มกราคม 2551

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
(◕‿◕✿)Japan : Winter Wonder Land 2008
สวัสดีปีใหม่คร่าาาา
หายหัวไปนาน คิดถึงชาวบล๊อกจังเลย
เริ่มต้นบล๊อก littlebitlittlemore ปี 2 ด้วยทริป Japan 2007 - 2008 ละกันจ้ะ
วันแรกไปถึงตอนตีห้าครึ่ง เงอะๆ งะๆ ชินจังไม่มารับ ตอนแรกคิดว่าต้องเสียเวลาที่ตม. นาน แต่ที่ไหนได้ มาถึงปุ๊บก็สแกนนิ้ว ถ่ายรูป สแตมป์ปัง.. ผ่านโลด แต่ได้ยินไอ้จนท. ตม. บ่นๆ อะไรก็ไม่รู้ว่า "วาการาไน่ น๊า" ไอ้นี่ คิดว่าชั้นไม่เข้าใจแกรึไง ไอ้บร้า เอ๊ะ หรือแกไม่เข้าใจชั้นกันแน่ฟะ




ภาพแรกกะปูยักษ์

แต่พออีชั้นลากกระเป๋าออกมา ตรงด่านศุลกากร ตอนแรกจนท. ก็ทำท่าจะปล่อยอีชั้นไปด้วยดี หลังจากทักทายภาษายุ่นวันละคำ กันหลายคำแล้ว แต่พอฮีเห็นตราครุฑ บนปกพาสปอร์ตไทยที่อีชั้นยื่นให้เท่านั้น ฮีก็ขอเปิดกระเป๋าเดินทางของชั้น ชั้นก็ยินยอมแต่โดยดี เพราะไม่ได้พกพาของต้องห้ามอะไรมาอยู่แล้ว แต่พอตอนปิดกระเป๋าสิ ปิดยากชิบ ... เพราะชั้นเอาเสื้อผ้าหน้าหนาวมาเยอะ ตอนขามากว่าจะปิดเป๋าได้ ต้องกระโดดเหยียบกระเป๋าง่ะ ไอ้จนท. นี่ก็ยังไม่วาย บ่นว่า "เดไก้ น๊ะ มุซุกาชี่ น๊ะ" ใครใช้ให้เมิงเปิดละว้า กรูหน้าตาซื่อๆ ไม่ซุกซ่อนอะไรหรอกน่า ไม่ยอมเชื่อใจกันมั่งเล๊ย กรูนี่มันน่าตาเหมือนอาชญากรรึงาย? เฮอะ



หลังจากออกมา อีชั้นก็เมล์หาชินจัง บอกว่าถึงแล้ว กะลังจะไปรอรถบัสนะ ไปถึงป้ายรถบัส อีชั้นก็เจือกโง่ ทั้งๆ ที่อ่านออก เขียนได้ พอเห็นรถบัสมาจอดติดไฟแดง อีชั้นก็รีบวิ่งไป ด้วยความเคยชิน ว่ารถบัสไทย คนไทยต้องวิ่งตาม แย่งกันขึ้น แต่รถบัสญี่ปุ่นเค้าจอดป้าย รอให้คนขึ้นก่อน ไม่ต้องแย่งกัน อีชั้นเจือกวิ่งตามรถบัสไป มีชายไทยคนนึง ตอนแรกอีชั้นไม่รู้ว่าฮีเป็นคนไทย ฮีเดินมาบอกอีชั้นด้วยสำเนียงคนไทยพูดอังกฤษว่า "เฮ้ ยู้.. แคนยูสปี๊คอิงลิช?" .. " เยส ไอแคน.." ชั้นตอบไปด้วยสำเนียงที่แตกต่างจากคนไทยพูดอังกฤษ (สำเนียงอีชั้นก็สำเนียงลาวๆ อะคะ) ฮีก็เลยไม่รู้ว่าชั้นคือ คนไทย ฮีอธิบายว่า "รอตรงนี้แหละยู้ รถจะมาจอดตอน 6.10 นะ ยูรอไปเรื่อยๆ ไม่ต้องวิ่งตามรถ" 555 ชั้นก็ขอบคุณฮีไป ตอนนั้นก็ไม่คิดว่าฮีเป็นคนบ้านเดียวกันหรอก พอฮีเดินผ่านไปแล้วได้ยินฮีคุยกะผู้หญิงอีกคน ภาษาไทย เลยรู้ว่า .. คนบ้านเดียวกัน โธ่...เซ่อจิงๆ ตรู



หลังจากขึ้นรถก็มารอชินจังที่นัมบะ ชินจังเมล์มาบอกว่า จะมาถึงนัมบะ 07.10 ชั้นไปถึงก่อน ก็นั่งรอ เห็นเงาชินจังผ่านกระจก ก็คิดไปว่า ..ผู้ชายคนนี้หน้ามันคุ้นๆ อ้าว หันหลังกลับไปดู WoW my love my darling , I'm hunger for your touch .... ชินจังมาแย้ว ตอนแรกจินตนาการไว้ว่าต้องโผกอดกันนะเนี่ย ที่ไหนได้ ชินจังมาถึงก็สำรวจผิวหน้า ดูว่าหน้าชั้นมีสิวมั๊ย แล้วก็ลูบหัวชั้นเล่นๆ ดึงที่คาดผมออก แล้วบอกว่า ไม่ต้องใช้หรอก แค่นี้ก็เหม่งแร้วววว.. และฮีก็ลากกระเป๋าไปใส่ล๊อคเกอร์ จบ.. ไม่มีจูจุ๊บ (คนเยอะ)



ชั้นไปกินอาหารเช้า เป็นขนมปัง คุยกันเรื่องงาน คือ ชินจังได้งานแล้ว เป็นบริษัทแบรนด์เนมญี่ปุ่น ด้านเครื่องใช้ไฟฟ้าง่ะ หลังจากกินเสร็จก็ไปเดินรอบ ไปถ่ายรูปกะปู และกูลิโกะ กินซูชิ บ่ายก็ไปรร. โนโวเทล โคชิเอ็ง (ย่านดังเรื่องเบสบอล) ไปเช็คอิน ด้วยบัตรพักฟรี ของเครือรร.แอคคอร์ คุ้มเจงๆ บัตรนี้


หิวค่าาาา... แด๊ก ออมไรซ์ คาเร ซะเรยย อีช้านรู้สึกว่า หน้าอีช้านละม้ายคล้ายอาจารย์ยิ่งศักดิ์เข้าไปทุกวันแระ.. อิๆ


ตกเย็นก็กินข้าวแถวๆ รร. กินข้าวเสร็จชินจังบอกว่า "มารุ ขอโทษนะ พรุ่งนี้กลับบ้านเร็ว ๆได้ไหม เที่ยวโอซาก้าไว้มาวันหลังนะ ผมอยากไปดูจดหมายจากบริษัท" โธ่.. อะไรฟะ อดเที่ยวเล่นเลย เช้ามาเลยต้องรีบกลับไปบ้านชินจัง ปราสาทโอซาก้าก็ไม่ได้ไป ชินจังชี้ให้ดูตอนนั่งรถไฟว่า "นั่นไง ปราสาทโอซาก้า เห็นแล้วนะ" ประมาณจะบอกนัยๆ ว่า ไม่ต้องไปหรอก .. บ้าเอ๊ย


ต่อจากออมไรซ์ คาเร.. ก็ทาโกะยากิ ของฮอทฮิตของโอซาก้านี่เลย

ลืมบอกตกบ่าย รองเท้าบูทกัดตีน ... เจ็บมั่ก ไปดูอีกทีปรากฎว่าเลือดออกติดถุงเท้าเต็มเลย ไอ้รองเท้าบูทยี่ห้อ clerk เนี่ย มันดุจิงๆ ฟ่ะ ชั้นตั้งชื่อมันว่า "เจ้าไทเกอร์" ละกัน (ชั้นชอบตั้งชื่อให้ของน่ะอิๆ)

ตกบ่ายวันที่สอง พ่อชินจังมารับที่สถานีรถไฟ ไปถึงบ้านอยู่กันพร้อมหน้า เก็บของแล้วออกไปกินซูชิ กลับมาชินจังก็บอกว่า แม่บอกให้มารุล้างจานทุกวันนับจากนี้ ..อ้าว ซวยจริงกรู กะมากินฟรีอยู่ฟรีอย่างเดียว ไม่คิดว่าต้องมาทำงานแลกข้าวกะที่พักนะเนี่ย แต่ชินจังบอกว่าดีแล้ว ที่แม่ยอมให้ยุ่งในครัว เพราะแม่คิดว่าเป็นคนในครอบครัวแล้ว ถ้าเป็นแขกแม่จะไม่ใช้หรอก ตอนเย็นแม่กินข้าวกันพร้อมหน้า กินเสร็จชินจังบอกแม่ว่าอยากไปวัดตอนกลางคืน คืนวันสิ้นปีบ้าง ว่าแล้วแม่ก็ส่งนสพ. ให้เลือกวัด ชินจังเลือกมาวัดนึง แถวนารา แต่ไปไม่เป็น ก็เลยชวนแม่ไปด้วย ให้แม่ขับรถให้ ก่อนออกไปก็กินโซบะวันสิ้นปีก่อน ชั้นแบ่งกันกินคนละครึ่งกับแม่ชินจัง เพราะแม่บอกว่าชั้นไม่น่ากินหมดคนเดียว จากนั้นชั้นเลยได้ไปเค้าท์ดาวน์ที่วัด แม้จะหนาวมาก แต่ก็เป็นประสบการณ์ที่ดีมั่กๆ ตอนเดินไปที่ทางเข้าวัด แม่ชินจังเจอร้านถ่ายภาพสตูฯ ก็ชี้ให้ชันดู แล้วอธิบายว่า "เป็นเจ้าสาวต้องใส่กิโมโนสีขาวนะ แล้วก็ถ่ายรูปแบบนี้" ส่วนอีกภาพ เป็นตอนมีลูก เดาๆ เอาว่าแม่ชินจังคงอยากให้แต่งงานแบบญี่ปุ่นแหงมๆ เพราะแม่เป็นช่างทำกิโมโน แม่อาจจะอยากให้ใส่ชุดที่แม่ทำเองก็ได้ ก็เดามั่วไป แต่พอเอาไปตั้งสมมุติฐานให้ชินจังฟัง กลับถูกบอกว่า "ยังไงก็ได้น่า จะแต่งยังไงแม่ก็ไม่ว่าหรอก"


ไม่เคยคิดเลย..ว่าจะมาเค้าท์ดาวน์กะแม่ชินจังเนี่ย

พอเดินเข้าศาลเจ้า หิมะก็เริ่มตก ว้าว.. พอขึ้นบันไดไปทีละขั้นๆ หิมะก็ตกเหมือนฝนตกเลย สวยมากๆ ชั้นเคยเห็นหิมะแล้วที่ปักกิ่ง แอนด์เกาหลี แต่เป็นหิมะที่อยู่บนพื้น ยังไม่เคยเห็นหิมะตกคาตาแบบนี้เลย มันสวยจริงๆ คับ..ทั่นผู้อ่าน ชั้นรีบหยิบกล้องมาถ่ายรูป แต่พระเจ้าช่วยถ่ายหิมะไม่เห็นเลย แต่เวลาที่มันโดนกับแสงไฟในคืนวันสิ้นปีแล้ว สวยมากเลย ชั้นจะจดจำไว้ เป็น Happiest Moment In My Life อีกครั้งนึงละกัน เดินขึ้นไปถึงก็เกือบเที่ยงคืน พอถึงบนศาลเจ้าก็มี อามะสาเก ให้กินแก้หนาว ยืนผิงไฟ รอฟังเสียงระฆังปีใหม่ ระหว่างนั้นแม่ก็พาชั้นกับชินจังเดินไปชมวิวที่ระเบียงของศาลเจ้า แม่หันมาบอกว่า "มารุเดินดีๆ ระวังลื่นนะ" ซึ้งจิงๆ ... แม่ชินจังช่างห่วงใยอีชั้น ตอนก่อนออกจากบ้านแม่ก็ถามอีชั้นว่า "แม่เตรียมเสื้อกันหนาวไว้ให้ กลัวมารุจะไม่สบายนะ เสื้อโค้ทพวกนี้เมืองไทยมีขายด้วยเหรอ แม่ไม่รู้นะเนี่ย" อืม.. ช่างเป็นห่วงเป็นไยเนอะ .. ซึ้งงะ



อาหารวันปีใหม่ค่ะ กินแบบนี้ติดกันหลายมื้อเลย อ้อ..รีโมทนั่น ไม่ได้เอาไว้กินนะคะ

วันต่อมา วันขึ้นปีใหม่ ชั้นตื่นสาย ชินจังมาเรียกให้ไปกินข้าว บอกแม่กะพ่อรออยู่ ชั้นแต่งตัวเสร็จตอนสิบโมงเช้า น่าอายเค้าจริงๆ ฟ่ะตื่นสายแบบเนี้ย พอกินเสร็จแล้ว ก็ออกไปข้างนอก กินซูชิอีกแระ ... แล้วก็หาซื้อของมาทำอาหารไทยให้แม่กะพ่อชินจังกิน ชินจังบอกว่าต้องทำอาหารให้แม่ดูนะ แม่จะได้วางใจว่าชั้นทำกับข้าวเป็น ตอนแรกพอแม่ได้ยินว่าอีชั้นจะทำอาหารไทย ก็รีบบอกว่า "แม่คงแค่ชิมๆ นะ เพราะขนาดมิชิโกะ (พี่สาว) ทำ แม่ยังไม่กินเลย กินไม่ได้ แม่ไม่ชอบรสชาดแปลกๆ น่ะ" ชั้นก็เตรียมใจไว้แล้วละ.. ชิมๆ ก็ยังดี ชั้นทำแกงจืดเต้าหู้หมูสับ กะยำวุ้นเส้น แต่ตอนไปซื้อของเจอมะนาวลูกเล็กไม่มีน้ำ ปลาหมึกสดกะกุ้งสดก็ไม่มี โอ๊ย ลำบากยากเย็น พอกลับถึงบ้าน ยังเจือกลืมเอาซุปคนอร์มาอีกแน่ะ ฮ่วย ตอนแรกคิดว่า ซวยแล้วตรู แกงจืดเต้าหู้ต้องล่มไม่เป็นท่าแน่ๆ ตอนนี้อีชั้นมีแค่น้ำปลาขวดเดียว จะปรุงรสยังไงดีละคะคุณ คิดแล้วก็อยากจะเอาโทรศัพท์โทรไปหาแม่ตัวเองซะเดี๋ยวนั้น แต่ก็ฮึด... นึกถึงคำแม่สอนว่า "แกงจืดสูตรแม่ต้องใส่ซีอิ๊วขาว กับน้ำปลานะลูก เคี่ยวไฟอ่อนๆ ช้อนฟองออกให้หมด" ปิ๊ง... ชั้นก็เลยเอาโชยุใส่ลงไป หมูก็เอากระเทียมสับใส่ไปเล็กน้อย โรยพริกไทย แอนด์เกลือ น้ำปลาเหยาะไป แป้งข้าวโพดเล็กน้อย พอน้ำเดือดก็ลองเอาหมูบะช่อต้มลงไป ทดลองชิมดูหนึ่งเม็ด โชคดีฟ่ะ ดันรสชาดดี..555 (เพราะโชคช่วยน่ะ ไม่ใช่ฝีมือไรหรอก) หลังจากหมูบะช่อสำเร็จแล้ว ชั้นก็เลยหันมาปรุงน้ำซุป โดยเหยาะโชยุลงไปหนึ่งช้อนโต๊ะ แล้วชิม โห.. รสชาดหมาไม่แด๊ก... ตุ๋ยๆๆๆ เสียอารมณ์ จืดยังกะน้ำล้างฝ่าเท้า แต่ก็ยังปลอบใจตัวเองว่า ไม่จริ๊ง ไม่จริง ตรูต้องทำสำเร็จ แล้วก็ค่อยๆ เติมน้ำปลาไปเรื่อยๆ พร้อมกะช้อนฟองออก พระเจ้าจอร์จ ชิมครั้งสุดท้าย รสชาดแอ๊บแบ๊วมาก อีชั้นกรี๊ดออกมา แล้วก็ยกยอปอปั้นตัวเองในใจว่า .. มันต้องอย่างนี้เซะ ... ไม่ต้องมีซุปคนอร์ กรูก็ทำได้เฟ้ย... กรูเป็นลูกแม่ ...(ขอละชื่อแม่ไว้ เดี๋ยวคนเอาไปล้อ) เป็นหลานคุณยายพิม บ้านกรูไม่มีใครทำกับข้าวไม่อร่อยเฟ้ย... ทำเสร็จก็เอาเต้าหู้ทยอยใส่ แล้วตามด้วยต้นหอม เสร็จแย้ว...หุๆ ระหว่างนั้นชินจังกะแม่ออกไปซื้อพริกให้ เพราะพริกที่ซื้อมาแม่บอกว่ามันไม่เผ็ดหรอก พอชินจังมาชิมซุปบอกว่า "รสชาดดี แต่จืดไปหน่อยนะ" ชั้นเถียงไปว่า "พ่อแม่เธอไม่เคยกินอาหารไทย ปรุงรสอ่อนๆ ไว้ดีกว่า" แต่แม่อีชั้นเคยสอนไว้ ว่า ซุปนั้นให้อุ่นไปเรื่อยๆ ด้วยไฟอ่อนๆ น้ำจะได้ไม่ขุ่น แล้วรสชาดจะค่อยๆ เข้มขึ้นเอง ก่อนชินจังจะออกไปซื้อของ ก็บอกชั้นว่า "ต้องทำให้แม่ชั้นเซอร์ไพร้ส์ให้ได้นะ" เออ ..กดดันอยู่นั่นแหละ... เดี๋ยวก็รู้ หุๆๆๆ อีชั้นก็เคี่ยวซุปไปเสกคาถาเมตตามหานิยมไป โฮ... คิดถึงแม่ที่ซู้ด..ตอนนั้นอะนะ อะ ร้องเพลงซะหน่อย (แบบหนังอินเดีย เวลามีฟามสุข) "คิดถึงแม่ ขึ้นมา.. น้ำตามันก็ไหล... อยากกลับไปซบลงที่ตรงตักแม่ " โอ้.. ซึ้งอ้ะ



