Try to be F/A
รูทบิน Japan-- Narita, Osaka, Nagoya Indonesia-- Jakartar, Denparsar Australia-- Brisbane, Sydney America-- Hawaii, Guam(quick turn) Philippines-- Manila (quick turn)
จะเริ่มเปิดเดือนตค. India Vietnam-- Ho Chi Minh
ตอนเทรน อย่างที่ทราบกันดี แจลเวย์ เป็นสายการบินญี่ปุ่น ซึ่งเคร่งมากเรื่องของระเบียบวินัย และการตรงต่อเวลา มีการเทรนที่ขึ้นชื่อว่าเครียดและ ต้องใช้ความอดทนเป็นอย่างมาก
ภาษาญ๊ปุ่น ต้องไปหาที่เรียนภาษาเสียแต่เนิ่นๆ จะได้ไม่มากดดันในภายหลัง หลังจากจบการเรียนในแต่ละวัน ต้องทบทวน เพราะจะมีการทดสอบความรู้ในช่วงเช้า (ไม่ใช่เป็นการสอบนะคะ แต่เป็นการดูว่าคุณรับบทเรียนเก่าได้มากน้อยแค่ไหน) และเพิ่มของใหม่ให้คุณด้วย ถ้าขาดความรู้เก่าที่ดีก็จะทำให้คุณไม่สามารถรับความรู้ใหม่ได้เต็มที่
การแต่งกายช่วงเทรน
เป็นสูทแขนยาวสีสุภาพ กระโปรงสั้นแบบพองาม รองเท้าส้นสูงสีดำ เรียบๆดีที่สุด กระเป๋าสุภาพใบโต เพราะต้องแบกหนังสือหลายกิโล ผมก็รวบติดโบว์เรียบๆสีดำ แต่งหน้าแบบไหนไม่รู้ ขอปากแดงไว้ก่อน แต่ smokey กะ nude look เก็บไว้เสาร์ อาทิตย์ บอกแล้วว่าที่นี่ขอสุภาพ เล็บเบจ ชมพู ส้มเท่านั้น ควรพกผ้าเช็ดหน้าด้วย ต้องสวยทั้งวัน เพราะจะเช็ค appearanceตลอดเวลา
การเทรนจะแบ่งเป็นประมาณสี่ช่วง 1. ภาษาญี่ปุ่น ประมาณ 1 เดือน 2. cabin (จะสอนเกี่ยวกับการทำงานบนเครื่อง ข้อมูลเกี่ยวกับการบิน ระบบเครื่องบิน อีกสารพัด) ประมาณ 1 เดือนครึ่ง 3. ไปเทรนที่ญี่ปุ่น 2 อาทิตย์ 4. OJT 1 เดือน
ระหว่างเทรน จะมีระบบ tooban กับ sub tooban เปลี่ยนเวรกัน ประมาณว่าหัวหน้า รองหัวหน้า หรือง่ายๆเบ๊ประจำวัน ต้องไปเชิญอาจารย์มาสอน ต้องช่วยยกของ เอาของมาจัดในห้อง ลบกระดาน เก็บของ และยกของไปเก็บ ไม่ต้องห่วง โดนเป็นครบทุกคน
ก่อนการเริ่มเรียนทุกclass tooban และ sub tooban ต้องไปเชิญผู้สอน ส่วนคนที่อยู่ในห้องต้องยืนรอเงียบๆ รอกล่าวคำทักทายผู้สอน แล้วค่อยนั่งได้ ตอนเวลาเรียนจะมีการบันทึกความเป็นไปของคุณตลอดเวลา เค้าจะดูว่าคุณให้ความสนใจ มีสมาธิขนาดไหน เรียบร้อยมั้ย นิสัยใจคอ ดื้อ/น่ารักรึเปล่า คุณต้องนั่งให้เรียบร้อยด้วยนะ ขาชิด ปลายเท้าชิด โอยยยยสารพัด
