หัวข้อในวันนี้คือ THE MAGIC OF MAKE UP ค่ะ ซึ่งเนื้อหาจะประกอบด้วย

• Basic Skincare Knowledge (คอร์สดูแลผิว)

• Basic Makeup Technique (คอร์สแต่งหน้า)

เริ่มกันที่ Basic Skincare Knowledge กันค่ะคอร์สนี้จะเป็นคอร์สดูแลผิวเบื้องต้น เพื่อให้รู้ถึงองค์ประกอบ วิธีการดูแลผิวขั้นพื้นฐาน รวมไปถึงการปรนนิบัติผิวเพื่อเติมเต็มความต้องการของผิวค่ะ

ซึ่งถือเป็นโชคดีของนิคมากๆที่มีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ออกใหม่ล่าสุดในเครือของ SHISEIDO นั่นก็คือ “WASO” ค่ะ

WASO เป็นกลุ่มสกินแคร์ที่เน้นส่วนผสมธรรมชาติจากญี่ปุ่น 5 ชนิด คือ
1. แครอทญี่ปุ่น
2. ใบโลควอทญี่ปุ่น
3. น้ำผึ้งญี่ปุ่น
4. เต้าหู้ญี่ปุ่น
5. ไวท์ เจลลี่ มัชรูม ญี่ปุ่น
ผู้ที่มีผิวแพ้ง่ายสามารถใช้ได้ เพราะ WASO ไม่มีส่วนผสมของ พาราเบน, แอลกอฮอล์, น้ำมัน, ซัลเฟต และมิเนรัลออยส์ค่ะ

ในส่วนของการอธิบาย นิคจะอธิบายผลิตภัณฑ์ตามขั้นตอน และการใช้งานที่ถูกวิธีนะคะ

ขั้นตอนที่ 1 ก่อนอื่นมาเริ่มกันที่ขั้นตอนการเคลียร์ผิวหน้าค่ะ นิคแต่งหน้ามา ก่อนจะลองของใหม่ เราก็ต้องเอาของเก่าออกก่อนนะคะซิส ขั้นตอนนี้นิคใช้ SHISEIDO Instant Eye and Lip Makeup Remover กับสำลีเฉพาะของชิเซโด้ที่สามารถซึมซับได้อย่างดีเยี่ยม โดยการจับสำลีเราก็จะใช้นิ้วนางกับนิ้วชี้ล็อคสำลีไว้ดังรูป
ขั้นตอนการเช็ดเครื่องสำอาง
1.1 เทรีมูฟเวอร์ตรงกลางให้ชุ่ม แล้วโปะตรงกลางเปลือกตาค้างไว้สัก 20-30 วินาทีจากนั้นค่อยๆเลื่อนจากหัวตาออกไปทางหางตาค่ะ จะสังเกตว่าอายชาโดว์ออกมาหมดเลย
1.2 ต่อมาขยับมาโปะตรงโคนขนตาค่อยขยับให้รีมูฟเวอร์โดนมาสคาร่าอย่างทั่วถึง จากนั้นค่อยๆรูดลง
1.3 ใครที่เขียนอินเนอร์ด้านในขอบตาให้พับสำลีเป็นมุมเล็กๆ ค่อยๆเช็ดอินเนอร์จากหางตามาหัวตา แล้วเช็ดจากหัวตาไปหางตาอีกรอบ เคล็ดลับคือต้องให้สำลีชุ่มรีมูฟเวอร์ เราจะได้ไม่ต้องออกแรงมาก ตาก็จะไม่เจ็บ ไม่เหี่ยว (รีมูฟเวอร์นี้ไม่แสบตาค่ะ)
1.4 เช็ดคิ้วโดยค่อยๆรูดจากหัวคิ้วไปหางคิ้ว แล้วรูดกลับมา ทำสักสามรอบพอค่ะ
1.5 ต่อมาเป็นการเช็ดริมฝีปาก ให้พับสำลีลงมาหนึ่งส่วนสาม เทรีมูฟเวอร์ที่ปลายด้านบนที่พับ เช็ดจากมุมริมฝีปากบน ลากตามความโค้งมาถึงครึ่งปาก จากนั้นไปทำอีกด้านแบบเดียวกัน เช็ดด้านล่างจากมุมปากเข้ามาครึ่งนึงเช่นกัน จากนั้นพับสำลีให้เป็นสัน แล้วใช้ปล่ยสำลีสไลด์ลิป ริมฝีปากล่างสไลด์ลง ริมฝีปากบนสไลด์ขึ้น
* การเช็ดริมฝีปากไม่หมด ทำให้เม็ดสียังฝังอยู่ตามร่องปาก จะทำให้ปากขาดน้ำหล่อเลี้ยง แล้วดำคล้ำ เหี่ยวได้ง่าย *

