ยินดีต้อนรับสู่ Blog Lingu Charlian Fan Fiction ค่ะ
นางพญาผมขาว



นางพญาผมขาว ปี 1999
[The White Hair Maiden]




จางจื้อหลิน รับบท จั๊วอี้หัง
สุ่ยหลิง รับบท เลี่ยงหนีซัน


download Theam Title

download End Title

download main song

download sub song


นางพญาผมขาว.............บทประพันธ์ เนี่ยอู้เช็ง
นี่คือเรื่องราวตำนานแห่งความโศกซึ้งที่ไม่อาจบรรยาย จากความรักเป็นความแค้น ทั้งรักทั้งแค้น จนกลายเป็นตำนานรักกระบี่แค้นสะเทือนใจทุกผู้คนในยุทธจักร จากบทประพันธ์ของ เนี่ยอู้เช็ง บุคคลเพียงหนึ่งเดียวที่ได้รับการยอมรับเสมอกับกิมย้ง
พรรคภูตโลกันตร์แห่งแคว้นหนี่เจินได้ซื้อตัวคนเป็นจำนวนมากไม่ว่าจะเป็นจอมยุทธ์ ขุนนาง หรือแม้แต่คนในวังเพื่อโค่นบัลลังค์ฮ่องเต้และยึดต้าหมิง และรายชื่อคนเหล่านี้ได้ถูกซ่อนไว้ในหงษ์หยกขาวซึ่งถูกเก็บไว้ในวังหลวง
อสูรหยก หรืออีกนามหนึ่ง เลี่ยงหนีซัน จอมโจรสาวผู้มีความงามราวเทพธิดาและมีฝีมือร้ายกาจเป็นที่หวาดหวั่นของทุกผู้คน ได้ขโมยหงษ์หยกขาวจากในวังออกมา โดยไม่ได้ทราบถึงเบื้องหลังความลับนี้
จั๋วอี้หัง ศิษย์เอกอันดับสอง แห่งบู๊ตึ๊ง ทายาทขุนนางตงฉินที่ถูกใส่ร้ายจนถูกประหารชีวิต เมื่อรู้ถึงความลับที่เก็บไว้ในหงษ์หยกขาว จึงออกค้นหาและได้บังเอิญพบกับ เลี่ยงหนีซัน ฉายานามที่ จั๋วอี้หัง เรียกอสูรหยก ช่างเป็นเหมือนดั่งสวรรค์ได้กำหนดไว้ ทั้งสองต่างมีรักแรกพบต่อกัน แต่เมื่อทั้งสองได้รู้ถึงฐานะของอีกฝ่ายต่างก็ปวดร้าว ข่าวลือของทั้งสองทำให้เหล่าชาวยุทธ์ดูถูกบู๊ตึ๊ง



บู๊ตึ๊งจึงได้มีคำสั่งฆ่า จั๋วอี้หัง และ เลี่ยงหนีซันเพื่อลบล้างข่าวลือในยุทธจักร แต่ด้วยความรักที่มีให้ต่อนางจึงถูกทุกผู้คนรอบข้างรุมประณามว่าเป็นศิษย์ทรยศแห่งบู๊ตึ๊ง
พรรคภูตโลกันตร์ภายใต้การนำของนางมารดอกไม้แดงและบุตรชายนาม มู่หยงชง ผู้อยู่เบื้องหลังแผนร้ายทั้งปวง ได้รู้ถึงอีกหนึ่งความลับที่ยิ่งใหญ่ซึ่งซ่อนไว้ในหงษ์หยกขาวจึงได้วางแผนชิงหงษ์หยกขาวจาก อสูรหยก มู่หยงชงเมื่อได้พบกับอสูรหยก ก็หลงรักนางอย่างหัวปักหัวปำ จึงได้วางแผนให้ จั๋วอี้หัง และ เลี่ยงหนีซัน เข้าใจผิดเพื่อให้พลัดพรากจากกัน
ด้วยความที่ จั๋วอี้หัง ยึดมั่นในคำว่า ธรรมมะ และ อธรรม จึงได้สร้างความผิดหวังและเสียใจแก่อสูรหยกบ่อยครั้ง จึงทำให้ความรักที่นางมีให้แปรเปลี่ยนเป็นความแค้น เปลี่ยนแปลงผมของนางจนกลายเป็นสีขาว ดังคำที่ว่า นางพญาผมขาว ผมขาวเมื่อยังสาว แต่ความงามของนางไม่เคยเปลี่ยนไปเลย



