Backpacker Trip5:: เที่ยวเชียงราย & ดอยผ้าห่มปก (Part I)

Backpacker Trip5 :: เที่ยวเชียงราย & ดอยผ้าห่มปก (Part I) 


Pre Script 1 :: นี่คือรีวิวแซงคิวนะจ๊ะ ส่วน Backpacker Trip4 ชุด ตะลุยพิษณุโลก & เพชรบูรณ์ ยังไม่ได้ฤกษ์คลอดซักที ไปเที่ยวมาตั้งแต่ต้นปีที่แล้วละ เขิลจัง >_<

Pre Script 2 :: สิ่งต่างๆส่วนใหญ่ในบลอกนี้ อัพขึ้นห้องบลูไปแล้ว แต่อยากมาอัพเก็บไว้ให้เป็นที่เป็นทางในบลอกนี้ด้วย ถ้าใครเคยอ่านในกระทู้แล้ว ก็ข้ามบลอกนี้ไปก็ได้จ้า




ทริปนี้เป็นทริปรวมแก๊งเพื่อนสมัยเรียนมหาลัย เรียนจบมาปีนี้เข้าปีที่3แล้วกว่าจะไปเที่ยวด้วยกันได้ รอคอยมานานมากจริงๆจุดเริ่มต้นของทริปนี้ตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ปีที่แล้ว ที่AirAsiaจัดโปรออกมา แล้วเราก็คิดกันว่า อยากไปเที่ยวคือเอาให้ได้ตั๋วโปร ไปไหนก็ไปกัน ตอนแรกจะจองเชียงใหม่ แต่ไม่ค่อยถูกใจช่วงเวลา เลยไปจบลงที่เชียงรายหลังจากนั้นแผนการเที่ยวก็ค่อยๆหลั่งไหลออกมาจ้า (ประมาณว่า จองให้ได้ก่อน หาที่เที่ยวทีหลังนั่นเอง)

ภาพถ่ายทั้งหมดของทริปนี้ฝีมือ Nex-5N ลูกสาวคนใหม่ของเรานั่นเอง สมาชิกผู้ร่วมเดินทาง เพื่อนๆ4คน รวมตัวเราบวกกับลูกชายตัวเก่า และลูกสาวคนเก่ง รวมเป็น 7 ชีวิต (จะรวมอะไรเยอะแยะเนาะ) ^^"






พวกเราออกเดินทางคืนวันพฤหัสที่ 10 มกราคม เวลา 1 ทุ่ม 45 แต่ไปถึงดอนเมืองตั้งแต่ 5 โมง กลัวรถติด(จริงๆคือบ้าเห่อ)
พอผ่านไปซักพัก เริ่มหิว เลยไปเดินดูของในมินิมาร์ท โห...ข้าวกล่องละ50 เห็นแล้วตกใจ
แต่เพื่อนบอกว่า ซื้อข้าวริมถนนก็ 40-45 แล้วนะ เลยคิดได้ว่า มันอาจไม่ใช่แพงเพราะขายในสนามบิน แต่แพงเพราะยุคค่าแรง300บาท อิอิ

เพิ่งเคยบินช่วงเวลากลางคืนแบบนี้ แสงสีบรถนนยามค่ำคืนช่างสวยงามจริงๆ






เครื่องลงจอดที่สนามบินแม่ฟ้าหลวงประมาณ 3 ทุ่ม ไปตบตีต่อรองราคาแท็กซี่อยู่นาน
เราจองที่พักแถวขนส่งเชียงรายไว้ เห็นข้อมูลในเว้บว่า จากสนามบินเข้าเมืองประมาณ 100
แต่ไม่ได้บอกไว้ว่าจำกัดแค่ 4 คน แต่เรามากัน5 = ="
ทีนี้พี่แท็กซี่ก็จะต้องให้ไป 2 คัน แล้วคิดราคาคันละ 200 ==> 2คัน400 โคตรแพง!!!
สุดท้ายแล้ว เราก็ได้ไปรถ ตู้พี่เค้าบอกว่าจริงๆรถตู้ไม่ใช่ราคานี้ แต่เห็นดึกแล้วเลยลดให้เหลือ 300
พวกเราก็...เอาวะ ถูกกว่า 400 แถมยังได้นั่งไปพร้อมๆกัน รถตู้ก็รถตู้เนาะ