ขั้นตอนที่ 2 คลีนซิ่งค่ะ

WASO QUICK GENTLE CLEANSER GEL NETTOYANT FRAICHEUR เป็นคลีนซิ่งที่มีส่วนผสมหลักจากน้ำผึ้งญี่ปุ่น
— น้ำผึ้งญี่ปุ่นมีประสิทธิภาพในการต่อต้านแบคทีเรีย มีคุณค่าในด้านการเป็นอาหารเพื่อสุขภาพและความงามในประเทศญี่ปุ่น สารสกัด Royal Jelly Extract จากน้ำผึ้งยังมีส่วนประกอบของกรด amino acid และวิตามิน ซึ่งจะช่วยมอบความชุ่มชื้นให้กับผิวอีกด้วย
— Quick Gentle Cleanser ผลิตภัณฑ์ล้างทำความสะอาดเนื้อเจลที่อุดมด้วยน้ำผึ้ง และสารสกัดนมผึ้งสามารถสร้างฟองโฟมได้โดยไม่ต้องใช้น้ำ ช่วยขจัดสิ่งสกปรก คราบเครื่องสำอางและน้ำมันส่วนเกินบนผิวได้อย่างอ่อนโยน และคงผิวให้สวยเนียนนุ่ม ไม่แห้งตึง

วิธีใช้ : การใช้คลีนซิ่ง ใช้ครั้งละประมาณหนึ่งช้อนชา เทใส่มือค่ะ มือต้องแห้ง หน้าต้องแห้งนะคะเวลาใช้
2.1 ใช้ปลายนิ้วแบ่งคลีนซิ่งเป็น 5 จุด แก้ม(2) / หน้าผาก / จมูก / คาง การนวดให้ใช้ปลายนิ้วกลางและปลายนิ้วนางคลึงวนแล้วดันขึ้นเบาๆ ช้าๆ
— แก้ม นวดแบบวนเป็นขดลวดแคบๆดันขึ้นไป
— จมูก ประสานมือขึ้นระหว่างคิ้ว นวดขึ้นลง ปีกจมูกใช้นิ้วเดียว ย้อนขึ้น ย้อนลงเป็นตัวซี (โค้งตามปีกจมูก)
— หน้าผาก นวดให้ชิดโคนผม นวดจากไรผมไปทางขมับ เวลานวดวน มือต้องไม่ยกขึ้น
— แนวขากรรไกร นวดแบบสไลด์ไปมา อย่าลืมนวดคอด้วย (อย่ายกมือขึ้นนะคะ)
* ตรงไหนที่เป็นไตแข็งใต้ผิวหนังให้นวดนานหน่อยเพื่อให้ความร้อนจากอุณหภูมิร่างกายช่วย *
2.2 จากนั้นใช้กระดาษซับ กระดาษของชิเซโด้ทำจากเยื่อไผ่และสำลี จะเหนียวนุ่มเป็นพิเศษ เวลาใช้ให้พับเป็นสามเหลี่ยม แล้ววางแนวยาวทาบลงที่กึ่งกลางหน้า จากนั้นใช้มืออีกข้างค่อยๆซับ ไม่ถูนะคะ (พยายามอย่าให้เกิดการเสียดสี) ทำแบบนี้ทั้งสองด้าน เสร็จแล้วล้างออกด้วยน้ำสะอาด
2.3 จะสะอาดหรือไม่ขึ้นอยู่กับ ปริมาณการใช้ครีมและระยะเวลาในการนวดค่ะ (การทำความสะอาดควรใช้เวลาคลึงครีมจุดละ 1-2 นาที)
เพิ่มเติมจากผู้บรรยาย : ช่วยให้หน้านุ่ม ชุ่มชื้น ในขณะที่ใช้จะดึงให้สิ่งสกปรกที่ร่างกายขับออกมาอย่างน้ำมันลอยตัวขึ้นมาพร้อมกับเมคอัพ และน้ำผึ้งจะแทรกซึมลงสู่ชั้นล่างของผิว ไม่ทำให้หน้าแห้งตึง * และทีเด็ดอยู่ตรงที่ขวดสามารถออกแบบมาให้ตั้งแบบคว่ำได้ เพราะชิเซโด้เข้าใจดีว่าเราคงอยากจะใช้ผลิตภัณฑ์ยันหยดสุดท้าย *
ขนาด 150 มล. ราคา 1,100 บาท