ความรักของ จั๋วอี้หัง และเลี่ยงหนีซัน ที่ถูกคำว่า ธรรมะ และ อธรรม บดบังทำให้ทั้งสองไม่อาจอยู่ใต้ฟ้าเดียวกันได้ สุดท้ายสวรรค์จะเห็นใจพวกเขาทั้งสองหรือไม่ แคว้นหนี่เจินจะยึดแผ่นดินต้าหมิงสำเร็จหรือไม่ ที่แท้ความลับในหงษ์หยกขาวอันก่อให้เกิดโศกนาฏกรรมกับ เลี่ยงหนีซัน คืออะไร ต้องไม่พลาดที่จะติดตามชมได้ใน นางพญาผมขาว

บทวิจารณ์
โดย ซ้อจางงี้
สำหรับเรื่อง นางพญาผมขาว นับได้ว่าเป็นหนังจีนกำลังภายในเรื่องที่ 4 ของ จางจื้อหลิน ถัดจากเรื่อง ฮ่องเต้บัลลังค์เลือด ถ้าจะให้พูดถึงฝีมือทางด้านการแสดงของจางจื้อหลิน ในเรื่องนี้ บอกได้คำเดียวว่า ซูฮก…Su-Hok จริงๆ ไม่ว่าจะเป็นการแสดงออกด้าน สีหน้า แววตา กริยา บุคลิก ที่มีความแตกต่างกันตามเนื้อเรื่องแต่ละตอนที่เขาต้องสื่อสารออกมาให้ชัดเจน เพื่อให้ผู้ชมรับรู้ถึงความรู้สึกในช่วงระยะเวลาต่างๆ ของตัวละคร ถ้าจะให้พูดว่าจางจื้อหลินสามารถพัฒนาฝีมือทางการแสดงได้ดีเกินคาดก็นับได้ ทำไมถึงสามารถพูดได้เต็มปากว่า เกินคาด เราคงต้องมาไล่ดูกันตามบทประพันธ์เลย



เมื่อครั้งที่ จั๋วอี้หังบังเอิญไปพบเลี่ยงหนีซันที่น้ำตกตอนที่นางอาบน้ำอยู่ และเกือบจะเดินผ่านไป แต่สายตาเหลือบไปเห็นสาวงาม ก็ทำให้ทึ่งในความงามจนต้องหยุด (แอบ) ดูนางอาบน้ำตรงนี้ ถ้าจะให้พูดแบบบ้านๆ ว่า สายตาต้องบ่งบอกถึงอาการ หลงใหล ในความงามของหญิงสาว จางจื้อหลินก็สามารถสื่อสารสายตาสื่อความรู้สึกตรงนั้นให้ผู้ชมรับรู้ได้อย่างชัดเจน โดยที่ไม่ต้องใช้กริยา ใช้มือไม้ หรืออวัยวะส่วนอื่นใดเข้าช่วย ซึ่งตามความเป็นจริงแล้ว การแสดงออกเพียงการใช้ สายตา สื่อสารค่อนข้างเป็นอะไรที่ยากพอสมควร แต่ตรงนี้ เขาทำได้ดี
จั๋วอี้หัง เป็นคนที่ค่อนข้างหูเบาและเชื่อคนรอบข้างง่าย ไม่ว่าจะเป็นตอนที่เลี่ยงหนีซันถูกใส่ความว่าฆ่าอาจารย์ของตนเอง และถูกศิษย์อื่นยุยงให้ตามฆ่านาง หรือตอนที่ถูกมู่หยงชงเล่นละครตบตาให้เข้าใจผิด ตามท้องเรื่องที่ต้องแสดงออกมานั้นต้องทำให้ผู้ชมเห็นถึงความหูเบาและเชื่อคนง่าย ตรงนี้อาจต้องใช้ กริยาหลายอย่างประกอบการแสดงในเวลาเดียวกันไม่ว่าจะเป็น สีหน้า หรือ ท่าทาง ที่ต้องบ่งชี้ให้ได้ว่าในขณะนั้นจั๋วอี้หังรู้สึกสับสน ไม่รู้ว่าจะเชื่อศิษย์ร่วมสำนัก หรือคนรักดี จางจื้อหลินก็คงต้องใช้พลังในการแสดงค่อนข้างมากเพื่อให้คนดูรับรู้ได้ว่าช่วงใดเวลาใด เขาสับสน ลังเล หรือฝังใจ จุดนี้เขาสามารถสื่อสารให้คนดูรู้สึกร่วมได้ จั๋วอี้หังเป็นคนที่มีรักแท้และรักเลี่ยงหนีซันคนเดียวไม่คิดจะรักใครอีก ถึงแม้ว่ารอบข้างเขาจะมีนารีอุปถัมภ์อยู่หลายนาง ไม่ว่าจะเป็นเหอเอ้อหัวผู้เป็นศิษย์น้องหรือนารีพิษ แต่นั่นก็ไม่สามารถทำให้ความรักของทั้งสองสั่นคลอนสำหรับบทเข้าพระเข้านางที่มีอยู่ในทุกบทประพันธ์นักแสดงทุกคนย่อมสวมบทนั้นๆได้ดีอยู่แล้ว แต่สิ่งที่จางจื้อหลินต้องการสื่อออกมาคงไม่พ้นที่จะต้องทำให้ผู้ชมเข้าใจถึงความเป็นจั๋วอี้หังและความเป็นจางจื้อหลินตามแบบฉบับของเขาเองในเวลาเดียวกัน ซึ่งเขาก็ไม่ทำให้ผู้ชมและผู้กำกับผิดหวังที่เลือกเขามารับบทนี้