มาพูดกันถึงเรื่องเวลา ตรงเวลาเท่านั้น เริ่มแปดโมง ก็แสดงว่าเจ็ดโมงห้าสิบต้องไปเชิญอาจารย์ และทุกคนต้องยืนรอพร้อมแล้ว พักสิบนาทีก็คือสิบนาที ไม่ใช่สิบเอ็ดหรือสิบสองนาที
จะมีการสอบวัดความรู้เป็นระยะๆคะ ตัวสะกดทุกตัวสำคัญหมด อ่านหนังสือกันจนหลับคากองหนังสือไปเลย
หลังจากนั้นจะได้ไปเทรน emergency ที่โตเกียวสองอาทิตย์คะ ขอย้ำว่าไปเทรน ไม่ใช่เที่ยว เรียนความรู้เพิ่มเติมนิดหน่อย สอบซะส่วนใหญ่ สำคัญมากเพราะเกี่ยวกับความปลอดภัยทั้งหลายบนเครื่องบิน ต้องทำความเข้าใจกับอะไรอีกเยอะ
ช่วงเทรนสามเดือนนั้นจะได้รับเงินเดือนประมาณ หกพันบาทต่อเดือน ส่วนช่วงไปโตเกียวจะมีการให้เงินเยนยืมใช้ก่อนและหักจากเงินเดือนช่วงที่เริ่มทำงานได้หนึ่งหรือสองเดือน
หลังจากนี้จะเริ่มบินเป็น OJT--on job training เหมือนเป็นการทดลองงานจริง ระยะเวลาประมาณ 1 เดือน ควรจะตักตวงความรู้ให้มากที่สุด ขอรุ่นพี่ลองทำงานจริง
หลังจากนี้ก็จะเป็นตัวจริงทำงานบนเครื่อง ช่วงหนึ่งปีแรกจะได้ทำงานครัวเป็นส่วนมาก ตอนนี้ถือว่าเป็นแอร์คนนึงแล้ว จะไม่มีใครมาคอยบอกเหมือนตอน OJT งานจะราบรื่น ไวรึเปล่าก็ขึ้นอยู่กับเรา
ตอนนี้จะต้องเป็นtooban ด้วย คอยนับสมาชิกว่าครบรึเปล่า ดูกระเป๋าว่าขึ้นรถหมดมั้ย ไม่ได้หมายความว่าต้องช่วยยกทุกใบ ส่วนใหญ่ทุกคนจะมาช่วยกันเลื่อนไปให้คนขับเป็นผู้ยกขึ้นรถ ดูเวลาpick up สำหรับการทำงานครั้งต่อไป ฝึกการมีความรับผิดชอบให้กับพนักงาน
ช่วงบินจริงเงินเดือนรวมกับเบี้ยเลี้ยงประมาณ สามหมื่นห้าขึ้นคะ ขึ้นอยู่กับตารางบิน และ ประเทศที่ได้ไป ถ้าจะเอาประมาณหก หรือ เจ็ดหมื่น ก็ต้องเห็นหน้าคนที่บ้านแค่หก หรือเจ็ดวันต่อเดือน แต่อาจจะหลังหักตายไปซะก่อน
ในช่วงหนึ่งปีครึ่งตั้งแต่เซ็นสัญญาเป็นพนักงาน สามารถลาออกได้แต่ต้องเสียเงินค่าปรับให้กับบริษัท เริ่มที่แปดหมื่นแล้วจะลงลดไปเรื่อยๆตามระยะเวลาที่คุณสร้างคุณประโยชน์ให้กับบริษัท
เรื่องสวัสดิการ
1. โบนัส 1เดือน ชึงเท่ากับ basic salary 7500 บาท
