My Life; My Destiny.
Group Blog
 
<<
ตุลาคม 2556
 12345
6789101112
13141516171819
20212223242526
2728293031 
 
12 ตุลาคม 2556
 
All Blogs
 
The Diary of my Back Pain (8) : Hemilaminectomy & Micro Disectomy

สืบความจากตอนที่แล้ว

หลังจากที่หกล้ม เป็นเหตุให้ถึงกับต้องนั่งรถเข็น คุณหมอเคทลิน ก็ส่งให้เราไปแสกนหลังอีกรอบ และผลก็ออกมาว่า จำเป็นต้องผ่าตัดอีกครั้ง โดยครั้งนี้คุณหมอเคทลิน เป็นธุระจัดการนัดหมอผ่าตัดให้เอง และเธอก็ย้ำว่า ผ่าครั้งนี้แล้ว จะต้องมาทำกายภาพอย่างเสมอด้วย


เมื่อถึงกำหนดนัดคุณหมอNagib ซึ่งเป็นศัลยแพทย์ด้านเส้นประสาท (Neuro Surgeon) คุณหมอเป็นชาวอิยิปต์ แต่มาเป็นแพทย์อยู่ที่อเมริกาหลายทศวรรษแล้ว จากการค้นคว้าของเราพบว่า คุณหมอเป็นมือวางอันดับหนึ่งทางด้านนี้ อย่างที่คุณหมอเคทลินบอกเราไว้จริงๆ แต่ที่่สำคัญเลย คือ คุณหมอนากิ๊บ มีรีวิวจากคนไข้ว่า ดูแลคนไข้หลังผ่าตัดได้ดีและเป็นมิตรมาก

ครั้งแรกที่เราพบคุณหมอนากิ๊บ เราก็ประทับใจเป็นที่สุด เพราะคุณหมอเดินมารับเรา จากห้องนั่งรอ เราหาหมอมาเยอะ ไม่เคยเจอแบบนี้ คือ ส่วนมาก พยาบาลจะเป็นคนมาเรียกให้ไปพบหมอ สิ่งเล็ก นี้ ทำให้เราชอบคุณหมอทันทีอาจจะเรียกว่า ถูกชะตา ก็ว่าได้ค่ะขณะที่เดินไปที่ห้องตรวจ คุณหมอก็พูดว่า เธอรู้ว่าเราเจ็บมาก จากท่าเดินของเรา (ซึ่งตอนนั้น บอกตรง ว่า ทุกย่างก้าว เจ็บปวดมากค่ะ)

เมื่อไปถึงห้องตรวจ คุณหมอไม่พูดพร่ำทำเพลง ถามเราว่า เราพร้อมหรือยังที่จะผ่าตัด เพราะเห็นเราเดินแล้ว เธอสงสารเรามาก คุณหมอย้ำว่า ความพร้อมนั้น คือ เราต้องยอมรับว่าการรักษาจะใช้เวลานาน จะต้องอยู่บ้าน (ไม่ให้ไปทำงาน) 8 สัปดาห์ และจะต้องมี support team ที่จะช่วยทั้งทางด้านร่างกายและจิตใจ

Support Team นี้สำคัญค่ะ เพราะในอเมริกา หลาย คนอยู่บ้านคนเดียว ไม่มีญาตพี่น้อง ดังนั้น การช่วยเหลือต่าง หลังผ่าตัด จึงเป็นสิ่งจำเป็น เพราะต้องมีคนช่วยจัดอาหารให้ และช่วยงานบ้านต่าง เช่น การซักผ้า ซึ่งคุณหมอไม่อนุญาตให้ซักเอง เนื่องจากหลังผ่าตัด เราจะไม่สามารถก้มหลังได้เลย ประมาณ 4 สัปดาห์ นอกจากนี้ คนไข้หลังผ่าตัด ยังมีอาการซึมเศร้าเพิ่มมาด้วย หากไม่มีคนช่วยเหลือทางด้านจิตใจ ก็จะทำให้ไม่มีกระจิตกระใจ ในการรักษาตัว

ถามว่า หากไม่มีใครจะช่วยเหลือได้เลย จะต้องทำยังไง ? ตรงนี้ ก็ขอบอกว่า จะต้องจัดหา In Home Care ค่ะ อาจจะจ้างคนมาช่วย หรือทางโรงพยาบาล อาจจะจัดหาพวกอาสาสมัคร มาช่วยดูแลให้ค่ะ