จางจื้อหลินนับได้ว่าเป็นนักแสดงที่มีบุคลิกเป็นตัวของตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นบทบาทประเภทใดก็ตามอย่างบทเลิฟซีนที่เขาต้องเล่นกับนักแสดงหญิงในเรื่องก็ต้องต่างกัน... จั๋วอี้หังรักเหอเอ้อหัวแบบน้องสาว ดังนั้นเขาไม่เต็มใจที่จะแต่งงานกับน้องสาว สีหน้าและแววตาที่แสดงออกมาก็จะสื่อถึงความรักจากพี่ชายถึงน้องสาว ส่วนความรักที่มีให้นารีพิษแบบพี่สาว แม้ว่านางจะห่วงใยเขามากมายเพียงใดเขาก็ไม่อาจรับรักตอบนางได้ เขาก็ไม่อาจปฏิเสธนางอย่างตรงไปตรงมา แต่ใช้สายตา ท่าทางสื่อออกมาให้นางรู้ว่าเขาเพียงให้ความรักและนับถือนางฉันท์พี่สาวเท่านั้น จั๋วอี้หัง รักและห่วงใยหนีซันแบบคู่รักที่สามารถร่วมทุกข์ร่วมสุขกันได้ เขาอยู่ไม่ได้หากขาดนางไป ดังนั้นไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นเขาพรัอมและยินดีที่จะตายแทนนางได้ ตรงนี้ก็ยากเหมือนกันสำหรับจางจื้อหลินที่จะต้องแสดงออกถึงความรักที่แตกต่างในหลายรูปแบบต่อหญิงสาวทั้งสามตามท้องเรื่อง ซึ่งเขาสามารถสื่อด้านความรักเหล่านี้ออกมาได้ค่อนข้างดีทีเดียว
จั๋วอี้หัง เป็นศิษย์เอกอันดับ 2 ของสำนัก ประกอบกับได้รับความไว้วางใจจากอาจารย์เจ้าสำนักทั้งเรื่องความรู้และความสามารถ ให้ดูแลสำนักต่อได้ นั่นหมายถึงเขาต้องเป็นที่ยอมรับของศิษย์ทุกคนในสำนักและต้องมีภาวะผู้นำเป็นอย่างมาก ในขณะเดียวกันเขาก็ไม่อาจยอมรับได้ที่จะต้องพลัดพรากจากเลี่ยงหนีซัน หญิงสาวอันเป็นที่รัก จากการต่อต้านของศิษย์ร่วมสำนัก ไม่ว่าจั๋วอี้หัง จะพยายามเพียงไรก็ตาม ท้ายที่สุดเขาก็ไม่พ้นที่จะต้องทำร้ายนาง จนนางกลายเป็นผมขาว