ขั้นตอนที่ 3 สครับผิว

WASO SOFTY+CUSHY POLISHER NETTOYANT EXFOLIANT DOUX

— ครีมขัดผิวอันอ่อนโยนที่ประกอบด้วยส่วนผสมของถั่วเหลือง มอบสัมผัสดุจเนื้อเต้าหู้นุ่มฟู พร้อมอณูเม็ดขัดที่แตกต่างกัน จึงเข้าถึงทุกอณูผิว ไม่ว่าจะเป็นรูขุมขน หรือพื้นผิวที่หยาบกร้าน ให้ผิวสะอาดหมดจดโดยไม่ก่อแรงเสียดสี หรือระคายเคืองต่อผิวพรรณ เผยผิวสดใส สดชื่นอย่างอ่อนโยนและเรียบเนียน
— ส่วนผสมหลักคือ เต้าหู้ญี่ปุ่น ทำมาจากถั่วเหลือง สารเลซิตินในเม็ดถั่วเหลืองยังสามารถพบได้ในผนังเซลล์เมมเบรนตามธรรมชาติ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน

เพิ่มเติมจากผู้บรรยาย : สครับนี้จะช่วยในเรื่องของผิวแห้ง หยาบกร้าน หมองคล้ำ ส่วนผสมหลักคือเต้าหู้ ช่วยให้ผิวเรียบเนียน ยืดหยุ่น ชุ่มชื้น ควรใช้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง อย่าใช้ทุกวัน นวดสครับอย่างช้าๆ เบาๆที่สุด เน้นบริเวณที่มีสิวเสี้ยน
ขนาด 75 มล. ราคา 1,200 บาท

ขั้นตอนที่ 4 โลชั่น

WASO FRESH JELLY LOTION GELEE RAFRAICHISSANTE

— โลชั่นเนื้อเจลปราศจากแอลกอฮอล์ มอบความชุ่มชื้นแบบชุ่มฉ่ำเต็มพิกัดด้วยสูตร gel to lotion สามารถแปรสภาพจากเนื้อเจลกลายเป็นโลชั่น พร้อมมอบความสดชื่นและฟื้นฟูอิ่มเอิบผิวได้ในทันที ปราศจากสารที่อาจก่อให้เกิดการระคายเคือง พาราเบน และ mineral oil
— White Jelly Mushroom สร้างความชุ่มชื่นให้แก้ผิว Kikurage หรือ White Jelly Mushroom ได้รับการยกย่องคุณค่าในประเทศญี่ปุ่นว่าเป็นอาหารเพื่อผิวสวย เพราะสามารถอุ้มน้ำได้ดุจดังฟองน้ำ

เพิ่มเติมจากผู้บรรยาย : ส่วนผสมหลักของโลชั่นนี้คือ เห็ดหูหนูขาว สามารถเก็บความชุ่มชื้นได้ยาวนาน 24 ชั่วโมง เนื้อเจลลี่สัมผัสนุ่มลื่น โลชั่นจะช่วยปรับสมดุลย์ผิว ให้ผิวมีค่า pH Balance ที่เหมาะสม ใครที่แสบร้อนจากแดดให้ใช้โลชั่นโอปไว้ให้ทั่วใบหน้าทั้งสองมือ จะช่วยให้ผิวสดชื่นขึ้น
ขนาด 150 มล. ราคา 1,200 บาท

ขั้นตอนที่ 5 ครีมบำรุง

-Day Cream-
— สำหรับผิวแห้งใช้ WASO COLOR-SMART DAY MOISTURIZER SPF 30 มอยส์เตอไรเซอร์สูตรกลางวัน ช่วยบำรุงผิวให้ชุมชื้น พร้อมเพิ่มความสว่างสดใสให้แก่ผิว ด้วยส่วนผสมเนื้อทิ้นท์ (tint) ที่มี spf 30 เมื่อซึมซาบลงสู่ผิว เนื้อครีมสีขาวที่มีอณูแค็ปซูลจะแตกตัวบนพื้นผิวและเปลี่ยนสีเป็น tint
— ส่วนผสมหลักคือ แครอทญี่ปุ่น เพราะในแครอทประกอบด้วยส่วนผสมของน้ำและสารอาหารในปริมาณสูง ช่วยให้ผิวสวย ดูมีสุขภาพดี ดูมีชีวิตชีวา
ขนาด 50 มล. ราคา 1,500 บาท