เมื่อเราบอกคุณหมอว่า เราพร้อมทุกอย่าง จะผ่าวันนี้เลยก็ยังได้ คุณหมอก็บอกว่า อยากผ่าให้วันนี้เหมือนกัน แต่ต้องติดต่อกับทางห้องผ่าัตัดก่อน แต่เธอย้ำว่าจะผ่าให้เร็วที่สุด ซึ่งก็ คือ วันอังคารถัดไป (วันนั้นเป็นวันศุกร์)

จากนั้นเธอก็เรียกผู้ช่วยให้เข้ามาประสานงาน เกี่ยวกับรายละเอียดการผ่าตัดกับเรา โดยบอกถึงวิธีการผ่า(Procedure) และนัดหมายวัน เวลา ให้มาแอดมิทกับทางโรงพยาบาลค่ะ


เรากลับบ้านวันนั้นแบบแจ่มใส อยากให้ถึงวันอังคารเร็ว ช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ เรากูลเกิ้ลวิธีการผ่าแบบ Hemilaminectomy และMicro-Disectomy แบบเป็นจริงเป็นจัง แล้วก็อ่านมันเกือบทุกลิ้งค์เลย ตั้งแต่วิธีการ ไปจนถึงระยะเวลาพักฟื้น และความเห็นของคนที่เคยผ่าแบบนี้มาก่อน อ่านไปก็เริ่มคิดว่า คราวนี้หายแน่เว้ย อิอิ

วันจันทร์ก่อนผ่าตัด เราต้องไปตรวจร่างกายกับแพทย์ประจำตัว ว่าพร้อมจะผ่าตัดหรือไม่ โดยจะมีการตรวจเกล็ดเลือดอะไรพวกนี้ ปัญหา คือ ตอนนั้นเราไม่มีแพทย์ประจำตัว เพราะเราเลิกไปหายัย Dr. Crane ที่หาว่าเราประสาท คิดไปเองว่าเราเจ็บ การไปหาหมอที่อเมริกานี่ ถ้าไม่ได้เป็นคนไข้ประจำของหมอคนนั้น ก็ยากที่จะหาคิวพบหมอได้ค่ะ ไอ้อยู่ดี จะเดินไปหาหมอที่คลีนิคนั้น เลิกคิดไปได้เลย เพราะขนาดจะนัด บางทียังต้องรอเป็นหลายสัปดาห์ ดังนั้น คนที่จะเป็นจะตายจริง ก็ต้องไปห้องฉุกเฉินค่ะ เพราะรับประักันได้ว่า ได้พบหมอแน่นอน แต่ค่าใช้จ่ายแพงมากเท่านั้นเอง

อ่ะแพร่มมาก...เมื่อเราไม่มีแพทย์ส่วนตัว ก็เลยต้องโทรหาแพทย์ส่วนตัวของนายจอมยุ่งค่ะ บอกความจำเป็นกับรีเซฟชั่นนิสว่า เราจะต้องผ่าตัดวันอังคาร วันจันทร์นี้จะต้องพบหมอให้ได้ เพื่อให้หมอเคลียร์ว่าเราพร้อมที่จะผ่าตัด แม่นางก็ถามเราว่า ทำไมเราไม่ไปหาหมอของเราเอง เราเลยต้องบอกไปตรง ว่า เรามีความรู้สึกไม่ดีกับหมอของเรา เพราะเธอคิดแต่ว่าคิดไปเองว่าเจ็บ บอกได้แค่นั้น นางก็เห็นใจค่ะ เลยบอกว่า จะเบียดคิวของคุณหมอให้

วันจันทร์เราไปพบDr. Kimple ซึ่งเป็นหมอของนายจอมยุ่ง แต่เราก็คุ้นกับท่านอยู่แล้ว เพราะทุกครั้งที่เฮียไปหาหมอ เราจะไปด้วย คุณหมอก็ตรวจร่างกายทั่วไป แล้วลงชื่อว่าร่างกายเราพร้อมจะผ่าตัด

