ใกล้เทศกาลแจกของขวัญเข้าไปทุกวัน หลาย ๆ คนคงกำลังปวดขมอง เนื่องจากไม่รู้ว่าจะ หาของขวัญอะไรให้ชาวบ้านดี หลาย ๆ ท่าน โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ตัดปัญหาปวดหัวด้วยการแจก “บัตรของขวัญ“ หรือ “Gift Card” ให้ลูก ๆ หลาน ๆ ไปหาซื้อของกันเอง

ปัจจุบันนี้บัตรของขวัญ เป็นที่นิยมมาก เนื่องจากประหยัดเวลา และไม่ต้องมานั่งพะวงว่า ให้ไปแล้ว ผู้รับจะชอบหรือเปล่า ในปี 2005 ยอดขายบัตรของขวัญของห้างร้านต่าง ๆ มีมูลค่าสูงถึง 21 พันล้านเหรียญที่เดียว

อย่างไรก็ตามเมื่อคืนนี้ฟังข่าวเกี่ยวกับ “จอมโจรบัตรของขวัญ“ อืม…ฟังแล้วก็อึ้งไปอีกว่า มนุษย์เรานี่หนอ มันช่างคิดกันจริง ๆ สังเกตมั้ยค่ะว่า มิจฉาชีพนี่ฉลาดมาก ๆ น่าจะเอาพรสวรรค์ด้านนี้ ไปทำสิ่งที่ดี ๆ เนอะ (แต่อย่างว่า…เค้าคงคิดว่า เป็นคนดีแล้วรวยช้ามั้ง)

ใครอยู่ในอเมริกา คงเคยเห็นพวกบัตรของขวัญทั้งหลาย ที่ตามร้านเอามาแขวนไว้ ถ้าพลิกดูด้านหลังจะมีบาร์โค้ด แถบแม่เหล็ก หรือหมายเลขบัตร ก่อนอื่นขออธิบายวิธีซื้อ Gift Card ก่อนนะคะ เผื่อบางคนไม่เข้าใจ เวลาซื้อ Gift Card ซึ่งปัจจุบันเป็นอิเล็คทรอนิคหมดแล้ว (แบบกระดาษไม่ค่อยมีให้เห็น ถ้ามีก็น้อยมากค่ะ) คนซื้อจะต้องนำบัตรไปให้แคชเชียร์ Activate บัตรใบนั้น ตามจำนวนเงินที่ลูกค้าต้องการ จากนั้นถึงจะนำบัตรไปใช้ได้ Scam นี้มีวิธีการดังนี้ค่ะ… สมมติตัวละครดังนี้นะคะ

นาย A ~ มิจฉาชีพ

นาย B ~ ผู้ซื้อบัตร

นาย C ~ ผู้รับบัตร


อันดับแรก ~ พวกมิจฉาชีพจะหยิบบัตรนั้น ๆ ไป (ทำเหมือนว่าจะไปซื้อ) แล้วจดหมายเลขหลังบัตร + รหัส (Pin) ไว้ จากนั้นนำบัตรไปวางไว้ที่เดิม (โดยหวังว่า จะมีเหยื่อมาหยิบบัตร ๆ นั้นไป Activate)

ตัวอย่าง : นาย A จดเบอร์บัตรของขวัญ ร้าน Best Buy ไปแล้ว จากนั้นไม่นานนาย B ต้องการซื้อบัตรของขวัญมูลค่า 100 เหรียญให้นาย C


อันดับที่สอง ~ สองสามวันให้หลัง มิจฉาชีพจะโทรไปที่ร้านนั้น ๆ พร้อมทั้งถามว่า บัตรใบนั้น ๆ (ที่เค้าจดหมายเลขมา) ได้รับการ Activate แล้วหรือยัง ?

ตัวอย่าง : นาย A โทรไปถาม Best Buy ว่า บัตรของขวัญหมายเลข 123456789 ได้รับการ Activate ผ่านระบบคอมพิวเตอร์หรือยัง ?

อันดับที่สาม ~ ถ้าบัตรนั้น ๆ ได้รับการ Activate แล้ว มิจฉาชีพก็เอาไปช็อปฟรีได้เลยค่ะ กว่าเจ้าของบัตร (นาย C) จะรู้ตัว ก็ไม่มีเงินเหลือในบัตรแล้ว

ตัวอย่าง : นาย A เดินเข้าไปซื้อของที่ Best Buy แล้วยื่นหมายเลขบัตรของขวัญ พร้อมรหัสให้กับแคชเชียร์ ไม่ต้องเซ็นต์ชื่อ ไม่ต้องเช็คบัตรประจำตัวเลยค่ะ เพราะว่าบัตรของขวัญ ก็เสมือนเงินสด หายแล้วหายเลย ถ้าทางร้านรูดผ่าน ก็ไม่มีใครมานั่งจับผิด

ทั้งนี้ทั้งนั้น บัตรของขวัญจากหลาย ๆ ร้าน เริ่มจะปรับปรุงระบบความปลอดภัย โดยการให้ลูกค้า “ขูดรหัส“ ก่อนใช้บัตรนั้น ๆ ดังนั้น ก่อนซื้อบัตรของขวัญ ตรวจดูให้ดีว่าบัตรโดนขูดไปหรือยังค่ะ และถ้าจะให้ดี ควรจะซื้อบัตรจากที่เค้าน์เตอร์โดยตรง (จะมีอัตราเสี่ยงน้อยกว่า)

ฝากเพื่อน ๆ ไว้นะคะ สำหรับเทศกาลช็อปปิ้งนี้ อย่าให้คนรู้ใจของคุณ เปิดกล่องของขวัญมาเจอ Gift Card ที่มีมูลค่าเป็นศูนย์ค่ะ มิจฉาชีพมีอยู่ทุกที่ ทำไรให้ระวังไว้ค่ะ ช่วงนี้โจรมันชุมค่ะ


มาแล้วแวะทักทายกันหน่อยนะคะ

Create Date : 02 ธันวาคม 2549
Last Update : 2 ธันวาคม 2549 13:29:36 น.		54 comments
Counter : 1005 Pageviews.
Share Tweet