***สวัสดีค่ะเพื่อน ๆ เจ้าของ Blog นี้ผลุบ ๆ โผล่ ๆ อยู่เรื่อย ๆ แต่มิได้แอบไปชมบอลล์โลกแต่ใด มัวแต่ทำโน้นทำนี่ ไม่สบายบ้าง ยุ่งบ้าง ดังนั้นขออภัยด้วย หากไม่ได้ไปเยี่ยม Blog เพื่อน ๆ กันอย่างทั่วถึงนะคะ***




แต่ไหนแต่ไรมา เราเป็นคนที่อ่านหนังสือคุ้มมาก ถ้าลงได้อยู่ในมือแล้ว จะอ่านแทบจะทุกตัวค่ะ หนังสือที่ซื้อแล้วคุ้มเงินที่สุด เห็นจะไม่มีใครชิงตำแหน่ง "หนังสือพิมพ์" ไปได้ เพราะราคาถูก และมีสาระเยอะค่ะ คือ ตรงที่มีข่าวใครฆ่าใคร ข่มขืนใคร อันนั้นสาระน้อยค่ะ แต่หนังสือพิมพ์ทุกฉบับ จะมีคอลัมภ์ที่เป็นเกร็ดเล็กเกร็ดน้อย อ่านแล้วเพลินดี และช่วยเพิ่ม "รอยหยักในสมอง" ได้ด้วย

เพื่อน ๆ คงรู้กันอยู่แล้วว่า เมืองไทยเรามีวิธีพาดหัวข่าวที่น่าสนใจ หลาย ๆ คนอาจจะเคยนึกว่า ทำไมหนังสือพิมพ์เมืองนอก ไม่เห็นพาดหัวข่าวอย่างบ้านเราเลย

การพาดหัวข่าวบ้านเราเนี่ย น่าสนใจมากค่ะ เป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง เพราะเค้าจะเขียนให้มันเตะตา เรียกความสนใจคนอ่านอย่างมากมาย อันนี้เราพูดกันถึงหนังสือพิมพ์ระดับชาวบ้าน ๆ นะคะ ไอ้หน้าแรกนี่ไม่เท่าไรค่ะ พออ่านแล้วรู้เรื่อง แต่ที่เราคิดว่า อ่านแล้วทดสอบประสิทธิภาพมาก ๆ เนี่ย คงจะต้องเป็นหน้าข่าวกีฬาค่ะ




ในหน้าข่าวกีฬาเนี่ย จะมีภาษาที่ถ้าคนไม่ค่อยได้สนใจ หรือไม่ได้อ่านเป็นประจำ จะอ่านแล้วไม่รู้เรื่อง คือ มันจะมีศัพท์เฉพาะอยู่น่ะค่ะ สมัยอยู่เมืองไทยยังพออ่านรู้เรื่องบ้างนะ เพราะว่ามันเห็นอยู่บ่อย ๆ หรือ (จำใจ) ต้องนั่งดูข่าวกีฬากับพี่ชายบ่อย ๆ มันก็ชินหูไปเอง แต่พอห่างวงการหนังสือพิมพ์ไทยไปนาน กลับมาอ่านอีกเลยงง ๆ เล็กน้อยค่ะ

ช่วงนี้เป็นช่วงฟุตบอลโลก แน่นอนว่า ข่าวใหญ่ในหน้ากีฬา ก็ต้องเป็นเกี่ยวกับเรื่องฟุตบอลอยู่แล้ว ว่าทีมไหนเตะกับทีมไหน ทีมไหนน่าจะชนะ อะไรพวกนี้

วันก่อนนั่ง ๆ อ่าน ก็เจอคำ ๆ หนึ่ง ซึ่งนั่งนึกแล้วนึกอีกว่า "มันพูดถึงทีมไหนว่ะ ?"

งงกันไปใหญ่มั้ยเนี่ย ? 5555

คือ ในนสพ. เค้าจะเรียกชื่อทีมต่าง ๆ เป็นภาษาหนังสือพิมพ์ เช่น เมืองผู้ดี ก็หมายถึงอังกฤษ, อินทรีเหล็ก เป็นเยอรมัน, หรือผีดิบ คือ โรมาเนีย ฯลฯ

แต่ไอ้อันที่เรางงสุดยอดเลย คือ อันที่เค้าเขียนว่า "ฝอยทอง" นั่งนึกอยู่ตั้งนาน มันใครว่ะ ? รุ่งขึ้นเก็บความพิศวงนั้น ไปถามคุณป๋า ก็ได้ความว่า "ไม่รู้เหมือนกัน ถามพี่เอ็งดิ" พ่อเลยบอกว่า เนี่ย...โทรไปหามันที่ทำงานเลย พ่อก็อยากรู้เหมือนกัน แต่เราก็เลี่ยง ๆ บอกว่า เดี๋ยวเย็นค่อยถาม เปลืองค่าโทรศัพท์ (มีแอบงก 5555)




