Group Blog
 
<<
กรกฏาคม 2549
 
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
22 กรกฏาคม 2549
 
All Blogs
 
ชีวิตที่สงบเย็น ภาคพิศดาร

สวัสดีค่ะทุกๆ คน คงสุขกายสบายดีนะคะ

วันนี้เอาบุญกุศลจากการไปปฏิบัติธรรมที่ สวนโมกข์นานาชาติ มาฝากกัน ให้อนุโมทนากันตามสะดวก

ก่อนจะไปมีเพื่อนหลายคนสนใจสอบถามกัน ดังนั้น การไปปฏิบัติครั้งนี้นอกจากจะไปกำหนดลมหายใจแล้ว ก็ทำตัวเป็นประหนึ่งผู้สื่อข่าวถามซอกแซกไปต่างๆ นานา เพื่อนำข้อมูลมาลงที่บล็อก

หลายคนอาจจะสงสัยว่า สวนโมกข์นานาชาตินี้คืออะไร อยู่ที่ไหน ตั้งขึ้นมาทำไม

สวนโมกข์นานาชาติ อยู่ที่อำเภอไชยา จังหวัดสุราษฎร์ธานี เป็นโครงการปฏิบัติธรรมโครงการหนึ่งของ สวนโมกขพลาราม วัดธารน้ำไหล ที่ท่านพุทธทาส ได้ริเริ่มไว้

สถานที่ก็ไปไม่ยาก เมื่อถึงวัดธารน้ำไหลหรือสวนโมกข์แล้ว ฝั่งตรงข้ามจะเป็นทางเข้าไปสู่โครงการสวนโมกข์นานาชาติและโครงการอื่นๆ เช่น โครงการธรรมอาศรมธรรมมาตา หรือโครงการธรรมทูต โครงการธรรมทูตนานาชาติ(ชื่อเต็มๆ จำไม่ได้แล้ว) ซึ่งโครงการต่างๆ นี้ตั้งอยู่บนพื้นที่ 200 ไร่เศษ โดยแต่ละโครงการจะมีพื้นที่มีบริเวณของตนเองเพื่อให้สะดวกในการปฏิบัติธรรมฝึกจิตตภาวนา

โครงการสวนโมกข์นานาชาตินี้ ตั้งขึ้นประมาณ 20 ปีมาแล้ว ในสมัยที่ในหลวงครองราชย์ครบ 60 ปี โดยมีวัตถุประสงค์เพื่ออบรมให้ความรู้ทางด้านศาสนาพุทธแก่ชาวต่างชาติ ซึ่งจะก่อให้เกิดความเข้าใจอันดีต่อกันระหว่างศาสนาต่างๆ ในโลกนี้ ผู้ที่เข้ารับการอบรมรุ่นแรกเป็นนักศึกษาจากประเทศสหรัฐอเมริกา ขณะนั้น คนไทยจะเข้ารับการอบรมที่สวนโมกขพลาราม

ต่อมา จึงได้อบรมคนไทยด้วยที่สวนโมกข์นานาชาตินี้ หลักสูตรที่อบรมจะแบ่งออกเป็น 3 ประเภท คือ หลักสูตรสำหรับชาวต่างประเทศ หลักสูตรสำหรับชาวไทย และหลักสูตรพิเศษที่จัดให้หน่วยงานต่างๆ ซึ่งที่ไปนี้เป็นหลักสูตรพิเศษที่จัดให้หน่วยงานของจินนี่โดยเฉพาะ

หลักสูตรสำหรับชาวต่างประเทศ จะมีขึ้นในวันที่ 1-10 ของทุกเดือน ตลอดปี ผู้ที่สนใจจะต้องมาที่สวนโมกข์นานาชาติในวันสิ้นเดือนก่อนการอบรม ไม่มีการจอง และการจะรับเข้าอบรมจะต้องมีการสัมภาษณ์ก่อน การอบรมจะเป็นหลักสูตรภาษาอังกฤษ สวดมนต์เป็นภาษาบาลีและแปลเป็นภาษาอังกฤษ เน้นปฏิบัติ จะรับรุ่นละไม่เกิน 120 คน มีค่าใช้จ่าย 2,000 บาท คนไทยก็เข้าได้แต่ทางผู้ดูแลไม่แนะนำ ด้วยเหตุผลทั้งทางด้านภาษาและขนบธรรมเนียมประเพณีที่ต่างกัน รวมทั้ง คนเยอะด้วย คนต่างชาติที่มาจะเคร่งครัดในการปฏิบัติมาก ห้ามพูดก็ต้องไม่พูดจริงๆ รายละเอียดเป็นภาษาอังกฤษ for more information in English please go to this link //www.suanmokkh-idh.org/suanmokkh-idh.html

