Bloggang.com : weblog for you and your gang
No matter what it is our LIFE ... แค่ดู-แค่รู้-อะไรผ่านเข้ามาก็ช่างอะไร-มีสติอยู่กับตัวจะกลัวอะไร
Group Blog
Sew...with Love
Paint...with Love
Craft...with Love
Recycled Things...with Love
Give/Get/Swap...with Love
Cook...with Love
Share...with Love
Travel...with Love
Mind & Body...with Love
Just try to...
Tag about...
<<
กุมภาพันธ์ 2553
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
26 กุมภาพันธ์ 2553
Family Trip #5 :: อุดร-นครราชสีมา (บ้านเชียง-วัดป่าบ้านตาด-วัดบ้านไร่)
All Blogs
เพื่อนชวนไปถ่ายรูปที่ตลาดน้ำอโยธยา # 3 (Food & Drinks)
เพื่อนชวนไปถ่ายรูปที่ตลาดน้ำอโยธยา # 2 (Shops)
เพื่อนชวนไปถ่ายรูปที่ตลาดน้ำอโยธยา # 1
Family Trip #5 :: อุดร-นครราชสีมา (บ้านเชียง-วัดป่าบ้านตาด-วัดบ้านไร่)
Family Trip #4 :: เวียงจันทน์ (ประตูไซ-พระธาตุหลวง)
Family Trip #3 :: เวียงจันทน์ (หอพระแก้ว-วัดสีสะเกด)
Family Trip #2 :: เวียงจันทน์ (วัดสีเมือง)
Family Trip #1 :: หนองบัวลำภู (พิพิธภัณฑ์หอยหิน 150 ล้านปี-วัดถ้ำกลองเพล)
ดูดาวบนดิน กินข้าวผัด ชนแก้วน้ำเปล่า ฉลองทริปครบรอบแต่งงาน (ตอน 2/2)
ดูดาวบนดิน กินข้าวผัด ชนแก้วน้ำเปล่า ฉลองทริปครบรอบแต่งงาน (ตอน 1/2)
แล้วฉันก็ได้ไปฉลองครบรอบวันแต่งงาน (กาญจนบุรี : วัดสุนันทวนาราม-น้ำตกไทรโยค) #ภาคจบ
แล้วฉันก็ได้ไปฉลองครบรอบวันแต่งงาน (กาญจนบุรี : เจดีย์พุทธคยาจำลอง-เขื่อนวชิราลงกรณ์) #2
แล้วฉันก็ได้ไปฉลองครบรอบวันแต่งงาน (กาญจนบุรี : อช.เขาแหลม-สะพานอุตตมานุสรณ์) #1
ใจดวงน้อย ลอยละลิ่ว "พลิ้ว" พร่างพราย
สองเท้า เดินเดี่ยว เที่ยวจุลดิศเขาใหญ่ # 3 (โบกมือลาดอกไม้สดๆ หวานๆ)
สองเท้า เดินเดี่ยว เที่ยวจุลดิศเขาใหญ่ # 2 (ตามรอยสีเขียว)
สองเท้า เดินเดี่ยว เที่ยวจุลดิศเขาใหญ่ # 1
เติมรักให้น้อง ที่บ้านเฟื่องฟ้า
Family Trip #5 :: อุดร-นครราชสีมา (บ้านเชียง-วัดป่าบ้านตาด-วัดบ้านไร่)
ต่อจากตอน 4
ทัวร์เวียงจันทน์ one day trip
ซะเหนื่อยอ่อน
ตกเย็นก็ข้ามพรมแดนลาวมายัง จ.หนองคาย แล้วกลับไปนอนที่ จ.อุดรอีกคืน
เช้าวันรุ่งขึ้น เดินทางไปเที่ยวชม
พิพิธภัณฑ์แห่งชาติบ้านเชียง
"...จัดแสดงหลักฐานที่ได้จากการสำรวจขุด ค้น ที่บ้านเชียง และแหล่งโบราณคดีใกล้เคียง
อันประกอบด้วยกลุ่มภาชนะดินเผา เครื่องมือ เครื่องใช้ และสิ่งอื่นๆ อีกมากมาย..."
