(◕‿◕✿) ครัวอีป้า : เลม่อนบาร์,ไรซ์พุดดิ้ง,บานาน่าเบรด,baklava

ใครเลยจะคาดคิดว่าคนที่บร้าๆ บอๆ อย่างอีป้าจะมีวันที่ต้องมาเป็นแม่บ้านแม่เรือนกับเค้าด้วยเนอะ สมัยก่อนตอนอยู่ไทย กับข้าวไม่ทำ งานบ้านไม่จับ แต่พอมาอยู่อเมริกาแล้วมันว่างจัด วันๆ ไม่มีอะไรจะทำเลย แม้อีป้าจะซักผ้า ล้างจาน จัดที่นอน ดูดฝุ่น ทำสารพัด ก็ยังรู้สึกว่า ว่างมากกก และเบื่อสุดๆ ที่ต้องหายใจทิ้งไปวันๆ อีป้าก็เลยเริ่มอ่านบล๊อก อ่านเว็บทำกับข้าวทำขนมบ้าง

อีป้าทำไปหลายอย่างแล้วละ ของคาวทำแค่มีทโลฟ เพราะมันเป็นอาหารฝรั่งไม่กี่อย่างที่อีป้าชอบกิน ส่วนมากก็จะทำของหวาน เพราะอีป้าชอบกิน ของหวานที่อีป้าทำบ่อยๆ ก็คือ ขนมปังข้าวโพด (corn bread), ขนมปังกล้วยหอม (banana bread) (เนื้อมันจะไม่นุ่มเหนียวเท่าเค้กกล้วยหอมบ้านเรานะ), baklava ขนมกรีก อันนี้ชอบมากเลย อร่อยมากกก เป็นแป้งพายสอดไส้วอลนัทราดด้วยน้ำเชื่อมน้ำผึ้ง ผสมผิวส้ม, เลม่อนพุดดิ้ง, ไรซ์พุดดิ้ง (อันนี้อีป้าไม่ชอบกิน แต่อีลุงมันชอบก็เลยทำให้ลุงกิน และล่าสุดเมื่อสองวันก่อนอีป้าเพิ่งทำ "เลม่อนบาร์" มันอร่อยแซ่บจริงๆ คร้าบ พี่น้อง กินแป๊บเดียวเกลี้ยงถาดเลย อิๆๆๆ

แถ่ม แทม แท๊ม!! อีป้าโปรดักชั่น ภูมิใจนำเสนอ เลม่อนบาร์



สูตรต้นตำรับมาจากเว็บนี้จ้ะ //www.joyofbaking.com/LemonBars.html

วิธีทำ ...

อยากรู้ก็จงตามลิ้งค์นั้นไปอ่านเอาเองสิจ๊ะ กร๊ากๆ บล๊อกอีป้าเน้นแต่ความฮาป่าแตก ไม่ใช่บล๊อกทำอาหารนะ 555 (กวนตรีนซะมิมีแหละเนอะ) 55

โชว์รูปต่อดีกว่า นี่เป็นหลังอบเสร็จใหม่ๆ



เหลืออ๋อยอย่าบอกใครเชียว พออบเสร็จก็ต้องผึ่งให้อุ่นๆ แป๊บนึง อีป้าไม่มีตระแกรงลวดสำหรับผึ่งด้วย เลยเอาชามสองใบ มาตั้งรองก้นถาด ให้มันพอมีอากาศถ่ายเท (อนาถจริงๆ ชั้น) เพราะลุงไม่ค่อยมีอุปกรณ์ทำขนม เมื่อก่อนลุงอยู่คนเดียวเป็นบ้านชายโสด ไม่นิยมการอบขนม เวลาไปซุปเปอร์แต่ละที อีป้าต้องแอบหยิบของทำขนมใส่มาทีละอย่างสองอย่าง ...(เมื่อไหร่จะได้ครบก็ไม่รู้กรรมจริงๆ กรู) เริ่มด้วยตอนแรกขอให้ลุงซื้อเครื่องตีไข่มือถือให้ อย่าคิดว่าอีป้าจะมีบุญได้ใช้ kitchen aid กับเค้าละ อีลุงให้อีป้าหยิบยี่ห้อไรไม่รู้มา อันละ 10 เหรียญ (350 บาทไทย) ถูกโคตรๆ แต่ก็ยังดีวะ ขอให้มันตีไข่และทำขนมได้ก็พอ ต่อมาอีป้าไปซุปเปอร์อีกรอบ แอบหยิบพิมพ์สี่เหลี่ยม 8 * 8 อันนี้มา , ตามด้วยกระดาษไข, พายยาง , แป้ง , น้ำตาล ประมาณว่าไปซุปเปอร์แต่ละรอบต้องทยอยๆ หยิบ เป็นปอบหยิบไปแล้วอีป้า 555 ไม่ใช่ว่าลุงงกหรือหวงอะไร แต่ลุงเค้าไม่อยากอ้วน เค้าบอกว่าไม่ต้องอบขนมมาก อบมาก็กินหมด (-_-") ความผิดของใครฟะเนี่ย ไม่อยากอ้วนก็อย่าแ_กสิเนอะ ไม่มีใครเค้าบังคับซะหน่อย