หลักสูตรของคนไทยจะมีทุกๆ วันที่ 19-27 ของทุกเดือน ตลอดปี ผู้ที่สนใจจะต้องมาที่สวนโมกข์นานาชาติในวันที่ 19 เพื่อป้องกันการมาเสียเที่ยวแนะนำให้มาในช่วงเช้า อย่างน้อยก็ก่อน 4 โมงเย็น ไม่มีการจองเช่นเดียวกัน ไม่มีค่าใช้จ่ายเพราะได้รับการสนับสนุนในส่วนนี้จาก ธรรมทานมูลนิธิ รายละเอียดเพิ่มเติม ให้เข้าไปที่กลุ่มบล็อก เก็บตก เลือก ปฏิบัติธรรมที่สวนโมกนานาชาติ

ส่วนการอบรมหลักสูตรพิเศษนั้นขอไม่กล่าวถึงนะคะ

เรื่องที่อบรมจะเน้น 2 เรื่องคือ อาณาปานสติภาวนา 16 ขั้น และปฏิจจสมุปบาท ซึ่งทั้งสองเรื่องเป็นธรรมะชั้นสูงและมักไม่ค่อยมีผู้สอนกันนัก เรื่องนี้ผู้ดูแลได้อธิบาย ฟังคร่าวได้ว่า ท่านพุทธทาสเห็นว่า ธรรมะในเบื้องต้น เช่น ศีล สมาธิ นั้น มีผู้สอนกันมากแล้ว แต่ครูอาจารย์ที่จะสอนธรรมะชั้นสูงมีน้อย

ปฏิจจสมุปบาทคืออะไร หลายคนอาจจะไม่เคยได้ยินคำนี้มาก่อนเลย หรือบางคนเคยได้ยินแต่ไม่รู้ ตามความเข้าใจส่วนตัว ปฏิจจสมุปบาทหรือ ธรรมทั้งหลายที่อาศัยกันและกันเกิดขึ้น คือ วงจรของความสัมพันธ์ระหว่างสิ่งต่างๆ ที่ทำให้เกิดภพ เกิดชาติมีการเวียนว่ายตายเกิด ถ้าตัดสายความสัมพันธ์ได้ก็จะไม่มีการเวียนว่ายตายเกิดอีกต่อไป เป็นเรื่องเกี่ยวกับจิตล้วนๆ

ภาพปริศนาธรรม ปฏิจจสมุปบาท




ว่ากันด้วยเรื่องมีสาระมามากแล้ว ขอตัดเข้าสู่เรื่องสาระน้อยๆ นะคะ

จินนี่ออกเดินทางจากกรุงเทพ เช้าตรู่ของวันอังคารที่ 11 กรกฎาคม ด้วยรถบัสปรับอากาศสองชั้น มีผู้ร่วมเดินทางประมาณ 80 คน เป็นผู้หญิงประมาณ 2 ใน 3 มีทุกวัย ตั้งแต่ 20กว่าๆ ถึง 60 กว่าๆ แนวโน้มโดยเฉลี่ยก็ไปทางสูงวัย

รถแวะให้ทานอาหารเช้าที่ประจวบ ให้ทานอาหารกลางวันที่ชุมพร จินนีหลับตลอดทาง ดังนั้น ไม่ต้องถามนะคะว่ารถไปทางไหนอย่างไร

ถึงสวนโมกข์นานาชาติที่ตั้งอยู่ในสวนติดภูเขา



ราวๆ บ่าย 3 โมง เจ้าหน้าที่ก็ให้ลงทะเบียนแจกกุญแจห้องแล้วก็ชี้แจง จากนั้นก็ให้เข้าที่พัก

หน้าตาห้องพัก




นี่มองไปอีกด้านหนึ่ง




ไปถึงห้องก็จัดการทำความสะอาด




เอามุ้งและผ้าห่ม หมอนมีวางไว้ให้อยู่แล้วค่ะ เป็นหมอนไม้หน้าตาน่ารัก




จัดข้าวของอาบน้ำ
ใครรู้บ้างว่าเค้านุ่งกระโจมอกอาบน้ำกันยังไง

และมีไปอาบน้ำแร่ด้วย

บ่อน้ำแร่




ชอบมากให้ดูกันทั้งสองมุมเลย




ขึ้นมาจากบ่อน้ำแร่ก็มาราดน้ำเพื่อปรับอุณหภูมิที่นี่ค่ะ




วันแรกก็มีการสวดมนต์ทำวัตรเย็น และก็ทำสมาธิสักครู่หนึ่งและก็มีธรรมะบรรยาย ทำสมาธิอีกหน่อยแล้วก็กลับไปนอน

