ชี้แจง : ข้อความข้างต้นสื่อความว่า สตรีมุสลิมที่ได้เกิดในเมืองที่ให้อิสระ (เช่นเมืองไทยนี้เป็นต้น) ให้ฉวยโอกาสนี้ทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ (ทำโอกาสให้เป็นวิกฤตตามทรรศนะของอิสลาม)
ประเด็นที่หนึ่ง มุสลิมไม่ได้หมายถึงชนชาติหนึ่งชาติใด แต่ชนเชื้อชาติใดๆก็ตามบนโลกนี้ (มาจากพระเจ้าทั้งสิ้น) หากมีศรัทธาในอิสลาม นั่นคือมุสลิม ฉะนั้นมุสลิมที่เมืองไทย ก็คือคนไทย ไม่ใช่คนอาหรับ (ข้อนี้ระดับสื่อมวลชนไม่ควรที่จะไม่รู้ด้วยประการทั้งปวง) ณ ปัจจุบันนี้ อิสลามเป็นศาสนาที่ขยายตัวเร็วที่สุดในโลก นอกจากสาเหตุเรื่องการขยายครอบครัวแล้ว อีกสาเหตุหนึ่งก็คือมีผู้คนหันมาศึกษาและเข้ารับอิสลามเป็นจำนวนมาก และสถิติที่สูงที่สุดนั้นก็คือคนอเมริกัน กล่าวคือยิ่งถูกใส่ไคล้โจมตีเท่าใด ประชาชาติอิสลามยิ่งเจริญงอกงามมากขึ้นยิ่งกว่า ดังที่อัลลอฮฺได้กล่าวว่า (ความหมายอัลกุรอานภาษาไทย) พวกเขาปรารถนาที่จะ(เป่า)ดับรัศมีของอัลลอฮฺด้วยปากของพวกเขา แต่ทว่าอัลลอฮฺนั้นทรงทำให้รัศมีของพระองค์(สมบูรณ์)กว้างออกไป หมายถึงมีผู้คนต้องการดับศาสนาอิสลาม แต่พระองค์อัลลอฮฺทรงให้อิสลาม (ซึ่งเป็นศาสนาที่เที่ยงแท้จากเจ้าของแผ่นดิน) ได้ขยายโตมากขึ้นเข้าไปอีก
ประเด็นที่สอง ถึงแม้บ้านเมืองใดไม่มีกฎหมายอิสลามบังคับใช้ แต่มุสลิมก็ยินดีที่จะปฏิบัติตามหลักศาสนา อันเนื่องมาจากความรักและกตัญญูต่อพระผู้เป็นเจ้า ซึ่งจะเป็นผู้ตอบแทนผลกรรมความดีความชั่วในโลกหน้า
ประเด็นที่สาม เราขอเรียกร้องให้สตรีทบทวนศักดิ์ศรีและเกียรติของตัวเอง โดยให้รู้เท่าทันผู้ชายว่าเขาหลอกใช้อะไรเราบ้าง เขากดขี่อะไรเราบ้าง (ไม่ว่าจะเป็นการหลอกจากผู้ชายโดยตรง หรือยืมมือผู้หญิงมาหลอกผู้หญิงต่ออีกที) แล้วให้ทบทวนธรรมชาติของสตรีที่อิสลามได้นำเสนอ อิสลามได้จำกัดสิทธิของสตรี จำกัดความมีอิสระของสตรี ในมุมมองของพวกท่าน แต่ขณะเดียวกันอิสลามได้ยกเกียรติ ยกศักดิ์ศรีของพวกท่านให้สูงส่ง ซึ่งอยากจะให้ใช้ปัญญาไตร่ตรองแค่เพียงง่ายๆ ว่าระหว่าง เรือนร่างสาธารณะ กับ เรือนร่างสงวน อันไหนจะมีค่ามากกว่ากัน ?