คราวนี้ เป็นรองพื้นของ Lilac เองค่ะ ไปดูกันเลย
ชมรูปกันก่อนนะคะ จะได้รู้จักหน้าค่าตากันก่อน รูปนี้ถ่ายไว้นานแล้วค่ะ เพราะจะรีวิว เมื่อนานมาแล้ว แต่ความขี้เกียจเข้าครอบงำ ตอนนี้ขวดกลางนั้นก็ไม่อยู่แล้วค่ะ สงสัยโดนรีไซเคิลไปแล้ว
1. Chanel Pro Lumiere เริ่มที่ขวดที่ไม่อยู่ละกันนะคะ เป็นรองพื้นขวดแรกของ Lilac ไปซื้อโดยไม่มีความรู้ใดๆ และแต่งหน้าไม่เป็น ไม่มีคำถามใดให้บีเอปวดหัว นอกจากสีไหนเหมาะกับผิวคะ คุณบีเอฝรั่งก็จัดรุ่นนี้มาให้ค่ะ ทั้งสีและเนื้อ เป็นแบบที่สาวๆ ฝรั่งนิยมกัน คือ เนื้อฉ่ำแวววาวมากกกก หรือควรจะเรียกว่ามันไปเลยจะดีกว่า เรื่องสีไม่ต้องพูดถึง ทาแล้วนึกว่าเอาสเปรย์ผิวแทนมาพ่นหน้า ตอนลองที่เคาท์เตอร์มันก็โอเค เพราะแสงนวลๆ บวกคารมบีเอ Lilac ก็ควักตังค์จ่าย กลับบ้าน สบายอุรา แต่พอถึงคราวต้องแต่งเอง ความจริงก็ปรากฏ เอิ่มมมม มันไม่ใช่ และไม่ได้ ไม่ว่ากรณีใดๆ ตอนนี้เจ้าขวดนี้ ไม่รู้ไปอยู่ที่โรงงานรีไซเคิลที่ไหนแล้วนะคะ ซื้อมาเป็นขวดแรก ใช้ไปไม่กี่ที ก็เลยไม่กล้าทิ้ง เก็บไว้จนหมดอายุไปแล้ว ก็เอามานั่งลูบคลำระลึกถึงความหลัง แต่สุดท้ายก็ตัดใจทิ้งไปค่ะ เพราะมันไม่ได้ใช้จริงๆ
2. Giorgio Armani Designer รองพื้นลูกรักของ Lilac หลังจากที่ผิดหวังจากเจ้าตัวบน Lilac ก็เริ่มหาข้อมูลก่อนซื้อค่ะ ก็ไปเจอว่ารองพื้นของ Armani เลิศเลอ คุณสมบัติครบตามที่ Lilac ต้องการ คือ เนื้อเนียน บาง ฉ่ำ(แบบพอประมาณ) วาว ไม่ค่อยปกปิด ไม่ทำให้สิวขึ้น (สำหรับ Lilac อ่ะนะคะ) คราวนี้ค่ะ ไปลองแล้วขอเค้าออกไปเทียบแสงจริงหน้าห้างเลย ฮ่าๆๆ ทำไปได้ พากลับบ้านมานอนกอด
3. Chanel Teint Innocence ได้มาเพราะไปหาซื้อรองพื้นกับเพื่อนค่ะ พาไปลอง Armani แล้วก็ Chanel ตัวนี้ ต้องยอมรับว่าเพื่อนลอง Chanel แล้วหน้าผ่องเด้งกว่า Armani จริงๆ ก็บอกเพื่อนไปตามที่เห็น เพื่อนก็เลยถอยมาหนึ่งตลับ ส่วน Lilac เองก็กลับมาฝันถึงกันเลยทีเดียว ก็หน้าเพื่อนเด้งขนาดนั้นนี่คะ สุดท้ายทนไม่ไหว ก็ไปตามสอยมาเป็นของตัวเอง แต่ แต่ พอได้มาจริงๆ มันไม่เด้งบนหน้า Lilac อ่ะค่ะ หมายถึงมันก็โอเค เนื้อมันเป็นมูสที่ค่อนข้างบาง สีเข้ากับผิวเป๊ะเลย เป๊ะจริงๆ ค่ะ เบอร์ 20 clair-cameo แต่มันแห้งไปอ่ะค่ะ ทาแล้วเห็นรอยขุยๆ บนผิว แง๊
สรุป ชอบ Armani มากที่สุด ที่ Lilac ชอบแบบบางๆ ไม่ใช่เพราะผิวดี แต่ยินดีจะโชว์ผิวที่ไม่ perfect มากกว่าจะโบกทับไปจนหนามากๆ Lilac คิดว่าแต่งแค่ให้ดีขึ้นกว่าที่เป็นก็พอใจแล้วค่ะ น้องสาว Lilac เองก็ชอบรองพื้นตัวนี้มาก ผิวเค้าดี หน้าไม่มีรูขุมขน ทาแล้วหน้าใสสุดๆ แต่ข้อเสียคือเลือกสียากมาก และสีที่ใช้อยู่ตอนนี้ก็ยังไม่พอดีกับผิวจริงของ Lilac เลย ทั้งที่กระปุกนี้เป็นกระปุกที่สองแล้ว และทั้งสองครั้งบีเอก็เลยสีให้ Lilac ก็วิ่งไปดูที่แสงปกติแล้วด้วย แต่พอกล้บบ้านทีไร ก็รู้สึกว่าเราเลือกสีผิดทุกที ตอนนี้กำลังจะซื้อกระปุกที่ 3 แล้วค่ะ คราวนี้จะเลือกสีอะไรดี ช่วย Lilac หน่อยค่ะ ถ้าใครพอจะทราบ เพราะอย่างที่บอกไปว่าสีผิว Lilac ตรงกับ Chanel Teint Innocence เบอร์ 20 clair-cameo ค่ะ
ถ้าใครมีคำถาม เดี๋ยว Lilac มาตอบให้นะคะ ส่วนถ้าใครทราบเรื่องสีรองพื้นที่ Lilac ถามไป บอก Lilac ด้วยนะคะ เพราะ Armani ขวดนี้กำลังจะหมดอายุ
ป.ล. Lilac ไม่เคยใช้รองพื้นหมดก่อนที่จะหมดอายุเลยค่ะ ใช้น้อยมากๆ แต่อายุของมันคือ 1 ปีค่ะ อย่าลืมเช็คนะคะ ว่ารองพื้นหรือเครื่องสำอางอื่นๆ ของคุณเปิดใช้มานานแค่ไหนแล้ว อย่ามัวเสียดายถ้ามันหมดอายุแล้วนะคะ เพราะมันเป็นผลเสียต่อผิวของเราค่ะ