นอนคนเดียว หมอนไม้ นอนไม่ค่อยหลับค่ะ ผวาตื่นกลางดึกมันซะทุกคืน คืนละอย่างน้อย 3 ครั้ง ตั้งแต่วันไปจนวันกลับ

ตอนเช้าสวดมนต์ทำวัตรเช้าแล้ว ก็แยกกันผู้หญิง ผู้ชาย ทำโยคะ ชอบมาก คนสอนชื่อ คุณเป็ด ณ สวนโมกข์ น่ารักและใจดีสุดๆ สอนทุกอย่างอย่างละเอียดให้เราไปทำเองที่บ้านได้ แต่คุณเป็ดขา หนูสักแต่ว่าทำตามค่ะ จำท่าอะไรไม่ได้เลยนอกจากท่าอุ้มลูก

ผลจากการทำโยคะที่เห็นชัดๆ คือความสมดุล นั่งสมาธิได้นานขึ้นและจิตใจสงบเร็วขึ้น

ตอนเช้าจะมีธรรมะรับอรุณ นี่ก็ชอบเหมือนกัน บางทีก็จะเป็นท่านพุทธทาส หรือเป็นพระสงฆ์องค์อื่น บางวันผู้ดูแลอันประกอบด้วย คุณเป็ดและคุณจิน ณ สวนโมกข์ ผลัดกันอ่านเรื่องดีๆ ให้ฟัง เป็นการเริ่มต้นยามเช้าที่ดีจริงๆ

ระหว่างนั้นก็จะมีการสอนการปฏิบัติอาณาปานสติแต่ละขั้นไปด้วย สอนปฏิจจสมุปบาทไปด้วย แล้วก็ปฏิบัติ ทำไป ทำไป ต่างคนต่างทำ ใครรักอะไรชอบอะไรก็ทำไป ช่วงวันแรกๆ เป็นช่วงปรับตัวก็ไม่ค่อยหนักเท่าไร วันหลังๆ ก็ปฏิบัตินานขึ้นในแต่ละช่วง

อาหารก็ 3 มื้อ ทุกมื้อเป็นมังสวิรัติ เช้าจะเหมือนกันทุกวัน คือ ข้าวต้มข้าวแดงกับข้าวโพด ถั่ว ลูกเดือย ใส่ขิงเส้นๆ ด้วย ทานกับผักสด มีผลไม้ด้วย ส่วนมากเป็นกล้วยน้ำว้า

มื้อกลางวัน เป็นข้าวซ้อมมือ และกับข้าวสองอย่าง บางทีก็มีขนม บางทีก็เป็นผลไม้ ทานกับผักสดอีกเหมือนกัน ผักบางอย่างไม่เคยเห็นไม่เคยกินเลย ข้าวที่นี่ไม่ได้ขัดขาว การกินเจอกรวดเจอทรายเป็นเรื่องธรรมดา ต้องกินอย่างมีสติ ไม่งั้นฟันอาจกระเทาะได้

มื้อเย็นจะเป็นน้ำปานะ บางวันเป็นน้ำตะใคร้ น้ำโกโก้ น้ำโอวัลติน น้ำชาลูกยอ น้ำที่ดื่มทุกมื้อจะเป็นน้ำร้อน

ถ้าหิวน้ำนอกเวลาอาหารก็เอาขวดไปรองน้ำฝนกรองได้ ดื่มแล้วสดชื่นดีค่ะ

อยู่ที่นี่มีข้อปฏิบัติย่อยอยู่ข้อหนึ่งคือ ห้ามพูดห้ามคุยกัน ก็ใช้ภาษาใบ้ ชี้ๆ ยิ้มๆ พยักหน้าก็เข้าอกเข้าใจกันดี การไม่พูดทำให้การปฏิบัติก้าวหน้าและไม่ฟุ้งซ่าน จิตสงบได้ดีและไม่ทำความรำคาญให้ผู้อื่นที่เขาตั้งใจปฏิบัติอยู่ด้วย นอกจากห้ามพูดคุยก็คือการเก็บโทรศัพท์ ห้ามใช้โทรศัพท์ด้วย อันนี้ชอบมากกลัวนายโทรมาเรียกตัวกลับไปทำงาน

