Group Blog
 
<<
กันยายน 2550
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
30 
 
3 กันยายน 2550
 
All Blogs
 

บ้านสุขาวดี สวรรค์บนดิน

ออกจากโรงแรม 9 โมงกว่าๆ มุ่งหน้าสู่บ้านสุขาวดี เรื่องที่ตั้งเราไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่ ประมาณการว่าน่าจะแถวๆพัทยา แต่ออกไปทางอำเภอ บางละมุงนะ ใช้เวลาประมาณเกื่อบ 1 ชั่วโมงก็ถึง




เจ้าของบ้านสุขาวดีเป็นคนเดียวกับเจ้าของสหฟาร์ม ฟาร์มเลี้ยงไก่และส่งออกไก่ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย และใหญ่ที่สุดในโลก ท่านประธานกล่าวตอนรับคณะเราและให้ดูวีดีโอเกี่ยวกับ ฟาร์มเลี้ยงไก่ ที่มีระบบป้องกันความปลอดภัยของไก่ ฟาร์มไก่สามารถเลี้ยงไก่ได้ถึงประมาณ 340000 ตัว และสามารถชำแหละไก่ได้ประมาณ 1 ล้านตัว / วัน กว่าจะมีวันนี้ได้ ใครจะรู้ว่าอดีตท่านประธานเคยเป็นพยาบาลทหารเรือ ยศจ่าเอกอยู่ 11 ปี แล้วท่านก็ได้ลาออกไปทำงานที่สาธารณสุขสังกัดกทม.อยู่อีก 12 ปี ท่านว่าการที่เป็นข้าราชการที่ซื่อสัตย์และซื่อตรง แถมเป็นข้าราชการผู้น้อยอย่างท่านไม่มีทางรวยแน่ ชีวิตพอดีเป๊ะๆๆนั่นคือเงินเดือนพอดีใช้ชนเดือน ท่านจึงมองหาช่องทางที่จะพอมีรายได้พิเศษขึ้นมา ท่านจึงคิดจะเลี้ยงไก่ โดยที่ท่านนำเงินจากการเล่นแชร์ที่ทำงานได้ทั้งหมด 5000 บาม มาลงทุนซื้อลูกเจี๊ยบ มาเลี้ยง แต่ลูกเจี๊ยบที่ท่านเลี้ยงต้องการความทะนุทะนอมและเอาใจใส่อย่างมากและเนื่องจากท่านต้องทำงานประจำด้วย ลูกเจี๊ยบที่ท่านเลี้ยงจึงตายทั้งหมด ทิ้งไว้แต่หนี้ให้ท่านดูต่างหน้า

เมื่อลูกเจี๊ยบตายหมดท่านก็มาคิดใหม่ว่าเป็นเพราะท่านคิดอยากจะรวยท่านจึงมองข้ามอะไรหลายๆอย่างๆไป แทนที่จะรวยกลับจน ท่าจึงเปลี่ยนมุมมองทั้งหมดใหม่ว่าท่านต้องงคิดว่าทำอย่างไรจึงจะไม่จน และเริ่มคิดอย่างรอบคอบมากขึ้น มีสติมากขึ้น ท่านจึงมีวันนี้ได้ จริงๆท่านใช้หลักการหลายๆอย่างในการปกครองลูกน้องและพนักงาน ที่เราจำได้ก็คือ "คนทุกคนมีศักดิ์ศรีเท่าเทียมกัน มีความสำคัญเท่ากัน ท่านให้เกียรติพนักงานทุกคน เพราะท่านคิดเสมอว่า พนักงานทุกคนมีส่วนในการขับเคลื่อนให้สหฟาร์มมีวันนี้ "

หลังจากที่ท่านกล่าวให้ข้อคิดในการทำงานและข้อคิดในการดำเนินชีวิตแล้วท่านก็พาคณะเราไปเที่ยวชมบริเวณบ้านสุขาวดี เริ่มต้นที่ห้องประชุม ซึ่งห้องนี้จะใช้ต้อนรับผู้ใหญ่และแขกระดับประเทศเท่านั้น สวยมากๆๆ หรูหราอลังการจริงๆ ดูรูปเลยล่ะกัน