เราพักกันที่ City Home Guest House ที่ไม่มีความสวยงามใดๆ และราคาก็ไม่ได้ถูกด้วย
แต่เลือกที่นี่เพราะว่าใกล้ขนส่งมากๆ(ใช้เวลาเดินไม่ถึง5นาที)
ห้อง family นอนได้ 5 คน คิด 1200 จ่ายกับ agoda มา 600 แต่ทางที่พักบอกว่าโอนมา 49x
สรุปว่าจองที่พักทีนึง อี Agoda มันกินหัวคิวไปร้อยกว่าบาทต่อคืนเลยเรอะ แย่มาก ต่อไปคงไม่จองผ่านทางนี้แล้วหละเก็บข้าวของกันเรียบร้อย ก็ไปเดิน night barza ได้ถุงมือกับถุงเท้ากันหนาวมาเพิ่มอีกอย่างละคู่
ส่วนของขายเค้าก็ทยอยเก็บแล้ว เพราะเราเริ่มเดินก็ 4 ทุ่มกว่า เกือบ 5 ทุ่มแล้ว
เดินๆไปซักพัก หิว - -"
มาเชียงรายทั้งที กินอะไรดีล่ะ

อาหารมื้อดึกของพวกเราในค่ำคืนแรกที่เชียงรายก็คือ ... ลูกชิ้นทอด ปลาหมึกบด และมาม่า เย้ๆๆๆ






หลังจากกินจนอิ่มหนำ และเม้ามอยกันจนอิ่มใจ วันรุ่งขึ้นก็ตื่นแต่เช้าไปซื้อตั๋วรถไปฝาง เพื่อต่อรถไปดอยผ้าห่มปก...จดหมายปลายทางของพวกเรา
เดินทะลุไนท์บาซาร์ไป ก็จะเจอท่ารถเชียงรายเลย
ตั๋วรถ Green Bus เชียงราย ไปฝาง คนละ 92 บาทจ้า
รถออกวันละรอบ จากแเชียงราย 8 โมงเช้า จากท่ารถฝาง บ่าย 2 โมง

รถออกตรงเวลามาก และไปจอดรับคนตรงขนส่งใหม่ประมาณ 5 นาที
คนขับก็ขับรถดี รถเป็นรถแอร์ สภาพในรุถก็ตามรูปเลยนะ แคบไปหน่อย แต่เบาะดี + สะอาด
สรุปว่าถูกใจกับ Green Bus มากๆเลย






ประมาณ 10 โมงกว่าๆ รถก็มาถึงปลายทาง...ตลาดฝาง รถเข้าไปจอดในตลาดเลย
แล้วพวกเราก็ออกมาซื้อเสบียงที่เซเว่น เตรียมขึ้นไปกินบนอุทยาน
เสร็จแล้วก็โทรติดต่อเจ้าหน้าที่อุทยาน เรื่องรถขึ้นอุทยาน (จองไว้ก่อนแล้ว)
คนที่จะพาเราขึ้นอุทยานตรงลานกางเต๊นท์กิ่วลม ชื่อพี่ก้าน เค้ามารับถึงตลาดฝางเลย

ตอนแรกกะจะไปกินกลางวันกันทน้ำพุร้อน แต่พี่ก้านเสนอทางเลือกว่า จะพาขึ้นอุทยานโดยไม่ผ่านตรงน้ำพุได้ เพราะเป็นคนละทางกัน
แล้วพี่เค้าจะพาลาตรงน้ำพุร้อนวันรุ่งขึ้นแทน
เราก็ตกลงตามนั้น แถมให้เค้าแนะนำร้านอาหารให้เสร็จสรรพ เลยมาจบลงที่ร้านนี้(จำชื่อไม่ได้) ได้กินข้าวซอยอาหารเหนือแล้ว เย้ๆ





ถนนตอนแรกๆที่เป็นทางหลักก็ยังดีๆอยู่ แต่พอเลี้ยงเข้าทางรอง ทางก็เริ่มเน่าขึ้นเรื่อยๆ (ไม่งั้นเค้าจะให้เปลี่ยนรถเรอะ - -")
ทั้งเส้นทางที่คดเคี้ยว หลุมบ่อ ทั้งฝุ่นกระจาย แต่ก็สนุกไปอีกแบบ

ภาพของเส้นทางสุดเน่าจากกล้องเพื่อน (เราเก็บลูกสาวเราไว้อย่างดีไม่ยอมเอาออกมา อิอิ)





พอผ่านไปได้ซัก 2/3 เค้าก็ให้แวะถ่ายภาพตรงจุดชมวิว เลยแอบถ่ายรถพี่เค้ามาด้วย เล็กไปหน่อย แต่ใหม่ถูกใจมากๆ




จุดชมวิวมันสวยงามนะ แต่ว่าถ่ายรูปออกมาแล้วไม่ค่อยสวยเลย คือมันหมอกๆมองอะไรไม่ค่อยเห็น
ถ่ายมุมกว้างๆแบบนี้ดีกว่าแยะเลย ^^



เจอป้ายแบบนี้ทีไร นึกถึงที่แม่ฮ่องสอนทุกที





พอมันจะถึง อยู่ดีๆมันก็ถึงเฉยเลย กำลังนั่งรถเพลินๆเชียว
พี่ก้านขับรถไปส่งถึงหน้าที่ทำการของจุดกางเต๊นท์กิ่วลมเลย พร้อมกับพาไปติดต่อจนท.เรื่องเต๊นท์ (พวกเราจองโซนAไว้)
เสร็จแล้วก็นัดแนะกันว่า วันรุ่งขึ้นให้โทรเรียกเค้าเมื่อพร้อมกลับ

เราไปถึงเป็นกลุ่มที่ 2 ของวันเลย โซนA ไร้ผู้คน โหะๆๆๆ (แต่มากันตอนบ่ายแก่จนเกือบเต็ม - -")





พอเก็บข้าวของแล้ว ก็ไปเดินถ่ายรูปเล่นกัน โดยไล่เดินไปตามจุดกางเต๊นท์โซนอื่นๆ

เริ่มด้วยป้ายจุดกางเต๊นท์ก่อนเลย เป็นจุดที่สูงที่สุดในประเทศซะด้วย ความรู้ใหม่เลย




แอบไปถ่ายรูปลานกางเต๊นโซนอื่น



เจอต้นม้งต้นไม้ก็ถ่ายหมด



อันนี้ทางเดินไปลานกางเต๊นท์โซน D





มีแผงโซล่าเซลล์ซะด้วย เห็นว่าตรงพื้นที่กางเต๊นท์นี้กลางวันไม่มีไฟใช้ เค้าปั่นไฟใช้ตอนกลางคืน (6โมงถึง3ทุ่ม) สงสัยเป็นเจ้านี่นั่นแหละที่คอยทำงานอย่างซื่อสัตย์





เสร็จแล้วก็นั่งเล่น เม้ามอยกันตามประสา
เรื่องอาหารการกิน เราถามข้อมูลจากคุณ Candieflozz ไว้ซะเยอะเลย ว่าจะมีร้านอาหารอยู่ร้านนึงบนลานกางเต๊นท์
แต่ว่าจะมีอาหารขายหรือไม่อีกเรื่องนึง...เอ๊ะยังไง
คือว่าเค้าบอกว่า แม่อุ้ยจะขายพวกชา กาแฟ และมาม่าต้ม พวกๆนี้ แต่ถ้าลูกเขยแม่ขึ้นมาด้วย เราจะโชคดีมีข้าวกินกัน
และก็เป็นโชคดีของพวกเรา ที่วันนั้นพวกเขามากันทั้งครอบครัวเลย พวกเราเลยมีกินกันอิ่มหนำสำราญ
ราคาก็ไม่แพงมาก ของพวกต้มยำ 100 ถ้าอาหารผัดทอด จานละ 40-60 ข้าวเปล่าจานละ 10
ไม่มีเวลามาถ่ายรูปอาหารเลย เพราะหิวมว้ากกกก หนาวด้วย กินข้าวเย็นกันประมาณ 5 โมง อุณหภูมิเหลือสิบต้นๆแล้ว บรึ๋ยๆๆๆ