เวลาที่แสนสุขในแต่ละวัน คือเวลาเย็น เราจะนัดกันที่บ่อน้ำแร่ ได้แอบพูดกันเบาๆ ด้วยเสียงกระซิบ แช่ตัวสบายๆ ในบ่อน้ำแร่ร้อน ทำให้ผ่อนคลายกล้ามเนื้อที่ตึงเนื่องจากนั่ง เดิน อย่างมีสติมาทั้งวัน

บ่อน้ำแร่จะมี 3 บ่อ คือ บ่อน้ำแร่ชาย บ่อน้ำแร่พระ และบ่อน้ำแร่หญิง น้ำแร่ที่นี่เป็นน้ำกร่อย อุณหภูมิแต่ละวันไม่เท่ากัน ผู้ดูแลเตือนว่าห้ามแช่นานเกิน 10 นาทีเพราะอาจเป็นอันตรายได้ เคยมีคนตายด้วยที่บ่อผู้ชาย มีอยู่วันหนึ่งจินนี่แช่อยู่ 9 นาที พอขึ้นจากน้ำรู้สึกเวียนหัว ไม่สดชื่นเหมือนเคย หลังจากวันนั้นก็เลยจะแช่แค่ 5 นาที หรือ 300 ลมหายใจ(แบบที่มาดามกอสุดสวยเรียก)

ที่ชอบอีกอย่างคือการเดินจงกรมหมู่รอบสระน้ำตอนกลางคืนมืดๆ ด้วยเท้าเปล่า เดินตามๆ กันไป ระยะห่างคนละ 1 วา หรือราวๆ 2 เมตร ผู้นำเป็นพระบ้าง เป็นแม่ชีบ้าง ประสบการณ์ที่ได้มีคุณค่ามาก

ก่อนจะกลับมีการปัจฉิมนิเทศ มีการพูดคุยให้แสดงความคิดเห็น ถึงวันกลับก็มีการเดินชมสถานที่ของโครงการต่างๆ ที่อยู่ในบริเวณใกล้ๆ กัน ก่อนจะกินอาหารเช้าแล้วลาจากสวนโมกข์นานาชาติมา

คณะได้แวะที่วัดธารน้ำไหล สวนโมกขพลารามด้วย ได้กราบกระดูกท่านพุทธทาส ได้ทำบุญ ซึ่งพระท่านให้หนังสือมาด้วย ยังไม่ได้อ่านเลย

ออกจากสวนโมกขพลารามตอนเที่ยงกว่าๆ มาแวะเข้าห้องน้ำห้องท่าและตกลงกันว่าให้หาอะไรกินไปเลย เราจะไม่แวะเพื่อให้ถึงกรุงเทพเร็วขึ้น ขนาดนั้นก็มาถึงเกือบ 3 ทุ่ม

ก็เป็นอันว่าพันธกิจที่จะทำเพื่อแม่ได้สำเร็จลงแล้วด้วยดี ออกจากสวนโมกข์นานาชาติ เปิดโทรศัพท์ โทรบอกให้แม่อนุโมทนา แม่ขาหนูรักแม่ค่ะ


ถ้าถามว่าไป สวนโมกข์นานาชาติ 8 วัน ได้อะไร ขออนุญาตยกคำพูดของคุณไก่ ณ สวนโมกข์มาตอบนะคะ

"อย่าถามว่ามาแล้วได้อะไร ให้ลองถามตัวเองว่าจะวางอะไรได้บ้าง"


ขอขอบคุณ

กรมศุลกากร และสวนโมกข์นานาชาติ รวมทั้งผู้ที่มีส่วนให้การอบรมเกิดขึ้นและดำเนินไปได้ด้วยดี

หมายเหตุ:

โครงการธรรมอาศรม ธรรมมาตา นี้ เป็นสถานที่ปฏิบัติธรรมเพื่อผู้หญิงโดยเฉพาะ เป็นโครงการที่ท่านพุทธทาสจัดทำขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ให้คุณแม่ของท่าน โดยที่ท่านมีดำริว่า ถ้าไม่มีแม่ ก็ไม่มีพุทธทาสในวันนี้ ท่านเห็นว่า ผู้หญิงเป็นส่วนสำคัญมากในการทำให้สังคมและครอบครัวสงบสุข ให้ผู้หญิงเป็นผู้สอนธรรมะให้เด็กๆ ซึ่งเป็นอนาคตของมนุษยชาติ จึงเรียกย่อๆ ว่าโครงการธรรมทูต โครงการนี้มีทั้งหลักสูตรระยะสั้น 2 สัปดาห์และโครงการ 4 สัปดาห์