2. ส่วนค่ารักษาพยาบาล ตอนเทรนอยู่จนกระทั่งOJTเสร็จจะเบิกค่ารัษาพยาบาลไม่ได้ซึ่งก็เป็นเวลาเกือบ 4 เดือน พอหลังจากline out ถึงจะสามารถเบิกค่ารักษาพยาบาลได้ แต่ได้แค่วันละ 550 บาทเท่านั้น คือไปหาหมอแต่ละครั้งเบิกได้แค่ 550 ประกันสังคมมีเหมือนบริษัททั่วไป 3. เรื่องของตั๋ว ถ้าจะขอตั๋วฟรีต้องทำงานอย่างน้อยสองปีถึงจะมีสิทธิโดยที่แต่ละปีจะมีpointให้ 16 point เก็บมา2ปีก็ได้ 32 point ซึ่งพาพ่อกะแม่ไปเที่ยวญี่ปุ่น สามคนไปกลับ pointก็หมดพอดี ส่วนถ้าจะไปยุโรป ก็ไปได้แค่สองคน ถ้าไม่งั้นจะเลือกเอาแบบ ID50% ID70% or ID90% ก็ได้ แต่ไปแบบนี้มันทรมานคือเราไม่ได้ตั๋วแน่นอนมันคือตั๋วแสตนบายยังไม่แน่ว่าจะได้ไปหรือเปล่า เราจะจองตั๋วก่อนไม่ได้ ถ้าไฟล์ทเต็มก็อดไป
4.ค่าทำฟัน ปีละ 2000 บาท ซึ่งจะทำได้ที่ รพ.กรุงเทพและคลีนิคสมภพ-อัมพุธเท่านั้น
5. ซักรีด uniform ต้องไปซักที่ร้านซินไฉฮั้ว ได้เดือนละ 29 point แต่เสื้อสูทตัวละ 6 point เสื้อเหลือข้างใน4 point ผ้าพันคอ 2 point กระโปรง 4 point สรุปแล้วเดือนนึงใส่กี่ตัวแล้วส่งซักได้แค่กี่ตัวก็สองคำนวณเอง
6. ค่าแท็กซี่ให้เวลามาสนามบินครั้งละ 360
7. วันลาพักร้อน สามารถลาได้ปีละกี่วันเนี่ยก็ขึ้นอยู่กะอายุงาน แต่ช่วงแรกๆ ประมาณ 7-10 วัน ต้องลาล่วงหน้าอย่างน้อยสองเดือนและไม่แน่ใจว่าที่เราลาจะได้ชัวร์ๆหรือเปล่า และวันหยุดพักร้อนถ้าเราไม่ได้ใช้สิทธิเราก็ไม่สามารถสะสมได้ ผ่านแล้วผ่านเลย
ค่าทำงานบนเครื่อง ค่าแรงต่อหนึ่งชั่วโมงก็ประมาณ 70 บาท กรุงเทพ-นาริตะ 6 ชั่วโมงก็ 420 บาทถ้วน ตามชั่วโมงบิน
มีค่าภาษาญี่ปุ่น จบเอกมาอย่าเพิ่งดีใจ คุณต้องทำงานก่อนประมาณสองปี บริษัทจะเรียกเข้าไปเทรนเพิ่มและสอบ ถ้าผ่านขั้นนี้ก็จะได้ 500 บาทเพิ่ม ถ้าต้องการได้เพิ่มอีกต้องรอเทรนอีก แล้วก็มีสอบวัดระดับอีก
ในช่วงเวลาหกเดือนถ้าไม่ลา ไม่ขาด ไม่สายเอาไปเลยgift voucher central 2000 บาท และถ้าได้รับgood commentเป็นลายลักษณ์อักษรจากคุณผู้โดยสารแล้วละก้อ ทางบริษัทจะมอบจดหมายเกียรติคุณพร้อม coupon 1000 yen ให้จับจ่ายอย่างสบายใจ โอยยย.......อีกสารพัดที่ยังไม่ได้พูด ไม่อยากพูด และพูดไม่ได้ แยะไปหมด
เขียนเอง อ่านเองแล้วก็มานั่งถอนหายใจ เฮ้อออออ จะรอดมั๊ยเนี่ยตรู
Create Date : 16 กุมภาพันธ์ 2550 |
|
13 comments |
Last Update : 17 กุมภาพันธ์ 2550 1:23:08 น. |
Counter : 1397 Pageviews. |
|
|
|
มาจาก TCC คะ
ที่นี่เทรนหนัก พยายามเข้านะคะ
ส่วนเราไม่รู้จะได้ใช้ข้อมูลแบบนี้บ้างไหมน้อ