อีกแล้ว...ทางเรือทำเราเจ็บใจอีกแล้ว นอกจากจะไม่พาเราไป จาเมก้า ตามตั้งใจไว้ เช้าวันที่สี่ของการเดินทาง ยังงี่เง่าเพิ่มอีกรอบ

กำลังทานอาหารเช้า อยู่ดี ๆ คุณ Lenny ~ Cruise Director ของเรา ก็ออกมาประกาศว่า ให้ทุก ๆ คน เที่ยวให้สนุก สำหรับวันสุดท้ายบนเกาะบาฮามัส คืนวันนี้ เรือจะถอนสมอแล้ว เพราะซ่อมเรือเสร็จแล้ว

อะไรน่ะ ???????? พูดผิดหรือเปล่า ? ไหนบอกว่า อยู่วันนี้และก็พรุ่งนี้อีกวันหนึ่งไง ไอ้เราก็ซื้อทัวร์ ไว้สำหรับวันพรุ่งนี้ จ่ายเงินแล้วด้วยเรียบร้อย โชคดีที่ซื้อกับทางเรือ เพราะเค้าคืนเงินให้

ปัญหาก็คือ แต่แรกวางแผนกันไว้ว่า วันนี้จะนอนพัก อยู่บนเรือ แล้วพรุ่งนี้ค่อยออกเที่ยวบนเกาะ ตายแล้ว…จะเอายังไงล่ะเนี่ย วิ่งไปวิ่งมา จะหาทัวร์สำหรับไปวันนี้ ทัวร์เค้าก็ออกกันไปหมดแล้ว นายจอมยุ่ง ก็ประสาทแตกเลย ไม่รู้จะทำยังไงดี เลยตกลงกันว่า เอางี้…งั้นนั่งรถไปที่ในเมือง แล้วไปดูว่า มีทัวร์อะไรที่เราไปได้บ้าง แก้ปัญหาเฉพาะหน้าไปก่อน

ออกจากเรือมาได้ พวกแท็กซี่ทั้งหลาย ก็บอกเราว่า วันนี้กิจกรรมทางน้ำทั้งหมด (ของทุกบริษัท) ถูกยกเลิก เนื่องจากคลื่นลมแรง แป่ว…จริงดิ ทำไมถึงได้ซวยซ้ำซ้อนฟ่ะ ?

เอาน่า…มองโลกในแง่ดีไว้ก่อน ลองไปในเมืองก่อน อยากไปดำน้ำดูปะการังอ่ะ แง๊ ๆๆ จะไป ๆ อยากจะร้องไห้จริง ๆ เศร้าวุ้ย

ถึงในเมือง ก็ตรงไปที่โรงแรมเชอราตัน เพื่อขอซื้อทัวร์ แม่สาวชาวเกาะ บอกเหมือนพี่แท็กซี่เลยว่า ยกเลิกกิจกรรมทางน้ำทั้งหมด แต่มีทัวร์อันหนึ่ง ที่ไปได้ คือไปที่ “Dead Man’s Reef”

Dead Man’s Reef เป็นเหมือนหาดส่วนบุคคลค่ะ เราจ่ายค่าทัวร์คนละ 35 เหรียญ ซึ่งรวมค่ารถไป-กลับ โดยขากลับ คนขับรับปาก จะไปส่งให้ถึงตัวเรือเลย (ใจดีจัง)

ซื้อตั๋วแล้ว ก็ต้องนั่งรอค่ะ เพราะรถมาทุก ๆ หนึ่งชั่วโมงครึ่ง ไอ้คันตะกี้เพิ่งออกไปหมาด ๆ นี่เอง ดังนั้น เราเลยมีเวลา เดินเอ้อระเหย แวะดูร้านค้าต่าง ๆ ของเมือง Lucaya ค่ะ ที่เกาะบาฮามัสนี้ จะมีร้านปลอดภาษีเยอะมาก ๆ ที่ขึ้นชื่อ ก็คือ พวกสุราต่าง ๆ แต่ว่า ถ้าซื้อแล้ว ตอนเดินกลับเข้าเรือ ทางเรือ จะยึดเอาไว้ก่อน คืนให้ตอนวันกลับ

กะเหรี่ยงและมะกัน เดินมั่วซั่วไปเรื่อย ๆ ก็ไปเจอบริษัท ที่รับนักท่องเที่ยว ไปว่ายน้ำกับโลมา แวะเข้าไปดูราคา โอ้โห้…แพงโขที่เดียว ทัวร์โลมา มี 2 ประเภท คือ Dolphin Close Encounter กับ Swimming with Dolphins