"...จุดเริ่มต้นการจัดตั้งพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติบ้านเชียง
มาจากพบภาชนะลายเขียนสี พ.ศ.2503 โดยชาวบ้านเชียง
ต่อมาปี พ.ศ. 2509 ชาวอเมริกัน ได้พบภาชนะดินเผาที่บ้านเชียงโดยบังเอิญ
จึงนำไปแจ้งที่กรมศิลปากร ปีพ.ศ. 2510 จึงได้มีการขุดค้นอย่างจริงจังเป็นครั้งแรก
ปี พ.ศ.2515 ได้ขุดค้นเป็นครั้งที่ 2
ครั้งนี้
พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้าพระบรมราชินีนาถ
เสด็จทอดพระเนตร
แหล่งขุดค้นที่วัดโพธิ์ศรีใน
พร้อมกับแหล่งอื่นในบ้านเชียง
และครั้งสุดท้ายปี พ.ศ. 2517-2518 กรมศิลปากรร่วมกับมหาวิทยาลัยเพนซิลเวเนีย
ได้ร่วมมือขุดค้นและหาข้อมูลใหม่เพิ่มเติม
พิพิธภัณฑสถานแห่งชาติแห่งชาติบ้านเชียง จึงได้เริ่มจัดตั้งขึ้นมาตั้งแต่ปี พ.ศ.2518..."
ที่นี่มีเจ้าหน้าที่เดินตามนักท่องเที่ยวคอยอธิบายข้อมูล และให้โอกาสซักถามข้อสงสัยอย่างดี
น่ารักมาก รู้สึกชอบที่นี่ เพราะทำให้ฉัน
"...รับรู้ถึงร่องรอยของมนุษย์ในประเทศไทย การดำรงชีวิตในสมัยก่อนประวัติศาสตร์ย้อนหลังไปกว่า 5,000 ปี..."
พร้อมๆ กับทึ่งไปกับ
"...ภูมิปัญญาของคนในสมัยโบราณ ที่แสดงให้เห็นถึงวัฒนธรรมที่มีพัฒนาการแล้วหลายด้าน
โดยเฉพาะด้านภูมิปัญญา อันเป็นเครื่องมือสำหรับช่วยให้ผู้คนสามารถดำรงชีวิต
และสร้างสังคม-วัฒนธรรมของมนุษย์ได้สืบเนื่องต่อกันมาเป็นระยะเวลายาวนาน
วัฒนธรรมบ้านเชียงได้ครอบคลุมถึงแหล่งโบราณคดีในภาคตะวันออกเฉียงเหนืออีกกว่าร้อยแห่ง
ซึ่งเป็นบริเวณพื้นที่ ที่มีมนุษย์อยู่อาศัยหนาแน่นมาตั้งแต่หลายพันปีแล้ว ด้วยเหตุนี้ องค์การยูเนสโก จึงยอมรับขึ้นบัญชีแหล่งวัฒนธรรมบ้านเชียงไว้เป็น
มรดกโลก
..."