โครงการธรรมทูตนานาชาติ เป็นโครงการอบรมชาวต่างประเทศที่สนใจในพระพุทธศาสนา เพื่อไปเผยแผ่ศาสนาในประเทศของตน โดยมีดำริ ว่าให้ชาวต่างประเทศสอนชาวต่างประเทศเองจะเข้าใจกันได้ดีกว่า สอนกันได้ดีกว่า

นอกจากนี้ยังมีโครงการอื่นๆ เช่นโครงการอบรมเยาวชนช่วงปิดเทอมเดือนเมษายน เด็กผู้หญิงก็ให้อยู่ที่ธรรมมาตา เด็กผู้ชายก็ให้บรรพชาเป็นสามเณรและอยู่ที่วัด เด็กที่เข้าร่วมโครงการได้ก็คือ เด็กชั้น ม.1-ม.2

และทางวัดยังมีสถานที่ให้ผู้ที่จะมาอยู่ปฏิบัติเป็นเวลานานๆ ด้วย โดยที่พักจะสร้างอยู่ในบริเวณป่า แยกต่างหากจากโครงการที่ว่ามานี้


Create Date : 22 กรกฎาคม 2549
Last Update : 29 กันยายน 2552 13:20:25 น. 6 comments
Counter : 2605 Pageviews.

 
รู้สึกปลาบปลื้มกับโครงการธรรมอาศรม ธรรมมาตา ที่ท่านจัดทำขึ้นเพื่อเป็นอนุสรณ์ จะรู้สึกดีทุกครั้งที่มีใครทำอะไรเพื่อแม่ หรืออย่างที่พี่จินนี่ปฏิบัติธรรมเพื่อคุณแม่

หนูก็บวชชีพราหมณ์ มา 3 ครั้ง
ครั้งแรกวันแม่ 12 สิงหาคมเพื่อคุณแม่โดยเฉพาะ เพราะหนูก็รักคุณแม่ของหนูไม่แพ้ใครเหมือนกันค่ะ

ต่อมาก็บวชวันพ่อ 5 ธันวาคม ครั้งนี้ก็เพื่อคุณพ่อค่ะ
ที่บ้านไม่มีลูกชายให้เกาะผ้าเหลือง

อีกครั้งบวชวันวิสาขบูชา ครั้งนี้เค้ามีพิธีใหญ่ทางศาสนาเททองหล่อพระที่วัดใหญ่ ที่พิษณุโลกด้วย สวดมนต์พิธีครั้งยิ่งใหญ่ แต่พวกเราปฏิบัติธรรมที่อีกศาลาค่ะ ไม่ได้เข้าร่วมพิธี แต่รู้สึกถึงความขลังของพิธีนี้ค่ะ

จากครั้งนั้นก็ 7-8 ปีแล้ว พยายามจะจัดเวลาไปปฏิบัติธรรมแบบพี่จินนี่ หนูยังจำความรู้สึกได้ ของความเบา ใจสงบทุกครั้งหลังสึกใหม่ๆ รู้สึกว่าอีกไม่นาน โอกาสนั้นจะมาถึงแล้ว


โดย: paemagic วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:15:32:03 น.  

 
ขออนุโมทนาด้วยนะคะ

ขอให้มีโอกาสอย่างนั้น ในเร็ววัน


โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:16:08:21 น.  

 
พี่แนนนี่ไม่เคยทำอะไรอย่างนี้เล้ยยยยยยยยยยยยยย

ตอนนี้ตื่นมาก็สวดมนต์ ( พาหุง กับ มหากา )

เวลากลับเมืองไทย ทำได้แค่ไปถวายสังฆทาน หรือบริจาคโลงศพ อะไรพวกนี้

ไม่แน่ใจตัวเองเลย ว่าจะทำสิ่งดี ๆ แบบนี้ได้ ...แย่จัง


โดย: madam_ozzy วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:18:08:30 น.  