รูปต่อไป พออุ่นได้ทีแล้ว ก็ตัดเป็นชิ้นๆ แล้วโรยด้วยไอซิ่ง เสร็จแร้วจะหยิบใส่ปากหรือใส่จานก็ได้ทั้งนั้น 555 อร่อยมากเรยยย แป้งโดจะประมาเหมือนแป้งพายบลูเบอรี่น่ะ แต่นุ่มและหอมมันกว่ามาก ส่วนข้างบนจะเป็นเหมือนคัสตาร์ดรสมะนาว นุ่มเหนียวกำลังดี อร่อยจังเรยยย ซี้ดดดด ว่าแล้วก็ขึ้นไปกินอีกสักชิ้นดีกว่า กร๊ากๆ



สิ่งเดียวที่อีป้าเบื่อเกี่ยวกับการทำขนมอันนี้ก็คือ การขูดผิวมะนาวนี่แหละ ถ้าใครมีไอเดียดีๆ ช่วยบอกอีป้าบ้างเน้อ ขูดผิวมะนาวนี่มันกินเวลานานมาก มากกว่าเตรียมแป้ง เตรียมหน้ามันอีก ขนมนี้พอผ่านวันแรกไปแล้วควรเก็บใส่ตู้เย็นนะ ถึงใส่ตู้เย็นแป้งก็ไม่แข็งเกินไป ยังอร่อยเหมือนเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ขนมอะไรก็ไม่รู้ช่างทนทาน แข็งแกร่ง อร่อยทน อร่อยนาน อิๆๆ

สูตรต่อไปเป็นบานาน่าเบรด ที่อีป้าอบมาแล้ว 4 ก้อน กินเกลี้ยงทุกก้อนไป เพราะชื่อของมันคือ the best Banana Breadตามลิ้งค์ไปก็ได้สูตรมา แต่อีป้าไม่ได้ทำตามสูตรเป๊ะๆ เพราะอีป้ามักจะอ่านรีวิวด้านล่าง ที่แม่บ้านส่วนมากเอาไปลองทำแล้วดีกว่าเดิม เช่น เติมอบเชย 1 ชต. , วานิลา 1 ชช. , แล้วก็ลดแป้งเหลือ 1 ถ้วยครึ่ง กับเติมเกลือป่น 1/4 ชช. และใช้น้ำตาลทรายแดง 1/2 ถ้วย + น้ำตาลทรายขาว 1/2 ถ้วย (แทนการใช้น้ำตาลทรายขาวถ้วยเดียว) ผลที่ได้ดังต่อไปนี้ แถ่ม แทม แท๊ม



ไม่รู้ทำไมกล้วยหอมที่นี่กลิ่นมันฉุนมาก อบเสร็จใหม่ๆ กลิ่นกล้วยหึ่งไปทั้งห้องครัว เวลาเฉือนมากินก็กลิ่นกล้วยติดมือเชียว สมัยอยู่ไทยเคยอบเค้กกล้วยหอมกับแม่ต้องใส่กลิ่นกล้วยลงไปด้วย อยู่นี่ไม่ต้องใส่เลย หอมแรงมาก อันนี้ลุงชอบมาก ก่อนกินต้องเอาฟรอสติ้ง (น้ำตาลไอซิ่งที่ผสมทาหน้าเค้ก) เอามาทาถูๆ แล้วก็ใส่ปาก ลุงชอบขโมยกินเป็นของหวานหลังอาหาร แต่อีป้ากินเป็นอาหารเช้ากับนม เผลอเป็นไม่ได้ลุงแอบกินหมดทุกที

ต่อไปเป็นสูตรไรซ์พุดดิ้ง อันนี้อีป้าไม่ชอบกินหรอก มันเหมือนข้าวเหนียวเปียก แต่ลุงมันชอบกิน แต่พออีป้าทำจริงๆ ลุงก็บ่นอีกว่าใส่ลูกเกดทำไม?!! ก็สูตรเค้าใส่นี่หว่า อีป้าก็ใส่ตามเค้าน่ะสิ ถ้าไม่ใส่ลูกเกดมันก็เหมือนข้าวเหนียวเปียกที่ไม่ใส่ลำไย หรือไม่ใส่ข้าวโพดบ้านเราน่ะสิ 555

Creamy rice pudding อันนี้ทำง่ายมากใช้กะทะใบเดียวก็ทำได้แล้ว แต่ข้าวที่ใช้จะต้องเป็นข้าวญี่ปุ่น หรือข้าวสารเม็ดสั้น เม็ดยาวๆ แบบบ้านเราใช้ไม่ได้