ประเภท Close Encounter ราคา 90 เหรียญต่อคน ก็คือ เค้าเอาเราไปนั่งที่ขอบบ่อ (กลางทะเล) แล้วให้โลมา ว่ายน้ำมาอยู่ใกล้ ๆ เรา มาหอมแก้ม ประมาณนี้ เราเอามือจับเค้าได้ แต่ไม่ได้ลงไปอยู่ในน้ำกับเค้า

ส่วน Swimming with Dolphins ชื่อก็บอกแล้วว่า ลงไปว่ายน้ำลอยคอ กับเจ้าโลมาแสนรู้ ราคาก็แสนรู้ตามไปด้วย 160 เหรียญ สำหรับการลงไปว่ายน้ำ กับเจ้าสัตว์แสนรู้นี้ หึหึ ราคาแบบนี้ เก็บเงินไว้ ไปว่ายกับโลมา บ้านเฮาดีกว่า

เฮ้อ…คนเบี้ยน้อยหอยน้อย แบบเรา ๆ ก็ขอเดินออกมาดีกว่า ไปหาของกินดีกว่าวุ้ย ว่าแล้วก็เดินถามทาง หาร้าน “Caribbean Café” คนแถว ๆ นี้ ก็น่ารักมาก ๆ เลยค่ะ ช่วยเหลือดีมาก หน้าตายิ้มแย้มแจ่มใส ดังนั้นเราจึงแล่นไปถึงร้าน อย่างรวดเร็ว

กินเสร็จเรียบร้อย ยังเหลือเวลาอีกนิดหน่อย กว่าจะถึงเวลารถออก นายจอมยุ่ง จึงขอไปเดินเรียบ ๆ เคียง ๆ สัมผัสบรรยากาศ “เศรษฐี“ ขอลูบ ๆ คลำ ๆ เรือยอร์ช (ของชาวบ้าน) ที่จอดเรียงกันเป็นตับหน่อย แหม…ช่างไฮโซ อลังการกันจริง ๆ เบื่อ “คนรวย“ วุ้ย !

แพร่มมานานแล้ว ถึงเวลาไปขึ้นรถซะทีค่ะ จากตัวเมือง Lucaya ไปยัง Dead Man’s Reef ใช้เวลาประมาณ 25 นาที ระหว่างทาง คุณลุงคนขับ (ซึ่งทำหน้าที่ “ไกด์“ ไปด้วยในตัว) ก็บรรยาย อย่างออกรสออกชาติ เกี่ยวกับ เมือง Freeport ซึ่งถือเป็นเมืองบนเกาะบาฮามัสใหญ่ (Grand Bahamas)

เกาะนี้ โดนเฮอริเคน “Wilma” เล่นงานเต็มที่เลยค่ะ ระหว่างทาง เราก็ได้เห็นบ้านเรือนต่าง ๆ ที่โดนพายุหอบไปกิน พร้อม ๆ กับต้นไม้ที่ล้มระเนระนาด คุณลุงไกด์บอกว่า ที่เมืองนี้ อุตสาหกรรมเลี้ยงชีพ ก็คือ “การท่องเที่ยว“ แต่พอเฮอริเคนวิลล์ม่าเข้า การท่องเที่ยวก็ซบเซาลง เป็นเหตุให้ ประชากรชาวเกาะ จน (หนัก) เข้าไปอีก

ว่าแล้ว คุณลุงไกด์ ก็อ้อนวอน ขอให้ลูกทัวร์ทั้งหลาย กลับมาเยือน Grand Bahamas อีก ฟัง ๆ ไปแล้วก็เศร้านิ คนบางคน มีเหลือกินเหลือใช้ คนบางคน กระเสือกกระสน กว่าจะมีกิน !