ต่อมา ยำวุ้นเส้น ใส่วุ้นเส้นเยอะไปหน่อย รสชาดเลยห่วยแตก หมาไม่แดกมากเลยตอนแรก มะนาวก็หมด มะนาวญี่ปุ่นนี่น้ำมันน้อยจริงๆ เกือบหน้าแตกแล้วมะละชั้น แม่ชินจังเลยไปเก็บผลไม้ตระกูลส้ม ที่ปลูกไว้ข้างบ้าน เอามาให้ชั้นใส่แทน ค่อยยังชั่ว ปรุงไปปรุงมาแด๊กได้หน่อย อิๆ ชินจังก็ยังบ่นว่า "หวานไปนะ มารุ มารุชอบกินหวานก็ว่าอร่อยนะสิ" พอทำเสร็จ อีชั้นก็ตั้งโต๊ะ ตอนแรกแม่ชินจังบอกว่า แม่กินไม่ด๊าย กินไม่ได้ แต่พอซดแกงจืดเต้าหู้สูตรลับของอีชั้นเข้าไป ก็บอกว่า "อร่อยจังเลย รสชาดดีมากๆ อย่างนี้แม่กินได้นะ" แล้วก็กินทีเดียวหมดเลย 555 ไหนบอกว่า "ของลูกแม่ทำแม่ยังไม่กินเลยไง" อิๆ แต่สำหรับยำวุ้นเส้น แม่บ่นว่า "รสชาดวัยรุ่นไปนะ แม่ไม่ชอบเท่าไหร่" ช่างเต๊อะ เพราะซุปเต้าหู้ทำคะแนนแซงหน้าไปแร้ว ส่วนพ่อชินจังดื่มซุปเสกคาถาเมตตามหานิยมของอีชั้นเข้าไป ก็บอกว่า "นี่มารุจังปรุงด้วยฝีมือ (หมายฟามว่าไม่ได้ใช้ของสำเร็จรูป) จริงๆ เหรอเนี่ย? อร่อยมากนะ" 5555 หน้าอีชั้นบานจนไม่รู้จะเอาไปไว้ไหนแล้ว Mission Completed ! คร่า...



หลังจากกินข้าวเสร็จ อีชั้นรีบขอชินจังโทรไปหาแม่ ไปกราบเท้าคุณแม่ที่เคารพ ... เล่าให้แม่ฟัง แม่บอกว่า ตายแร้ว ลืมเอาซุปคนอร์ไปเหรอ... แล้วเป็นไง กินได้ป่าว? โธ่ ๆ แม่ นี่ลูกใครรู้ซะมั่งเด๊ะ แม่บอกว่า "ดีใจนะที่หนูทำได้ แม่เชื่อว่าหนูทำได้ และดีใจที่เค้าชอบหนูนะ"



วันต่อมา 2 มค. ไปนารา ไปไหว้พระใหญ่ที่วัดโทไดจิอีกครั้ง... จำได้ว่าก่อนสิ้นปีป้าอ้วนเคยบอกว่า หมอไพศาลบอกให้ไปไหว้พระใหญ่ ชั้นก็เลยไปไหว้ ไปซื้อกระเบื้องหลังคา แล้วเขียนชื่อพ่อแม่พี่ชาย กะชินจังถวายไปแผ่นนึง เนื่องจากปีนี้เป็นปีชง ชั้นก็เลยอธิษฐานไปให้พระคุ้มครองอีชั้น เหมือนกระเบื้องหลังคา คุ้มแดด คุ้มฝนให้พระท่านฉันใด ก็ขอให้คุ้มครองอีชั้นและครอบครัวให้ร่มเย็นฉันนั้น ทำบุญแล้วก็แฮปปี้มีความสุข ตอนไปถึงตอนแรกก็หิวไปแด๊กข้าวหมูทอดกะชินจังที่ร้านใกล้ๆ แล้วก็ไปไหว้พระ ไปไหว้ศาลเจ้ารับปีใหม่กัน กลับมาก็ไปช้อปปิ้งเล็กน้อย แล้วก็กินมอสเบอร์เกอร์ พอถึงบ้านชั้นงีบหลับไปตรงห้องรับแขก แม่ชินจังเดินออกมาทำกับข้าวเห็นชั้นนอนหลับได้ง่ายๆ ก็เลยถามชินจังว่า มารุนอนได้ทุกที่เลยเหรอ? ชินจังบอกแม่ไปว่า "เป็นความสามารถพิเศษน่ะ มารุนอนได้ทุกที่แหละ" (เมื่อก่อนชินจังชอบกระแนะกระแหนว่า มันเป็นธรรมชาติของชั้น แต่การนอนหลับง่ายคือพรสวรรค์ตังหากเล่า) กลับมากินฮารุมากิ (เหมือนปอเปี๊ยะทอด) ง่ะ แม่ชินจังซื้อโดรายากิ (แป้งทอด) มาให้ชั้นอันใหญ่ ชินจังเห็นแล้วก็หัวเราะคิกคัก บอกว่า "แม่รู้ได้ไงน่ะ ว่ามารุ เป็นโดราเอมอน มารุชอบกินแป้งทอดมากเลยนะ ..อ๋อ แม่ก็เป็นโดราเอมอนไง เลยรู้ 555" ชินจังนี่ พูดจาแบบนี้กะแม่อีก (นิสัยเหมือนตรูเลยอิๆ)



