ขึ้นเหนือครั้งแรกในชีวิต ### Part V. สวัสดีแม่ฮ่องสอน

Part V. สวัสดีแม่ฮ่องสอน


เห้อ เหนื่อยหลายวัน นั่งปั่นโปรเจค แถมตอนกลางวันเจอ shitbox อีก จะบ้าตาย - -ขอพักมาอัพบลอกดีกว่า อิอิ







พอลงมาจาก อช. และขอบคุณพี่เจ้าหน้าที่ไปเรียบร้อยแล้ว และรู้ข่าวแมนยูแพ้อาร์เซนอลเรียบร้อยแล้ว

จากพศนั่นเอง น้องที่แสนดี (จริงๆมันโทรมาหาหญิง) ทำให้พี่คนนี้ได้รู้ข่าวและมีจิตใจสดใสพร้อมไปเที่ยวต่อ เห้อๆ



เก้าโมงครึ่ง เลทหน่อยๆ รถตู้ของบ.เปรมประชา ที่จองเอาไว้ตั้งแต่เชียงใหม่ก็มาถึง(ไม่มีใครถ่ายรูปรถไว้เลย เสียใจ)
เค้าเว้นที่ด้านหลังสุดไว้ให้พวกเรา(จะเมาไม๊เนี่ย)
เราได้เห็นวิธีเก็บกระเป๋าอันอัดแน่น ทำให้รู้ว่าการจัดพื้นที่ใช้สอนดีๆมันมีประโยชน์มากมายเลยทีเดียว

ก็พยายามจะนับโค้งเหมือนเคย แต่คราวนี้ไม่เหมือนวันก่อนที่ตื่นเต้นมากมายกับการนั่งรถผ่านร้อยๆโค้งแล้ว
มันยิ่งนับไป เหมือนเป็นการกินยานอนหลับยังไงยังงั้น
จากตอนแรกหลังจากเบื่อนับโค้ง และรู้ว่านับไปก็มั่ว(เพราะขาดตอน) ก็นั่งชื่นชมธรรมชาติไป
รถก็ขับผ่านชานเมืองปาย(จุดหมายสุดท้ายของเรา) เห็นสะพานประวัติศาสตร์ด้วย ดูเล็กไปเลยล่ะ เมื่อเทียบกันจินตนาการเรา
เลยปายไปแล้ว เราก็ชมวิวต่อ แล้วทำไปทำมา เผลอหลับไปตอนไหนไม่รู้


ตื่นมาอีกที เจลมันปลุก ทหารเค้ามาตรวจบัตรประชาชน (เป็นเรื่องที่ตื่นเต้นมากเรื่องนึงของการมาเที่ยวครั้งนี้เลย)
ทหารตัวเป็นๆถือปืนมายืนข้างๆ โอ่ยตื่นเต้น
ตลอดทางเจอแบบนี้ตั้ง 2 ครั้งแน่ะ เค้าคงตรวจพวกหลบหนีเข้าเมืองไรงี้ ดีนะที่พกบัตรหน้าผีปอบไปด้วย ไม่งั้นโดนไปร้องเพลงชาตินี่คงมันส์พิลึกล่ะ หึหึ




หลังจากเจอพี่ทหารไปสองครั้ง คราวนี้ตื่นจริงๆละ ก็ชมธรรมชาติต่อ ฮ่าๆ (ชมเยอะหน่อยนึง นานๆมาที)
โค้งที่แม่ฮ่องสอนต่างกับโค้งแถวเชียงใหม่ ตรงนั้นจะโค้งธรรมดา อาจมีหักศอกบ้าง
แต่โค้งนี้จะแบบว่า เกินครึ่งมันฉวัดเฉวียน ถ้ามานั่งนับองศาคงจะเป็นสองร้อยสามร้อยยังมีเลยหละ แบบโค้งแทบจะกลับรถไป แล้วทางก็ไต่เขาลงเขาตลอดเวลา

จำที่เราบอกได้ปะ ว่าเมื่อวานเหมือนอยู่บนที่สูงมากๆ วันนี้ก็เหมือนกับค่อยๆไต่ลงมาจากหลังคา ประมาณนั้นอะ
แต่พอลงเสร็จ ก็ไปไต่เขาลูกอื่นต่อ ขึ้นๆลงๆ สัมผัสโค้งเยอะจนสมใจเลยแหละ
ถ้าเราเมารถแล้วอ้วกรับรอง อ้วกพุ่งโดนทุกคนอย่างทั่วถึงอะ
พลังอ้วกเหิรเวหา จงสำแดงฤทธา ณ บัดนี้ บุ้มๆๆๆๆๆๆๆ ฮ่าๆ