อ่า…มาถึงแล้ว Dean Man’s Reef ก่อนอื่น ต้องไปเช็คอิน เพื่อรับอุปกรณ์การดำน้ำ จากนั้นก็มานั่งฟังบรรยาย เกี่ยวกับข้อห้ามต่าง ๆ ในการดำน้ำ เพราะอย่างที่บอกว่า ชาวเกาะนี้ เลี้ยงชีพ ด้วยอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ดังนั้น เค้าจึงรักษา สิ่งแวดล้อม อย่างเป็นจริงเป็นจัง

ระหว่างบรรยาย ไกด์ก็บอกว่า จุดไหนมีปะการังและสัตว์น้ำ ประเภทใด ว่าแล้วก็ไม่พ้น คำถามยอดฮิต เกี่ยวกับ “พี่เบน (Sting Rays)” ว่าจะมีอันตรายหรือเปล่า เพราะบริเวณนี้ จะมีกระเบนจุด (Spot Rays) อยู่เป็นจำนวนหนึ่ง พี่ไกด์บอกว่า ไม่มีอันตรายใด ๆ ไม่ต้องห่วง

เอ่อ…แต่ที่กะเหรี่ยงห่วงนี่ ไม่ใช่ “พี่เบน“ ดิ แต่เป็น “พี่บาราคูด้า“ อ่ะ เห็นพี่แกในน้ำ ที่ไรแล้ว ใจหนูเต้นตุ๊บ ๆ มือเท้าอ่อนทุกที พี่ไกด์ก็เลยบอกว่า ไม่ต้องห่วง เจ้าบาราคูด้า เหมือนกัน เนื่องจากมันไม่ทำร้ายใคร (ก่อน) และปกติมันก็จะลอยคอ ไม่สนใจใคร ยกเว้นแต่คน ๆ นั้น จะ “ดวงดี“ จริง ๆ ….อ้าว เพ่ ๆ ปากสุนัข แล้วมั้ยเนี่ย ?

วันนี้ไม่ค่อยมีแดดค่ะ และคลื่นก็แรงจริง ๆ ด้วย แต่กะเหรี่ยงตกดอย อย่างเรา ไม่หวั่นแม้วันมามาก (เกี่ยวกับมั้ยเนี่ย ?) ก็จะตีขาแรง ๆ ต่อไป ชอบเป็นที่สุด ได้อยู่ในน้ำนี่ ดำน้ำไป กินน้ำทะเลไป หลายอึกใหญ่ อึกท้าย ๆ จะอ้วกแตก ! เนื่องจากคลื่นแรงมาก น้ำเลยเข้าไปในท่อหายใจ สูดที่ก็สะดุ้งที เอิ๊ก ๆๆ

เมื่อแดดไม่ค่อยมี ก็เลยเห็นอะไร ไม่ค่อยชัดค่ะ รูปที่ถ่ายมาก็เลยมืด ๆ หน่อย ปะการังแถว ๆ นี้ ไม่สวยเท่าที่ไปดำน้ำ ที่เม็กซิโก เท่าไรนัก ความจริงแล้ว สวยเท่าที่ภูเก็ตก็ไม่ได้ แต่ไม่เป็นไรค่ะ ถือว่าได้มาเพิ่มจุดดำน้ำ อีกหนึ่งที เฮ้อ…ชีวิตนี้ ฉานไปมีโอกาสไปถึง Great Barrier Reefs หรือเปล่าหนอ ?

สำหรับตอนหน้า เราไปฟังเรื่องวุ่นวาย (ของคนอื่น) เกี่ยวกับกรณีที่ เรือลำนี้ ไม่ได้พาเราไปถึงจาเมก้า ตามที่ตั้งใจไว้นะคะ

นั่งรอรถ ที่หน้าโรงแรม Sheraton, Lucaya Beach ค่ะ



เรือยอร์ช (ของชาวบ้าน)



บ้านชาวเกาะ ระหว่างทางไปจุดดำน้ำ



Dead Man's Reef ค่ะ วันนี้ฟ้ามัวหน่อยนะคะ



ลมแรงมาก ๆ เพราะฝนจะเข้าค่ะ



อุ้ย...ปลาพะยูน อิอิ เอ้อ...ไม่ใช่ ใครว่ะ ?



ว่ายน้ำท่ามกลางฝูงปลา (ตั้งบอกให้ชายกลางระวังดี ๆ เดี๋ยวปลามาตอด "หนอน" ของชายกลาง ฮ่า ฮ่า)



เจอพี่เบน สมใจค่ะ เขาว่ายมา แล้วก็จากไป



เจอพี่เต่าทะเลด้วย



ท่านนายอำเภอ ทำหน้าแป้น รอกลับเรืออยู่ค่ะ



สุดท้าย "นางแบบ" ขออำลา วันนี้ไปก่อนค่ะ ลมเย็นดีจังเลยค่ะ




แวะมาแล้ว ทักทายกันหน่อยนะคะ

Create Date : 24 ตุลาคม 2549
Last Update : 24 ตุลาคม 2549 23:46:19 น.		56 comments
Counter : 716 Pageviews.
Share Tweet