หากใครเคยอ่านบล็อคนี้เป็นประจำ คงจะจำกันได้ ถึงวีรกรรมที่เราไปฟาดฟันกับร้าน Sprint เมื่อประมาณ 13 เดือนที่แล้ว คราวนี้เอาอีกแล้วค่ะ เพราะยาหยีทำโทรศัพท์พังอีกแล้ว ในรอบ 13 เดือนนี้ เฮียเล่นโทรศัพท์ 2 เครื่องแล้วค่ะ ไม่รู้ว่าใช้ของยังไง พังเก่งจริง ๆ

ท้าวความหน่อย...คราวที่แล้ว เราไปเปลี่ยนโทรศัพท์ ได้เจ้า Blackberry มาสองเครื่อง โดยตอนนั้น เราซื้อประกันเพิ่ม (Insurance) เพื่อจะได้คุ้มครองกรณีโทรศัพท์โดนน้ำ หรือ ตกแตก (ซึ่งกรณีแบบนี้ Warranty ที่มากับเครื่อง จะไม่คุ้มครอง)



ซัก 4 เดือนที่แล้ว เฮียทำท่าไหนไม่รู้ เล่นซะจอแตกยับเลย ดีที่ซื้อประกันเพิ่ม ไม่งั้นเสียหลายตังค์แน่ ก็เสียค่าเปลี่ยน 50 เหรียญ แล้วเค้าก็ส่งเครื่องใหม่มาให้

ไอ้เราก็นะ งกอ่ะ กะว่าไหน ๆ ก็เปลี่ยนเครื่องแล้ว ไอ้เครื่องใหม่นี้น่าจะอยู่ได้อีกซัก 8 เดือน ซึ่งถึงตอนนั้น เราก็จะมีสิทธิ์อัพเกรดเครื่อง (โดยไม่ต้องเสียเงินมาก ๆ) เราก็เลยยกเลิกประกันซะเลยค่ะ กะจะประหยัด 14 เหรียญต่อเดือน ก็ขู่ ๆ เฮียว่า "If you break this one, you will only get a cheap phone next time!". คือ ถ้าอันนี้พังอีก คราวหน้าเอ็งใช้โทรศัพท์ถูก ๆ ล่ะกัน



Bingo! ... 4 เดือนให้หลัง โทรศัพท์เฮียเป็นไรไม่รู้อีกแล้ว โทรแล้วไม่ได้ยินเสียง เราก็โทรไปที่ Tech Support เค้าก็บอกว่า คงต้องเอาไปให้ศูนย์บริการตรวจดู

ไปถึงเค้าก็บอกทันทีว่า "ต้องเปลี่ยนเครื่อง" ปัญหา คือ

1. เรายังไม่ถึงเวลาที่จะอัพเกรดโทรศัพท์ได้

2. เราไม่มีประกันแล้ว

ดังนั้น หากจะต้องเปลี่ยนเครื่อง วันนี้จะต้องเสียหลายตังค์เลยแหละ

เป้าปุ้นจิ้นออกอาการประสาทแตกทันที บอกว่า เครื่องนี้มันเพิ่งมีอายุใช้งานแค่ 4 เดือนนะ ไหนบอกว่า เครื่องมีรับประกัน 1 ปี ?

คนขายเลยบอกว่า การรับประกัน เริ่มนับตั้งแต่โทรศัพท์เครื่องแรก และถ่ายโอนไปยังเครื่องต่อ ๆ ไปที่เราเปลี่ยน (ภายใต้ประกัน)

เฮียก็เริ่มงี่เง่าซิค่ะ เริ่มจะแพร่มถึงความไม่ถูกต้องอีกแล้ว เราเลยแตะแขนพี่ท่านเบา ๆ แล้วบอกว่า "Honey, let me handle this".