แม่ตัดแป้งทอดให้ชั้นแล้วบอกว่า มารุกินตามใจชอบนะ แล้วแม่ก็หยิบลังสตอเบอรี่ออกมา บอกว่านี่ก็ของมารุนะ ชินจังก็ชอบกิน แบ่งกันนะ อิๆ ลาภปากจริงๆ ชั้นกินเยอะมาก แล้วก็ไม่ได้อึมาหลายวัน คืนนั้นก่อนนอน ชินจังเข้ามา เห็นชั้นนอนห่มผ้าก็เข้ามากอด แล้วก็หอมแก้มชั้นฟอดใหญ่เลย แต่พอเปิดผ้าห่มปุ๊บ ชินจังแทบจะเตะชั้นเลย 555 ก็ไม่ได้อึหลายวันงะ เลยผายลม...เหม็นหึ่ง ชินจัง บอกว่า อ้วก..แล้ววิ่งออกไปข้างนอก กลับมาอีกทีห้านาทีต่อมา บ่นว่า "ถ้าทำอีกผมจะไม่นอนด้วยแล้วนะ" ชั้นบอกขอโทษ แต่ก็ขำ หัวเราะไม่หยุด พอชินจังมานอนด้วย ยังบ่นว่า "แกล้งใช่มะ ทำไมตอนผมเข้ามาไม่บอกว่าทำละ แล้วก็บอกว่ากลิ่นยัง fresh มากๆ เพิ่งทำชัดๆ พยายามซ่อนอีกตังหาก 555 ชั้นขำง่ะ ชั้นไม่ได้แกล้งนะจ๊ะ มันเป็นเรื่องธรรมชาติง่ะ ..เข้าใจกันมั่งเดะ ... หลังจากนั้นตอนชินจังยังไม่หลับ ชั้นต้องออกไปปล่อยข้างนอกหลายครั้งมาก ไม่งั้นชินจังด่าอีก ดีไม่ดีหนีไปนอนห้องอื่น แม่จะสงสัยแล้วมาถามชินจังชั้นจะยิ่งอับอายง่ะ



นารา.. คนเยอะมากคร่า.. ประมาณล้านเจ็ดแสน..ได้มั้ง

วันที่ 3 มค. ตอนแรกจะไปสเปนวิลเลจ แต่ชั้นคิดว่าเปลืองตังค์งะ.. แล้วก็เบื่อพวกสวนสนุกแล้ว ก็เลยบอกชินจังว่าไม่อยากไป แถวบ้านไม่มีที่เที่ยวแล้วเหรอ? แม่ชินจังเลยให้พาไปน้ำตกอาคาเมะ (แปลว่า ตาแดง) ก็หนุกดี เพราะชั้นชอบอากาศเย็นๆ และชอบภูเขามากกว่าทะเลน่ะ เช้ามา แม่ก็ถามชั้นว่า "มารุเป็นคนนอนหลับง่ายเหรอ? นอนได้ทุกที่เลยเหรอ?" ใช่ค่ะคุณแม่ ในส้วมขี้หนูก็นอนหลับได้คะ ถ้าเป็นส้วมชักโครกนะคะ ขี้อยู่หนูก็หลับได้ แต่ถ้าส้วมยองๆ เหลาหนูหลับไม่ได้อะคะ เดี๋ยวตกส้วมคอหัก จมขี้ตายอนาถคร่า แม่ก็ชมว่า "ดีจังนะ แม่ละเปลี่ยนฟูก เปลี่ยนหมอนก็นอนไม่ได้แล้วละ มารุนี่เป็นคนโชคดีจริงๆ" ก็คงงั้นแหละแม่..อิๆ เคล็ดลับง่ายๆ ในการนอนหลับก็คือ มีความสุขไง ถ้ามีความสุขจะกินจะนอน อยู่ที่ไหนมันก็สุขทั้งนั้นแหละแม่ ...ไม่เห็นยากอะไรเลย ก่อนออกไปเที่ยวแม่ชินจังก็พาไปกินซูชิ (อีกแระ) แล้วชินจังถึงพาชั้นไปน้ำตก เย็นวันนั้นชินจังลืมเตรียมน้ำร้อนให้ชั้นแช่ พอแม่ไปอาบน้ำเสร็จก็ออกมาถามชั้นว่า "มารุไม่ได้แช่น้ำร้อนเหรอ?" ชั้นตอบไปว่า "ชินจังไม่ได้เตรียมให้ค่ะ เตรียมเองไม่เป็น เลยอาบแต่น้ำฝักบัว" แม่บอกว่า "น่าสงสารจริงๆ " แล้วหันไปดุชินจังว่า "ทีหลังต้องเตรียมให้นะ เดี๋ยวไม่สบายขึ้นมา แม่ต้องรับผิดชอบ" ชั้นง่ะ น้อยใจเรื่องน้ำร้อนขึ้นมาทันที ตอนแม่ชินจังบอก อดคิดไม่ได้ว่า ชินจังง่ะไม่ใส่ใจชั้นเลย พออาบน้ำเสร็จชวนชินจังไปนอน ชินจังก็บ่นชั้นว่า "มารุ ผมทำอะไรอยู่เนี่ย สั่งหนังสือเตรียมทำทีสิสอยู่นะ อย่าก่อกวนได้ไหม?" ชั้นงอนมาก บอกชินจังว่า "ไปนอนแล้วละ อยากทำอะไรก็ตามใจ" สักพักชินจังก็ขึ้นมาหา พอเห็นชั้นน้ำตาคลอๆ ก็มาโอ๋ บอกว่า "ร้องไห้เหรอ?" แล้วก็หัวเราะก๊ากๆ ไอ้บ้า ...โรคจิตป่าวฟะ แล้วก็บอกว่า "ดีใจ ที่เห็นเธอร้องไห้ เพราะแปลว่าเธอรักผมไง" ชั้นบอกว่าไม่ได้ร้อง แค่น้ำตาคลอเฉยๆ ไม่ได้ร้องไห้ซะหน่อย ชินจังบอกว่า "จะบอกแม่นะ ว่ามารุร้องไห้" เออก็บอกไปดิ อะไรฟะ แฟนร้องไห้ก็ต้องไปฟ้องแม่ด้วยเหรอ บ้าป่าว



ทางเข้าน้ำตกอาคาเมะ หนาวจะตาย5 ก็ยังมาเที่ยวน้ำตก



แถบนี้เป็นแหล่งนินจา ในอดีตค่ะ อุ๊ย..นินจาไรเนี่ย หน้ากลมจัง



ก็หนุกหนานดี พอดีชอบภูเขาง่ะ


วันที่ 4 มค. ชินจังปลุกชั้นแต่เช้า ให้ไปเป็นเพื่อนต่อใบขับขี่ ชินจังเลี้ยงซูชิร้าน กัปปะ แล้วก็พาไปเบิกเงินประกัน พาไปรอทำใบขับขี่ ตอนแรกชินจังบอกว่าเสร็จบ่ายสอง ชั้นก็นั่งหลับตั้งแต่เที่ยง หลับรอไปเรื่อยๆ พอชินจังมาถึงบ่ายสอง มาบอกว่า "มีสอบอีก เสร็จบ่ายสี่โมงครึ่งนะ" เวรกรรม.. วันนี้กรูไม่ต้องไปไหนแล้วสิเนี่ย ชั้นแง่งอนชินจังพักนึง แล้วก็หลับต่อ หลับรอไปถึงบ่ายสี่โมง ตอนแรกแม่ชินจังโทรมาบ่นชินจัง เรื่องที่ชินจังเอากุญแจรถมาหมดเลยสองคัน ทำให้แม่ออกไปไหนไม่ได้เลย กว่าจะกลับถึงบ้านก็ห้าโมงครึ่ง ชินจังไปส่งชั้นที่ห้างก่อน แล้วก็เอากุญแจรถไปให้แม่ ตอนเย็นชินจังมารับชั้น แม่ยังไม่กลับเลย แม่กลับมาพร้อมโดนัทหนึ่งกล่อง ..เป็นอาหารเช้าของชั้นนั่นเอง ... โถคุณแม่... ชั้นถึงรู้ว่าแม่จะเอารถไปซื้ออะไร ทั้งๆ ที่ตอนชั้นกลับมาแม่ทำกับข้าวเสร็จแล้วนี่นา