เ้ช้าวันรุ่งขึ้น เราก็ไปแอดมิทกับทางโรงพยาบาลตามเวลานัด ซึ่งทางทีมพยาบาล ก็จะมาเตรียมกระบวนการก่อนผ่า(Pre-Op) เช่น เจาะสายน้ำเกลือ พร้อมกับชั่งน้ำหนัก ตรวจปัสสะวะ และเช็คประวัติด้านการแพทย์ของเราอีกรอบ ตั้งแต่ตรงนี้ ไปจนถึงโดนวางยาสลบ จะมีทีมงานเดินมาถามว่า รู้มั้ยว่าวันนี้ผ่าแบบไหนเยอะมากค่ะ นัยว่าจะได้ไม่ผ่าผิดล่ะมั้ง ดีนะที่เราท่องชื่ออันยาวเยียดมาอย่างดี อิอิ

ก่อนถึงเวลาผ่าเล็กน้อย คุณหมอนากิ๊บ ซึ่งจะเป็นศัลยแพทย์วันนี้ ก็เข้้ามาขีดเส้นตำแหน่งที่จะผ่าที่หลังค่ะ จากนั้นเธอก็บอกว่า หากทุกอย่างเป็นไปอย่างเรียบร้อย ระยะเวลาในการผ่าน่าจะอยู่ที่3 ชั่วโมง จากนั้นวิสัญญีแพทย์ ก็เข้ามาจัดการฉีดยาให้เริ่มซึม เพื่อเตรียมเข้าผ่าตัด จากนั้นเราก็วูบไป

ตื่นมาอีกที ได้ยินเสียงใครเรียกชื่อเราแว่ว แต่ไม่อยากจะลืมตาเลย แต่รู้สึกหิวน้ำมาก คิดได้ดังนั้น ก็มีน้ำแข็งมาใส่ปากทันที และพยาบาลก็บอกว่า การผ่าตัดมีปัญหานิดหน่อย คือ คุณหมอไปสะกิดเยื่อหุ้มไขสันหลัง ทำให้น้ำในไขสันหลังรั่วออกมาก(Dural Tear)  ดังนั้นเราต้องนอนราบ เป็นเวลา 48 ชั่วโมง จำได้ว่า วันนั้นเราออกจากห้องพักฟื้น(Recovery Room) ช้ามาก เพราะทางทีมแพทย์ ต้องการให้แน่ใจว่า เราไม่มีอะไรแทรกซ้อน จากนั้น ก็ย้ายขึ้นไปยังห้องพัก จำได้คร่าว ว่า เห็นหน้านายจอมยุ่ง แล้วก็จำอะไรไม่ได้อีกตลอดทั้งคืนค่ะ


วันนั้นจำได้แค่ว่า ถูกย้ายมาที่ห้องพักฟื้น นายจอมยุ่งกลับไปตอนไหนก็ไม่ทราบ เธอไม่ต้องเฝ้าค่ะ เพราะเราบอกแต่แรกแล้วว่าไม่ต้องมานอนเฝ้า ให้ไปดูแลหมา - แมวดีกว่า 


เช้าวันถัดไป เฮียก็มาเยี่ยม และเล่าให้ฟังว่า หลังผ่าตัด คุณหมอนากิ๊บ ออกมาคุยกับเธอว่า ทุกอย่างเป็นไปโดยดี แม้จะมีปัญหานิดหน่อย แต่ก็ทำการซ่อมเส้นประสาทที่โดนมีดสะกิดไปเรียบร้อย พร้อมบอกว่า เคสเรานี่รุนแรงมาก เพราะพอเปิดเข้าไปดู ก็เห็นว่าเส้นประสาทยับเยินสุด ๆ 


วันนี้แค่นี้ก่อนค่ะ ตอนหน้า จะมาเล่าถึงประสบการณ์หลังผ่าตัดค่ะ ตั้งแต่การทำกายภาพบำบัด ไปจนถึงจิตบำบัดด้วย


ขอบคุณเพื่อน ๆ ทุกคนที่แวะมาทักทาย และส่งกำลังใจให้นะคะ


จ บ ต อ น




Create Date : 12 ตุลาคม 2556
Last Update : 12 ตุลาคม 2556 2:25:10 น. 23 comments
Counter : 2482 Pageviews.

 
เอ้อออ....อ่านแล้วพูดไม่ออก
เจ้าของบล๊อคเก่งมากค่ะ กำลังใจเติมให้ตัวเองแบบเกินร้อยเลย
ขอช่วยเติมกำลังใจให้ด้วยนะคะ อ่านแล้วน้ำตาซึมๆ
มีซัพพอร์ททีมกับโฮมแคร์ด้วย ซัพพอร์ททีมนี่แพงมั๊ยคะ

เอาใจช่วยค่ะ สู้สู้นะคะ


โดย: schnuggy วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:2:57:07 น.  

