รีวิว การเป็นฝีและการผ่าตัดค่ะ
สวัสดีค่ะ วันนี้จะมารีวิวเรื่องการรักษาฝีของเราค่ะ ในตอนแรกเราเองไม่คิดว่าจะเป็นเรื่องใหญ่โตอะไรค่ะเพราะเป็นแค่แผนผื่นคันเล็กน้อยเองโดยวันแรกๆเป็นเหมือนแผลถลอกๆค่ะ เป็นลักษณะการคันทั่วไปๆแต่มีอาการบวมๆเล็กน้อย ซึ่งตรงนี้เราเองก็คิดว่าโดนแมลงกัดต่อยค่ะเราก็เลยเอายาหม่องทาไป ทาวันแรกไม่ดีขึ้น ก็ยังทาต่อไปค่ะมาที่ทำงานก็เอายาหม่องที่ทำงานทา ที่ทำงานจะชอบเรียก ยาหม่องตัว TOP ค่ะแบบว่าทาอะไรหายหมด เราก็ทาๆ แล้วก็แบบตัว TOP นี่หายแน่นอนแต่ทาๆไป อ๊าย แล้วทำไมแผนฉันไม่หายสักที ไม่หายในทีนี้คือ อาการบวมมันไม่ยุบลงเลยค่ะ แต่ตอนนั้นก็โลกสวยอยู่นะคะว่าเอออ ไม่เป็นไร ฉันมีตัว TOP เดี๋ยวก็หายไรแบบนี้ 2 วันถัดมา ค่ะเริ่มรู้สึกแล้วว่า ยาหม่องตัว TOPของฉันคงจะไม่ได้ช่วยอะไร เลยไปหาหมอดีกว่าค่ะ เราเลยไปหาหมอเป็นสภากาชาดไทยส่วนแยกแถวที่ทำงานเราค่ะพอเข้าไปหมอมองแผลแล้วก็บอกว่า อ่อ ติดเชื้อน่ะ ให้เอายามากิน เราก็ อ่อๆ แต่คือตอนแรกคนรอบตัวก็บอกนะคะว่ามันเหมือนฝีมากเลยแต่หมอบอกว่าไม่ใช่ฝีค่ะ เราก็ อืมๆ หมอว่าไงก็ว่างั๊น ตั้งใจกินยาดีกว่าเผื่อมันจะยุบลงบ้าง 2 วันถัดมา มันไม่ยุบลงเลยค่ะ มันบวมๆแล้วมี ม่วงๆตอนนี้เราเริ่มเอาผ้าก๊อซมาปิดแผลไว้ค่ะ มันเริ่มมีหัวฝีออกหน่อยๆ เราก็แบบอาการไม่สู้ดีแล้ว ถามแฟน แฟนก็บอกว่าเอ๊ย มันเป็นฝีแล้ว ก็เลยไปหาหมอที่โรงพยาบาลค่ะ คิดว่าจะไปให้หมอผ่าฝีค่ะ โรงพยาบาลแรกที่ไปเป็น รพ.กลาง ค่ะ ไปถึงก็ทำบัตรแล้วก็รอ อ่อเราไปตอน หัวค่ำนะคะ พอทำบัตรเสร็จ รอสักพักพยาบาลก็เรียกค่ะ พยาบาลบอกว่า น้องคะถ้าจะผ่าฝีวันนี้ผ่าไม่ได้นะคะ เพราะไม่มีหมอศัลย์เนื่องจากว่าเป็น รพ รัฐค่ะ โอโห ความรู้สึกตอนนั้นมันแบบ อ๊ากกก แล้วทำไงดีพี่พยาบาลก็เลยบอกว่าถ้าอยากผ่าก็ต้องไป รพ.เอกชน นะคะเพราะน่าจะมีหมอศัลย์ฯประจำตลอด เราก็เลยออกมาจาก รพ. ค่ะ บอกพี่พยาบาลว่าไม่ขอยาเพราะยาที่เก่ายังไม่หมดแล้วก็เลยเดินมาที่ รพ หัวเฉียว มาถึงก็นั่นรอเข้าห้องฉุกเฉิน พอหมอเห็น หมอก็บอกว่า อืมมมมวันนี้ไม่มีหมอศัลย์ฯ เดี่ยวหมอนัดให้พรุ่งนี้นะคะ T T เราก็เลยบอกว่าขอไม่รับยานะคะเพราะมียาแล้ว แต่หมอบอกว่ายาที่เก่าคงไม่ effect ก็เลยจ่าย tylenolกับยาแก้อักเสบมาค่ะ
นี่เป็นรูปแผลค่ะ สรุปวันนั้นเราก็ไม่ได้ผ่า ก็ทนปวดต่อไปวันถักมามันก็ค่อยๆขยายวงรอบขึ้นค่ะ วันนี้เป็นรูปก่อนวันผ่าค่ะ