รอชินจัง..ต่อใบขับขี่ เข้าห้องน้ำ.. จะไปอุนจิอย่างเดียวก็กะไร.. ถ่ายรูปเล่นดีฝ่า

วันที่ 5 มค. ชั้นต้องลาครอบครัวชินจังแล้ว ตอนเช้าแม่กับพ่อชินจังจะออกไปออนเซ็น ชินจังเลยให้ชั้นไปลาแม่ แม่กะพ่อชินจังก็มาบอกว่า "ฝากชินจังด้วยนะ เค้าเป็นคนเห็นแก่ตัว เธอต้องอดทนให้มากๆ นะ" ชินจังก็บอกว่า "มารุก็เห็นแก่ตัวนะ" ชั้นหันไปมองค้อนเล็กน้อย.. แล้วทวนคำพูดว่า "ชั้นก็เห็นแก่ตัวเหรอ?" ่ชินจังบอกแม่ว่า "คบกันมาสี่ห้าปีแล้ว ถ้าแต่งงานคงไม่มีปัญหาหรอกแม่" แม่บอกว่า "นานขนาดนั้นเชียว อืม.. ก็เป็นนักเรียนนี่นะ... มารุอดทนได้ดีมาก" พ่อก็บอกว่า "ชินจังทำงานแล้ว อีกปีสองปีคงต้องสร้างครอบครัวแล้วละ ฝากด้วยนะ" แล้วก็บ๊ายบายกัน ชั้นกะชินจังก็ออกไปช้อปปิ้ง กินซูชิ (อีกแระ) กลับมาเที่ยงๆ พ่อแม่ชินจังกลับมาแล้ว เลยลากันอีกรอบ ขำๆ ดี แม่บอกว่า "พ่อกับแม่อยากมาญี่ปุ่นไหม? พามาสิ แม่ไปเมืองไทยไม่ได้ เพราะแม่นั่งเครื่องบินไม่ได้ แม่อยากเจอนะ จะได้รู้ว่าพ่อแม่เธอเป็นยังไง" ชั้นก็ได้แต่รับคำ ไม่รู้ว่าพ่อแม่ชั้นจะมาได้เมื่อไหร่นะ พ่ออีชั้นต้องทำงานทุกวันเลย เสาร์อาทิตย์ก็แทบไม่ได้หยุด



กะลังจะออกจากบ้านชินจัง

ชั้นกะชินจังออกจากบ้าน แม่ชินจังบ๊ายบายหน้าประตู ชินจังเอารถไปจอดใกล้สถานีรถไฟ ชั้นติงต๊อง ทำที่วางขวดน้ำในรถพี่สาวชินจังหล่นไปใต้ท้องรถ ชินจังต้องถอยรถเพื่อให้ชั้นเก็บของ แล้วก็ดุด่าชั้นว่า "annoyed koa chan" หาว่าชั้นเป็นตัวก่อกวนเรื่อยเลย ไปถึงโอซาก้าบ่ายสามกว่าๆ เอาของไปใส่ล๊อคเกอร์แล้วไปสวนสัตว์เท็นโนจิ ไปดูหมีโคอะล่านอนหลับ ดูทำไมก็ไม่รู้ ชั้นบอกชินจังแล้วนะเนี่ย ว่าหมีโคอะล่ามันเอาแต่นอน จะไปดูทำไมเนี่ย แต่เห็นแล้วมันก็น่ารักดี ชินจังบ่นชั้นว่า "ไม่อยากเห็นตัวเองหรือไง?" คือ ชินจังบอกว่าชั้นเป็นหมีโคอะล่า เพราะว่าชั้นนอนเก่ง วันๆ เอาแต่กินกะนอน



ที่สวนสัตว์เทนโนจิ ปากทางเข้าชมโคอะล่า

เที่ยวสวนสัตว์ พบเพื่อนๆ ของชั้นเสร็จแล้ว ชินจังก็พาไปเช็คอินโรงแรม ระหว่างทาง ชินจังจอมซาดิสม์ ลากกระเป๋าชั้นอย่างรุนแรง ล้อกระเป๋าชั้นหลุดเลย... ชินจังเห็นก็บอกว่า "ซวยแล้ว..มารุ ซ่อมไม่ได้แน่ๆ" แต่พอชั้นไปดู ไปเก็บล้อกระเป๋า ก็คิดในใจว่า "ซ่อมได้" อะไรๆ ก็ซ่อมได้ เพราะชั้นทำงานบริษัทเซอร์วิสซ่อมบำรุงนี่นา อะไรๆ ในโลกนี้มันก็ซ่อมได้ทั้งนั้นแระ จะมองโลกในแง่ร้ายไปทำไมเนี่ย ชินจังให้ชั้นเก็บล้อไป แล้วก็แบกกระเป๋าเข้าโรงแรม
ระหว่างกะลังเช็คอิน ก็มีหนุ่มไทยหล่อๆ สองคนเดินมาถามพนักงานรร. เป็นภาษาอังกฤษ ชั้นไม่กล้าทักทายพวกเค้าหรอก ได้แต่อมยิ้ม ทำหน้าเป็นมิตรด้วยเท่านั้น คนไทยในต่างแดน โดยเฉพาะที่ญี่ปุ่นเนี่ย.. ชั้นไม่กล้าทักสุ่มสี่สุ่มห้าจริงๆ นะ กลัวเค้าจะไม่ดีใจ ที่เราไปทักเค้า เหมือนที่ชั้นดีใจ และอบอุ่นใจเวลาเจอคนบ้านเดียวกัน ทำไมน่ะเหรอ? ก็บางคนจะมองผู้หญิงไทยที่คบกะคนญี่ปุ่นแบบประมาณว่า เป็นอีสาวสแน๊คบาร์ เป็นพวกทำงานกลางคืนอะจิ ชั้นเลยต้องสงบเสงี่ยมเจียมตน แม้อีชั้นจะเป็นอีล่าม เป็นผู้หญิงทำงานกลางวันก็เหอะ ก็ไม่อยากจะเสียความรู้สึกกะคนบ้านเดียวกัน เวลาไปทักเค้าแล้วเค้ามองเราแบบเหยียดๆ ชั้นอยู่เฉยๆ ดีกว่า




หลังจากเช็คอินเสร็จ ชั้นก็สาละวนกะการแกะชิ้นส่วนล้อกระเป๋าเดินทาง แล้วก็พบว่าสกรูมันหลุดนั่นเอง แค่ขันสกรูเข้าไปก็จะใช้ได้เหมือนเดิม เลยบอกชินจังว่า "ซ่อมได้นะ เดี๋ยวเราออกไปซื้อไขควงกันนะ ที่ร้านร้อยเยนคงมี" ชินจังเห็นก็บอกเออ จริงด้วย มารุนี่เป็นช่างก็ได้นะ ก็แน่ละสิ ชั้นทำงานบริษัทซ่อมนิ ถ้าเจอของเสียก็ต้องสมมุติฐานไว้ก่อนว่า "ซ่อมได้" นี่เป็นจรรยาบรรณย่ะ ชินจังบอกว่า "ไม่ต้องซื้อหรอก เดี๋ยวผมถามรร. ก่อน เรายืมเค้าก็ได้" ดีใจจัง ไม่ต้องซื้อกระเป๋าใหม่ที่ญี่ปุ่น ไม่งั้นทริปนี้จะค่าใช้จ่ายสูงมาก



เราออกไปแด๊กข้าวกันที่ร้านยาโยอิ (ร้านนี้มีสาขาเครือเอ็มเค ที่เมืองไทย) ที่ญี่ปุ่นให้เติมข้าวฟรีด้วยละ ชินจังเลยชอบกินมาก ชั้นสั่งนาเบะมากิน ชินจังสั่งนาเบะสไตล์เกาหลีมา พอชั้นชิมของชินจังแล้วปรากฎว่า สูตรเกาหลีแซ่บหลายมาก อร่อยกว่าสูตรญี่ปุ่นอีก เลยขอเปลี่ยน ชินจังถามว่า "มารุเหลือเงินเท่าไหร่น่ะ" ชั้นบอกเหลือหมื่นเยน ชินจังบอกว่า "เยอะนะ" ชั้นบอกเค้าไปว่า "อยากกินไรอีกละ ชั้นเลี้ยงก็ได้นะ ซื้อของให้เพื่อนน่ะ ใช้บัตรเครดิตซื้อก็ได้ เพราะซื้อที่สนามบิน" ชินจังบอกว่า "ไม่บอกเร็วกว่านี้ละ นี่ผมกินอิ่มแล้วนะ" อิๆ.. บอกก็โง่อะดิ.. รู้เขา แต่เขาไม่รู้เรา เราก็จะเป็นฝ่ายกุมชัยชนะไงเล่า อิๆ