ว่าแล้วตัวตอแหล ก็ต้องออกโรงเอง ถามพนักงานว่า ลองดาวน์โหลดโทรศัพท์ดูใหม่มั้ย เผื่อมันจะเป็นที่ Software ? เค้าก็บอก "ได้ ๆ แต่คิดว่าคงจะแก้ไม่ได้"

เราเลยเปรย ๆ ว่า เราไม่อยากเสียเงินเยอะ ๆ เลย เพราะเรากะว่า ครบสัญญา 2 ปี เราจะยกเลิกเบอร์นี้แล้ว จะไปใช้ของอีกบริษัทหนึ่งแทน (ขู่เค้าอีกแล้ว แต่ใช้ได้ผลน่าดู )

คุณเคน (พนักงาน) เลยถามว่า "ทำไมถึงจะยกเลิกล่ะ ?"

เรา : Because everytime I call Sprint or go to the store, it's a nightmare to me. "

คุณเคน : I know, Sprint call center can be an ass!

ว่าแล้วคุณเคน ก็บอกว่า อย่าโทรไปที่ศูนย์ มีไรให้มาที่ร้าน แล้วเค้าก็ยกแม่น้ำทั้ง 5 มาบอกเราว่า ทำไมเราไม่ควรที่จะยกเลิกสัญญากับเค้า แล้วไปใช้บริษัทอื่น



สุดท้าย...คุณเคนบอกว่า >"เอางี้ล่ะกัน เดี๋ยวผมจะยกเลิกสัญญานี้ แล้วเราเริ่มสัญญาใหม่กัน แล้วเดี๋ยวให้ Blackberry ตัวใหม่ล่าสุด 2 เครื่อง"

นางมารร้ายอย่างดิฉัน เริ่มยิ้มกริ่ม ๆ อยู่ในใจ ... เข้าทางกูอีกล่ะ แต่ยังค่ะ ยังงกอยู่ ต้องถามต่อว่า แล้วใครจะจ่ายค่าเปิดสัญญาณ อีกเครื่องละ 18 เหรียญ ?

คุณเคนบอก ... Don't worry about it. Since you're our premier customer, I'll take care of it.

ใจดีซะมิมีเลย แต่... ถามต่อก่อนว่า เมื่อไรจะได้ตังค์คืน ? เค้าก็บอกว่า เดี๋ยวเค้าจะเครดิตบัญชีให้ ภายใน 45 วัน

เราบอก...อืม ปีที่แล้ว คนที่เปิดเครื่องให้เรา ก็พูดงี้อ่ะ ป่านนี้ยังไม่ได้ตังค์คืนเลย คุณเคนเลยบอก "งั้นเดี๋ยวผมคืนตังค์ (จากเมื่อปีที่แล้ว) ให้เดี๋ยวนี้เลยครับ"


สรุป...เดินตัวปลิวออกจากร้าน พร้อมโทรศัพท์ใหม่ 2 เครื่อง ไม่ต้องจ่ายตังค์ซะกะสลึงเดียว ฮ่า ฮ่า จอมยุ่งนี่เงียบกริบเลย แต่สุดท้ายหันมาชมศรีภรรยาว่า >"มึงนี่ตอแหลจริง ๆ"

จ บ ต อ น

สุดท้ายนี้ ขออวยพรให้เพื่อน ๆ ทุกคน มีความสุข สุขภาพแข็งแรง กิจการงานรุ่งเรือง สำหรับปีใหม่ที่จะมาถึงนี้นะคะ และขอบคุณสำหรับมิตรภาพดี ๆ ที่มีให้กันตลอดมาค่ะ



สนใจบล็อคเก่า "สู้สุดชีวิตที่ Sprint Store" ได้ที่นี่ค่ะ //www.bloggang.com/mainblog.php?id=lilacgirl&month=29-05-2009&group=17&gblog=57

Create Date : 30 ธันวาคม 2552
Last Update : 30 ธันวาคม 2552 20:46:55 น.		12 comments
Counter : 1538 Pageviews.
Share Tweet