Group Blog
 
 
เมษายน 2548
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
 
1 เมษายน 2548
 
All Blogs
 

สบู่ดำ คุณรู้จักหรือยัง ???

“สบู่ดำ” เป็นพืชน้ำมันอีกชนิดหนึ่งที่เราจะมองข้ามไม่ได้เลยในภาวะที่น้ำมันดีเซลมีราคาสูงขึ้น ซึ่งขณะนี้หลาย ๆ ประเทศเริ่มที่จะกระตือรือร้นในการปลูกต้นสบู่ดำเพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนกันมากขึ้น ตัวอย่างเช่น ประเทศอินเดียที่มีการปลูกสบู่ดำจำนวนเป็นล้านไร่ ภายในช่วงระยะเวลา 10 กว่าปีที่ผ่านมา ส่วนประเทศอื่นๆ ที่มีการปลูกได้แก่ แซมเบีย แทนซาเนีย อินโดนีเซีย ศรีลังกา ปากีสถาน มาลี เป็นต้น สำหรับประเทศไทยแม้ว่าที่ผ่านมา”น้ำมันสบู่ดำ” จะไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่ก็มีหน่วยราชการบางหน่วยงานและกลุ่มคนบางกลุ่มที่นำเอา”สบู่ดำ”มาทำการศึกษาค้นคว้า วิจัยรวมถึงปรับปรุงพันธุ์อย่างจริงจัง เพื่อให้พืชน้ำมันชนิดนี้มีประสิทธิภาพมากขึ้น เพื่อนำมาใช้เป็นพลังงานทดแทนน้ำมันดีเซล ซึ่งคาดว่าอีกไม่นานน้ำมันสบู่ดำจะมีบทบาทที่สำคัญและได้รับการยอมรับมากขึ้นตามไปด้วย
“สบู่ดำ” มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ว่า Jatropha curcus Linn. เป็นพืชพื้นเมืองของอเมริกาใต้ ชาวโปรตุเกสนำเข้ามาในช่วงปลายสมัยกรุงศรีอยุธยาเพื่อรับซื้อเมล็ดเอาไปบีบน้ำมันทำสบู่ สบู่ดำมีชื่อเรียกแตกต่างกันไปตามภูมิภาคต่าง ๆ เช่น ภาคเหนือเรียกว่า พมักเยา มะเยา มะหัว มะหุ่งฮั้ว ภาคกลางเรียกว่า สลอดดำ สบู่หัวเทศ สี่หลอด เป็นต้น ต้นสบู่ดำเป็นไม่พุ่มสูงประมาณ 2-7 เมตร ไม่ใช่ไม้เนื้อแข็ง ไม่มีแก่น ทนความแล้งได้เป็นอย่างดี อายุยืนกว่า 20 ปี ต้นสบู่ดำมียางเหนียวสีเหลือง ใบมี 3- 5 หยัก ดอกเล็กสีเหลืองอมเขียว ผลอ่อนเป็นสีเขียว เมื่อแก่แล้วจะเป็นสีเหลืองและน้ำตาลตามลำดับ ในผลหนึ่ง ๆ จะมีเมล็ด 3 เมล็ด ลักษณะเมล็ดมีสีดำ สีตรงปลายเมล็ดมีจุดสีขาวเล็ก ๆ ติดอยู่ เมล็ดมีความยาวประมาณ 1.7-1.9 เซนติเมตร หนา 0.8-0.9 เซนติเมตร โดยน้ำหนักเมล็ดสบู่ดำจำนวน 100 เมล็ด จะหนักประมาณ 69.8 กรัม จากการวิเคราะห์ของกองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตรนั้นระบุว่าผลของสบู่ดำจะมีน้ำมันเป็นส่วนประกอบประมาณ 34-35% ซึ่งเนื้อในเมล็ดสีขาวจะเป็นส่วนที่มีน้ำมันมากที่สุด โดยเมล็ดสบู่ดำจำนวน 4 กิโลกรัมสามารถนำมาบีบน้ำมันได้ประมาณ 1 ลิตร