แง่ม..อาจารย์ยิ่งสัตว์ ...เอ๊ย ยิ่งศักดิ์ พาไปชิมอีกแระ

ชินจังพาชั้นไปเดินดูกูลิโกะ กะปูยักษ์อีกรอบ แล้วก็พาไปร้านร้านนึงที่มีทุกอย่างเลย มีคุกกี้นมโต F cup ด้วยละ ชั้นว่าคราวหน้าไปจะซื้อมาขายนะ กลับมาเมืองไทยคราวนี้ชั้นจะเอาคะแนนบัตรเครดิตแลกกระเป๋าเดินทางใหม่ ใบใหญ่ยักษ์ พอไปญี่ปุ่นคราวหน้าเดือนพค. จะหิ้วของมาขายในเว็บส่วนตั๊วส่วนตัวของชั้นเองด้วย 555 เกียไอดู๊ด กู๊ดไอเดียมั่กๆ



หลังจากเดินเล่นพักนึง ชั้นชวนชินจังไปดริ๊งค์คอฟฟี่ แต่ชินจังบอกอยากกลับโรงแรม กลับไปพักผ่อน แล้วค่อยออกมาใหม่ แต่ก็ไม่ได้ออกหรอก ชินจังเดินออกไปซื้อเหล้าบ๊วยกะน้ำส้มให้ชั้นตอนดึกๆ แล้วก็นอน



เช้ามาชินจังก็รีบปลุกชั้นไปกินอาหารเช้า ดื่มกาแฟเสร็จก็บอกว่า "อือ ดื่มกาแฟแล้วปวดอึจิงด้วยเนอะ ทำไมเหรอมารุ" หุๆ มันเป็นความลับของลำไส้ใหญ่นะชินจัง.. มีไม่กี่คนหรอกที่รู้เรื่องนี้ พอดีชั้นเป็นเพื่อนกับจุลินทรีย์แลคโตบาซีลัสน่ะ ก็เลยรู้สูตรลับนี้ละ 555 ว่าแล้วเราก็รีบขึ้นห้อง ชินจังแย่งห้องน้ำกะชั้นอีก เข้าห้องน้ำไปก่อน ... พอเค้าออกมา ชั้นบ่นว่า เหม็น แล้วทำท่า อ้วก ชินจังบอกว่า "จริงๆ ชอบใช่มั๊ยละ เมื่อก่อนก็เคยดูอุนจิผมนิ" เมื่อตอนไปปักกิ่งครั้งแรก ตอนนั้นเพิ่งคบกัน ส้วมรร. มันราดไม่ลง ต้องเรียกพนักงานมาปั๊มส้วมให้ ชั้นเจอแจ๊คพ๊อตได้เห็นอุนจิชินจัง .. ประทับใจมั่กๆ อิๆ ยิ่งเห็นก็เลยยิ่งรักชินจังม๊าก มาก 555



ไม่น่าเล่าเลยเนอะ ทุเรศจิงๆ แต่ก็เล่าไปแล้ว อิๆ ชั้นออกจากรร. เพื่อไปขึ้นรถบัสไปสนามบิน ชินจังมาส่ง ชั้นบอกชินจังให้ลากกระเป๋าเบาๆ หน่อย เดี๋ยวล้อพังอีกจะลำบาก ตอนนี้ล้อ sensitive มากๆ ต้องถนอมหน่อยนะ ชินจังก็เลยลากช้าๆ ตอนรอรถบัสชั้นก็เกือบร้องไห้ พอรถบัสมา เดินขึ้นรถบัสก็เหงา... ไม่อยากกลับเลย แต่พอกลับมาแล้วก็ดีใจมากเลย จริงๆ ก็คิดถึงเมืองไทยนะ คิดถึงอากาศร้อนๆ ที่เคยชิน ไม่ต้องใส่เสื้อผ้าหลายๆ ชั้น กลับมาถึงก็พบว่า หญิงกะป้าอ้วนโทรมา ชั้นโทรหาแม่ก่อนอันดับแรก แล้วก็โทรบอกชินจังว่าถึงแล้ว ชินจังตะโกนเสียงดัง เพื่อให้แม่ได้ยินว่า "มารุ..ถึงแล้วเหรอ ดีจังๆ "

กลับถึงห้องชั้นรีบอาบน้ำแต่งตัว ไปฉีดสิว และดินเนอร์มื้อเย็น มื้อแรกคือ ลาบหมู กะข้าวเหนียว...โอ๊ย..แซ่บหลายเด๊.... พ่อแม่ พี่น้อง... กินแต่อาหารจืดๆ พอได้กินแบบนี้แล้วสะใจ๊สะใจ กลับมาถึงห้อง ชินจังบอกว่า "มารุ แม่อยากเห็นหน้านะ เปิดกล้องสิ" ชั้นรีบไปเก็บกวาดห้อง ชินจังบอกว่า ไม่ต้องเก็บหรอก หันกล้องไปทางที่ไม่รกสิ... แม่เห็นชั้นก็บอกว่า "มารุ ไม่เหมือนมารุเลยเนอะในกล้องน่ะ" ชินจังก็บอกว่าให้ชั้นโทรไปหาแม่ แม่จะคุยด้วย ชั้นก็โทรไป บอกขอบคุณคะคุณแม่ แล้วจะไปรบกวนอีกนะคะ ชินจังได้แต่บอกว่า แม่ชอบเธอ แม่อยากให้ชั้นแต่งงานกะเธอ เฮ้อ... จบทริปนี้แบบประทับใจอีกแล้วละ

ปล. จริงๆ มี accident เกิดเล็กน้อย ตอนแรกอีชั้นกลัวว่าจะมีเบบี๋ คือ น้องเท็นโกะ (แปลว่า เด็กซาหวัน) จะมาจุติในครรภ์ของอีชั้นซะแร้ว ชินจังก็บอกว่า "ช่างเหอะ ตอนนี้พร้อมแล้ว พามารุไปเจอพ่อแม่แล้ว ต่อให้ท้องแล้วต้องแต่งเลย ผมก็ไม่กลัวอะไรอีกแล้วละ มีไปเลยมารุ" แต่เสียดายจัง.. น้องเท็นโกะ Baby boy ของม่ามี๊ อิๆ เพราะแอ๊คซิเด็นดันมาเกิดเอาตอนที่อีกวันสองวัน อีชั้นจะมีปจด. นะสิเคอะ ไม่งั้นได้แต่งปีนี้แน่ตรู

Special Thanks : ขอบคุณผู้หนับหนุนหลัก อย่างเป็นทางการ ชินจัง 10,000 ป๊ะป๋า 10,000 หุ ๆๆๆ ทำให้ค่าตั๋วเครื่องบินครั้งนี้ถูกซะยิ่งฝ่าแอร์เอเซีย... ใครๆ ก็บินด๊ายยยย ขอบคุณเพลง don't matter... ชั้นเคยคิดเสมอ.. ว่าความรักระหว่างชั้นกะชินจัง เคยถูกคนอื่นมองเหมือนเนื้อเพลงนี้.. คือ มีแต่คนลุ้นว่าให้เลิกกัน.. ตั้งแต่คบกันใหม่ๆ แต่นี่จะครบรอบปีที่ 5 แล้วนะคะ .. เพราะ Believe we gonna fight ,We gonna fight, Fight for our right to love yeah






Akon - Don't Matter



Create Date : 09 มกราคม 2551
Last Update : 10 มกราคม 2551 9:11:04 น.
Counter : 1147 Pageviews.

33 comments
  
ตามยิ่งศักดิ์เซนเซ เอ๊ย ลิตเติลเซนเซมาเที่ยวจ้ะ

หน้าตาอิ่มเอิบผ่องใสนะจ๊ะช่วงนี้
คงถูกกันดีกับเมืองหนาว
แถมกำลังอินเลิฟซะด้วย
แต่ยังไงก็คงเหลือเค้าลามกอยู่ เลยโดนตม.ค้นซะ

เรื่องเจอคนชาติเดียวกันในต่างแดนก็เข้าใจค่ะ ขนาดไปแค่สิงคโปร์ ไปทำงานแล้วเดินเล่นเจอประมาณไฮซ้อไปชอปปิ้ง เผลอไปทักเข้าว่า อุ๊ย คนไทยด้วยกัน เขายังไม่พูดกะเราเลย แม้แต่คำเดียว หลังจากนั้นเลยไม่กล้าทักเพื่อนร่วมชาติแล้ว เท้งที่ราไม่ได้หยิ่ง แต่กลัวหน้าแหกอีก

ปล. 1 ชอบรูปฝูงทานูกินะ โดยเฉพาะตัวที่ถือกระเป๋า

ปล. 2 男が好きですが、いい男が大好きです。นางไม้ก็ชอบผู้ชายน่ะแหละ ไม่ได้ชอบหญิงด้วยกัน แต่มันยังไม่คลิก
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:10:22:54 น.
  
