การบินไปต่างประเทศ คนเดียว ครั้งแรก

การบินเดี่ยวครั้งแรก และไปขึ้นเครื่องที่สุวรรณภูมิครั้งแรกด้วย

รายละเอียดไฟล์ที่บินค่ะ check จาก https://www.checkmytrip.com
---------------------------------------
Bangkok to Wellington
---------------------------------------
Flight 1 - Tuesday, November 09, 2010
Departure :17:05 - Bangkok, Thailand - Suvarnabhumi International
Arrival :06:10+1day(s) - Sydney, Australia - Kingsford Smith, terminal 1
Airline :Qantas Airways QF302
Fare type :Economy Restricted
Aircraft :Boeing 747-400 - Operated by British Airways
Baggage :23 kilogram(s) per traveller
Meal :MEAL (NON SPECIFIC)
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
>Change of plane required. Time between flights = 2:35<
++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
Flight 2 - Wednesday, November 10, 2010
Departure :08:45 - Sydney, Australia - Kingsford Smith, terminal 1
Arrival :14:00 - Wellington, New Zealand - Wellington
Airline :Qantas Airways QF047
Fare type :Economy Restricted
Aircraft :Boeing 737-400 - Operated by JETCONNECT FOR QANTAS
Baggage :23 kilogram(s) per traveller
Meal :BREAKFAST

ได้เครื่องของ Qantas มีการต่อเครื่องที่ซิดนีย์ รอประมาณสามชั่วโมง

เครื่องออก 17:05 ให้พี่ชายมารับเที่ยง เพราะกลัวโน้นกลัวนี่สารพัด เช็คตั๋วเกือบสิบรอบได้ 5555 และยังไม่ได้แลกตังค์ NZ เลย กะว่าจะเอาไปสัก 400 NZ หลังจากนั้นก็ใช้บัตรเครดิตเอา แล้วก็อยากจะได้ที่นั่งดี ๆ ด้วย ไปเช็คมาจากเว็บ เรียบร้อย สรุปว่าที่นั่งดีก็จริง แต่ถ้าบินเดี่ยว แล้วก็ระยะทางไกล คราวหน้า ต้องตัดใจไม่นั่งริมหน้าต่างแล้ว เพราะไปเย็น ดูอะไรก็ไม่เห็น แถมเข้าห้องน้ำยาก ความเกรงใจ เพราะคนข้าง ๆ เค้านอน เฮ้อออออ

และอีกอย่างกลัวเรื่องน้ำหนักกระเป๋าด้วย จริง ๆ ก็ชั่งไปบ้างแล้ว ใช้น้ำหนักที่ชั่งคน ได้ประมาณ 20 โล แต่ไม่ค่อยแน่ใจ เพราะมันหนักมาก เลยมีไอเดียจะไปชั่งที่ที่ทำงานพี่สะใภ้ก่อน เพราะเจ้แกทำที่การบินไทยแต่ในประเทศ เลยต้องไปชั่งที่ในประเทศก่อน ได้นน มา 22.5 รอดตัวไป เพราะเค้าให้แค่ 23 มีคนบอกว่าให้แต่งตัวดี ๆ เวลาไปที่ ตม ที่โน้น เค้าจะได้มีสงสัยตั้งแต่แรก ก็เลยตัดใจเอารองเท้าคู่เก่งไปด้วย ใส่ไปเลยแล้วกัน อิอิ เป็นบูท สูงไม่มาก ดูสวยเก๋ สมใจ แต่เดี่ยวมีเหตุการณ์ระทึก เกี่ยวกับรองเท้า ให้ต้องเปลี่ยน