วันนั้นนั่งกระสับกระส่ายมากเลย คือ เวลาอยากจะรู้อะไรแล้วไม่ได้คำตอบทันที จะเป็นอาการนี้เลย ก็พอดีตอนกลางวันนั่งเล่น Facebook อยู่ เผอิญเจอเพื่อนสมัยเรียนมัธยม และรู้ว่ามันต้องรู้คำตอบแน่เลย

พอเห็นเพื่อน เลยรีบคว้าโอกาศไว้ เริ่มด้วยบทสนทนาอันหวานซึ้ง เหมือนวันเดิม ๆ 5555

เรา : ไอ้บอลล์ (ทักเค้าซะเพราะพริ้งเชียว)

เพื่อน : เออ

เรา : มีคำถามโง่ ๆ จะถามว่ะ

เพื่อน : ว่ามา

เรา : เวลาที่หนังสือพิมพ์ เค้าเขียนว่า "ฝอยทอง" เค้าหมายถึงทีมไหน ?

เพื่อน : โปรตุเกส

เรา : ( --" งง ๆ ไปพัก แบบว่ายังนึกภาพไม่ออก) โปรตุเกสตรงไหนว่ะ ?

เพื่อน : สมัยก่อนโปรตุเกสนำทองหยิบ ทองหยอด ฝอยทอง เข้ามาในบ้านเราไง ฉะนั้นจริงๆของพวกนี้มันไม่ใช่ขนมไทย มันเป็นขนมโปรตุเกส

เรา : (แอบทึ่ง) โห้...ความรู้ใหม่ว่ะ

เพื่อน : สมัยเรียน...แกจับสลากสอบได้มาเหรอว่ะ ? (เพื่อนปากหวานเนอะ)

เรา : บ้าเหรอ เค้าสอนกันตอนไหนว่ะ ?

เพื่อน : ประวัติศาสตร์อยุธยาไง
จบเรื่องคุยกันวันนั้น ด้วยเรื่องที่ไม่เกี่ยวกับ "ฝอยทอง" ตรงไหนเลย ได้แต่แลกฝีปากกันตามสมควรเช่นวันเก่า ๆ ฮ่า ฮ่า




เม้าท์ให้ฟังก่อน เพื่อน ๆ ผู้ชายกลุ่มนี้ แต่ก่อนสมัยเรียน เราเรียกมันว่า "ดรีมทีมปากหมา" ค่ะ คือ ปากพวกมันหมาจริง ๆ อ่ะ เพราะมันกัดผู้หญิงแบบหน้าชาไปแถบเลยแหละ ต้องอาศัยความเคยชิน โดนเข้านาน ๆ หน้าก็จะด้านไปเอง แต่พวกเราน้ำพึ่งเรือ เสือพึ่งป่ากันค่ะ คือ พวกมันช่วยชีวิตพวกเรา ในวิชาฟิสิกซ์ คณิต เคมี คือ พวกนี้เรียนจบไปแล้ว ไปเรียนต่อด้านวิศวะ หรือวิทย์-คอม กันทั้งนั้นเลย ส่วนพวกเราก็ช่วยเค้าเรื่อง อังกฤษ ไทย ชีว ฯลฯ ดังนั้น ไม่ว่าจะเชือดปากกันแค่นั้น ก็ต้องทน ๆ กันไปค่ะ

ขนาดกลุ่มพวกเราสาว ๆ เรียนทำขนมอบกัน เอามาให้มันกินกัน มันไม่กินกันเปล่า ๆ นะคะ มันเสือกบอกว่า "เนี่ย...เอาไปโยนให้ปลาสวายกิน ปลายังดุนมาคืนเลย" น่าให้กินเนอะ ปากหวาน ๆ แบบนี้อ่ะ

อ่ะ...จบแล้วบล็อคนี้ เขียนยังไงก็ไม่รู้ ขึ้นต้นกับลงท้าย ไม่ใช่เรื่องเดียวกันเลย อิอิ สุดท้ายขอให้เพื่อน ๆ มีความสุขมาก ๆ นะคะ ใครอยู่กันที่อากาศร้อน ๆ ก็ดื่มน้ำกันเยอะ ๆ ค่ะ เดี๋ยวจะไม่สบายไปซะก่อน

Create Date : 09 กรกฎาคม 2553
Last Update : 12 กุมภาพันธ์ 2561 0:48:33 น.		26 comments
Counter : 4240 Pageviews.
Share Tweet