เมื่อฉันย่ำต๊อก ออกเดินทาง ไปยังลาว

มีความจำเป็นอย่างใหญ่หลวง ต้องออกเดินทางไปติดต่องาน ณ นครเวียงจันทน

แต่ดั๊นลืมพกกล้องถ่ายรูปไปด้วย เลยไม่มีรูปอะไรเอามาฝาก

เก็บมาแต่ความทรงจำเท่านั้นเอง

ขึ้นรถ ณ หมอชิต รถของชาญทัวร์ เอสคลาส อุปกรณ์ครบครัน
น้ำผลไม้ น้ำเปล่า ขนมหลายชนิด มีจอสกรีนทัช ส่วนตัว จะดูหนัง ฟังเพลง
เล่นเกมส์ ดูทีวี หรือดูภาพ ทำอะไรต่อมิอะไรได้ เช่นจอทีวีบ้านทั่วๆไป
เบาะก็กว้างพอๆกับสายการบิน มีบริการนวดส่วนตั๊ว ส่วนตัว นวดไปหัวสั่นหัวคลอน ด้วยค่าบริการ 600 บาท ต่อเที่ยว

ออกเดินทางตั้งแต่ สามทุ่มกว่าๆ ถึงจังหวัดหนองคายเวลา ประมาณ หกโมงเช้า
บรรยากาศกำลังดีค่ะ ไม่ร้อนเท่าใดนัก ลงจากรถปุ๊ป
สิ่งแรกที่เห็นแล้วต้องยิ้มคนเดียวคือ คำว่า "โค๊ก บ้านแพง " ติดไว้ที่ป้ายบนหัว
ไปอีกช่วงหนึ่ง ก็จะเห็นคำว่า "โค๊ก เวียงจันทน์ " ก็ยิ้มๆๆๆ
เลย บอกตัวเองว่า เออ ... คนเรานี่ ถ้าจะมองทุกอย่างในแง่ดี มันก็ยิ้มได้กับทุกเรื่องจริงๆ

พอลงจากรถเสร็จ ก็เดินไปซื้อตั๋ว เข้าเวียงจันทน์ ราคาตั๋วก็ 55 บาท ส่งถึง
ท่ารถตลาดเช้า ของเวียงจันทร์ แต่สภาพรถก็ นะ พอๆกะรถเมล์ พัดลมบ้านเรา
ดีนี่เอง การซื้อตั๋ว ก็ต้องใช้พาสปอร์ต ซื้อ ถ้าไม่มีก็ต้องไปทำบอร์ดเดอร์พาส
ซึ่งต้องระวังมากมาย กับคนขับรถตุ๊กๆที่นั่น เพราะว่า เขาจะอยู่กันเป็นกลุ่ม
และเคยได้ยินมาว่า เป็นมาเฟียด้วย อันตรายค่ะ เขาจะเดินมาหาเรา แล้วบอกว่า
รถเต็ม ให้ไป รถตุ๊กๆ ดีกว่า ค่าบริการท่านละ 100 บาท
และถ้าใครไม่มีบอร์ดเดอร์พาส คนขับก็จะบอกว่า ไปทำหน้าด่านดีกว่า
ซึ่งค่าบริการหน้าด่านจะอยู่ที่ 100-150 บาท แต่ถ้าเราไปทำเองที่
ศูนย์ราชการ แบบเร่งด่วนจะอยู่ที 40 บาท ค่ารถไปกลับ ก็ประมาณ 100 บาท
ทางที่ดี ถ้าใครไม่มี ก็ให้ลงรถที่ศูนย์ราชการ ทำบอร์ดเดอร์ พาส ก่อน
แล้วค่อยหารถเข้ามาที่ท่ารถ ค่ะ
ศูนย์ราชการเปิด ตอนเจ็ดโมงเช้านะค่ะ

หลังจากทุกอย่างเรียบร้อย ระหว่างรอรถ ก็เดินไปตลาดเช้าแถว ท่ารถ
ได้ข้าวเหนียวชุปไข่ มาหม่ำ กันหิว ง่ำๆๆๆๆๆ

พอได้เวลารถออก ก็ขึ้นรถ ข้ามไปเวียงจันทน์ ใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงกว่าๆ
ก็ถึง ระหว่างทาง ถึงหน้าด่าน รถก็จะจอดให้เรา ลงประทับตราออกนอกประเทศ
และขึ้นรถต่อ พอถึงด่านลาว ก็ต้องลง เพื่อเสียปี้ เหยียบดิน ท่านละ 40 บาท แล้วประทับตราเข้าประเทศ ลาว