— สำหรับผิวมันใช้ WASO COLOR-SMART DAY MOISTURIZER OIL-FREE SPF 30 มอยส์เจอไรเซอร์สูตรกลางวัน ช่วยสร้างสมดุลผิวและทำให้ผิวไม่มันเงา ช่วยปรับสภาพโทนสีผิวให้สว่างสดใส พร้อมส่วนผสมบำรุงผิวสูตร oil-free
— ส่วนผสมหลักคือใบโลควอท มีประสิทธิภาพด้านแอนตี้ออกซิเดนซ์ และมีคุณสมบัติช่วยสร้างสมดุลของน้ำมันผิวอย่างอ่อนโยน ลดความอปรปรวนของน้ำมันบนผิว
ขนาด 50 มล. ราคา 1,500 บาท

นิคเป็นคนผิวแห้งค่ะ เลยใช้สีส้ม เนื้อครีมบางเบาดีมาก และเปลี่ยนสีจริง คือตอนแรกครีมเป็นสีขาว พอเกลี่ยไปมันเริ่มกลายเป็นสีชมพู แล้วกลืนไปกับผิวจริงเราเลย

-Night Cream-
— สูตรสำหรับผิวแห้ง WASO CLEAR MEGA-HYDRATING CREAM ครีมบำรุงกลางคืน เนื้อเจล มอบความชุ่มชื้นต่อเนื่องยาวนาน ช่วยบรรเทาสภาพผิวแห้ง หยาบกร้านให้อ่อนนุ่มและชุ่มชื้นตั้งแต่วินาทีแรกที่สัมผัส
ขนาด 50 มล. ราคา 1,500 บาท

— สูตรสำหรับผิวมัน WASO QUICK MATTE MOISTURIZER OIL-FREE อิมัลชั่นเนื้อเจล ปราศจากส่วนผสมของน้ำมัน ให้สัมผัสสดชื่น เพื่อผิวเนียนละไมไร้ความมัน ช่วยสร้างสมดุลความมันของผิว พร้อมมอบความชุ่มชื้นต่อเนื่องยาวนาน
ขนาด 75 มล. ราคา 1,500 บาท

ขั้นตอนที่ 6 กันแดด

ขั้นตอนสุดท้ายของการบำรุงคือกันแดดค่ะ นิคใช้ SHISEIDO BB FOR SPORTS SPF 50 PA++++ กันแดดเทคโนโลยีสุดล้ำของชิเซโด้ ยิ่งเปียกยิ่งผ่อง ช่วยยับยั้งความมัน ลดการเกิดสิว อำพรางรูขุมขน มีสามสีด้วยกัน คือ Light / Medium / Dark เวลาใช้ ใช้ในปริมาณเท่าเมล็ดถั่วเขียวก็พอค่ะ

จบในส่วนของการบำรุง การเตรียมผิว เราก็มาต่อกันเลยค่ะ กับคอร์ส Basic Makeup Technique คอร์สแต่งหน้าขั้นพื้นฐาน เติมเต็มความงามด้วยการสรรค์สร้างรูปลักษณ์ คอร์สนี้จะสอนให้เรารู้จักการใช้นวัตกรรมความงามสอดประสานอย่างกลมกลืน

เริ่มต้นด้วยรองพื้นค่ะ ชิเซโด้มีรองพื้นให้เลือกหลากหลาย และมีคุชชั่นด้วย

สีดำสำหรับผู้มีใจรักผิวฉ่ำวาว สีขาวสำหรับงานผิวขาว ปกปิดความหมองคล้ำค่ะ

ในส่วนของรองพื้นก็มีโทนสีครอบคลุมสำหรับทุกสีผิว เอามาผสมกันก็ได้ ใช้คู่กับแปรงลงรองพื้นของเค้าจะดี จะเนียนมาก (แปรงลงรองพื้นทำจากขนท้องม้า นุ้ม นุ่ม)
หลักในการเลือกรองพื้น นอกจากจะเลือกให้เหมาะสมกับสภาพผิวแล้ว สีรองพื้นก็สำคัญมาก สามารถทำได้โดยนำรองพื้นมาทาบริเวณขากรรไกรแล้วดูว่าสีผิวใกล้เคียงกับต้นคอหรือไม่ ถ้าใกล้เคียงก็ใช่เลยค่ะ