พอเข้าถึงเมืองแม่ฮ่องสอนละ(เที่ยงครึ่ง) คนขับเค้าก็ถามว่าจะลงไหน ก็บอกไปว่าศูนย์ศิลปาชีพ
ความรู้เราแม่น อ่านในเน็ตมา เค้าบอกคนจะเข้าปางอุ๋งต้องไปขอใบอนุญาตที่นั่น เพราะเค้าจำกัดคนเข้า
แล้วว่าจะแวะไปขอประกาศนียบัตรผู้พิชิต 1864 โค้ง ที่หอการค้าจังหวัด ใกล้ๆกัน แบบว่าอยากได้มาก หมายมั่นปั้นมือไว้
แต่รถตู้มันไม่ได้ผ่านทางนั้น เลยหย่อนเราไว้ตรงทางแยกระหว่างทางไปศูนย์ฯกับทางที่เค้าจะไป


คิดสภาพ คนหกคน กระเป๋าและถุงอีกนับสิบ หิวข้าว ไร้รถ
แต่เราไม่สิ้นหวัง เพราะเรามีเพื่อนให้เกาะ ฮ่าๆ ม่ายช่ายละ - -
มีรถมอเตอร์ไซค์รับจ้างโผล่มาสองคันอย่างรวดเร็ว มาถามว่าจะไปไหน ก็บอกเค้าไป
เค้าก็บอกว่า ไปปางอุ๋งไม่ต้องขออนุญาติซักหน่อย เข้าไปเลย เพราะไม่ใช่ช่วงเทศกาล คนไม่เยอะ
และที่สำคัญวันนี้(วันนั้น)เป็นวันอาทิตย์ เค้าไม่เปิดทำการอยู่ดี


โอ้ จริงหรือนั่น เหตุการณ์อะไรๆทำไมไม่เป็นไปดังใจคิด พวกเรานั้นหาข้อมูลแน่นปึ้กนึกว่าตัวเองฟิต แต่ชีวิตจริงมิได้เป็นดังที่วาดฝันเสมอไป
(ทำไมไม่ค่อยคล้องจอง)



นี่ถ้าไม่เจอพี่มอเตอร์ไซค์ก็คงเสียเวลาอีกนาน เห้อ
แถมรถเหลือง(รถประจำทางที่จะไปปางอุ๋ง) ที่มีวันละรอบหรือสองรอบนี่แหละ จำไม่ได้ แต่มันได้ไปหมดแล้วทุกคัน
คราวนี้เลยต้องแผนการสุดท้าย ... ไปเป็นเด็กแว๊นกันเถอะ (มันแปลว่าอะไรหรอคะ ^^)




สามบุรุษผู้กล้า โน๊ต สั้น เจล ซ้อนมอไซค์ไปร้านเช่ามอไซค์ งงใช่มะ นับคนสินับคน ยังงงอยู่ป่าว
มันมีคนซ้อนสามไปด้วยไง เพราะพี่เค้ามากันสองคันเอง มาถึงเมืองเค้าก็ทำผิดกฎจราจรซะละเรา หุหุ
หิวก็หิว ร้อนก็ร้อน นั่งหลบแดดอยู่ริมถนน ขโมยขนมเสบียงกินไปหลายห่อก็ไม่หายหิว
รอซักครึ่งชมได้ สามหนุ่มก็มาพร้อมกับมอเตอร์ไซค์สามคัน ต่อไปนี้จะเป็นการนั่งมอเตอร์ไซค์ที่ยาวนานที่สุดในชีวิตเราแล้วน๊า




ไปกินโจ๊กรองท้องกัน และแวะไปวัดพระธาตุดอยกองมู ^^


นี่เป็นการเริ่มต้นขี่มอไซไต่เขา โอ่ย ตื่นเต้นอะ
ธรรมดามอเตอร์ไซค์รับจ้างยังเคยนั่งนับครั้งได้ (เท่าที่จำได้ก็สองครั้ง วันที่สวรรค์เบี่ยงอวสานกับAF6วันปิดซีซั่น) แบบว่าไม่จำเป็นไม่กล้านั่ง
มันคุยกันว่า ถ้าลงเขาให้ดับเครื่อง ฟังแล้วหัวใจจะวายเอา