ใช้เวลาไม่อีกไม่นานก็จะถึง ท่ารถของนครเวียงจันทน์
ระหว่างทางรถก็จะจอดให้คนลงบ้าง จอดซื้อของบ้าง
ตอนแรกก็ชะเง้อมองด้วยความสงกะสัยว่า
ไอ้แผ่นๆที่เค๊าซื้อกันนั้นคืออะไร ออกจะดำๆ ไม่น่ากินเอาซะเลย
ถามคนพื้นที่เขาบอกว่า นั่นคือ "หนังควาย" แง๊บบบ น่ากินตรงไหนเนี่ย แอบคิดเอง

พอถึงท่ารถ ก็เหมือนเดิม จะมีรถตุ๊กๆ เดินมาถามเยอะแยะมากมาย ส่วนมาก
จะเป็นตีเหมา ประมาณร้อย สองร้อย แล้วแต่ ค่ะ

แต่วันนั้น เราไม่ยอมเสียเงินค่ารถ ไม่ได้งกนะคะ ก็พอรู้ว่าโรงแรมน่ะ ไม่ได้ไกลมาก
ก็เลยเดินๆๆ ย่ำต๊อก เลี้ยวซ้าย จากท่ารถ
แล้วเลี้ยวขวา ผ่านห้างของประเทศลาว เดินเข้าไปรับแอร์ ซักกาหน่อย
ซักพัก ได้ยินเสียง กริ๊ดดดดด สนั่นห้าง แล้วสาวๆ ก็วิ่งๆๆๆๆๆๆ
ไอ้เราก็ตกใจ นึกว่ามีเรื่องอะไร ที่ไหนได้ ดำ ปกรณ์โลม โดม ปกรณ์ ลัมภ์ ของเรานีเอง ไปย่ำต๊อก ณ ห้างลาวซะด้วย

พอถึงบางอ้อ ก็เดินทะลุห้างออกมา ( ในใจก็อยากไปดูเหมือนกัน แหะๆๆ)
เลี้ยวซ้าย ผ่านโปสเตอร์รูป ฟิล์ม รัฐภูมิ ถ่ายแบบเสื้อผ้า
ใบเบ้อเริ่มเทิ่ม ติดข้างห้าง หันไปก็ยิ้มๆๆ เฮ้อๆ ดาราเรา ดังจัง
เดินไปอีกนิด ก็เลี้ยวขวา เห็นแล้ว
โรงแรม ไซสมบูน โรงแรมที่ใหม่และสะอาดอยู่

ตัดสินใจ เดินเข้าไปถาม แล้วทางโรงแรมก็ให้ราคามา

เราเลยบอกว่า เราเป็นไกด์ ขอส่วนลด ก็ยื่นบัตรให้ดู แล้วบอกว่า เรามาทำคอนแทรคด้วย ขอแบบพิเศษ
ก็ได้ราคามาแบบต๊กอกต๊กใจ ฮ่าๆๆๆๆ ถูกกว่า บังกะโลแถบชะอำ วันหยุดอีกแฮะ อิอิ มีอินเตอร์เน็ตให้เล่นฟรีด้วย
แง๊บบบ ถูกใจโจ๋ ไม่พอ มีอาหารเช้าให้อีกต่างหาก เอิ๊กๆๆๆ ถูกใจไปใหญ่

ได้ห้องเสร็จ ก็ขึ้นไปเก็บข้าวเก็บของ แล้วลง มาคุยเรื่องงานนิดหน่อยๆ
เสร็จแล้วก็เปิดแอร์ นอนหลับ เอิ๊กๆๆ

ตื่นอีกที ก็ บ่ายๆ แล้วก็ออกไปหาข้าวหาปลา ทาน เรียกตุ๊กๆ บอกว่า ไปริมโขง
ตุ๊กๆ ขอ หมื่นกิบ เอิ๊กๆๆ ดีใจๆๆ ในชีวิตได้จ่ายค่ารถครั้งละหมื่น
ต่อราคาลงมาบอกว่า เจ็ดพันห้าร้อยกีบละกัน ไปคนเดียว ตุ๊กๆ ก็ยอม
สรุปจ่ายค่ารถแค่ เจ็ดพันห้าร้อยกีบ หรือ สามสิบบาท ได้ไปชมวิวริมโขง