ต่อมาคือการปกปิดรอยดำต่างๆ ชิเซโดมีผลิตภัณฑ์ปกปิดรอยใต้ตาหลากหลายสี สามารถเลือกให้เข้ากับผิวใต้ตาเราได้เลย ค่อยๆแท็ปไล่จากหัวตาไปหางตาจนเนียนดีค่ะ

ขั้นตอนต่อมาก็ลงแป้งค่ะ ใครเน้นปกปิดก็ใช้พัฟ แต่ถ้าใครเน้นบางเบาพอเอาคุมมันก็ใช้แปรงลงค่ะ

ที่เขียนคิ้วมีทั้งแบบดินสอ แบบฝุ่น แบบแท่งออโต้ เลือกใช้กันได้ตามถนัดค่ะ 

เสร็จแล้วใครอยากปัง อยากให้เห็นขนคิ้ว ก็ปัดด้วยมาสคาร่าคิ้วค่ะ หรือจะใช้โทนสีที่อ่อนกว่าสีฝุ่นมาเบรกความเข้มก็ได้

NEW !!! และนี่สิเด็ด นิคมีโอกาสได้ลองผลิตภัณฑ์ตกแต่งดวงตาที่ออกใหม่ล่าสุดของชิเซโดด้วย เห็นว่ายังไม่วางขายเลยนะ อิอิ ที่เห็นเป็นสีพาสเทลนั่น อายแชโดว์ค่ะ ออกใหม่ 8 สี จากเนื้อครีมจะเปลี่ยนเป็นเนื้อแป้ง สีชัดแจ่มมาก ส่วนที่เป็นเป็นเจลไลเนอร์ ออกใหม่ 6 สีค่ะ มีสีที่หลากหลาย ใช้แล้วเกร๋ๆ อายไลเนอร์สีๆเริ่ดค่ะ

นิคแต่งตาด้วยอายแชโดว์แบบเมทัลลิคสีทองและม่วงแดงค่ะ

อายไลเนอร์ก็มีหลายแบบ มีเป็นเนื้อเจล เนื้อลิขวิด นิคใช้แบบลิขวิดเก๋ตรงที่ กดปุ่มที่ปลายด้ามน้ำไลเนอร์จะไหลออกมาเพิ่ม และนิคก็ใช้เจลไลอนอร์ที่ออกใหม่ล่าสุดสีม่วงมังคุดด้วยค่ะ เนื้อนุ่มเขียนง่ายดี จากนั้นดัดขนตาค่ะ ความเริ่ดของที่ดัดขนตาคือ ดัดได้จากโคนขนตาแบบชิดโคน และคงความงอนได้ยาวนานค่ะ

NEW !!! และก็ได้ลองของใหม่อีกแล้ว นั่นคือ ลิปเนื้อกึ่งแม็ท ออกใหม่ 8 สี เม็ดสีชัดมาก

พาเลทปัดแก้มมีหลายสี นิคเลือกสีชมพูน้ำตาลค่ะ ปัดแก้มด้วยสีชมพู เอาสีน้ำตาลทองเฉดกรอบหน้าและจมูก ส่วนสีอ่อนเอามาไล้ท์ดั้ง และทากระจับปากค่ะ

สรุป : นี่ก็คือทั้งหมดที่นิคได้มาจากเวิร์คช็อปครั้งนี้นะคะ ประทับใจมาก คุ้มค่าทุกวินาที บริหารจัดการเวลาได้ดีมาก ได้ความรู้มาเพียบ วิทยากรดีมาก อธิบายละเอียด ไม่เข้าใจก็ถามได้ อะไรที่เข้าใจผิดมาตลอด กระจ่างเลยค่ะ และได้เทคนิคการแต่งหน้าจุดสำคัญต่างๆ การเลือกใช้สีเมคอัพ การบำรุงอย่างถูกขั้นตอน ถูกวิธี และที่สำคัญได้เพื่อนใหม่อีกเยอะเลย .. และได้รับผลิตภัณฑ์ขนาดทดลองกลับมาใช้ที่บ้านอีก ฟินค่ะ

ขอบพระคุณ revu และ SHISEIDO สำหรับเวิร์คช็อปดีๆอย่างนี้นะคะ