ถึงแล้วๆ วัดพระธาตุดอยกองมู












วิวจากบนนี้มองเห็นเมืองแม่ฮ่องสอนทั้งเมืองเลยมั๊ง




เป็นเมืองที่ดูสงบเงียบ น่ารักดีจัง




สนามบินแม่ฮ่องสอน นึกว่าจะติดอันดับสนามบินอันตรายของโลกซะอีก(แต่ไปหาดูแล้ว ไม่ติดtop10 )
รันเวย์สั้นจัง ท้าทายความสามารถนักบินจริงๆ





มาถึงที่แล้ว ไหว้พระทำบุญดีกว่า





เครื่องบูชาที่ไว้ทำบุญของที่นี่คล้ายๆกระทงน่ะ มีดอกไม้ (ใบไม้ด้วย) ธูป เทียน สะพาน และขวดน้ำ
และ ... ไม้สืบชะตา( ไปsearchมา - - เพิ่งรู้ว่าต้องเดินวนรอบพระเจดีย์สามรอบ เหมือนเราจะวนรอบเดียวเอง แงๆ )
เมื่อเดินวนแล้ว นำกระทงไปถวายหน้าองค์พระประจำวันเกิด แล้วขวดน้ำก็รดใส่กระทงด้วย วางไม้สะพานก่อน แล้ววางกระทงข้างบน สวยงามมากจริงๆ



พระปางนาคปรก ประจำวันเสาร์จ้า





เพื่อนๆมั่ง











ชอบมาก สวยมากๆเลย









อิ่มบุญเรียบร้อยแล้ว ก็ไปซื้อเสบียงสำหรับคืนนี้
เสร็จแล้วก็ Let's go !!!




โค้งมันไม่ต่างกับทางที่เราเคยผ่านมาหรอก แต่ที่ต่างคือรถไง นั่นมันรถทัวร์ รถตู้ แต่นี่มอเตอร์ไซค์
ตอนนี้ชีวิตเราฝากไว้กับเสี่ยโน๊ตแล้ว
แต่เสี่ยก็ไม่ทำให้เราผิดหวัง ขับขี่อย่างปลอดภัยตลอดทาง และสร้างความตื่นเต้นให้กับเราได้ตลอดทาง สุดยอดไปเลย



ระหว่างทาง ผ่านน้ำตกผาเสื่อ ประมาณสี่โมงเย็น
คือน้ำตกเหมือนเสื่อจริงๆ ใหญ่มาก และคุณเจ้าหน้าที่ก็นิสัยดีและใจดีมากจริงๆ
เราโชคดีจริงๆ ที่เจอแต่ จนท.อุทยานดีๆ ขอบคุณทุกคน





คือพอว่าจอดมอเตอร์ไซค์ พี่เค้าก็เดินเข้ามาถาม มาแนะนำ เยอะแยะเลย เราเลยถามทางไปปางตอง เค้าก็แนะนำมา ดูๆเวลาแล้ววันนี้คงไปไม่ทันแน่ เลยว่าจะไปวันรุ่งขึ้น
และด้วยความรีบ เพราะเย็นมากแล้ว ต้องไปอีกไกล เลยไม่มีเวลาชมน้ำตกมากนัก ก็เลยจากลาพี่ใจดีมา


มอเตอร์ไซค์คันเรากับคันเจลมันจะเต่าๆพอกัน (เกียร์ออโต้ขับขึ้นเขา คิดดู)
แต่คันไอ้สั้นมันจะแรงกว่าเค้า เลยขับเร็วกว่าเพื่อน พักๆมันก็รอๆ แต่ว่าคันมันนอกจากเครื่องจะแรงแล้ว ยังกินน้ำมันน้อยด้วย
พอเพื่อนแวะเติมน้ำมัน มันก็ขับเลยไปก่อน เผื่อว่าจะติดต่อเรื่องที่พักด้วย (ใช่รึเปล่า)