เห็นป่าวว่าง่ายจริงๆ คนบร้าๆ อย่างอีป้ายังทำออกมาให้กินได้เลย ทำเสร็จแล้วก่อนเสริฟท์ก็โรยอบเชยใส่ลงไปจิ๊ดนึง จะได้หอมหวลชวนดม

อันต่อไปเป็น Baklava ขนมแรกที่อีป้าหัดทำ ตั้งแต่มาอยู่อเมริกา แรงบันดาลใจก็คือ ครั้งแรกที่อีป้าได้กิน คือ ลุงพาไปกินอาหารอินเดีย แล้วสั่ง Baklava มาให้อีป้ากินเป็นของหวาน Baklava จริงๆ แล้วเป็นขนมแถบเมดิเตอร์เรเนียน (พวกกรีกอะไรประมาณนั้น) ครั้งที่สองที่อีป้าได้กินเป็นแบบโฮมเมด เด๊บบี้เมียเพื่อนลุงทำมาให้กล่องนึง อีป้ากับลุงกินหมดกล่องภายในสองวัน (บ้านผีปอบแหงมๆ บ้านเนี้ย ใครเอาอะไรมาให้เป็นกินหมดเกลี้ยง) ตอนหลังอีป้าไปหาแม่ลุงที่ฟลอริด้า แล้วกินของแม่ลุง ปรากฎว่าไม่อร่อยเลย อีป้าก็เลยเกิดแรงบันดาลใจว่าอีป้าต้องทำกินเองให้ด๊ายยย เพราะซื้อเค้ามันแพง ร้านอินเดียมันขายอันละเกือบ 2 เหรียญ (อันเล็กๆ เท่าขนมชั้นเอง)

อีป้าก็เลยไปเข้า youtube ศึกษาดูวีดีโอวิธีทำก่อน (ใครจะทำขอให้เข้าไปดูวีดีโอใน youtube ก่อนนะจ๊ะ เพราะมันยากตอนซ้อนแป้ง ต้องคอยเอาผ้าชุบน้ำเย็นคลุมไว้กันแป้งแห้ง)เพราะใครๆ เค้าก็บอกทำยาก จริงๆ มันไม่ได้ทำยาก แคยากตอนเรียงแป้งเอง นี่คือ สูตรที่อีป้าได้มา เป็นสูตรที่ง่ายโคตรๆ แต่อร่อยโคตรๆ อีกเหมือนกัน มันคือ Easy baklava สูตรอื่นที่ลึกลับซับซ้อนกว่านี้ก็มี แต่อีป้าไม่ทำ เพราะอันนี้ก็อร่อยมากมายแล้ว



จริงๆ ก่อนจะทำลุงบอกอีป้าว่า "ไปถามเด๊บบี้ดีไหม?, โทรถามแม่ดีไหม?" เพราะก่อนหน้านั้นอีป้าไม่เคยหยิบจับทำกับข้าวเลย ลุงกลัวอีป้าทำเจ๊ง เสียของ เพราะมาอยู่นี่ลุงทำกับข้าวให้กิน อีป้าเป็นแจ๋วล้างจานตลอด จริงๆ ครือ อีป้าขรี้เกียจเฟร้ย ไม่ใช่ทำอะไรไม่เป็น อีป้าชอบแกล้งโง่แบบนี้ตลอดแหละ ตอนไปอยู่ญี่ปุ่นก็มีพี่คนนึงเค้าคอยทำอาหารให้อีป้ากิน เพราะเค้าคิดว่าอีป้าเป็นคุณหนู จับจด หยิบจับอะไรไม่เป็น กร๊ากๆ แต่พอพี่เค้ากลับไทยไปก่อน อีป้าก็ทำอาหารกินเองได้ อิๆๆ ที่อีป้าไม่ไปถามแม่ลุงก็เพราะว่า Baklava ที่แม่ลุงทำออกมาไม่เห็นจะอร่อยเรยยย พออีป้าทำเองแล้วอร่อยกว่าตั้งเยอะ ลุงยังบอกว่า ปีหน้าตอนไปหาแม่ให้อบไปให้แม่กล่องนึงนะ กร๊ากๆ แน่นอนๆ แบบนี้ต้องโชว์ออฟ

จบตำราทำอาหารฉบับอีป้า... อย่างอื่นที่อีป้าทำแล้วไม่ได้ถ่ายรูปมาก็มีคอร์นเบรด กับเลม่อนพุดดิ้งนะ เพราะมันอยู่ในท้องอีป้าหมดแร้ว 555 ทำปุ๊บ กินปั๊บ ถ่ายรูปไม่ทันเลยทีเดียว

Create Date : 17 เมษายน 2553 Last Update : 17 เมษายน 2553 9:29:59 น. Counter : 1179 Pageviews.		14 comments
Share Tweet