ด้วยบทบาทในส่วนนี้เขาจะต้องสื่ออารมณ์ค่อนข้างรุนแรง หมายถึงจั๋วอี้หังในอารมณ์กลืนไม่เข้าคายไม่ออก โดนบีบคั้นให้ต้องทำร้ายนางแบบไม่ตั้งใจในที่สุด...เขาต้องหยุดยั้งนางไม่ให้ฆ่าฟันศิษย์ร่วมสำนักด้วยการทำร้ายนาง ทำให้นางเสียใจจนกลายเป็นผมขาว...ตรงนี้จางจื้อหลินก็สามารถสื่อสารและแสดงออกได้อย่างไม่บกพร่อง เพราะด้านหนึ่งเขาต้องแสดงความเด็ดเดี่ยวในการตัดสินใจเพื่อช่วยพวกพ้อง อีกด้านหนึ่งเขาต้องตัดสินใจหยุดยั้งนางโดยเด็ดขาด การสื่ออารมณ์ความรู้สึกทั้ง 2 อย่างต้องแสดงออกมาในเวลาเดียวกัน จุดนี้เขาก็สอบผ่านแบบสบายทีเดียว เข้าใจว่าผู้ชมคงต้องรู้สึกสงสารเห็นใจเขา และผิดหวังในตัวเขาที่ทำร้ายคนรักในเวลาเดียวกันได้ดี
โดยภาพรวมแล้วตามบทประพันธ์ หลายคนอาจมองว่ายืดยาดไปนิด แต่อีกมุมหนึ่งก็คงต้องมองว่าตามท้องเรื่องเขาต้องการสื่อสารให้รู้ว่าท้ายที่สุดแล้วนางเอกกลายเป็นผมขาวดังชื่อเรื่อง นางพญาผมขาว ได้อย่างไร จึงอาจดูเยิ่นเย้อยืดยาด แท้จริงแล้วซีรี่ย์ในแต่ละเรื่องอาจต้องปูเรื่องให้ผู้ชมทราบว่าจากรักมากกลายเป็นแค้นมาก ดังคำที่ว่า ท่านให้ข้าตายข้าตาย ท่านให้ข้าอยู่ข้าอยู่ แต่แค้นที่ท่านทรยศข้าข้าไม่อาจอภัย มาได้อย่างไร....ตั้งแต่จั๋วอี้หังพบเลี่ยงหนีซัน และนางถูกใส่ร้ายให้เข้าใจผิดต่างๆ นาๆ เขาเป็นคนเดียวที่เข้าใจนาง รู้จักตัวตนแท้จริงของนาง อันเป็นเหตุให้ เขารักนางได้อย่างแท้จริง จั๋วอี้หัง พบอุปสรรคจากสำนักต่างๆทั้งฝ่ายธรรมะและอธรรม รวมทั้งอุปสรรคด้านความรัก แต่นั่นก็ไม่ทำให้ความรักของทั้งสองสั่นคลอน เหล่านี้ต้องการปูเรื่องให้ผู้ชมรู้ว่าจั๋วอี้หังกับเลี่ยงหนีซัน มีความรักแท้ให้แก่กันมากมาย ถ้าตัดบางส่วนของเนื้อหาออกไป อาจทำให้ไม่สามารถเก็บรายละเอียดอื่นๆ ได้ครบถ้วนก็เป็นได้ เขียนเล่าสู่กันอ่านมายาวเพราะอยากแบ่งปันความคิดเห็นที่มีกับเพื่อนๆ อ่านจนจบสำหรับ Series แต่ละเรื่องที่เขียนมา ผู้อ่านก็จะได้รู้จัก จางจื้อหลิน ในหลายมุมมองมากยิ่งขึ้น