หลังจากชั่งกระเป๋าเสร็จ ก็เดินไปดูที่เช็คอินเลยค่ะ ว้าววว ทำไมคนมาเยอะจัง ยังเหลือเวลาอีกตั้งนานคือเกือบ 4 ชั่วโมง ก่อนเครื่องออก แต่มีฝรั่งเข้าแถวยาวมาก เราก็เลยไปต่อเลยค่ะ ได้เจอสาวไทยคนนึง คุยกันจนได้รายละเอียดมาว่า น้องเค้าไปลงซิดนีย์ เดินทางคนเดียวเหมือนกัน แต่เราก็เนอะ ด้วยความว่าเจอคนเตือนเยอะ ห้ามคุยกับคนแปลกหน้า ห้าม ห้าม ห้าม หลายอย่าง ความกลัวเข้าครอบงำ 5555 เลยลืมชวนให้นั่งติดกัน
สรุปว่าแยกกันนั่งและเราก็ได้ที่นั่งที่ต้องการสมใจ คือท้ายเครื่อง ติดหน้าต่าง เป็นที่นั่งสองแถว เห็นในเว็บว่าดี ซึ่งก็ดีจริง ๆ ค่ะ กว้าง และสะดวก เพราะใกล้ห้องน้ำ แต่สำหรับเราคราวหน้าไอเดียนี้ไม่ดีค่ะ เดี๋ยวจะมาอธิบายว่าทำไมไม่ดี อันนี้ ความเห็นส่วนตัวนะคะ

ตอนเช็คอินได้ ตั๋วมา 2 ใบค่ะ ใบแรกบินจากกรุงเทพไป ซิดนีย์ มีรายละเอียดเกต ไฟล์ ที่นั่ง เรียบร้อย อีกใบเป็นจากซิดนีย์ ไป wellington ไม่มีเกต มีไฟล์ มีที่นั่ง กำหนดที่นั่งไม่ได้ เพราะน้องที่เช็คอินแจ้งว่า เป็นการ join กับ jet star ไม่ใช่ของ Qantas ต้องไปเช็คเกตที่โน้นตอนลง หรืออาจจะมีแจ้งบนเครื่อง เอาแล้วไง มีปัญหา ตั้งแต่เริ่ม ด้วยความไม่รู้ตอนจองตั๋ว คราวนี้ต้องจำไว้ ห้าม เลือกที่ join กับสายการบินอื่น จะมีปัญหาสำหรับคนที่ไม่เก่งภาษาอย่างเรา และเดินทางคนเดียว มันมีเรื่องระทึกมากกว่านั้นอีก 555

หลังจากเช็คอิน น้องเจ้าหน้าที่ก็ถามว่าเคยมาหรือเปล่า เราก็บอกไม่เคยค่ะ บินครั้งแรกคนเดียว

เคยบินไปทำงานที่ญี่ปุ่น ก็ขึ้นเครื่องที่ดอนเมือง ในประเทศก็ไปแค่สมุย
แต่สุวรรณภูมิเคยมาก็แค่ มารับพี่สะใภ้ แค่นั้น ยังไม่เคยมาขึ้นเครื่องเอง น้องก็เลยบอกว่า เกท มันไกลค่ะ ให้รีบไปก่อนดีกว่า เราก็เดิน ๆ ไปเรื่อย ๆ ค่ะ แวะซื้อบัตรเติมเงินไปด้วย เพราะเปิดเครื่องโรมมิ่งเอาไว้ เผื่อมีปัญหา จะได้ติดต่อคนที่ไทยได้ แต่เราก็มีซิมการ์ดของนิวมาด้วยนะค่ะ แฟนส่งมาให้ไว้ใช้ตอนเครื่องลงที่นิวแล้ว เรามีโทรศัพท์ไปสองเครื่องก็เลย แยกกันใช้ เห็นประโยชน์ของ iphone ก็งานนี้แหละ เกี่ยวกับเวลาของประเทศต่าง ๆ เราเช็ตเวลาเป็นของไทย ซิดนีย์ และ wellington ไว้พร้อมกัน เลยสะดวกไม่ต้องคำนวณเวลาที่ต่างกัน แล้วเครื่อง iphone ก็มีบริการเกี่ยวกับการใช้บนเครื่องด้วย

หลังจากผ่านด่านขาออกเรียบร้อย ก็เดิน เดิน เดิน ค่ะ แต่เอ ทำไมไกลจัง เดินจนเมื่อยค่ะ ไม่ไหว ก็เลยนึกได้ว่าเอารองเท้าสกอร์มา เปลี่ยนค่ะ ไม่สวยมันแระ เพราะเดินเมื่อยแล้วค่ะ เกตอยู่ไกลมาาาาากกกกกกกกก ถ้าเรามาสายคงวิ่งกันตาย 555

