้วถือเป็นคู่เก่งด้วย ซื้อที่สยามเซ็นเตอร์ ราคาคู่ละ 250 บาท"

    น้ำเงินนี้...ที่รัก

    " โดยส่วนตัวเป็นคนชอบใส่แจ็คเก็ตยีนเอามากๆ เพราะรู้สึกว่าเท่ แล้วก็สามารถลุยไปไหนต่อไหนได้ แล้วแจ็คเก็ตยีนตัวนี้ซื้อตอนที่ไปออกงาน เนื่องจากไม่ได้เอาแจ็ตเก็ตยีนไปออกงานด้วย เลยซื้อตอนนั้นเลยครับ ซื้อที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ราคา 3,700 บาท"

    ขาดไม่ได้...ต้องสร้อยคอเส้นนี้

    " แต่ก่อนบอยเป็นคนไม่ชอบใส่สร้อยคอสักเท่าไหร่หรอก ใส่บ้าง แต่ก้อไม่บ่อย แต่สร้อยคอเส้นนี้แฟนคลับซื้อมาให้ ก็เลยต้องใส่เป็นประจำครับ (หัวเราะ) เขาอุตส่าห์ซื้อมาให้แล้ว ไม่ใส่เดี๋ยวจะเสียใจ"

    แบบนี้ไม่มีเอาท์แน่นอน

    " ตอนนั้นบอยไปทัวร์คอนเสิร์ตที่ต่างจังหวัด และมีฝุ่นเยอะมากแถมแดดร้อนอีกด้วย แต่ไม่ได้พกแว่นไปสักอัน ก็เลยซื้อแว่นอันนี้ตอนนั้น รู้สึกจะเป็นของ Ray-Ban
    ราคาจำไม่ได้แล้ว (หัวเราะ) เพราะซื้อมานานมากๆครับ"

    กลมๆ ดำๆ ถูกใจสุดๆ

    "นาฬิกาเรือนนี้ บอยหาตั้งนานกว่าจะได้มานะ เพราะว่าผมเป็นคนชอบหนังสีดำ และอยากได้กรอบนาฬิกาที่เป็นวงกลมด้วย ซึ่งมันค่อนข้างจะหายากนิดนึง มีแต่กรอบนาฬิกาที่เป็นสี่เหลี่มทั้งนั้น รู้สึกจะไปเจอที่เซ็นทรัลลาดพร้าว ราคา 1,800 บาท"

    ขาวปิ๊ง...วิ้งไม่หยอก

    "ซื้อที่สยามเซ็นเตอร์ ราคา 2,500 บาท จริงๆรองเท้าที่บ้านมีเยอะมากๆ แล้วมีรองเท้าหลายคู่ที่ชอบเหมือนกัน แต่รองเท้าคู่นี้บอยชอบตรงที่เป็นรองเท้าสีขาวตัดเชือรองเท้าสีฟ้า มันสวยดีนะ แถมสามารถใส่เข้ากับเสื้อผ้าได้หลายชุดอีกด้วยครับ"

    ระโยงระย้า...ได้ใจ

    " ไม่ว่าบอยจะออกไปไหนข้างนอก จะชอบใส่โซ่ห้อยกางเกงทุกครั้งเลย เพราะเป็นเครื่องประดับที่ทำให้ชุดดูดีขึ้น แล้วถ้าวันไหนบอยลืมใส่ขึ้นมา จะรู้สึกหงุดหงิดยังไงไม่รู้ครับ ซื้อที่มาบุญครอง ราคา 150 บาท"


    โดย: 17gerrard วันที่: 30 มีนาคม 2550 เวลา:2:45:08 น.  

    ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
    Comment :
      *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
     

    17gerrard
    Location :
    กรุงเทพ Thailand

    [ดู Profile ทั้งหมด]

    ฝากข้อความหลังไมค์
    Rss Feed

    ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




    บอยเป็นดารา-นักร้อง ที่เราชื่นชม เราเป็นเพียงอีกหนึ่งคนที่อยากมองบอย โด่งดัง เป็นที่รักของทุกคน
    counter free hit unique web
    Friends' blogs
    [Add 17gerrard's blog to your web]
    Links
     

     Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.