>


ตอนบ่ายก็จะมีคณะจากสำนักราชวังมาประชุมที่นี้ จริงๆแล้วเค้าห้ามนั่งเก้าอี้นะ แต่คณะเราพิเศษ ท่านให้นั่งถ่ายรูปได้เราก็เลยขอซะหน่อย



จากนั่นก็มาเดินชมปฏิมากรรมด้านนอกห้องประชุมกัน สวยทุกมุมเลยอะ เรากะน้องๆที่ทำงานผลัดกันถ่ายรูป แอคจนเมื่อยแต่ก็อยากถ่ายเก็บภาพไว้ให้มากที่สุดเพราะไม่รู้เมือ่ไหร่จะได้มาอีก




จากนั้นท่านใจดีมากเปิดห้องพักผ่อนส่วนพระองค์เวลาที่เสด็จมาประทับ ณ บ้านสุขาวดีให้เข้าชมด้วย ปกติห้องนี้จะไม่เปิดให้เข้าชม แต่ครั้งนี้พิเศษจริงๆ แต่มีข้อแม้ว่าห้ามถ่ายรูปเลยไม่มีรูปสวยๆมาอวดกัน

พอชมห้องส่วนพระองค์ เราก็พากันเดินกลับมารับประทานอาหารกลางวันที่ตึก 5 ชั้น อาหารกลางวันมี ส้มตำ ไก่ย่างสหฟาร์ม ลาบไก่ ผัดไท ส้มตำอร่อยมากๆ ขอบอก หลังจากกินข้าวเสร็จเรากับน้องปุ้ยก็เดินไปไหว้พระที่โดมพระ



ข้างหลังเราที่เห็นเป็นโดมสีฟ้า คือที่ประดิษฐานของพระพุทธรูปปางที่แปลกที่เราไม่เคยเห็นที่ไหนมาก่อนเลย พระพุทธรูปองค์นี้สูง 9.80 เมตร ท่านประธานได้มาจากญี่ปุ่นเมื่อคราวที่ส่งออกไก่ไปญี่ปุ่นเป็นครั้งแรก อลังการงานสร้างจริงๆ

เมื่อเดินชมบ้านสุขาวดีเท่าที่จะเดินได้แล้วเห็นทีคงได้เวลาต้องกลับแล้วล่ะ เดินทางกลับถึงอย.โดยสวัสดิภาพ ประมาณ 16.30 เห็นจะได้ แต่กว่าจะถึงบ้านเราก็ปาเข้าไป 6 โมงเย็นพอดี




 

Create Date : 03 กันยายน 2550
1 comments
Last Update : 4 กันยายน 2550 14:08:51 น.
Counter : 2342 Pageviews.

 

ฆ่าไก่ วันละมากขนาดนั้น เวรกรรม คงจะมาก แต่เมื่อเป็นอาหาร คงได้บุญมากเช่นกัน หักลบกลบหนี้ เอาเอง แต่คงเหลือมาก(เงินนะ)

 

โดย: bestphuket 5 พฤษภาคม 2551 12:20:41 น.  

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 


little_tarn
Location :
กรุงเทพ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เป็นเด็กต่างจังหวัดที่ต้องเข้ามาใช้ชีวิตดิ้นรนในเมืองหลวงเหมือนใครๆอีกหลายคน พูดได้เลยว่าไม่เคยหลงเสน่ห์เมืองกรุงเลย อยากกลับบ้านเราแล้วซิ มีโอกาสเมื่อไหร่กลับบ้านเราแน่ๆ แต่ว่าเมื่อไหร่จะมีโอกาสหล่ะ แป่ว !!!











Google




Friends' blogs
[Add little_tarn's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.