เสร็จแล้ว ก็ไปรอชมพระอาทิตย์ตกดิน









ลองถ่ายแสง Twilight ตรงจุดกางเต๊นท์





ตอนแรกตั้งใจอย่างมุ่งมั่นว่า ต้องมาอาบน้ำที่นี่ให้ได้ ประมาณว่า จะมีซักกี่ครั้งในชีวิตที่ได้อาบน้ำตอนสิงองศาต้นๆ
แต่พอมาถึงแล้ว โอ้...ตัวเราก็ไม่ได้สกปรกอะไรเลย (ตอนฝ่าดินแดงเข้ามาเราแต่งการอย่างรัดกุมมว้ากกก)
มันเหมือนมีนางฟ้ากับปิศาจคอยเกลี้ยกล่อมอยู่คนละฝั่ง ว่าจะอาบหรือไม่อาบ
ที่บอกไปแล้วว่า ทางอุทยานจะเริ่มปั่นไฟ 6 โมง (หรือ 6 โมงครึ่งเนี่ยแหละ) แต่ว่าพอ 5 โมงกว่าๆ ก็เริ่มมืดแล้ว
แถมพระอาทิตย์ก็ใกล้ตก เลยไม่ได้อาบซักที พอพระอาทิตย์ลับขอบฟ้าไป เราก็กลั้นใจว่า เอาวะ รีบๆอาบให้เสร็จๆไป

อยากจะบอกว่า น้ำไม่ได้หนาวเท่าที่คิดเลย ไม่รู้ว่าแท็งก์น้ำตากแดดตอนเย็นรึเปล่า ^^" แต่ก็เป็นอันว่าภารกิจแรกสำเร็จแล้ว

ตรงที่ทำการอุทยานเค้ามีให้ชาร์จแบตได้ มีเตรียมปลั๊กพ่วงให้ด้วย มีคนมาชาร์จกันเพียบ แต่ว่าให้ชาร์จได้ถึงประมาณ 2 ทุ่มครึ่งนะจ๊ะ

เสร็จแล้วก็มานั่งผิงไฟกัน อากาศก็เร่มหนาวเย็นลงเรื่อยๆ
พอตอนจะเข้านอน หนาวจนกระทั่งแค่เดินห่างจากกองไฟซัก 1 เมตรก็ไม่อุ่นแล้ว
(ช่วงนี้ไม่มีใครถ่ายรูปกันแล้ว เพราะถ่ายไปก็ไม่เห็น แถมจะประหยัดแบตไว้ถ่ายวันรุ่งขึ้นด้วย)




เม้ามอยกันได้ซักพัก ก็ถึงเวลาเข้านอน ไม่รู้จะโพสต์รูปอะไร โพสต์รูปแปรงฟันละกัน ฮ่าๆ (ถ้าเพื่อนเรามาสงสัยโดนมันบ่นแน่ )




จบ Part 1 แว้ว ตอนต่อไป ต้องมาลุ้นว่าวันรุ่งขึ้นจะเกิดเหตุการณ์อะไรขึ้น ที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตเราไปตลอดกาล (เวอร์มาก) SmileySmiley



Create Date : 25 กุมภาพันธ์ 2556
Last Update : 25 กุมภาพันธ์ 2556 18:30:53 น. 1 comments
Counter : 2965 Pageviews.

 


โดย: Kavanich96 วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2556 เวลา:4:37:11 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ทำไมซันนี่ไม่ยอมอาบน้ำ
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Instagram
My instagram iLoveWoodgate






Online Users.

Group Blog
 
 
กุมภาพันธ์ 2556
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
2425262728 
 
25 กุมภาพันธ์ 2556
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add ทำไมซันนี่ไม่ยอมอาบน้ำ's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.