สวัสดีค่ะ หายไปหลายเดือน โผล่มาอีกครั้ง ก็มาพาไปเที่ยวอีกแล้วค่ะ ทริปนี้ขอฉายเดียวเป็นสาวโสด ไปแอ่วเมืองผู้ดีกับเค้า เป็นทริปสั้น ๆ ได้ใจความ เหมือนทัวร์ชะโงก เพราะเดิน ๆ ผ่านที่ต่าง ๆ เอา รอบนี้อ้างกับเฮียว่า ขอไปเที่ยวคนเดียว เป็นของขวัญวันเกิดล่ะกันนะ จริง ๆ แล้วยังไม่ถึงวันเกิดเลย อีกตั้งหลายเดือน อิอิ
จริง ๆ จะว่าไปเที่ยวคนเดียวก็ไม่ใช่ เพราะไปพักกับเพื่อนที่รู้จักกันในบล็อคแกงค์นี่แหละ แต่รู้จักกันได้ 7-8 ปีแล้วมั้ง ครั้งนี้เพิ่งจะได้เห็นหน้ากัน ประมาณว่า เม้าท์กันข้ามทวีปทุกวัน มันไม่เพียงพอ ต้องไปนั่งเม้าท์น้ำลายแตกใส่กัน
เนื่องจากไฟลท์ออกดึก เลยไม่ต้องลางานเผื่อเดินทาง คือ วันอังคารไปทำงานได้ทั้งวัน เลิกงานแล้วค่อยไปเช็คอิน สบายมาก เพราะมีแค่กระเป๋าแครี่ออนใบเดียว เครื่องออกเกือบ ๆ 4 ทุ่ม ทานอาหารแล้ว นอนตลอดเส้นทางทั้งหมดเกือบ ๆ 9 ชั่วโมง ตื่นมากินข้าวเช้าเรียบร้อย ก็ถึงลอนดอนพอดี (เวลาที่ลอนดอน ห่างจากที่เมืองเรา ซึ่งใช้ US Central Time 6 ชั่วโมง)
เราบินเข้าสนามบิน London Heathrow ก่อนเวลาเกือบ ๆ 1 ชั่วโมง แต่แน่นอนว่า กว่าจะวิ่งวนรอบ ๆ สนามบินได้ ก็กินเวลาเข้าไปโขอยู่ และขอบอกว่า จากตัวเครื่องบิน กว่าจะ เดินไปยังด่านตรวจคนเข้าเมือง กว่าจะถึงที่รับกระเป๋า ใกล้เวอร์มากอ่ะ แต่นึกไปนึกมา ก็ไกลพอ ๆ กับสนามบินสุวรรณภูมิอ่ะนะ ดีที่เราใช้ Wheelchair Service จากตัวเครื่อง มายังที่รับกระเป๋า เลยประหยัดพลังงานไปได้เยอะ
ต. ม ประเทศนี้ ก็หน้าเคร่งครึมเสมือน ต.ม อื่น ๆ ทั่วโลก เด็กผู้หญิงที่เข้าแถวก่อนหน้าเรา เธอเดินทางคนเดียว โดนสัมภาษณ์นานมาก สุดท้ายก็โดนเรียกไปเข้าห้องเย็นตามระเบียบ เรานั่งมอง (จากรถเข็น) เค้าสัมภาษณ์เด็กคนนี้ เราก็ใจเต้นน้อย ๆ กลัวเค้าไม่ให้เข้าประเทศ 555 เพราะเวลามายุโรปที่ไร จะมากับนายจอมยุ่งทุกครั้ง และก็ไม่เคยโดนถามคำถามใด ๆ ทั้งสิ้นมาก่อน
พอถึงคิวเรา ต.ม รุ่นใกล้วัยทอง ก็ถามว่า
ต.ม : มาทำอะไร ?
เรา : มาเยี่ยมเพื่อน
ต.ม : เพื่อนทำอะไรอยู่ที่อังกฤษ
เรา : (นึกในใจ งานเข้าล่ะกรู เพราะไม่รู้ว่าเพื่อนมันทำอะไรเหมือนกัน) เลยตอบไปว่า เพื่อนแต่งงานกับคนอังกฤษ ย้ายมาอยู่ที่นี่ได้เกือบ 10 ปีแล้ว
ต.ม : มีเหตุผลมั้ย ที่เลือกมาอังกฤษในช่วงนี้ ?