หลังจากซื้อของที่ระลึกบ้านเชียง จากหน้าพิพิธภัณฑ์ฯ แล้ว
พี่ชายขับรถย้อนออกมานิดนึง เพื่อแวะถ่ายรูปที่วัดโพธิ์ศรีใน แหล่งที่ขุดพบวัตถุโบราณจริงๆ
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
แล้วพี่ชายก็เร่งให้รีบเดินทางไปยังที่หมายต่อไป
"วั ด ป่ า บ้ า น ต า ด"
แรกที่ไปถึงวัด ไปจอดรถหน้ากำแพงวัด มีป้ายแบบเนอร์ยาวเหยียดไปตามกำแพง
เดินเข้าไปใกล้ๆ อ่านข้อมูลที่คนไทยควรรับรู้ไว้บ้าง
(ด้วยหน่วยความจำในกล้องถ่ายรูปเหลือน้อย เลยเลือกถ่ายเฉพาะบางข้อความมาค่ะ)
แล้วขับรถเข้าไปในบริเวณวัด ภาพที่เห็นข้างหน้าเป็นศาลาไม้ 2 ชั้น ดูเก่าแก่ หากแต่สะอาดสะอ้าน
มีต้นไม้เต็มรอบบริเวณ ฉันถอดรองเท้า เดินเข้าไปใต้ถุนศาลา เงียบสงบ เย็นสบาย
เดินชมภาพถ่ายเก่าแก่ของพระเกจิอาจารย์ต่างๆ ทางภาคอิสาน
และบริจาคปัจจัยที่กำลังจะนำไปทอดผ้าป่าช่วยชาติ(เข้าคลังหลวง)ในวันเวลาใกล้นั้นด้วย
แล้วฉันก็ค่อยๆ เดินขึ้นไปที่ชั้น 2 เป็นลานโล่ง มีผ้าจีวรตากไว้ 2-3 ผืน
มองเห็นพระประธานอยู่ด้านใน จึงเข้ากราบไหว้ และตั้งอธิษฐานจิต
แล้วถึงได้เห็นป้ายแบนเนอร์ แสดงคติธรรมคำสอนของพระเกจิอาจารย์รูปต่างๆ
ฉันถ่ายเก็บไว้ด้วย (แล้วจะนำธรรมะดีๆ มาแบ่งกันอ่านในบล็อกหน้าค่ะ)
อีกจุดหนึ่งที่ผู้คนมักถ่ายรูปเก็บไว้ คือ
ป้ายแบนเนอร์ รวบรวมรูปของพระอาจารย์ต่างๆ ... รู้สึกนับเป็นบุญตาที่ได้เห็นจริงๆ
ฉันออกจาก วั ด ป่ า บ้ า น ต า ด มาด้วยความประทับใจในความสงบเรียบง่าย
ศาลาไม้เก่าแก่ที่ปลูกสร้างอย่างเรียบง่ายหลังนี้
ไม่ต้องงดงามอลังการ แต่กลับสามารถสร้างบุญกุศลช่วยประเทศชาติได้มากมายมหาศาล
. . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . . .
คืนสุดท้ายเราไปนอนที่ จ.ชัยภูมิ (หาที่พัก/โรงแรมสภาพดีราคาถูกแบบที่ จ.อุดร ยากหน่อย)
วันรุ่งขึ้น หลัง breakfast แล้ว ครอบครัวเราออกตัวแบบสบายๆ เพราะตั้งใจว่าจะแวะแห่งเดียวคือ
วั ด บ้ า นไ ร่ จ.นครราชสีมา
เมื่อไปถึง จอดรถหน้าร้านขายของที่ระลึกในวัด ได้ยินแม่ค้าบอกว่า หลวงพ่อท่านไม่อยู่
แต่กำลังจะกลับมาถึงวัดในอีกครึ่งชั่วโมง พวกเราเลยเดินไปชมพิพิธภัณฑ์ก่อน
มีจัดแสดงไว้หลายโซน
ทั้งหุ่นขี้ผึ้งรูปหลวงพ่อคูณ รูปหล่อสำริดหลวงพ่อคูณ
ห้องจำลองห้องนอนเดิมของหลวงพ่อ
มีสิ่งของมีค่าต่างๆ ที่มีผู้คนนำมาถวายหลวงพ่อ นำมาจัดแสดงด้วย
และที่สำคัญ คำสอนของหลวงพ่อที่ให้ข้อ(ฉุก)คิดได้อย่างดี สำหรับผู้เข้าชมอย่างเราๆ
เมื่อทางวัดประกาศว่า หลวงพ่อกำลังจะมาถึงวัดในอีก 10 นาที
พวกเราจึงรีบออกไปเตรียมตัวรอท่านที่ศาลาหลังใหม่ บังเอิญที่วันนั้นคนไม่เยอะมาก
พวกเราจึงยืนรอเข้าแถวไม่นาน มีโอกาสรับการเคาะกระหม่อมเป็นศิริมงคลจากหลวงพ่อ
(ตามพิมพ์นิยม ก็เอาซะหน่อย)
สำนึกบุญคุณหลวงพ่อเช่นกัน เพราะก่อนหน้านั้นได้ข่าวว่าท่านอาพาธเพิ่งหาย
แต่ท่านก็ยังเมตตา ออกมารับญาติโยม ด้วยท่าทางสงบมั่นคง
ตรงทางเข้าศาลา เมื่อเดินเข้าไปใกล้ๆ จึงเพิ่งเงยหน้าขึ้นไปเห็นว่า
สถาปัตยกรรมวิจิตรบรรจง จนบรรยายไม่ถูก
ท่ามกลางแสงแดดกล้า ฉันถ่ายรูปไว้ แต่ดูจากกล้องก็ไม่งดงามเท่าที่สายตาเห็น
(หรืออีกนัยหนึ่ง ฝีมือไม่ถึง) จึงลบไฟล์ไป เก็บไว้แต่ในความทรงจำก็พอ
ขอขอบคุณข้อมูล:
//www.thailandmuseum.com/banchiang/history.htm
//th.wikipedia.org
ข อ บ คุ ณ ทุ ก ท่ า น ที่ แ ว ะ ม า ค่ ะ
Create Date : 26 กุมภาพันธ์ 2553
Last Update : 26 กุมภาพันธ์ 2553 16:24:31 น.