 
ผู้เขียน Blog หมวดเนื้อหา Blog ได้รับโหวต
Lilac Girl Klaibann Blog ดู Blog

อาการซึมเศร้าค่อยดีขึ้นเกือบๆปกติแล้วขอรับ.. ออกกำลังกายเกือบทุกวันขอรับ เว้นฝนตกออกไปเดินหรือวิ่งไม่ได้

เมื่อวันอังคารที่ผ่านมาคุณหมอฉีด cortisone ให้รู้สึกดีขึ้นมากๆอยากกลับไทำงานเร็วๆเพราะว่าคุณท่านขุนฯไม่ชอบนั่งเล่นนอนเล่นแม้ว่าทางบริษัทจะจ่ายเงินให้ทุกสัปดาห์ขอรับ น่าเบื่อด้วย..
ยอมรับว่าคุณหมอที่อเมริกาเก่งมากๆขอรับ

แต่พอมาอ่านเรื่องของคุณแพท..เลยกลายเป็นว่าเรื่องป่วยของคุณท่านขุนฯเป็นเรื่องเล็กๆไปเลยฮ่าๆ ก็ขอเป็นกำลังใจนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:3:12:40 น.  

 

Like ให้เป็นคนที่ 3
อุ้มล่ะชื่นชมคุณแพทมากๆ เลยค่ะ
เก็บรายละเอียดในการตรวจและรักษามาบอก
และชื่นชมในการอดทนต่อสู้กับโรคที่เป็นอยู่
ส่งแรงใจข้ามขอบฟ้ามาให้เสมอค่ะ




โดย: อุ้มสี วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:4:24:06 น.  

 
ดีใจด้วยคุณแพทเจอหมอมือหน่ึงแต่คุณแพทเข้มแข็งมากเลยหายเร็วนะคะทั้งกายและใจสู้สู้ค่ะ


โดย: Sheer bliss IP: 166.137.191.34 วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:10:45:06 น.  

 
แวะมาเยี่ยมและส่งกำลังใจไปให้คุณแพทครับ


โดย: **mp5** วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:11:00:22 น.  

 
เป็นเนื้อหาที่มีประโยชน์มาก ๆ ค่ะขอบคุณที่เขียนมาแชร์นะคะ ขอให้หายจากโรคทุกอย่างที่เป็นและร่างกายกลับมาแข็งแรงเหมือนเดิมค่ะ


โดย: Jas IP: 124.121.249.169 วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:12:11:24 น.  

 
หายเร็วๆนะคะ


โดย: settembre วันที่: 12 ตุลาคม 2556 เวลา:17:35:35 น.  

 
อ่านแล้วอึ้งทุกทีเลยค่ะ
คุณLilac Girl เป็นคนเก่งมาก เข้มแข็งมาก
แล้วตอนนี้เป็นไงบ้างแล้วคะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:0:22:47 น.  

 
ปล.ขอบคุณค่ะที่ยังคิดถึงกัน และแวะไปตามเสมอ

ขอบคุณที่อวยพรวันเกิดด้วยค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 13 ตุลาคม 2556 เวลา:0:25:46 น.  

 
รีบเข้ามาติดตามต่อต่อไปเลยค่ะขอบคุณที่ไปฝากเมนท์ไว้นะคะ

คุณ Lilac โชคดีมากนะคะที่พบคุณหมอที่ดี เห็นด้วยเลยว่าถ้าไม่เกิดความปลื้มกับหมอประจำตัวแล้ว ไม่อยากไปเห็นหน้าอีกจริงๆ ค่ะ ส่วนตัวเราก็เป็นอย่างนี้ด้วย

ผ่าตัดครั้งนี้แล้วอาการคงจะดีขึ้นตามลำดับนะคะ รอติดตามอ่านตอนต่อไปอยู่ค่ะ


โดย: วิสกี้โซดา วันที่: 14 ตุลาคม 2556 เวลา:0:31:44 น.  