จากการทดสอบของกรมวิชาการเกษตร “น้ำมันสบู่ดำ” สามารถนำมาใช้ทดแทนน้ำมันดีเซล โดยใช้กับเครื่องยนต์ดีเซลเกษตรขนาด 7-10 แรงม้าได้โดยไม่ต้องมีส่วนผสมอื่น มีไขมันน้อยจึงสามารถเก็บได้ในที่อุณหภูมิต่ำเพราะจะแข็งตัวที่อุณหภูมิ -7 องศาเซลเซียสจึงไม่ต้องกังวลเรื่องสภาวะอากาศหนาวเย็น อีกทั้งยังไม่ก่อให้เกิดผลเสียหายต่อเครื่องยนต์ ไม่มีผลต่ออัตราเร่ง เครื่องยนต์เดินเรียบสม่ำเสมอ นอกจากนี้ยังพบว่าไอเสียมีกลิ่นหอม มีเขม่าควันดำและคาร์บอนมอนน็อกไซด์ในปริมาณน้อยกว่าน้ำมันดีเซล ที่สำคัญคือน้ำมันสบู่ดำไม่มีปริมาณของซัลเฟอร์ไดออกไซด์เลย ในขณะที่น้ำมันดีเซลมีปริมาณซัลเฟอร์ไดออกไซด์ถึง 125 ส่วนใน 1 ล้านส่วน
จากการวิเคราะห์ของกองเกษตรเคมี กรมวิชาการเกษตร น้ำมันสบู่ดำมีกรดไขมันไม่อิ่มตัว 79% และกรดไขมันอิ่มตัวเพียง 20 % เท่านั้น นอกจากนี้กากที่ได้จากการสกัดน้ำมันสบู่ดำยังมีทั้งธาตุอาหารหลักและธาตุอาหารรองของพืชตลอดจนอินทรียวัตถุในปริมาณมากพอที่จะใช้ในการบำรุงไม้ผลต่าง ๆ ได้เป็นอย่างดี




 

Create Date : 01 เมษายน 2548
1 comments
Last Update : 1 เมษายน 2548 11:46:30 น.
Counter : 666 Pageviews.

 

สวัดดีครับผมเป็นคนนึงที่สนใจเรื่องการใช้พลังงานทดแทนน้ำมันซึ่งผมเป็นเด็กจังหวัดตรังและตอนนี้ผมมีความคิดที่จะผลิตน้ำมันไบโอดีเซล ผมอยากทดลองปลูกสบู่ดำเพื่อที่จะนำไปผลิตน้ำมัน และทางบ้านของผมก็สนับสนุนด้วย แต่ทว่าในตอนนี้ผมยังหาพันธุ์ต้นสบู่ดำมาปลูกไม่ได้เลย ผมจึงขอคำแนะนำท่านผู้รู้หน่อยน่ะครับว่าจะหาได้ที่ไหนบ้างหรือมีหน่วยงานใดสนับสนุนแจกพันธุ์ต้นกล้าหรือขาย ผมไม่อยากให้มนุษย์โลกต้องสูญพันธุ์ ขอความกรุณาช่วยแนะนำให้ด้วยน่ะครับ ผมเป็นคนจังหวัดตรังครับถ้าช่วยแนะนำในที่ใกล้ๆบ้านผมได้ก็ดีมากๆครับ
ขอขอบคุณล่วงหน้าน่ะครับสำหรับท่านผู้รู้ที่ให้คำแนะนำแก่ผม

 

โดย: บิ๊ก IP: 117.47.200.34 16 เมษายน 2551 20:07:27 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 


ป้าจี่
Location :
ปทุมธานี Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed

ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




Friends' blogs
[Add ป้าจี่'s blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.