7 comments
Counter : 1122 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
maxpal
วันที่: 26 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:16:37:14 น.
มดยังไม่เคยไปเลยคะ
น่าเที่ยวชมจังเลยค่ะ
โดย: Gu_modmod IP: 203.144.144.165 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:1:04:51 น.
น่าไปค่ะ.....ยังไม่เคยไปเหมือนกัลลลล
โดย: โปแป้ง IP: 203.144.144.165 วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:13:38:32 น.
ทัวร์ไหว้พระกับครอบครัวแบบนี้ทั้งได้บุญ ทั้งอบอุ่นนะคะ
โดย:
KOok_k
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:19:17:07 น.
ขอบคุณ แม่ส้มแป้น ที่แวะไปเยี่ยมบล็อกนะคะ
ไปเที่ยวกับครอบครัวแล้วอบอุ่น แถมเพิ่มความรักให้กับทุกคนได้อีก ทำบล็อกได้น่ารักจังคะ
โดย:
Maew-Tua-Lek
วันที่: 27 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:22:19:03 น.
อยากกลับไปบ้านเชียงอีกครั้งครับ อยากซื้อไหกลับมาเป็นของที่ระลึก คราวก่อนดันงกไม่ยอมซื้อมา
โดย:
Prinzknecht
วันที่: 28 กุมภาพันธ์ 2553 เวลา:10:23:46 น.
คุณก้อยคะ
แวะมาทักทาย
ก่อนเข้ามาเที่ยวด้วยทีหลังนะคะ
ช่วงนี้คงเหนื่อยน่าดู
อย่าลืมดูแลสุขภาพด้วยนะคะ
พี่หนิงเองก็ระลึกถึงเสมอค่ะ
โดย: พี่หนิงค่ะ (
Heart&Home
) วันที่: 2 มีนาคม 2553 เวลา:10:56:36 น.
ชื่อ :
Comment :
*ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
แม่ส้มแป้น
Location :
กรุงเทพ Thailand
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
Check Messages
: Users Online
Friends' blogs
HHG
มังกรซ่อนเงา
เริงฤดีนะ
ทิวาจรดราตรี
Complicatedgirl
อนันตลัย
เป้ สีน้ำ
KOok_k
AmaUme
tantan&pp
quiltmom
Maekapomkha
ดูดีคู่สีจี๊ด
glory_legs
nai-nu-19
ไหมพรมสีสวย
coldfusionCF
Heart&Home
pinklilac
vanillaorchid
Gu_modmod
somning
chopchop
MeMoM
addsiripun
beautiespoo
blog..ชั้นเอง
wilasinee_kae
sinaporn
~pink_sherbet~
Webmaster - BlogGang
[Add แม่ส้มแป้น's blog to your web]
Links
ขอบคุณโค้ดสีจากคุณ ป้ามด
ขอบคุณรวมโค้ดในบล็อกจากคุณ ดอกหญ้าเมืองเลย
ขอบคุณโค้ดจัดสีอักษรจากคุณ นวลกนก
ขอบคุณโค้ดกรอบสำเร็จรูปจากคุณ KungGuenter
ขอบคุณโค้ดกรอบ จากคุณ lozocat
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.