หลังอาหารกลางวัน นายจอมยุ่งก็ “ชิ่ง“ ขอกลับบ้านก่อน โดยอ้างว่า สงสารน้องพูกกี้ที่ต้องอยู่บ้านคนเดียว…เฮ้อ…เฮียแกบ้าไปแล้ว ขี้เกียจเดินก็ไม่บอกดี ๆ ไม่ไปไร อิ่มแล้ว (แม้จะไม่ค่อยมีแรงเดิน) ก็ไปเดินต่อก็ได้ว่ะ อากาศเริ่มเย็นลงเรื่อย ๆ หิมะก็ทำท่าจะตก สองพี่น้องจึงตัดโปรแกรมให้สั้นลง โดยจะไปดูอีกแค่สองจุด คือ Rainforest กับ Gorilla Complex

ว่าแล้วเดินตรงดิ่งไปที่ ถ้ำกอริลล่าก่อนเลย ทางสวนสัตว์แบ่งเขต สำหรับฤดูร้อนกับฤดูหนาว ให้เจ้ากอริลล่าอยู่กันอย่างสงบสุข โดยตั้งอุณหภูมิที่พื้น ให้ต่างแตกกัน เจ้ายักษ์จะได้ไปหาที่นอนได้ตามใจชอบ

เมื่อปีที่แล้ว ทางสวนสัตว์ได้ต้อนรับสมาชิกใหม่ เป็นกอริลล่าจากหลอดแก้ว ตัวแรกของโลก (The World First Test Tube Gorilla) น่ารักมากเลยค่ะ เด็ก ๆ ไปเยี่ยมกันมากมาย เจ้ากอริลล่าน้อย ก็ชอบเล่น ตอนนี้เมืองเรามีกอริลล่าทั้งหมด 25 ตัว และเป็นธนาคารเก็บน้ำเชื้อกอริลล่า ที่ใหญ่ที่สุดในโลกด้วยค่ะ

งานนี้กะเหรี่ยงทำหน้าที่เป็นตากล้อง แม้ว่าแบตใกล้จะเดี้ยงเต็มที่ แต่ขอจนหยดสุดท้ายล่ะกัน อีน้องท่าทางชอบอกชอบใจ เจ้ายักษ์ใหญ่ยิ่งนัก เราไปยืนแย่ จะยักษ์ตัวหนึ่ง จนเค้าโมโห ลุกมาเต้น ๆ ทุบกระจกใหญ่ แรก ๆ ก็สะดุ้งสยองไปกับเค้า ไป ๆ มา ๆ ยิ่งทุบชั้นยิ่งแย่ ฮ่า ฮ่า มันส์ดี (ถ้าเจ้าหน้าที่มาเห็น สงสัยจะโดน “ดีด“ ออกไปแน่ ๆ)

เรานั่งดูพฤติกรรมเจ้ายักษ์กันจนเพลิน บางคู่ก็ไล่ตีกัน บางคู่ก็น่าลูบหลังกัน น่ารักดีค่ะ อ้อ…ทางสวนสัตว์เขียนป้ายบอกว่า เราอาจจะเห็นว่า ทำไมกรงกอริลล่า ถึงได้รกจัง แต่เค้าจงใจให้มันเป็นแบบนั้นค่ะ เพื่อให้กอริลล่า ได้เล่นกับสิ่งแปลกปลอม เป็นการพัฒนาทางด้านสมองไปในตัว

ไปก่อนแล้วค่ะ คราวหน้าเดี๋ยวใน “ไกด์กิตติมศักดิ์“ มาพาเที่ยวนะคะ จะเป็นใครนั้น ขออุบไว้ก่อนค่ะ