สิงหาคม 2551

 
 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog
อีฟนิ่งพริมโรส กินแล้วได้อะไร?
สมัยโบราณ คนพื้นเมืองที่อาศัยในพื้นที่แถบอเมริกาเหนือค้นพบพืชชนิดหนึ่งซึ่งใช้เป็นยาสมุนไพรได้ มีลักษณะเป็นไม้ดอก ให้ดอกสีเหลืองที่จะแย้มบานตอนใกล้ค่ำ จึงเรียกกันว่า อีฟนิงพริมโรส (Evening primrose) ซึ่งมีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Oenothera biennis L. ศาสตร์แห่งสมุนไพรเหล่านี้ค่อยๆ ถ่ายทอดกันมารุ่นต่อรุ่นจนกระทั่งคนในปัจจุบันได้เรียนรู้ถึงพลังบำบัดของน้ำมันที่สกัดจากเมล็ดอีฟนิงพริมโรส ที่อุดมไปด้วยกรดไขมันจำเป็นซึ่งมีประโยชน์ต่อร่างกาย

เดิมการใช้สมุนไพรชนิดนี้ จะใช้ต้นและรากของมันมาช่วยในการรักษาแผลฟกช้ำ อาการปวดท้อง ริดสีดวงทวาร แม้กระทั่งคออักเสบ แต่ในภายหลังนักวิจัยจึงพบว่าเมล็ดเล็กจิ๋วของอีฟนิงพริมโรสมีน้ำมันซึ่งนำมาสกัดเพื่อใช้ประโยชน์ได้ด้วย

กรดไขมันจำเป็นชนิดโอเมกา 6 ชื่อ กรดไลโนเลอิก ที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิงพริมโรส เมื่อถูกย่อยแล้วจะแตกตัวให้สารชื่อว่า กรดแกมมา-ไลโนเลนิก หรือ จีแอลเอ (Gamma - Linolenic Acid, GLA) อันเป็นกรดไขมันจำเป็นที่ร่างกายจะใช้สร้างพรอสตาแกลนดิน (Prostaglandin) ซึ่งเป็นสารคล้ายฮอร์โมนที่มีหน้าที่ควบคุมการทำงานของร่างกายหลายรูปแบบ ได้แก่

ช่วยต้านการอักเสบ


เป็นองค์ประกอบสำคัญของเยื่อหุ้มเซลล์


ช่วยป้องกัน และยับยั้งการลุกลามของภาวะประสาทเสื่อมจากโรคเบาหวาน และอาจฟื้นฟูระบบประสาท โดยมีการวิจัยในคนที่เริ่มมีอาการนี้แล้วทดลองรักษาด้วยการให้น้ำมันอีฟนิงพริมโรส เป็นเวลา 1 ปี พบว่าสามารถลดอาการชา ประสาทสัมผัสเสื่อม และอาการผิดปกติอื่นๆ ได้ดีกว่ากลุ่มที่ได้รับยาหลอก


ช่วยบำรุงผิวพรรณ รักษาผิวหนังอักเสบ รวมทั้งผื่นเอ็กซีมา ซึ่งเป็นภาวะผื่นแพ้ที่อาจเกิดได้ หากร่างกายมีปัญหาในการเปลี่ยนไขมันจากอาหารเป็นกรดแกมมา-ไลโนเลนิก โดยมีการวิจัยพบว่าการรับประทานน้ำมันอีฟนิงพริมโรส ติดต่อกันนาน 3-4 เดือน พบว่าช่วยบรรเทาอาการคัน ลดการมีน้ำเหลืองไหล ลดการใช้ครีมสเตียรอยด์ และการใช้ยารักษาซึ่งอาจให้ผลข้างเคียงไม่พึงประสงค์ได้


มีบางการวิจัยบ่งชี้ว่าการรับประทานน้ำมันอีฟนิงพริมโรส มีผลในการรักษาภาวะประจำเดือนผิดปกติ เช่น อาการปวดประจำเดือน ความหงุดหงิดที่เกิดก่อนมีประจำเดือน อาการจากเยื่อบุมดลูกเจริญผิดที่ (endometriosis) คลายการเจ็บเต้านมช่วงก่อนมีประจำเดือน โดยมันจะไปทำงานขัดขวางพรอสตาแกลนดินชนิดที่กระตุ้นให้เกิดการอักเสบอันเป็นสาเหตุของการปวดประจำเดือน


ช่วยบรรเทาอาการปวดบวมของข้ออักเสบรูมาตอยด์


บรรเทาอาการจากโรคที่เกี่ยวกับการอักเสบ เช่น สิว ผื่นโรเซเชีย ผิวแห้ง และการปวดกล้ามเนื้อ


ช่วยบรรเทาภาวะไม่อยู่นิ่ง และภาวะเสียความสามารถในการเรียนรู้ในเด็ก มีผลการทดลองทางคลินิกในเด็กพบว่าการได้รับน้ำมันอีฟนิงพริมโรส และน้ำมันปลา จะช่วยให้อาการเหล่านี้ดีขึ้นได้




รูปแบบของผลิตภัณฑ์เสริมอาหารอีฟนิงพริมโรสที่เราเห็นกันอยู่บ่อยๆ มักจะมีทั้งแบบที่เป็นเม็ดแคปซูล แบบแคปซูลอย่างนิ่ม และในรูปยาน้ำชนิดหยด ทั้งนี้กรดไขมันแกมมา-ไลโนเลนิกที่มีอยู่ในน้ำมันอีฟนิงพริมโรส สามารถสลายตัวได้อย่างรวดเร็ว ดังนั้นจึงได้มีการนำมาผสมกับวิตามินอีจำนวนเล็กน้อย เพื่อชะลอการสลายตัว

อย่างไรก็ตาม แม้อีฟนิงพริมโรสจะมีประโยชน์ และมีการนำมาสกัดเป็นผลิตภัณฑ์อาหารเสริม พร้อมโฆษณาสรรพคุณมากมายจนบางครั้งก็อาจเกินความจริงไป ทำให้ทุกวันนี้มีการใช้กันอย่างแพร่หลาย ทั้งที่บางครั้งสำหรับบางคนไม่ใช่เรื่องจำเป็นนัก เพราะในการรับประทานอาหารตามปกติร่างกายก็มีโอกาสได้รับวิตามินและแร่ธาตุในปริมาณที่เพียงพออยู่แล้ว ในคนที่ได้รับผลิตภัณฑ์เสริมอาหารก็จะมีโอกาสได้รับสารอาหารเกินความต้องการ ซึ่งร่างกายจำเป็นต้องขับส่วนที่เกินทิ้งไป นอกจากนี้สารอาหารส่วนที่เกินยังอาจเพิ่มความเสี่ยงของการเกิดพิษต่อร่างกายได้ในกรณีที่เกิดการสะสม เช่น วิตามินที่ไม่ละลายในน้ำอย่างเช่น วิตามินเอ ดี อี หรือ เค ดังนั้นในการเลือกใช้ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารจึงจำเป็นต้องพิจารณาด้วยว่า ร่างกายของเราจำเป็นต้องได้รับสารอาหารดังกล่าวมากน้อยแค่ไหนด้วย

ดังนั้นทางที่ดีที่สุด คือ ขอรับคำแนะนำจากแพทย์ประจำตัวถึงความเหมาะสมในการใช้อีฟนิงพริมโรสเป็นผลิตภัณฑ์เสริมอาหาร และใช้เท่าที่จำเป็น ตามปริมาณที่แพทย์บ่งชี้ โดยควรรับประทานพร้อมอาหาร เพื่อเพิ่มการดูดซึมเข้าสู่ร่างกาย และช่วยลดอาการท้องอืด คลื่นไส้ หรือปั่นป่วนในท้องที่มักจะเกิดกับบางคนหลังรับประทานได้ด้วย

ข้อควรระวัง คือ สำหรับเด็ก และสตรีที่กำลังตั้งครรภ์ ไม่ควรได้รับอีฟนิงพริมโรส และไม่ควรใช้ในผู้ที่เป็นลมชัก หรือได้รับยารักษาโรคลมชัก เพื่อป้องกันไว้ก่อน เพราะมีบางรายงานบ่งชี้ว่า อีฟนิงพริมโรสในปริมาณสูงเกินไปอาจกระตุ้นให้เกิดลมชักได้

ข้อมูลอ้างอิง: คู่มือฉลาดใช้วิตามิน แร่ธาตุ และสมุนไพร—กรุงเทพฯ, รีดเดอร์ ไดเจสต์ (ประเทศไทย), 2548
เออร์เซล, อแมนดา. คู่มือดูแลสุขภาพด้วยวิตามินและเกลือแร่. -- กรุงเทพฯ : ซีเอ็ดยูเคชั่น 2548.



ที่มาข้อมูล :นิตยสาร Health Today

//women.impaqmsn.com/articles/647/47001695.html



Create Date : 08 สิงหาคม 2551
Last Update : 8 สิงหาคม 2551 13:07:36 น.
Counter : 531 Pageviews.

0 comments
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

LiTa Long Time Can't See
Location :
กรุงเทพ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]



เป็นพนักงานบริษัทเอกชน มาถึง 12 ปี
กำลังจะพยายาม เปลียนมาเป็น "เจ้านายตัวเอง"
หรืออีกนัยหนี่งคือ "ลูกจ้างตัวเอง"

ณ. เวลาขณะนี้ (01-06-09)
การเดินทางครั้งใหม่ กับเส้นทางใหม่ ๆ ที่เลือกเอง
มาถึงแล้ว จากที่ตั้งเป้าหมายเอาไว้ กำลังจะนับ 1.2..3...4.... ไปเรื่อย ๆ แล้ว

" การเปลียนแปลงย่อมเกิดขึ้นได้ตลอดเวลา
ขึ้นอยู่กับว่า ณ เวลานั้นเรามีสติพร้อมที่ยอมรับ
และจัดการกับการเปลียนแปลงนั้นได้มากขนาดใหน"