ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง
Location :
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember ผู้ติดตามบล็อก : 60 คน [? ]
ปลาหมึกน้อย กับ นายโอเลี้ยง รายงานตัวครับ เนื่องด้วยเราสองคนเป็นคนชอบเที่ยว ชอบกิน ดังนั้นก็เลยจัดการหาที่เก็บสถานที่หรือร้านอาหารที่เคยแวะเยี่ยมมาแล้ว และเสมือนเป็น ไดอารี่ส่วนตัว ที่ทุกคนเข้าดูได้ อาจจะมีประโยชน์ไม่มากก็น้อยสำหรับผู้ที่ผ่านเข้ามาแล้วต้องการหาข้อมูลสำหรับสถานที่นั้นๆ ขอให้สนุกกับ Blog นี้นะ ตอนนี้ Eat and Travel Diary by ปลาหมึกน้อยกับนายโอเลี้ยง มี fan page เพื่อให้ง่ายต่อการติดต่อครับ ถ้าใคร "ถูกใจ" blog นี้ ฝากช่วยกด "Like" กันนะครับ จะได้ติดต่อกันได้ง่ายขึ้น ^_^ Click ข้างล่างได้เลยจ้า
1 2 3 4
5 6 7 8 9 10 11
12 13 14 15 16 17 18
19 20 21 22 23 24 25
26 27 28 29 30 31
La a natu bed & bakery @ ปรานบุรี ประจวบคีรีขันธ์
ช่วงนี้เริ่มว่างบ้างแล้ว เลยมีเวลามา Up Blog ซักที ช่วงกลางปี 2553 อากาศร้อนสุดๆ ร่างกายก็เลยต้องการทะเลขึ้นมาทันที และเป็นครั้งแรกที่ไปพักทะเลปราณบุรี หลังจากท่องเที่ยวอยู่ที่ หัวหิน - ชะอำ อยู่บ่อยๆ ครั้งนี้ได้รับอานิสงค์จากละครเรื่อง "ใจร้าว" ซึ่งทำให้รู้จักรีสอร์ทเล็กๆ แห่งนี้ ทำให้หน้าร้อนปีนี้ได้ไปทะเลที่นี่ La a natu เป็นรีสอร์ทขนาดเล็ก ซึ่งมีห้องพักเพียง 10 ห้อง ทำให้เป็นรีสอร์ทที่มีความเป็นส่วนตัวสูง เริ่มเช็คอิน ที่ Lobby ของรีสอร์ท ซึ่งเป็นห้องอาหารไปในตัว ทางพนักงานเตรียม welcome drink มาให้ เป็นน้ำสับปะรดเย็นๆ พร้อมด้วยผ้าเย็น ทำให้รู้สึกสดชื่นทันที โต๊ะทานอาหารของที่นี่ มีทั้งในร่ม และที่อยู่กลางแจ้ง ซึ่งมองเห็นทะเลได้ชัดเจนมากๆ ของตกแต่งเล็กๆ บนโต๊ะอาหาร ดูแล้วเข้ากับสภาพแวดล้อมมากๆ เช็คอินเรียบร้อยแล้ว เริ่มรู้สึกหิวขึ้นมา เนื่องจากไปถึงที่พักเที่ยงตรงพอดี เลยสั่งอาหารมากินคนละอย่างครับ เป็นอาหารง่ายๆ คือผัดขี้เมาหมูราดข้าว และก๋วยเตี๋ยวเซี่ยงไฮ้ผัดขี้เมาหมู หลังจากอิ่มอร่อยกับอาหารเที่ยงแล้วได้เวลาเข้าไปในห้องพัก แต่ยังเห็นว่ามีเวลาเหลือนิดหน่อย เลยขอให้พนักงานพาชมรีสอร์ทก่อน ซึ่งได้พนักงานก็ให้บริการอย่างดี พาเราเข้าไปชมห้องพักแบบ Loft Suite เนื่องจากว่าแขกยังไม่ได้เข้ามาเช็คอิน เริ่มต้นที่ห้อง Vanilla (pool villa) ห้อง Loft Suite เป็นห้องสไตล์โมเดิร์นแบบ 2 ชั้น โดยชั้นล่างเป็นห้องนั่งเล่นและอ่างจากุซซี่ ภาพนี้เป็นมุมจากชั้นสอง ชั้นบนเป็นห้องนอน ซึ่งมีวิวที่มองเห็นทะเลอย่างใกล้ชิดมาก ลงมาที่ชั้นล่างห้องนี้มีจุดเด่นที่สระว่ายน้ำซึ่งมีขนาดไม่เล็กจนเกินไป เห็นแล้วอยากพักที่ห้องนี้มากๆ น้ำในสระเห็นแล้วอยากลงไปเล่นมากๆ เพราะเป็นส่วนตัวที่สุด จุดเด่นอีกอย่างคือ ชิงช้าที่อยู่กลางห้องนั่งเล่น เอาไว้ผ่อนคลายได้เป็นอย่างดี ห้องพักอีกแบบของ Loft Suite คือ ห้อง Cinnamon และ Nutmeg แตกต่างจากห้อง Vanilla คือไม่มีสระว่ายน้ำ มาดูด้านหน้าของห้อง Loft Suite หลังจากชมห้องพักคนอื่นแล้ว ได้เวลาเช็คอินห้องตัวเองบ้าง โดยเราเลือกพักที่ห้องแบบ Tropical Cottage ห้องพัก Type นี้มี 3 ห้อง คือห้อง ตะไคร้, ห้องใบมะกรูด และ ห้องที่เราพักคือ ห้อง ต้นหอม ห้องพักแบบนี้ อยู่ใกล้ทะเลที่สุด บ้านต้นหอมเป็นบ้านที่อยู่ใกล้ทะเลที่สุด และอยู่หลังซ้ายสุดของรีสอร์ท เข้ามาสำรวจในบ้านบ้างครับ เข้ามาด้านในจะมีชุดนั่งเล่น พร้อมโต๊ะ อยู่กลางห้อง ด้านขวามือจะเป็นพื้นที่ของเตียงนอน ด้านซ้ายมือจะเป็นพื้นที่ในส่วนของห้องน้ำ เข้ามาจะพบกับอ่างล้างหน้า ซึ่งใช้เป็นพื้นที่สำหรับโต๊ะเครื่องแป้งไปในตัว ด้านซ้ายมือจะมี TV อยู่ตรงทางเข้า ภายในห้องน้ำจะมีห้องอาบน้ำ มีฝักบัวแบบฝนตกอยู่ และด้านบนเป็นพื้นที่เปิด ทำให้มองเห็นท้องฟ้าได้อย่างชัดเจน ออกจากห้องน้ำมาที่มุมเดิม จากนั้นก็เข้าไปสำรวจเตียงนอน นุ่ม สบาย มีประตูกั้นอีก 1 ชั้น ซึ่งแบ่งพื้นที่สำหรับที่นอน กับห้องนั่งเล่นได้อย่างลงตัว กลับมาที่มุมนั่งเล่นอีกครั้ง ทางรีสอร์ท เตรียมของเล่น รวมทั้งหนังสือซึ่งสามารถนำมาจากที่ Lobby ได้ ด้านหลังของโซฟานั่งเล่น ถูกจัดให้เป็นพื้นที่สำหรับอ่างอาบน้ำแบบ Open Air แต่ว่าพื้นที่นี้ถูกกั้นด้วยผนังไม้ไผ่ ซึ่งไม่ค่อยมิดชิดเท่าไร ทำให้รู้สึกว่าไม่ได้นอนแช่อย่างน้ำอย่างเป็นส่วนตัวเท่าไร ซึ่งผมก็ไม่ได้ใช้บริการส่วนนี้ พาออกมาเดินเล่นรอบๆ บ้านพัก กันบ้างครับ ด้วยห้องพักที่อยู่ใกล้กับทะเลมากๆ ทำให้สามารถเดินเล่นไปที่ทะเลได้บ่อยตามที่ใจต้องการ โดยมีเสาที่มีสัญลักษณ์แปลก อยู่ริมหาด รูปแบบบนเสาที่สวยงาม แปลกตา บริเวณสนามหญ้าหน้าชายหาด มีที่นั่งมองทะเล อยู่หลายตัว ทำให้ผู้เข้าพักได้ซึมซับกลิ่นไอทะเลได้เต็มที่ มีทั้งม้านั่ง และเตียงนอน เดินอยู่สักพักก็ได้เวลานัดกับทางรีสอร์ท จึงต้องกลับไปที่ห้องอีกครั้ง นัดที่ว่าก็คือ Afternoon tea ซึ่งเราสามารถเลือกรับชา และของว่างได้ตามใจ รวมทั้งสามารถเลือกว่าจะนั่งทานที่ห้องอาหาร หรือ ที่ห้องพัก ซึ่งผมเลือกที่จะให้ทางรีสอร์ทจัดมาให้ที่ห้องพัก เนื่องจากที่ห้องอาหารมีแขกที่มาจากภายนอก เพื่อมาทานเบเกอรี่ ของที่นี่หลายคน ของว่างมีทั้งขนมปัง และแซนวิช จัดแบ่งเป็นชิ้นเล็กๆ พอดีคำ สามารถเลือกรับชาได้ตามต้องการ แม้ว่าของว่างจะชิ้นไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็จัดมาให้หลายชิ้น ทำให้รู้สึกอิ่มท้องได้บ้าง และที่สำคัญ รสชาติอร่อยสมดังที่เคยได้ยินมาก่อนหน้านี้ หลังจากจัดการของว่างเรียบร้อยก็นั่งเล่น นอนเล่นอยู่ที่ห้องเล็กน้อย ที่นี่เน้นการตกแต่งด้วยไม้ไผ่ ทำให้มีแสงแดดลอดเข้ามาในห้อง ซึ่งทำให้แอร์ในห้องพักไม่ค่อยเย็นเท่าที่ควร หลังจากนอนเล่นแล้ว ก็สำรวจรีสอร์ทกันต่อ ก่อนออกจากห้องพักสามารถเลือกที่จะให้พนักงาน Turn Down ห้อง หรือ ไม่ต้องก็ได้ รูปแบบของรีสอร์ท ถูกออกแบบให้เป็นส่วนหนึ่งของธรรมชาติ ดังนั้นจึงแตกต่างจาก Hip รีสอร์ทที่เคยไปพักในหัวหิน แต่ด้วยการออกแบบให้แตกต่างทำให้เราสามารถสัมผัสได้ถึงความเป็นธรรมชาติอย่างแท้จริง มุมนี้ไม่บ่อยนักที่จะว่างให้บันทึกภาพโดยที่ไม่มีแขกนั่งเล่นได้ เนื่องจากเป็นมุมที่มองเห็นทะเล และได้ยินเสียงคลื่นอย่างชัดเจน จากนั้นก็เดินเข้าไปในส่วนของห้องพักแบบ Tropical Village พี้นที่ตรงกลางเป็นนาข้าวขนาดเล็ก ซึ่งเสียดายที่มาตอนที่เกี่ยวข้าวเรียบร้อยทำให้สภาพของท้องนาว่างเปล่าอย่างที่เห็น จากการสอบถามพนักงานแจ้งว่า ข้าวที่เก็บเกี่ยวได้จะนำมาหุงให้พนักงานรับประทาน ส่วนแขกที่มาพัก จะจัดซื้อข้าวหอมที่มีคุณภาพมาให้บริการแทน ทางเดินในรีสอร์ท หากจะเดินไปที่จอดรถจะต้องผ่าน Lobby ทุกครั้ง จากนั้นก็สามารถเรียกใช้บริการรถกอล์ฟ ของทางรีสอร์ท เพื่อพาไปส่งยังที่จอดรถ มุมนี้เป็นมุมเล็กๆ ที่น่ารัก บริเวณจุดที่รอรถกอล์ฟ รวมทั้งรถสามล้อที่น่ารักคันนี้ด้วย หลังจากนั้นก็เดินกลับไปห้องพักอีกครั้ง แต่ก่อนอื่นต้องขึ้นไปสำรวจสระว่ายน้ำส่วนกลางของรีสอร์ท ซึ่งอยู่ด้านบน ของ Lobby สระมีขนาดไม่ใหญ่มากนัก แต่ก็ไม่เป็นปัญหา เนื่องจากแขกที่มาพักมีเพียง 10 ห้องเท่านั้น แต่ก็บอกกับตัวเองว่าพรุ่งนี้เช้าจะต้องมาใช้บริการสระว่ายน้ำแห่งนี้ หลังจากนั้นก็เดินกลับไปที่ห้องพักเพื่อรอเวลาอาหารเย็น ไม่ลืมหยิบหนังสือเพื่อมาอ่านเล่น นอนเล่นจนได้เวลาอาหารเย็น วันนี้เลือกใช้บริการอาหารเย็นของทางรีสอร์ทแห่งนี้ ทางขึ้นห้องอาหาร พื้นที่ด้านล่างถูกจัดให้เป็นโต๊ะอาหารด้วย ทางเดินขึ้นเป็นแบบบันไดเวียน ดูน่ารักไปอีกแบบ พื้น Lobby ตอนกลางวัน กลายเป็นห้องอาหารสำหรับมื้อเย็น มุมต่างๆ ได้รับการจัดเตรียมสำหรับมื้อค่ำ บรรยากาศกำลังดี เลยขอเดินเล่นอีกซักครั้ง มุม Lobby ยามค่ำคืน โต๊ะด้านนอกริมทะเลถูกจับจองด้วยแขกที่มาพักห้องอื่น ทำให้เราเลือกจองโต๊ะด้านในแทน ภายในรีสอร์ทดูไม่วุ่นวาย เนื่องจากแขกที่มาพักบางท่านเลือกรับประทานอาหารที่ห้องพักของตนเอง การตกแต่งส่วนใหญ่ใช้วัสดุจากธรรมชาติเป็นหลัก ได้เวลาอาหารเสิร์ฟ จานแรกเป็นสลัดผัก ซึ่งมีปริมาณเยอะมากๆ ตามด้วยซุปเห็ด ปิดท้ายด้วยสปาเก็ตตี้คาโบนาร่า อาหารจานไม่เล็กเลย ทำให้รู้สึกอิ่มมากๆ จากนั้นก็ขึ้นไปเดินเล่นที่สระว่ายน้ำอีกครั้ง บรรยากาศตอนกลางคืนทำให้สระแห่งนี้ดูสวยงามไปอีกแบบ ได้เวลากลับไปพักผ่อนที่ห้องอีกครั้ง สังเกตเห็นว่าวันนี้ฟ้าเปิดดีจัง มองเห็นดาวมากมาย และแล้วก็กลับมาที่ห้องพักอีกครั้ง แม่บ้านมาทำความสะอาดห้องให้อีกครั้ง สังเกตเห็นบางอย่างที่อยู่บนที่นอน นั่นคือตุ๊กตาน้องควาย ซึ่งเป็นสัญลักษณ์อีกอย่างของที่นี่ และมีขายให้กับแขกที่มาพักด้วย หลังจากอิ่มอร่อย นอนหลับอยากสบาย ท่ามกลางเสียงคลื่นที่ซัดกระทบฝั่งตลอดเวลา ทะเลไม่เคยหลับจริงๆ และแล้วก็ได้เวลาเช้าวันใหม่ ภารกิจในตอนเช้า คือเดินสำรวจชายหาดครับ หลังจากที่ตอนเช้าน้ำลงไปพอสมควร สิ่งที่โผล่มาให้เห็นคือเปลือกหอยจำนวนมหาศาล แสงยามเช้าริมทะเลนี่ทำให้รู้สึกสดชื่นดีครับ สัญลักษณ์ของรีสอร์ทแห่งนี้ ที่ที่อยากเป็นเจ้าของเมื่อคืนที่ผ่านมา และที่สัญญากับตัวเองเมื่อคืน คือการลงเล่นน้ำที่สระแห่งนี้ สระกลางแจ้ง การที่ลงเล่นในตอนเช้าทำให้ไม่รู้สึกร้อนเท่าไรครับ ชอบแสงในยามเช้าแบบนี้จัง เช้าๆ แบบนี้ยังไม่มีแขกห้องอื่นออกมาเดินเล่นสักเท่าไร คงมีแต่ คนในห้อง BP เท่านั้นมั้ง ที่ชอบออกมาเดินเล่นตอนเช้าแบบนี้ เดินเล่นได้สักพัก ก็ได้เวลาอาหารเช้าแล้ว มุมเดิมที่เดินผ่านเมื่อคืน เดินเรื่อยๆ ก็มาพบคุณลุงกำลังหว่านข้าวพอดีเลยครับ คุณลุงบอกว่าข้าวเพิ่งเก็บเกี่ยวไปไม่นานนี้เอง สำหรับมื้อเช้า จะมีรายการให้ผู้เข้าพักเลือก ว่าจะรับประทานอาหารเช้าแบบใดบ้าง ซึ่งมีให้เลือกอย่างหลากหลาย อย่างแรกมีสลัดบาร์ ให้เลือกตักได้ไม่อั้น ซึ่งเป็นผักปลอดสารพิษทั้งหมด ถัดมา อาหารที่รีสอร์ทให้เลือกคือ แพนเค้ก หรือ วอฟเฟิล ราดน้ำผึ้ง หรือ ช็อคโคแล็ต อย่างต่อไปคือ ABF มีให้เลือกว่าจะรับไข่แบบไหน ไส้กรอก แฮม เบคอน เลือกได้ตามแต่ใจชอบ สุดท้าย คือ อาหารหลัก ซึ่งมีให้เลือกระหว่าง ข้าวต้ม หรือ ข้าวราดต่างๆ ผมเลือกไข่เจียวหมูสับราดข้าว ครับ นอกจากนี้ยังมีผลไม้ไว้ให้บริการด้วย อิ่มแล้วก็เดินเล่นรอบรีสอร์ท อีกครั้ง จุดมุ่งหมายคือเล่นน้ำทะเล ครับ พิสูจน์แล้วครับว่าใกล้น้ำทะเลจริงๆ ครับ ห้อง Loft Suite ที่หลายๆ คนไฝ่ฝัน สังเกตเห็นรอบๆ รีสอร์ท จะมีรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ เยอะมากครับ ก่อนกลับต้องอาบน้ำกันอีกครั้งเนื่องจากอากาศข้างนอกค่อนข้างร้อนทีเดียว เพิ่งนึกได้ว่าตอนพนักงานพาแนะนำของใช้ในห้อง ได้เตือนว่าอย่าพยายามเคลื่อนย้ายขวดแชมพู หรือ ครีมอาบน้ำนะครับ เนื่องจากว่าราคามันสูงถึง 3 พันบาททีเดียว หมดไปอีกหนึ่งทริปที่ได้ไปสัมผัสทะเลอย่างใกล้ชิด หวังว่าคงจะได้กลับไปเยือนรีสอร์ทที่อบอุ่น แห่งนี้อีกครั้ง
Create Date : 25 ธันวาคม 2553
Last Update : 28 ธันวาคม 2553 23:47:21 น.
9 comments
Counter : 10788 Pageviews.
โดย: noinanai วันที่: 5 มกราคม 2554 เวลา:15:35:56 น.
โดย: ฟ้าใส IP: 110.169.46.171 วันที่: 13 มกราคม 2554 เวลา:15:21:21 น.
โดย: animE' วันที่: 3 พฤษภาคม 2554 เวลา:15:57:24 น.
โดย: จูรี่ IP: 58.9.17.235 วันที่: 25 กรกฎาคม 2554 เวลา:15:33:11 น.
โดย: ลูกหมู IP: 111.84.99.163 วันที่: 9 กุมภาพันธ์ 2557 เวลา:22:46:12 น.
เห็นแล้วอยากไปอีกครั้งจังเลยค่ะ