พอมาถึงเกต ยังมีไม่ถึงเวลาค่ะ อีกเกือบ 2 ชั่วโมง แต่ไม่เดินแหละ นั่งเล่นอยู่ที่หน้าเกตนั่นแหละ ก่อนหน้าเราเป็นเครื่องไปส่ง HongKong มีคนไทย คนจีนเยอะ ค่ะ เจ้าหน้าที่ก็ประกาศทั้งไทย และอังกฤษ เราก็โอเค ไม่น่ามีปัญหา นั่งรอสักพัก นึกได้ว่าลืมที่ชาร์ทแบต iphone มาพระเจ้าช่วย ฉันจะทำยังไงดี ถ้าแบตหมดก่อนถึงนิวละ โอ๊ย มีปัญหาอีกแหละ กะว่าจะเล่นเกมส์เลยอดค่ะ ต้องปิดเครื่อง ประหยัดพลังงาน

รอไปพักใหญ่ เจอน้องที่เจอตอนเช็คอิน มาพอดีก็เลยคุยกันสัพเพเหระไปเรื่อย หลังจากสอดรู้สอดเห็นไปเยอะ Smiley
สรุปได้ว่า น้องเค้ามีแฟนที่ซิดนีย์ ตอนนี้ได้วีคู่หมั้น มา 1 ปี ครั้งนี้ไปครั้งที่สอง แต่ก็ยังตื่นเต้นอยู่เหมือนเรา

รออีกสักพักก็ได้เวลาขึ้นเครื่องแล้วคร๊าบบบบ เจ้าหน้าที่ประกาศอะไรไม่รู้เป็นภาษาอังกฤษ Smiley แล้วก็เงียบไป เราก็นั่งฟัง ไม่ยักกะมีประกาศภาษาไทยเหมือนไฟล์ก่อนหน้า นั่งรอไปรอมา ไม่เห็นมีคนไทยเลย มีแค่หญิงไทยหัวดำน้องเค้ากับเราสองคน มองหน้ากันเลิกลั่ก จะรอดมั้ยเนี่ย ก็ไม่เป็นไร มั่วกันเข้าไป

หลังจากนั้นก็บ๊าย บาย กับน้องตอนขึ้นเครื่องเพราะที่นั่งห่างกัน ขึ้นเครื่องได้เราก็ลุ้น ๆ ว่าจะนั่งข้างใครหนอ สรุปว่าเป็นสาวน่ารักค่ะ แต่ตัวใหญ่นิดนึง น้องเค้ามีอุปกรณ์พร้อมเลย หมอน เสื้อกันหนาว ผ้าห่ม แต่งตัวสบาย ๆ มาก เหมือนชุดนอน แต่ตอนลง น้องเค้ามีชุดมาเปลี่ยนค่ะ อิอิอิ ไอเดียดี คราวหน้าเราจะเอามั๊ง

หลักจากผู้โดยสารเต็ม ก็นั่งรอ รอ รอ รอ รอ ทำไมเครื่องไม่ออกสักทีหนอ สักพักมีเสียงดังนิดนึง ก็มีประกาศ แต่ฟังไม่รู้เรื่องค่ะ เครื่องก็ยังไม่ออกอีก ชั่วโมงนึงผ่านไป แอร์ไม่เย็น ค่ะ จนน้องข้าง ๆ ถามแอร์ พอจับใจความได้ว่า มีปัญหาเกี่ยวกับเครื่องยนต์ หรืออะไรที่แหละ ต้องรอก่อน เราก็เริ่มเครียดค่ะ ถ้าออกเลท ไปถึงซิดนีย์ก็เลทด้วยซิ ทำไงมีเวลาต่อเครื่องแค่ 3 ชม จะเป็นยังไงหนอ เกตก็ยังไม่รู้ว่าเบอร์อะไร จะถามใคร แล้วมีใครในเครื่องต่อเหมือนเรามั้ยหนอ คิดไปร้อยแปดค่ะ รอไปจนเกือบสองชั่วโมง ก็มีประกาศอีกรอบ ผู้โดยสารก็มีโห่ค่ะ จากนั้นสักพักเครื่องก็ออก เราก็ใจเต้นไป อยู่ไม่สุข กังวลล่วงหน้า เรื่องเครื่องที่เลท และอีกเรื่องการเข้าห้องน้ำบนเครื่อง จะเป็นไงหนอ .....