Create and Credit by Phanit A….ซ้อจางงี้



บทวิจารณ์
โดยหลินกุเหนียง
นางพญาผมขาว เป็นซีรี่ย์เรื่องแรกที่จางจื้อหลินรับเล่นหลังจากไม่ต่อสัญญากับ tvb เรียกว่าเป็นซีรี่ย์ใต้หวันเรื่องแรกก็ว่าได้ ฉะนั้นนักแสดงที่เห็นครั้งแรกอาจดูไม่คุ้นหน้าคุ้นตามาก่อน สำหรับผู้ที่เคยดูแต่ซีรี่ย์ของ tvb มาตลอด กล่าวถึงคอสตูมของเรื่องนี้จะว่าดูดีก็ไม่ทั้งหมด เพราะการแต่งกายของฝ่ายหญิงเน้นที่บทนางเอกที่สวมบทโดยสุ่ยหลิงดูพลิ้วไหวสวยงามเหมือนหนังจีนกำลังภายในทั่วไป แต่ตัวรองฝ่ายหญิงอื่นๆ คอสตูมดูแปลกตาไป เหมือนถอดแบบจากแฟชั่นก็ไม่ปาน ส่วนฝ่ายนักแสดงชาย การแต่งกายของตัวเอกอย่างจั๊วอี้หังดูโดดเป็นอย่างมาก นักแสดงอื่นๆ เช่นศิษย์พี่ ศิษย์น้อง แต่งกายดีสมกับเป็นชาวยุทธ์ศิษย์บู๊ตึ้ง แต่พระเอกกลับแต่งกายแตกต่างออกไปสิ้นเชิง ทั้งทรงผมและเสื้อผ้า บางฉากก็สลับสับเปลี่ยนไปอีกในหลายๆชุด บางครั้งก็โดดอย่างเห็นได้ชัด ซี่รี่ย์ไต้หวันเรื่องนี้จึงอาจเป็นแบบอย่างที่ทำให้คนดูจดจำการทำงานแบบลวกๆ ไปเปรียบเทียบกับซีรี่ย์ tvb ที่พิถันพิถันกว่า ซึ่งก็ไม่น่าจะใช่ทุกเรื่อง มาด้านเทคนิคการต่อสู้ซึ่งแน่นอนหลายคนที่ดูแล้วไม่ถูกใจกับแสงเลเซอร์วูบวาบในเรื่อง จุดนี้ก็เป็นจุดด้อยอีกอย่างของเรื่องนี้ สำหรับผู้ที่ไม่นิยมหนังกำลังภายในแบบมีแสงวูบวาบเหมือนดูหนังยอดมนุษย์ของเด็กเล็ก ส่วนด้านฉากหรือโลเคชั่น ถ่ายจากสถานที่จริง อย่างภูเขาหิมะ ทำให้หนังดูสมจริงกว่าถ่ายในห้องส่งมาก จากความเห็นส่วนตัวของผู้เขียนแล้วคิดว่าข้อดีของหนังจีนแดงและไต้หวันส่วนใหญ่จุดดีเด่นก็คือโลเคชั่นที่สมจริง ไม่สร้างฉากปลอมๆถ่ายลวกๆในห้องส่งเป็นส่วนใหญ่ ถ้ากล่าวถึงข้อด้อยของเรื่องนี้ส่วนใหญ่จะอยู่ที่โปรดักชั่นของเรื่องที่ทำออกมาได้ไม่ดีนัก เรียกว่าดูก็ได้ เพลินดีถ้าติดตามผลงานของนักแสดงที่คุณชื่นชอบ หรือไม่ดูเลยก็ไม่น่าเสียดายนัก
ทีนี้มาดูด้านการแสดงของจางจื้อหลิน จากเรื่องนางพญาผมขาว ถือว่าบทบาทของเขาในเรื่องนี้สอบผ่านอย่างสบายๆ ฉากแสดงอารมณ์รักอารมณ์แค้น ทุกข์ สุขไม่ใช่บทที่ยากสำหรับเขาอีกแล้ว ในส่วนนี้หลินกุเหนียงไม่ขอวิจารณ์มากเพราะจางงี้ได้กล่าวถึงส่วนนี้ไปคลุมไปหมดแล้ว เรียกได้ว่าผู้กำกับสั่งให้หัวเราะ ร้องไห้ โกรธแค้น เขาสามารถทำออกมาได้ดีในระดับน่าพอใจ สามารถกระชากอารมณ์คนดูให้รู้สึกร่วมไปกับตัวละครที่เขาสวมอยู่ได้เป็นอย่างดี นางพญาผมขาว จึงเป็นอีกเรื่องหนึ่งที่จางจื้อหลิน ใช้ความสามารถเฉพาะตัวผ่านไปอย่างสบายๆ




Create Date : 29 กันยายน 2549
Last Update : 4 ตุลาคม 2549 10:21:47 น. 12 comments
Counter : 11149 Pageviews.