เรา : ไม่มี พอดีลางานได้ เลยมา
จบ
ปั้มพาสปอร์ต แล้วชีก็หันไปมองคอมเหมือนเดิม ไม่มีการบอก Have a nice day หรือ Have a nice visit ทั้งสิ้น จากการได้เจอคนอังกฤษ 2 คน (รวมคนเข็นรถให้) เรานึก ๆ ในใจ คนที่นี่เหมือนคนไทยที่พูดแบบไม่มีหางเสียง น้ำเสียงไม่ค่อยเป็นมิตรเหมือนคนอเมริกัน แต่อันนี้ต้องดูกันต่อไป
เสร็จเรียบร้อย ออกไปรับกระเป๋า ศุลกากรเค้าเรียบง่ายมาก มี 2 ประตู คือ ประตูเขียว ประตูแดง สีเขียว คือ ไม่มีของต้องสำแดง เดินออกไปได้เฉย ๆ ส่วนพวกที่เข้าประตูแดง จะเข้าไปในห้องโถง มีกระจกขุ่น ๆ ปิดกั้น ไม่เปิดโชว์เหมือนศุลกากรเมืองมะกัน แต่ตอนเราเดินออก แอบเห็นคนให้ห้อง ส่วนใหญ่เป็นพวกอินเดีย กำลังเปิดกระเป๋ากันกระจุยเลย
จากสนามบิน เรานั่งรถไฟ Heathrow Express เข้าตัวเมืองลอนดอน แต่ค่าโดยสารเค้าแพงเวอร์อ่ะ นั่งแค่ 15 นาที เสีย 20 ปอนด์ แต่ถ้าซื้อตั๋วไป - กลับ พร้อมกันไปเลย จะลดได้ 6 ปอนด์ (เหลือ 34 ปอนด์) จริงๆ ก่อนจะไปเรามีคูปองลดราคาค่าตั๋ว แต่ผลัดวันประกันพรุ่ง ไม่ได้ซื้อตั๋วออนไลน์ซะที พอวันจะไป อ้าว
คูปองหมดอายุ เซ็งเลย ชวดไป 4 ปอนด์เต็ม ๆ
ไปชมภาพกันเลยค่ะ
เครื่องบิน Boeing 767-400 เตรียมพร้อมออกเดินทางค่ะ
ใช้เวลาบินเกือบ ๆ 9 ชั่วโมง เนื่องจากไฟลท์ออกเกือบ ๆ 4 ทุ่ม พอทานอาหารเย็นเรียบร้อย เลยก็นอนหลับยาวจนเกือบถึงลอนดอนเลย หนัง 1 เรื่องยังดูไม่จบเลย อิอิ
เนื่องจากสายการบินเดลต้า ลงที่เทอร์มินอล 4 เราจึงต้องไปเปลี่ยนรถไฟ ที่เทอร์มินอล 1 เพื่อต่อเข้าไปยังตัวเมืองลอนดอนค่ะ เดินตามป้ายแบบนี้ได้เลยค่ะ ไม่มีหลงแน่นอน
15 นาทีถัดมา (ไม่รวมตอนต้องไปเปลี่ยนรถนะคะ) ก็มาถึงสถานี Paddington ตามที่นัดหมายกับเพื่อนไว้ เรานัดกันไว้บ่ายโมงตรง โดยย้ำว่า ชั้นใช้เวลาอเมริกันนะยะ อีกนัยหนึ่ง คือ แกอย่ามาช้านะเฟ้ย เราไปถึงสถานีประมาณเที่ยงครึ่ง เพราะเครื่องบินลงก่อนกำหนดเยอะเหมือนกัน ก็เลยเดินเล่นเรื่อย ๆ กะว่าเดี๋ยวบ่ายโมงค่อยไปที่จุดนัดพับ ปรากฎว่าเพื่อนสาวมารออยู่แล้ว ไม่เคยเจอกันมาก่อน คำแรกที่ทักเพื่อน คือ "ขอตังค์เข้าห้องน้ำหน่อยดิ 5555"
คือ ที่สถานีรถไฟเนี่ย เข้าห้องน้ำ มันต้องหยอดตังค์ด้วยอ่ะ ไอ้เรามีแต่แบงค์ แล้วก็โง่ด้วย ไม่รู้ว่ามันมีเครื่องแลกเหรียญอยู่ในห้องน้ำ คุณเพื่อนเลยต้องบริจาคเงินให้ดิฉันเข้าห้องน้ำ อิอิ จากนั้นก็แวะนั่งจิบกาแฟกันก่อนกลับบ้าน บรรยากาศร้านกาแฟดีมากค่ะ อยู่กลางสถานีเลย เห็นคนเดินไปเดินมาเยอะมาก แถมกินกาแฟไป ต้องระวังของแถม เพราะนกพิราบเยอะมาก กลับมันอึรดเสื้ออีก
Paddington Station
แวะจิบกาแฟก่อนกลับบ้าน
หลังรับสารชูกำลังแล้ว ก็ออกเดินทางต่อ เราต้องไปนั่งรถใต้ดิน หรือคนเมืองนี้ เรียกกันว่า Tube ไปอีกประมาณ 20 นาทีค่ะ โผล่ออกมา ก็เจอรถเมล์ 2 ชั้นอันเลื่องชื่อ ซึ่งต้องนั่งรถต่อไปอีกไม่กี่ป้าย
ค่ารถเมล์ - รถไฟเมืองนี้ เราว่าแพงอ่ะ เมื่อเทียบกับอเมริกานะ อย่างเมืองเราที่อเมริกา ถ้าซื้อตั๋วรถไฟ หรือรถเมล์ ก็ยังเอาไปใช้ต่อได้ ภายในเวลา 2 1/2 ชั่วโมง บางทีเราขึ้นรถไฟ ถ้ามันยังไม่หมดเวลา เราก็ส่งต่อให้คนอื่น ๆ ที่เค้ากำลังซื้อได้ หรือบางทีก็เอาตั๋วไปวางไว้ ตรงเครื่องขายตั๋วนี่แหละ แต่ที่ลอนดอนนี้เที่ยวหนึ่งหลายปอนด์อยู่ ไม่รู้จะบ่นทำไมเหมือนกัน เพราะไม่ได้จ่ายค่ารถเองซะหน่อย คุณเพื่อนให้บัตร Oyster ไว้ใช้ เวลาขึ้นรถ เลยไม่ต้องจ่ายเงินเอง สบายไป เที่ยวจัง ตังค์อยู่ครบเนี่ย นโยบายเราเลย อิอิ
ปิดท้ายบล็อคนี้ ด้วยภาพรถเมล์ 2 ชั้นค่ะ บล็อคหน้าจะพาออกเที่ยวรอบ ๆ ลอนดอนต่อค่ะ
ขอบคุณที่แวะมาเยี่ยมกันนะคะ
ชมริวิวการเดินทางทั้งหมด ได้ที่ลิ้งค์นี้ค่ะ
น่าสนุกนะคะคุณแพทถ่ายรูปมาเยอะๆนะว่าท่ีไหนน่าเท่ียว
รออยู่ค่ะ