 
คุณแพทโชคดีที่ได้ทีมหมอที่ทรงคุณภาพ
เล่ารายละเอียดซะเห็นภาพตามเลยค่ะ
บอกว่าเส้นประสาทยับเยินได้ขนาดนั้น
ไม่รู้ทราบสาเหตุมั๊ย และป้องกันได้ไหมคะ
ตามตอนกายภาพบำบัดรอบหน้านะคะ
ตอนนี้อัพตอนช่วงเดินทางเลยไม่เห็นทันที
ส่งกำลังใจให้คุณแพทสู้ๆ ด้วยค่ะ


โดย: anigia วันที่: 16 ตุลาคม 2556 เวลา:2:39:10 น.  

 
ไม่ได้กลับไทยค่ะ แค่เดินทางไปแค้มปิ้งอย่างเคยนะคะ
ฤดูสีสันแบบนี้ ห้ามพลาด ปีละครั้งก็ยังดี แหะๆ


โดย: anigia วันที่: 16 ตุลาคม 2556 เวลา:22:23:52 น.  

 
โอ...อ่านแล้วพูดไม่ออกเลย ยังไงเป็นกำลังใจให้นะคะ ขอให้หายไวๆๆๆ ค่ะ



โดย: hi hacky วันที่: 18 ตุลาคม 2556 เวลา:21:32:57 น.  

 
ยังไม่อัพตอนต่อไปเหรอคะ?

จริงๆก็ไม่รู้หรอกค่ะ ว่าพายแอปเปิ้ล เค้าเอาพายไปอบก่อนทีนึงหรือเปล่า
อ่านดู...บางคนก็อบก่อนทีนึง
บางคนก็อบไปพร้อมกันเลย

ตอนที่ทำหนแรก อบไปพร้อมกัน แล้วรู้สึกว่าไส้มันลงไปทำให้แป้งที่ก้นแฉะ แล้วทะลุ
รอบสองก็เลยลองอบแป้งดูตามคนอื่นๆที่เค้าอบก่อน ก็ออกมาใช้ได้ค่ะ ที่ก้นแห้งกว่าค่ะ
แล้วระยะเวลาตอนอบไส้ก็ร่นลงด้วยหน่อยนึงค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:1:05:56 น.  

 
ขอรับ เบื่อเรื่องประกันที่ใช้เป็นของบริษัท ช้ามากๆขอรับเหนื่อยใจ ดีว่าประกันยังจ่ายเงินให้ตามส่วนที่จะได้ทุกอาทิตย์(Workmans compensation) แต่มันเบื่อช้าอยากกลับทำงานเร็วกว่านี้ เท่าที่ฟังคุณหมออธิบาย ต้องผ่าตัดสองที่ ไม่ใหญ่ดูง่ายๆแต่ต้องรอประกันจากบริษัทเซย์โอเคจ่ายจากนั้นก็หาหมอเช็คสุขภาพความดันเรื่องทั่วไปก่อนผ่าตัด รอกะรอขอรับ เมกาทุกอย่างว่ากันด้วยกฏหมายมันออกมาประมาณนี้... ขอบคุณนะขอรับที่แวะมาทักทาย คุณก็คงดีขึ้นตามลำดับใช่หรือเปล่าขอรับ ดินฟ้าอากาศที่นั้นเป็นงั้ยบ้างขอรับหิมะมาเยี่ยมหรือยัง


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:1:24:53 น.  

 
เอ๊....มีน้องเล็กด้วยเหรอคะ?
ขอโทษนะคะ ไม่ทราบจริงๆ
งั้นก็ลำบากแย่ซีคะ ตอนที่ไม่สบาย ต้องผ่าตัด เดินไม่ได้...แล้วน้องตัวเล็กทำไงล่ะคะ

ขอให้หายเร็วๆ แข็งแรงๆกันนะคะ
อัพแล้วไปตามนะคะ...ขอบคุณล่วงหน้าค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:2:21:45 น.  

 
เมื่อกี๊...นึกสงสัยเหมือนกันค่ะ
ว่าถ้าเป็นเด็กเล็กๆ ไม่สบายสองเดือนนี่ คงแย่เลย
แต่ไม่กล้าถาม

ขอให้น้องหมาหายดี แข็งแรงอย่างเดิมนะคะ
เคยมีน้องหมาเหมือนกัน วิ่งออกไปนอกบ้านแล้วโดนรถทับ เค้าโชคไม่ดี เค้ากลับมาป่วยแล้วก็ไม่รอดในบ้านค่ะ


โดย: little mouse in big apple วันที่: 1 พฤศจิกายน 2556 เวลา:4:36:43 น.  