พอมาอีกวันนี่แหละค่ะหัวฝีที่เหมือนหัวสิวมันใหญ่ขึ้นม๊ากกกกกก คือเราไม่ได้ถ่ายภาพมานะคะแต่เราก็รู้สึกว่า มันใหญ่เกินไปแล้ว ท่าอากรไม่ดีแล้ว เลยขับรถไปรพ แถวบ้านค่ะเขาก็แจ้งราคามา ซึ่งเรารู้สึกว่าแพงไปหน่อยทีเดียว เราก็เลยยังไม่รับการผ่าตัดค่ะแล้วก็เลยขับรถไป รพ. พระปิ่นเกล้าต่อ ซึ่งทีนี่ก็บอกเราว่าเขารับแต่ฉุกเฉินคือเหมือนว่าเขาจะให้ความสำคัญกับเคสเร่งด่วนจริงๆก่อน เราก็อ่อ T T เดินจ๋อยๆคอตกออกมาค่ะ เลยปรึกษากับแฟน แฟนเลยบอกว่าให้ลองไปที่ศิริราชปิยมหารุณย์ดูก็เลยโทรไปถามก่อน ซึ่งทางประชาสัมพันธ์ก็บอกว่ามีหมอแล้วก็นัดเวลาให้ค่ะเราก็ขับรถตรงดิ่งไปเลย พอไปถึง ทำทะเบียนอะไรเสร็จ ก็เป็นเวลาเจอหมอ หมอก็อธิบายๆแต่สุดท้ายก็คือต้องผ่า เราก็โอเคเพราะก็ทำใจมาก่อนพอสมควรค่ะว่าต้องผ่าออกมาข้างนอก เดินไปห้องผ่าตัด เปลี่ยนเสื้อผ้า เข้าห้องผ่าตัดเรียกว่าชิวมากจริงๆค่ะ บริการของโรงพยาบาลก็ถือว่าโอเคเลยนะคะ(สมราคาที่จ่ายเลยค่ะ) สักพักหมอก็เข้ามาผ่าตัด อันดับแรกก็ฉีดยาชาหมอก็บอกว่าเจ็บนิดเดียวนะ เราก็อืมมมม เจ็บอ่ะ แต่ก็ไม่มากนะ ระหว่างนั้น คุณหมอก็คุยๆคงจะไม่อยากให้เราเกร็งมาก แต่เรานี่กลัวมากจริงๆค่ะไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องถึงขนาดเข้าห้องผ่าตัดขนาดนี้สำหรับเราเรารู้สึกว่าเรื่องเล็กหลายเป็นเรื่องใหญ่ม๊าก มาก หมอก็ขูดๆอยู่สักพักค่ะ ก็เรียบร้อย เสร็จ รู้สึกชาๆหน่วงๆ แต่ก็โอเคนะคะรู้สึกโล่งใจมากกว่า ที่ไอ้หัวนี่จะออกมาจากชีวิตฉันไปซะทีหมอก็บอกว่ายาให้แผลโดนน้ำนะ ก็น่าจะเป็นพื้นฐานของแผลผ่าตัดทั่วๆไปค่ะแล้วก้ต้องล้างแผลทุกวันค่ะ ตอนนี้ก็ 2 อาทิตย์ค่ะ ตอนแรกๆยอมรับค่ะว่าไม่กล้าดูแผลเลย กลัวมากเห็นเลือดก็จะแย่แล้ว นี่ ขั้นกว่าถึงกับเห็นเนื้อเลย 5555แต่พอมาหลายๆวันก็เริ่มทำใจ ขอพยาบาลถ่ายรูปแผลค่ะ เห็นแผลแรกๆก็อี๊ๆค่ะแต่ตอนนี้ชักชินแล้วค่ะ ฮ่า ฮ่า ฮ่า พอจะเข้าใจอารมณ์พี่พยาบาลหน่อยๆว่าเขาเห็นทุกวันเขาก็คงจะชินแบบนี้นี่เอง ส่วนราคาที่หาหมอไป เราหมดจากหัวเฉียวไป 750 บาทค่ะแล้วก็มาเสียค่าผัดตัดที่ รพ ศิริราชปิยมหาการุณญ์ อีก 7100 ค่ะแล้วก็มีค่าล้างแผนทุกวันอีก ถ้าล้าง รพ รัฐก็ 100-150 ค่ะ แต่ถ้ารพ.เอกชน 270 ค่ะ
รูปนี้น่ากลัวหน่อยนะคะ
อย่างที่เขาว่าไว้ค่ะ ว่าการไม่มีโรคเป็นลาภอันประเสริฐจริงๆค่ะ สุดท้ายก็ขอจบรีวิวแต่เพียงเท่านี้นะคะ แล้วก็ถ้าเห็นแผลอะไรอย่านิงนอนใจค่ะให้สังเกตอาการดูให้ดีนะคะ เพราะถ้าเรารู้ว่าเป็นฝีที่แรก กินยากก็อาจจะไม่ต้องผ่าก็ได้ค่ะ แต่ของเรามันไม่ทันแล้ว ยังไงก้รักาาสุขภาพกันให้ดีนะคะ
** บทความนี้สงวนลิขสิทธิ์นะคะ ห้ามเผยแพร่โดยไม่ได้รับอนุญาตจากเจ้าของบล๊อกค่ะ
Create Date : 25 พฤศจิกายน 2558 |
|
3 comments |
Last Update : 25 พฤศจิกายน 2558 17:18:14 น. |
Counter : 31974 Pageviews. |
|
|
|