จะว่าหน้าอ้วนก็บอกมาดิ๊ ไม่ต้องเกรงใจหรอก รับได้

ทานูกิเป็นสัญลักษณ์ความโชคดีและอุดมสมบูรณ์นะ
โดยเฉพาะตัวที่ 4 ง่ะ มันถือเป๋าด้วย.. ตัวเนี้ยอย่างให้โชคให้ลาภเลยนะ




โดย: littlebitlittlemore วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:11:12:11 น.
  
ไปเที่ยวด้วยคนนะคะ ดูอบอุ่นมากมาย แต่หนิงยังไม่เคยโดน ตม ญี่ปุ่นเปิดกระเป๋าเลย ทั้งที่ขนไปที นะ ไม่อยากบอกเลย สามสี่กระเป๋าได้ แถม ตม บางคนพูดไทยได้ด้วยนะคะ
ปีที่แล้วเข้าออก ญี่ปุ่น สี่รอบคะ รอดมาทุกครั้ง ไม่เป็นไรเนอะ ผ่านมาแล้วนะ
โดย: mintny_n วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:11:32:16 น.
  
ว้าว น่ารักจังเลย ประทับใจแทนค่ะ ขอให้รักนี้ยั่งยืน
หนูเคยได้ยินมาเหมือนกัน ว่าภรรยาญี่ปุ่นบางคน ชอบมองหญิงไทยที่คบกับชายญี่ปุ่นว่าจะต้องเป็นคนไม่ดี แต่จริงๆแล้วผู้หญิงส่วนใหญ่ที่มองได้ด้วยตาเปล่า ที่เป็นภรรยาญี่ปุ่นอยู่นั่นน่ะ เห็นปุ๊บรู้ปั๊บเลย ว่าเป็นอะไรมาก่อน ไม่เข้าใจเนอะคะ ว่าทำไมนิสัยเสียแบบนี้
โดย: ลูกจันทน์ วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:13:40:21 น.
  
แม่งเยอะจัด อ่านจนปวดฉี่เลยเนี่ย ปวดแสนปวดแต่ก็ต้องทนอ่านให้จบก่อน อีบ้าเลยเกิด Accident อารายว่ะ พลาดได้ไงว่า ขั้นเทพอย่างแกเนี่ยนะจะพลาด
โดย: Ying IP: 203.151.10.61 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:13:48:23 น.
  
คุณหนิงโชคดีมาก ที่หน้าตาไม่เหมือนอาชญากรอย่างเติ้ล... เลยไม่โดนตรวจกระเป๋า

คุณลูกจันทร์.. อือ เราก็ว่าผู้ดีที่แท้เค้าไม่มาดูถูก หรือรังเกียจคนอื่นหรอกเนอะ

หญิง.. อีบร้า.. อ่านเยอะก็ต้องปวดตาสิยะ จะปวดฉี่ได้ไง มันไม่ได้อยู่ใกล้กันซะหน่อย ตากะห-ยน่ะ... คนละเรื่องกันเลย แอ๊คซิเดนไว้เล่าหลังไมค์นะ อิๆ
โดย: littlebitlittlemore IP: 203.144.187.18 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:14:41:33 น.
  
ปัดโถ่เว้ย ก็คนปวดฉี่ตั้งแต่ก่อนอ่านแล้ว แต่พออ่านไปมันเยอะ ก็ต้องอดทนไว้ก่อนจะได้ไม่ขาดตอนไงเล่า
ปล. จำเรื่องแอร์กี่ในพันทิปได้เปล่า เค้าเอามาสร้างเป็นละครแล้วนะ ทางช่อง 5 สองทุ่มครึ่ง ชื่อเรื่องสงครามนางฟ้า เพิ่งมาเมื่อวานตอนแรก
โดย: YIng IP: 203.151.10.61 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:16:03:51 น.
  
อ่านไปขำไปนะคะเนี่ย
บางตอนอ่านแล้วก็ซึ้งๆยิ้มๆ
มีความสุขกับคุณมารุโกะด้วยจริงๆค่ะ
โดย: Complicatedgirl วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:18:43:08 น.
  
ปล. สวัสดีปีใหม่ค่ะ
ขอให้คุณมารุโกะมีความสุขมากๆนะคะ
คิดสิ่งใดขอให้สมปรารถนานะคะ
สวยวันสวยคืนด้วย และคงความน่ารักไว้เหมือนเดิมนะคะ
โดย: Complicatedgirl วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:18:46:13 น.
  
ดูคุณมารุโกะมีความสุขมากๆ อ่านแล้วทั้งขำทั้งซึ้งค่ะ อิอิ

บรรยายช่วงที่หิมะตกได้เห็นภาพมากๆ เลยนะคะ
โดย: null (cutie_nitty ) วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:20:35:52 น.
  
ไม่ได้หมายถึงหน้าอ้วน
ถ้าจะบอกว่าหน้าอ้วน
ใช้คำว่า หน้าตาดีใจอยู่เสมอ
(=หน้าบาน)ไปเลยดีกว่ีา

แต่บางคนน่ะ ผิวเขาถูกกับอากาศต่างประเทศ
ไปแล้วพอกลับมาเห็นชัดเลยว่าหน้าตาผ่องใส
แต่บางคนก็กลับมาผิวลอกถลอกปอกเปิกย่ะ

ไม่ได้ว่าอะไรซะหน่อย ใจน้อยไปได้ หัวก็...
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 10 มกราคม 2551 เวลา:22:25:44 น.
  


อ่านแล้วขำมากๆเลยค้า
แต่งงานกันไวๆนะค้า

โดย: จิ๊กโก๋ทะเลทราย IP: 195.229.236.247 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:1:57:25 น.
  
โอ้ อ่านจบแล้วมีความสุขตามเลยนะค่ะ
เรื่องการเดินกับไปไหนมาไหนกับคนญี่ปุ่น ขนาดเดินอยู่เมืองไทย ผู้คนเค้าก็ยังมองแล้วคิดแบบน้นเลยค่ะ อย่าไปสนใจดีกว่า ห้ามความคิดกนไม่ได้ เรามีความสุขพอแล้ว
โดย: K'runya วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:10:20:24 น.
  
ซาบซึ้งจัง ง ง ง ง ง
ฝ่าด่านพ่อแม่สามีได้ใส ๆ ด้วยน้ำซุป เอ๊ย แกงจืด
โดย: Nat IP: 203.147.18.60 วันที่: 11 มกราคม 2551 เวลา:16:16:16 น.
  
ทำงานหรือเปล่าวันนี้
วันเด็กอย่างเรา สมควรหยุดงาน
ไปหลอกเด็ก

ขอบเด็ก ขอบเด็ก ขอบเด็ก
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 12 มกราคม 2551 เวลา:12:04:27 น.
  
อ้าว บังเอิญจังจ้า
เพิ่งเล่าเรื่องอู้งานโดยไม่ไ้ด้ตั้งใจไป
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:1:17:02 น.
  
ฮื่อ ลุ้นไม่ขึ้นจริงๆแหละ

ตะกี้(เมา)หลับไปรอบนึงแล้ว
แต่ต๊กกะใจตื่นอีเบื๊อกข้างบ้าน
หล่อนคาราคาซัง เอ๊ย คาราโอเกะเพลงสุนทราภรณ์อยู่ไม่รู้เลิก
โอ้ พระเจ้า
ต่อให้ป้าๆสุนทราภรณ์มาก็ไม่ได้มีอารมณ์จะฟัง
อีนังนี่เสียงเพี้ยนไปเพี้ยนมาอีกตะหาก
เพี้ยง ขอใ้ห้ไมค์ติดคอ
โดย: นางไม้หน้า3 วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:1:44:27 น.
  