เราก็เลยกินน้อย ๆ จะได้ไม่ต้องเข้าห้องน้ำมาก แต่ไม่ใช่อะไรหรอก อาหารไม่อร่อย แล้วก็ไม่ค่อยหิว เลยกินยาแก้แพ้ แล้วก็นอนเลย ตื่นอีกทีคนข้างลุกเข้าห้องน้ำ ก็เลยลุกบ้าง จากนั้นก็กลับมานอนต่อ จนใกล้เวลาจะถึงซิดนีย์ สาวคนข้างค้นชุดมาเปลี่ยน นั่งแต่งหน้า แล้วเจ้าหน้าที่ก็แจกเอกสารของ ตม ออส ... เอาละซิ เราต้องกรอกมั้ยหว่า ก็ไม่เป็นไร กรอก ๆ ไปก่อน ตอนนั้นพอเช็คเวลาของซิดนีย์ ตายแล้ว เหลือเวลาอีกชม นึงเครื่องที่ต้องต่อ จะออกแล้วทำไงหว่า เครื่องก็ยังจอดไม่สนิท รออะไรหนอ ใจเต้น ตุ้ม ๆ ต่อม ๆๆๆๆๆ เครียด อีกแหระ ระหว่างที่รอ เจ้าหน้าที่ก็ประกาศอะไรไม่รู้ไม่เข้าใจ แต่ได้ยินแว่ว ว่า Transfer to Wellington Gate thirty-seven. 555 รีบเอาปากกามาจดไว้ 37 บนตั๋ว ตอนนั้นยังคิดอีก ไอ้ Thirty-sever นี่มัน 35 หรือ 37 หว่า สุดยอดเลย ไอ้จิ๋ว ตกเลขอีกแล้ว 5555 หรือเราจะถามคนข้าง ๆ ดี ตอนนี้ความอายมีเยอะค่ะ ไม่เป็นไร เคยอ่านในเน็ต เค้าบอกจะมีป้าย บอกอีกทีตอนจุด transfer ไม่เป็นไร ไปหาเอาข้างหน้าก็ได้ ให้ออกจากเครื่องก่อนแล้วกัน (นิสัยไม่ดี ไม่ควรทำค่ะ สงสัยอะไร คราวหน้าถามเจ้าหน้าที่บนเครื่องไปเลย ) แต่ แอร์ของ BA นี่ผู้หญิงน่าตา ดุมากกกกกก ไม่เหมือนการบินไทยเลย :(

รอไปสักพัก ก็มีคนลุกค่ะ สาวข้าง ๆ ลุก เราเลยลุกตาม น้องเค้าแทรกเก่งมาก เราก็ตามไม่คลาดเลย จากหลังสุด ได้ออกก่อน จากนั้นก็ดูป้าย Transfer เดินไปเรื่อย ๆ ก็กังวลไปเรื่อย ว่าจะเป็นไง จะหา gate เจอมั้ยหนอ จนมาถึงด่านที่ต้องแสกน อีกรอบ ก็รีบถอดนาฬิกา แหวน สร้อย ใส่กระเป๋า เลย กลัวเครื่องร้อง จะได้ไม่เสียเวลา แล้วสายตาก็เหลือบไปเห็นป้าย ที่แจ้งว่า ไป wellington gate อะไร โอ๊ย โล่งค่ะ 37 ตรงตามที่จดไว้ จากนั้นก็เริ่มหาทางไป gate ค่ะ เพราะเหลือเวลาอีก 30 นาที เอาไงดี เดินไปเดินมาหลงค่ะ เลยตัดใจถามหนุ่มที่เดินมา น่าจะเป็นเจ้าหน้าที่ในนั้น เห็นมีบัตร เค้าก็บอกทาง จากนั้นวิ่งเลยค่ะ พอไปถึงเกต ไม่มีใครเลย เหลือเราคนเดียว หันซ้ายหันขวา นี่ฉันต่อเครื่องคนเดียวหรือนี่ ยื่นเอกสารให้เจ้าหน้าที่ ก็กด ๆ ไปสักพัก มีปัญหาค่ะ ฟังจากที่เค้าคุยกัน เค้าว่า ชื่อเราเป็นคนสัญญาติอินเดีย ทำไมถือพาสสปอร์ต ไทยแลนด์ ตอนนี้เริ่มเหงื่อตกค่ะ ทำไงหว่า ใครจะรู้ว่ะ แล้วหันมาถามเราว่า พักที่ไหนในซิดนีย์ เราก็เอาไงดี ฉันเพิ่งมาจากไทยแลนด์ ไม่เคยพักที่ซิดนีย์ ตอบไงหว่า ตอนนั้นภาษาอังกฤษกระโดนหนีหมดค่ะ แต่พอฟังได้ ก็เลย งัดตั๋วที่เพิ่งเดินทางมาให้เค้าดู พร้อม e-ticket ว่าเพิ่งมาจากไทยแลนด์ และก็ทำหน้าแบบงง
จากนั้นเค้าก็บ่น ๆๆๆๆ เช็คไปเช็คมา ก็ให้เราผ่านค่ะ รวมเบ็ดเสร็จเกือบ 30 นาที เลยเวลาเครื่องออก แต่เครื่องยังรอเรานะค่ะ