 
สวัสดีค่ะคุณ Lilac ดีใจที่ไปหาค่ะ เป็นไงบ้างคะ
อาการไปถึงไหนแล้ว เอาใจช่วยค่ะ

ตอนเราไป ไม่ทันค่ะ ต้องไปประมาณมิย.ค่ะ รู้ว่าไม่ทันแล้วเลยไม่ได้ตามเลย
เห็นแว่วๆว่าร้อนถึง 40องศาเลยล่ะ ขนาดตอนไปไม่ค่อยร้อนเท่าไร
เดินกลางแดดก็เล่นเอาเหงื่อโซ่กเหมือนกัน

รักษาสุขภาพนะคะ เป็นกำลังใจให้สาวคนเก่งเสมอค่ะ
ฝันดีนะค๊า


โดย: schnuggy วันที่: 2 พฤศจิกายน 2556 เวลา:3:17:13 น.  

 
ขอบคุณนะขอรับ


โดย: ขุนเพชรขุนราม วันที่: 2 พฤศจิกายน 2556 เวลา:12:50:52 น.  

 
ขอให่้สุขภาพแข็งแรงขึ้นเรื่อยๆนะคะ สู้ๆ


โดย: au_jean วันที่: 4 พฤศจิกายน 2556 เวลา:8:03:03 น.  

 
ขอบคุณที่แวะไปทักทายค่ะ
พึ่งเข้าบล็อก แหะๆ ทิ้งช่วง ช่วงวันหยุดต้องวางมือน่ะ
สัญญากับครอบครัว อิอิ
ลุ้นต่อไปค่ะ ช่วงปลูกต้นไม้ช่วงฟอลล์นี้จะยุ่งนิด
แต่เพราะเริ่มต้นที่ใหม่เนาะ คงไม่ได้ปลูกอะไรใหญ่ๆบ่อยๆเนาะ
ตอนนี้กำลังปวดเฮดจะเริ่มกวาดใบไม้ยังไงดี
ฝนกับหิมะก็กำลังมาเยือนอีก

รักษาสุขภาพด้วยนะคะคุณแพท อากาศเปลี่ยนพรึ่บๆเลย


โดย: anigia วันที่: 4 พฤศจิกายน 2556 เวลา:22:52:46 น.  

 

ป่านนี้
การทำกายภาพบำบัดคงผ่านไปไกด้ด้วยดีนะคะ
แวะมาส่งกำลังใจให้แข็งแรงในเร็ววันค่ะ



โดย: อุ้มสี วันที่: 6 พฤศจิกายน 2556 เวลา:20:44:24 น.  

 
ติกตามอ่านมาพักมาใหญ่แล้วค่ะ คุณแพทมีจิตใจที่เข้มแข็งมาก สู้สุดๆ อ่านแล้วลุ้นตามตลอด อยากให้หายเป็นปกติไวๆ


เป็นกำลังใจให้นะคะ หายเร็วๆๆๆๆ เพี้ยงๆๆๆ


โดย: hi hacky วันที่: 8 พฤศจิกายน 2556 เวลา:10:40:01 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

Lilac Girl
Location :
The Land of 10,000 Lakes United States

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 38 คน [?]




ขอบคุณทุกท่านที่เข้ามาชม Blog ของเรานะคะ มีอะไรแนะนำจะให้เขียน รบกวนเขียนฝากไว้ด้วยค่ะ

Disclaimer: ทุกข้อความใน Blog นี้ เราเขียนเรื่องจากประสบการณ์เท่านั้น ไม่มีเจตนาว่าร้ายใคร และหากเรื่องที่เขียนไปกระทบใจใคร ขออภัยไว้ ณ ที่นี้ด้วย ส่วนข้อมูลต่าง ๆ ที่ให้ไว้ ก็เป็นเพียงข้อมูลจากประสบการณ์จริงเท่านั้นค่ะ

***ประกาศ : ท่านที่นำเนื้อหาในบล็อคของเราไปแปะไว้ในเว็ปอื่น ยินดีอย่างยิ่งค่ะ ที่ช่วยกันเปิดเผยข้อมูล แต่ขอความกรุณาซักนิด แจ้งให้เราทราบด้วยนะคะ ให้เครดิตคนเขียนกันบ้างค่ะ ***

New Comments
Friends' blogs
[Add Lilac Girl's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.