ค่าดูแลรักษา รถยนต์ไฮบริดถยนต์ มีค่าใช้จ่ายสูงจริงหรือไม่
ท่ามกลางกระแสมากมายจากหลายฟากฝั่งที่หลั่งไหลออกมาโต้เถียงกันเรื่องของรถยนต์ไฮบริดในแง่ของความคุ้มค่า บ้างก็ว่าใช้แล้วคุ้ม เป็นรถที่ประหยัดน้ำมันที่สุดเพราะยิ่งใช้ยิ่งประหยัด ขณะที่อีกกลุ่มก็แย้งกลับว่ารถยนต์ไฮบริดยิ่งใช้ยิ่งแพงเพื่อให้ได้ข้อสรุปที่แน่ชัด เราลองมาวิเคราะห์เจาะลึกให้เห็นภาพชัดขึ้นกันค่ะ
หนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักสำหรับคนมีรถคือ ค่าน้ำมัน บางคนเรียกว่าภาระที่ต้องแบกจนหนักอึ้ง ด้วยการเดินทางวันละหลายชั่วโมงประกอบกับสภาพการจราจรที่ติดขัด รู้สึกตัวอีกครั้งก็เสียค่าน้ำมันหลักหมื่นแทบทุกเดือน ตรงกันข้ามหากรถยนต์ที่ใช้เป็นระบบไฮบริด ซึ่งใช้พลังงานไฟฟ้าเป็นแกนหลักในการทำงานส่งผลให้กินน้ำมันน้อยลงอย่างชัดเจน อีกทั้งยังมีระบบที่สามารถแปลงพลังงานจลน์ซึ่งเกิดจากการเบรกหรือหยุดรถให้กลับกลายเป็นพลังงานส่งกลับไปเก็บไว้ในแบตเตอรี่ไฮบริดได้อีกด้วย ดังนั้นหนึ่งในความคุ้มค่าของการใช้รถยนต์ระบบไฮบริดคือเรื่องของค่าน้ำมันซึ่งจะลดลงแน่นอน เปรียบเทียบให้เห็นภาพชัดขึ้นในระยะทาง 100,000 กิโลเมตรเท่ากัน คำนวณที่ค่าน้ำมันลิตรละ 34 บาท รถยนต์ปกติจะใช้น้ำมัน 6,493.5 ลิตร ค่าน้ำมันประมาณ 220,779 บาท ขณะที่รถไฮบริดเจนใหม่ C-HR ใช้น้ำมัน 4,098.3 ลิตร ค่าน้ำมันประมาณ 139,342.2 บาท ส่วนเรื่องของแบตเตอรี่ในรถยนต์ไฮบริดที่เป็นข้อกังขาให้หลายคนถกเถียงว่าใช้แล้วไม่คุ้ม จากการทดลองล่าสุดในประเทศอเมริกาพบว่าแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดสามารถใช้ได้นานถึง 400,000 กิโลเมตรโดยไม่เสื่อมประสิทธิภาพ อีกทั้งเพื่อความมั่นใจโตโยต้ายังรับประกันคุณภาพของแบตเตอรี่รถยนต์ไฮบริดนานถึง 10 ปี ความคุ้มค่าอีกอย่างที่ได้แน่นอนเมื่อเลือกใช้รถยนต์ระบบไฮบริดคือช่วยลดมลพิษ เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมเพราะมีอัตราการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์น้อยกว่าเครื่องยนต์เบนซินขนาด 1.8 ลิตร เท่ากันทั่วไปถึง 55 กรัมต่อกิโลเมตร เปรียบได้กับการปลูกต้นไม้กว่า 100 ต้นในหนึ่งปีทีเดียว
Create Date : 06 พฤศจิกายน 2561 |
Last Update : 6 พฤศจิกายน 2561 17:07:56 น. |
|
0 comments
|
Counter : 290 Pageviews. |
|
|