พอเดินเข้าเครื่องไป ทุกสายตาในเครื่องก็จ้องมองมาค่ะ อายเหมือนกันที่มาสาย แต่ทำไงได้ เครื่องดีเลย์นี่หว่า ก็เลยทำหน้าไม่สนใจค่ะ หาที่นั่งอย่างเดียว ได้ที่นั่งตรงข้าง ซ็ายขวาเป็นสาวอายุเยอะ เหมือนฟิลิปปินด์คนนึง กับสาวเหมือนสาวจีน หน้าตาไม่รับแขกคนนึง พอเรานั่งสักแป๊ปเครื่องก็ออก แล้วเค้าก็เสริฟของกิน ไม่อร่อย ขนมปังแข็งมากกกกก จากนั้นก็นอน แล้วก็ตื่นมาเขียนเอกสารขาเข้าค่ะ เดินทางประมาณ 3 ชม แล้วก็มีวีดีโอให้ดูว่า ของอะไรที่ต้อง Declare บ้าง เอมีรูปรองเท้ากีฬาด้วยนี่น่า ทำไงดีน้อ เหมือนของเราเปี๊ยบ เอาไงดีละ จะ declare ดีมั้ย ติ๊ก ต๊อก ติ๊ก ต๊อก สรุปว่า Declare ไปแล้วกัน ไม่เป็นไร ไม่มีอะไร แค่รื้อ ๆ ดีกว่าจะไปเจอตอนหลังจะเครียดซะ เพราะเคยได้ฟังมาว่าถ้าไม่ declare ไปเจอตอนหลังแล้วมีปัญหา จะโดนเยอะ







 

Create Date : 22 มกราคม 2554
2 comments
Last Update : 22 มกราคม 2554 14:14:44 น.
Counter : 3565 Pageviews.

 

Welcome to Aotearoa na ka :)

 

โดย: akittenlazy (AKITTENLAZY ) 21 กุมภาพันธ์ 2554 2:10:00 น.  

 

สอบถามหน่อยนะค่ะ พอดีว่าจะบินไปนิวซีแลนด์คนเดียว เป็นการบินครั้งแรกด้วยค่ะ ภาษาอังกฤษไม่ได้เรยค่ะ พอดีเพื่อนสนิทเขาอยู่ที่โน่นชวนขึ้นไปเที่ยวหาค่ะ เป็นผู้หญิงนะค่ะ พอดีได้แฟนเป็นที่เวลลิงตัน ตอนนี้อยู่ในขั้นตอนเตรียมเอกสารไปขอวีซ่าค่ะ กำลังจะจองตั๋วบิน จองของสายการบินอะไรดีค่ะ หรือจองผ่านบริษัททัวร์ดีค่ะ แนะนำหน่อยนะค่ะ ไม่รู้จะถามใครดี ขอบคุนล่วงหน้านะค่ะ

 

โดย: fonrebirth (fonrebirth ) 6 พฤษภาคม 2555 14:02:55 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


แม่มดตัวจิ๋ว
Location :
Somewhere in New Zealand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




If you do good thing , good thing will happend to you..


MusicPlaylist
MySpace Music Playlist at MixPod.com

Group Blog
 
 
มกราคม 2554
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 มกราคม 2554
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add แม่มดตัวจิ๋ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.