 
ติดใจบ่อน้ำแร่มากเลยอ่ะค่ะพี่จินนี่ ... โห พี่จินนี่ไปบ่อยมาก ๆเลยนะค่ะสำหรับการไปปฏิบัติธรรม นับถือจริงๆ เลยค่ะพี่ ของนิดเอาแค่การมาได้อ่านแล้วได้มารู้สึกสงบนิ่งกับกิจกรรมของพี่จินนี่ก็คงพอจะช่วยได้ในระดับหนึ่งมั้งค่ะ ... เอาไว้ถ้าเราจิตใจนิ่ง สงบ คงจะหาโอกาสไปลองปฏิบัติธรรมดูมั่งแล้ว่ล่ะค่ะ แล้วยังไงก็ถึงเวลานั้นแล้วต้องขอคำแนะนำจากปรมาจารย์จินนี่นะค่ะ


โดย: JewNid วันที่: 22 กรกฎาคม 2549 เวลา:19:09:40 น.  

 
พี่แนนนี่ การทำหน้าที่ก็คือการปฏิบัติธรรมอย่างหนึ่งค่ะ ธรรมะคือหน้าที่ อันนี้ท่านพุทธทาสพูดอยู่เสมอ ถ้าเราทำหน้าที่ของเราอย่างดีที่สุด ไม่ว่าจะเป็นทำงานในหน้าที่ ทำหน้าที่ภรรยา ทำหน้าที่น้องสาวที่ดี ทำหน้าที่น้าที่ดี เป็นคนดีของสังคม ก็ถือว่าดีมากแล้ว ส่วนการไปปฏิบัติธรรมแบบที่จินนี่ไปมา มีโอกาสก็ค่อยไปทำค่ะพี่ การไปปฏิบัติก็ไม่ใช่ว่าจะดีเสมอไป บางทีไปแล้วไม่สำรวมไม่ระวังกลับจะได้บาปมากกว่าบุญ บางคนไปแล้วโมโหง่ายกว่าเดิม การปฏิบัติธรรมจะสำเร็จหรือไม่อยู่ที่ว่า เมื่อเรามาอยู่ตามปกติของเรานั้น เราโมโหน้อยลงไหม เราโลภน้อยลงไหม เราให้ได้มากขึ้นไหม ดังนั้น การอยู่ที่บ้านแต่ละโลภ ละโกรธได้ นั่นก็ดีกว่าไปปฏิบัติธรรมที่วัดอีกค่ะ การปฏิบัติธรรมคือการปฏิบัติทุกวันไม่ใช่ทำเมื่อเข้าวัด การสวดมนต์ระลึกถึงคุณพระรัตนตรัยก็เลิศแล้วค่ะ อีกอย่างบทสวดมนต์ที่พี่สวดก็ดีด้วย หมั่นทำไว้เถอะค่ะพี่ แล้วบุญจะรักษาจะมาช่วยเราเอง

น้องนิด ที่จริงที่ปฏิบัติธรรมมีหลายที่ค่ะ เอาไว้เราพร้อมแล้วค่อยไปก็ได้ ไปตอนที่พร้อมจะปฏิบัติได้ดีกว่าคนที่ไปด้วยความกังวล อนุโมทนาในความคิดดีๆ ของน้องด้วยคะ แค่คิดดี มีชัยไปกว่าครึ่งแล้ว


โดย: ตะเกียงแก้ว วันที่: 24 กรกฎาคม 2549 เวลา:22:23:41 น.  

 
อยากไปเหมือนกันเพื่อที่จะพัฒนาจิตใจให้สุงขึ้นกว่าเดิม
ดีครับที่มีวัดแบบนี้กับโครงการดีๆอยากให้มีทุอำเภอนะ
ครับจะได้ให้คนไทยและต่างชาติได้มาฝึกกรรมฐานกัน
ง่ายๆไม่ต้องเดินทางไกลๆและอยากวัดปรับเปลี่ยนในเรื่อง
การทำบุญมั่งน๊ะ


โดย: twasunan@sanook.com IP: 114.128.97.187 วันที่: 3 เมษายน 2552 เวลา:10:33:26 น.  

ตะเกียงแก้ว
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




กฎไตรลักษณ์

อนิจจัง สิ่งทั้งปวง เป็นของไม่เที่ยง
ทุกขัง สิ่งทั้งปวง เป็นทุกข์ ทนอยู่ไม่ได้ต้องเปลี่ยนแปลงไป
อนัตตา ธรรมทั้งปวง เป็นอนัตตา
Friends' blogs
[Add ตะเกียงแก้ว's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.