แต่มันหายไปยาวเลย สรุปคือว่า มันขับแล้วเลยทางแยกไป
เพราะว่าตอนมันถึงป้าย แล้วตอนนั้นมีรถออกจากแยกมาแล้วบังป้าย แถมเค้าใจดีโบกบอกให้มันไปก่อน มันก็ขับเลยไปเลย ไม่เห็นป้ายเลย
สรุปว่าก็ต้องขับย้อนกลับนะจ๊ะ อิอิ



ตอนกลางวันที่พระธาตุดอยกองมูก็ร้อนแสนร้อน
พอบ่ายแก่ๆ พระอาทิตย์ยังไม่ตกดินก็รู้สึกถึงความหนาวยะเยือกที่แทรกเข้ามา
อากาศเปลี่ยนเร็วจริงๆ




รู้สึกได้ว่าใกล้เข้ามาแล้ว ต้นไม้หนาแน่นขึ้น ป่าชื้นๆรอบด้านส่งเสียงต้อนรับเรา (คิดเอาเอง)
มองไปรอบๆ เห็นโครงการในพระราชดำริมากมาย ทั้งไม้ยืนต้น ไม้ล้มลุก
ทั้งที่อากาศมันเย็น แต่ในใจเรากลับรู้สึกอบอุ่นขึ้นมา
เราโชคดีจริงๆที่มีในหลวงและพระราชินี ที่รักและห่วงใยในประชาชนและผืนป่า
ทำให้ยังเหลือพื้นที่สีเขียวให้กับประเทศๆนี้







ไปเรื่อยๆเรื่อยๆ แบบไม่รู้ตัว ... เราก็มาถึงจนได้ ... หมู่บ้านรวมไทย
มันคือปางอุ๋งหรอ .. อ้าว ใช่ดิ
เพิ่งรู้หรอ .. ใช่สิ ฮ่าๆ เด๋อเลย

เรามาถึงปางอุ๋งแล้ววววววววววววว








Create Date : 09 ตุลาคม 2552
Last Update : 10 ตุลาคม 2552 19:54:13 น. 7 comments
Counter : 828 Pageviews.

 
ภาพสวยมากครับ ฟ้าใสทีเีดียวเชียว ไปกันแบบนี้คงหนุกหนานกันน่าดูนะครับ


โดย: นายหัว (nindhua ) วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:7:12:36 น.  

 
หวัดดียามเช้าค่ะ เช้านี้อากาศดีมากเลย อยากไปแม่ฮ่องสอนมั่งง่า เห็นแล้วเกิดกิเลส อิอิ


โดย: kwan_3023 วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:8:43:42 น.  

 
ภาพสวยจังเลยค่ะ อิอิ
เห็นแล้วน่าไปมากๆโดยเฉพาะภาพภูเขานี่ว้ากกก


โดย: ขวัญชนก (nangfahtalae ) วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:11:11:33 น.  

 
ลืมบอกไปว่าบล็อกน่ารักมากๆๆๆๆๆๆๆๆเลยคร่า


โดย: ขวัญชนก (nangfahtalae ) วันที่: 10 ตุลาคม 2552 เวลา:11:11:57 น.  

 
สวยดีเนอะ น่าไปๆ
ชอบรูปไหว้พระปางนาคปรกจัง ดูน่ารักดี ไหว้พระด้วย
แล้วนี่ซ้อนมอไซต์ได้แล้วเหรอนี่ หุหุ


โดย: somement IP: 58.9.42.10 วันที่: 11 ตุลาคม 2552 เวลา:2:00:25 น.  

 
มะมีรูปหนูไหว้พระง่ะ T_T

รถคันเรามันไม่ต้านลมไง
เลยไปเร็ว อิอิ


โดย: maxgene IP: 202.44.8.100 วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:19:09:56 น.  

 
ไม่มีรูปแกก็เพราะแกเป็นคนถ่ายรูปไงล่ะ แหมๆ

เชิญไม่ต้านลมแล้วไม่มีรูปต่อไปนะ ฮ่าๆ


โดย: คุณหนูแพนด้าตัวน้อย วันที่: 14 ตุลาคม 2552 เวลา:23:13:26 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทำไมซันนี่ไม่ยอมอาบน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Instagram
My instagram iLoveWoodgate






Online Users.

Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2552
 123
45678910
11121314151617
18192021222324
25262728293031
 
9 ตุลาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ทำไมซันนี่ไม่ยอมอาบน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.