 
สำหรับซีรีย์เรื่องนี้ เคยดูนานมากแล้ว ที่จำได้ติดตาคือทรงผมของพระเอก ซึ่งทำให้แอบคิดว่า เนี่ยมันทรงผมของพระเอกหนังจีนกำลังภายในเหรอ? การแต่งกายของพระเอกก็ดูแตกต่างซะเหลือเกิน ดูไม่เหมือนศิษย์บู้ตึ้งซักนิด
อีกทั้งทรงผม กับเสื้อผ้าในแต่ละตอนก็ดูไม่ต่อเนื่อง โดดไปมาจนน่าปวดหัว ทำให้เห็นถึงความไม่พิถีพิถันในการทำงาน
หนังเรื่องนี้ถ้าจะดูเพลินตาก็พอไหว แต่ถ้าให้พูดถึงความน่าประทับใจ หรือว่าเนื้อหา คิดว่าน่าจะติดลบค่ะ


โดย: andaman IP: 221.128.118.165 วันที่: 30 กันยายน 2549 เวลา:13:21:57 น.  

 
งืมๆๆๆ อ่านแล้วก้ออยากดู เฉลยตอนจบนิ๊ดสสส นึงไม่ได้เหรอคะ แง้ๆๆๆๆ อยากรุอ่ะ



โดย: nepatak (Nepatak ) วันที่: 30 กันยายน 2549 เวลา:18:55:55 น.  

 
จบแฮ๊ปปี้ค่ะ


โดย: หลินกุ (หลินอี้ ) วันที่: 1 ตุลาคม 2549 เวลา:9:25:51 น.  

 
พระเอกหล่อจัง


โดย: ต่อตระกูล วันที่: 5 ธันวาคม 2549 เวลา:17:08:48 น.  

 


โดย: หนิง IP: 203.172.201.1 วันที่: 8 เมษายน 2550 เวลา:1:32:32 น.  

 
เพลงเพราะมาก อยากได้ ใครมีบ้าง


โดย: ยาจก IP: 118.175.246.115 วันที่: 23 กรกฎาคม 2551 เวลา:11:35:28 น.  

 
เป็นหนังที่สนุกมากๆ เลย ดูแล้วชอบมากๆ เลย
พระเอกก้อหล่อ นางเอกก้อสวย เพลงก้อเพราะ
ดีปายหมด


โดย: หยางเฉิงหลิน IP: 115.67.151.64 วันที่: 23 ธันวาคม 2551 เวลา:15:12:06 น.  

 
สนุกมากเลยเมื่อไหร่จะนำมาฉายอีก.....อยากดูจัง


โดย: เด็กบ้านนอก IP: 202.29.20.142 วันที่: 26 มิถุนายน 2552 เวลา:11:59:23 น.  

 
สนุกมากชอบ



โดย: บอล IP: 125.24.242.109 วันที่: 30 กรกฎาคม 2552 เวลา:11:51:23 น.  

 
เรามีละ 30แผ่น นะ


โดย: ฟีม IP: 180.183.205.28 วันที่: 2 ตุลาคม 2554 เวลา:10:35:23 น.  

 
ชอบนางเองกับพระเอกโครตๆเลย ความรักของทั้งคู่มันชั่งน่า
สงสารซะเหลือเกิน ถ้าคนที่อยากจะดู
ไปดูที่ Youtube ได้เลยครับ


โดย: บอย IP: 101.108.211.173 วันที่: 28 กันยายน 2555 เวลา:9:52:01 น.  

 
อยากดูจัง หาซื้อเก็บไว้ดูได้ที่ใหนอะ


โดย: 191 IP: 119.42.125.244 วันที่: 27 พฤศจิกายน 2557 เวลา:10:49:05 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

หลินอี้
Location :


[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 2 คน [?]




ลิขสิทธิ์งานเขียนทุกชิ้นในบล็อกแห่งนี้เป็นของผู้เขียนตามพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ห้ามคัดลอก ดัดแปลง หรือนำไปเผยแพร่ต่อ ไม่ว่าจะด้วยวิธีใดๆ ก็ตามโดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของผลงาน
Group Blog
 
 
กันยายน 2549
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
29 กันยายน 2549
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add หลินอี้'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.