อ่านเพลินเลย

ดีจังค่ะที่คุณแม่แฟนให้ความเป็นกันเองแบบนี้

อ่านตอนทำอาหารให้คุณแม่แฟนแอบลุ้นตามไปด้วย อิอิ
โดย: Hobbit วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:1:56:28 น.
  
หุหุ มีความสุขจังเลยค่ะ โอเบเดโต้นะค่ะ ช้าไปนิด แต่ก็ยังได้ชิมิค่ะ เห็นปูแล้วอยากกินเจงๆๆ เลยค่ะ จุ๊บๆๆ
โดย: Aiko (Yushi ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:17:33:01 น.
  
มาตามไปเที่ยวญี่ปุ่นด้วยคน อยากไปมากๆเลยอะคะ เล่าเรื่องได้สนุกน่าติดตามมากๆเลยอะ เหมือนได้ไปเหยียบที่โน่นเองเลย หุหุ

ราตรีสวัสดิ์ หลับฝันดีนะคะ

แปะไว้สำหรับบล๊อค อื่นๆที่พึ่งอัพนะ จะเข้ามาอ่านใหม่จ้า ตัวเล็กตัวใหญ่ที่บ้านรอไปกล่อมไห้นอนอะ แหะๆ
โดย: nuuyin วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:18:35:56 น.
  
ง่ะ เซ็นเซ
อ่านบล๊อกเรื่องราวความรักของเซ็นเซครั้งนี้สนุกมากๆๆ เลยคะ
หลายอารมณ์มากๆๆ
น่ารัก ตื่นเต้น สนุก และแอบมีแหวะ ด้วย
ห้าห้า
เรื่องราวสนุกมากๆๆเลยคะ
อิอิ
เห็นคนมีความสุข คุณน้องก็มีความสุขไปกะเซ็นเซด้วยคะ
อิอิ
โดย: nokpenguin (นกน้อยโกอินเตอร์ ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:19:51:32 น.
  
สวัสดีจ้า
มาเค้าดาวน์ที่ญี่ปุ่นเหรอ แหมน่าจะมาเจอกันหน่อยน้า 555
ดูพอปู่ กับแม่ย่า ท่าทางใจดีเนาะ
ให้ตังค์เป็นค่าเครื่องบินด้วย

วิวที่ถ่ายตอนไปเที่ยวสวยจังเลย เหมือนได้ไปเที่ยวด้วยเลยจ้า
โดย: ติ๊กจังแม่เจ้าคะน้า (Kana Jan ) วันที่: 13 มกราคม 2551 เวลา:22:25:39 น.
  
สวัสดีค่ะ ตื่นเต้นเลยนะคะที่ตม. มีการเปิดกระเป๋าด้วย อิอิ

หน้าตาเหมือนคนญี่ปุ่นมากเลยจ้า น่ารักดี

แฮ่ๆ ขอสารภาพว่าอ่านถึงที่กินปีใหม่กับแม่แฟนนะคะ เรื่องยาวไปหน่อยจ้า ไว้มาอ่านต่อคราวหน้านะคะ
โดย: thaispicy วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:2:50:46 น.
  
มาปูเสื่อ รออีกรอบ เมื่อไหร่จะอัพบล๊อกอีกคะ
โดย: mintny_n วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:12:04:53 น.
  
ขอตามไปเที่ยวด้วยคนค่ะ

อาหารน่ากิน คุณ จขบ น่ารักจังค่ะ


มีความสุขมาก ๆๆ นะคะ
โดย: nattawara วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:16:18:00 น.
  
ว้าวๆ เพื่อนเราจะเป็นฝั่งเป็นฝาเร็วๆ นี้แล้ว ดีใจด้วยนะ ที่ฝ่าด่านอรหันต์สำเร็จ จะไปรอไปงาน 結婚式 นะจ๊ะ
โดย: แม่น้องคาโอริ IP: 58.181.131.82 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:18:25:24 น.
  
อุ๊ย เพื่อนมาเยี่ยมเยอะเลย ขอบคุณคร่าา ตอบรวมๆ นะคะ อย่าน้อยใจกันน๊ะ เดี๋ยวจาแวะไปเยี่ยมทุกทั่นที่บล๊อกจ้า

บล๊อกนี้เราเขียนรวดเดียวจบ ยาวไปหน่อย ตอนแรกก็จะกะจัดตอน เรียกเรทติ้งอะนะ แต่พอดีว่าตั้งใจไว้ว่าปีนี้จะอัพบล๊อกสัปดาห์ละวันพอ ไม่มากกว่านี้แร้ว เลยอัพอาทิตย์ละเรื่องพอจ้า

เราอัพน้อยแต่เราก็จะแวะไปเยี่ยมเพื่อนๆ ทุกคนนะจ๊ะ ..ไม่ต้องห่วงจ้า



โดย: littlebitlittlemore วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:20:22:32 น.
  
Wow ยินดีด้วยนะคะ แหมมีตัวอย่างให้ดูแล้วซิ ค่อยมีกำลังใจหน่อยอ่ะ แบบว่าจะไปญี่ปุ่น18นี้ค่ะ ไปกับแฟนญี่ปุ่น เค้าจะไปประชุมเลยขอไปด้วย.พี่แกก็หวังดีโทรไปบอกแม่และน้องชายว่าเราจะไปด้วย.แม่เลยจับรถไฟจากเกียวโตกับน้องชายมาดูหน้าเราที่โตเกียวหน่ะดิ เฮ้อตื่นเต้นชะมัดเลย...นอนไม่หลับมาหลายคืนแล้ว..กลัวทำเปิ่นจนเค้าไม่ชอบน่ะดิ พออ่านเรื่องคุณแล้วมีกำลังใจขึ้นเยอะเลย..สู้เค้าด่านอรหันต์ต้องฝ่าให้ได้ดิ....
โดย: Ngek IP: 58.64.91.250 วันที่: 14 มกราคม 2551 เวลา:20:56:29 น.
  
คุณNgek
สบายใจได้จ้ะ อย่าตื่นเต้น อย่าซีเรียส ยินดีต้อนรับว่าที่สะใภ้ญี่ปุ่นคนใหม่นะคะ

แรกๆ ก็ตื่นเต้นบ้างคะ พอเจอสักครั้งแล้วก็จะเกิดความคุ้นเคยไปเองคะ

ไปแล้วเป็นไงมาเล่าให้ฟังบ้างนะคะ
โดย: littlebitlittlemore IP: 203.144.187.18 วันที่: 15 มกราคม 2551 เวลา:11:32:45 น.
  
สวัสดีค่ะ

เล่าสนุกมากๆ เลย อ่านจนจบรวดเดียว

5 ปี กับความรักข้ามชาติแบบนี้
ถ้าสองคนไม่มั่นคงต่อกัน
คงไม่สามารถประคับประคอง
มาจนถึงวันนีี้นะคะ

ซึ้งในรักค่ะ

ยินดีที่ได้รู้จักเช่นกันนะคะ
โดย: วดี วันที่: 16 มกราคม 2551 เวลา:6:34:59 น.
  
ทั้งมันส์ ทั้งขำ ทั้งฮา
ขอให้ได้เป็นโอ๊คซังเร็ว ๆ นะค่ะ
โดย: sai IP: 58.64.38.110 วันที่: 7 มีนาคม 2551 เวลา:19:23:35 น.
  
อยากไปเที่ยวญี่ปุ่นนนนนน
โดย: kisekimeru IP: 203.97.83.162 วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:28:54 น.
  
กรี้ด คุณน้อง หล่อนไปอินุยามะมาเหรอย่ะ หนอยแน่ะ แล้วเมื่อไหร่ หล่อนจะนัดอีเจ๊ไปตะลุยฟูจิคิว หรือไม่ก้อ ดิสนี่ย์ซีเวิดร์นัดมาก ฮ่าๆๆ อยากได้เพื่อนไปนั่ง เจ๊ตคอสเตอร์ กร๊ากๆๆ
โดย: ตัวลัปปลิวลมนมแบน (Nada Sousou ) วันที่: 27 มิถุนายน 2551 เวลา:1:29:40 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

littlebitlittlemore
Location :
Sweet Home Alabama  United States

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 9 คน [?]



สวัสดีจากอลาบาม่า สหรัฐอเมริกา
Subscibe ช่อง Home of the brave

เพื่อคนไทยในอเมริกา

MY VIP Friend