ไปหาร้านนั่ง สั่ง ไก่ย่าง ข้าวเหนียว กระเพราหมู ราคาเหรอ เหอๆๆๆ ไม่อยากจะพูดถึง
ไก่ย่างราคา สามหมื่นกีบ ประมาณ 120 บาท
ข้าวเหนียว ราคา เจ็ดพันกีบ ประมาณ 25 บาท
กระเพรา ราคา สองหมื่นกีบ ประมาณ 80 บาท
น้ำเปล่า น้ำแข็ง รวมๆ ก็ประมาณ หนึ่งหมื่นห้าพันกีบ ประมาณ 60 บาท
คิดในใจ โห เป็นอาหารที่แพงมากสำหรับหนึ่งมื้อ รวมๆ แล้ว 285 บาท
กับอาหารพื้นๆมาก ๆ หลังจากนั้น ก็ไปร้านมินิมาร์ท ซื้อของตูนไว้เพื่อหิว
พระ
เจ้าเห็นราคาไม่กล้าซื้อ เพราะว่า ทุกอย่างมาจากบ้านเรา
แล้วบวกราคาเพิ่มประมาณ 20% เอิ๊ก ๆๆ เลย์ ถุงละ 30 บาท ที่โน่นขายเกือบ
50 บาท เลยไม่ซื้ออะไร กลับโรงแรมดีกว่า เรียกรถ กลับไปยังโรงแรม
แล้วก็ นั่งเล่นที่โต๊ะหน้าโรงแรม แง๊บๆๆๆ

ขอบอกๆๆๆ สัญญาณฮัชท์ ดีมั๊กๆๆ ใช้โทรกลับเมืองไทย ไม่หักตังค์ ซักกาบาท ชัดเจนยิ่งกว่า อยู่เมืองไทย

เลยให้สมญานามว่า " ฮัชท์ ไม่ชัดเจนในไทย แต่สดใสในลาว" เอิ๊กๆๆๆๆ

โทรๆๆๆ ซักพัก ก็ออกไปเดินเล่นที่ประตูชัย ซึ่งอยู่ไม่ไกลจากโรงแรม

เดินจากโรงแรม เลี้ยวซ้าย ไปถึงแยกก็เลี้ยวขวา แล้วก็เลี้ยวซ้าย สุดโต่ง ก็จะเห็นประตูชัย
อากาศตอนนั้นลมเย็นสบายๆมากกก
ประตูชัยยามค่ำคืน สวยงามพอสมควร เพราะเป็นเหมือนสวนสาธารณะ
ขึ้นบันไดไปข้างบนประตูชัย มองวิวทิวทัศน์ยามค่ำคืนก็ได้บรรยากาศดีอยู่
คิดในใจ ไม่น่าลืมกล้องถ่ายรูปเล๊ย

ซัก
พักก็ลงมาด้านล่าง ในสวน จะมีการเปิดเพลงลาวด้วย
แล้วก็มีคนเดินเล่นเต็มไปหมด ที่ต๊กใจ ก็คือ หนุ่มลาว หน้าตาดี
เสียอย่างเดียวตัวกะเปี๊ยก เดินเกี่ยวก้อยกันด้วย ตอนแรกนึกว่าตาฝาด
ขยี้ตาดูแล้วก็ไม่ฝาด ตัดผมแนวเกาหลี เจาะหูข้างหนึ่ง เดินจูงมือกัน งุงิ

ทำให้เราคิดว่า เอ้อ เน๊อะ ลาว พัฒนาแฮะ
ตึกรามบ้านช่องก็ต่างจากที่เคยมา เมื่อก่อน
ตอนนั้นยังไม่ค่อยมีตึกสูงๆเท่าไหร่ ตอนนี้ลาวมีสิ่งก่อสร้างใหม่ๆ
มากมายเลย ค่ะ

อยู่ที่นั่นซักพัก ก็เดินกลับ โรงแรม แล้วก็ขึ้นห้องอาบน้ำ นอน
ระหว่างเดินกลับ สองทุ่มกว่าๆ ร้านรวง ทุกแห่งปิดหมด บ้านเมืองเงียบมากก
เงียบมากกว่ากรุงเทพฯ ช่วงปฎิวัติ ซะอีก เอิ๊กๆๆๆ

ลืมบอกไปค่ะว่า โรงแรมแห่งนี้มีให้พร้อม ทั้ง เซ็ต แปรงฟัน ยาสีฟัน หวี แชมพู สบู่ ผ้าเช็ดตัว ดีจัง แฮะ

ก่อนนอนก็ดูนั่น โน่น นี่ ทีวีก็ทีวีไทยนี่แหละค่ะ ไม่พลาด แถมทรู วิชั่นด้วยนะ ขอบอก อิอิ

ได้เวลา พักผ่อน ราตรีสวัสดิ์

ตื่นมาตอนเก้าโมงกว่า ๆๆๆ อาบน้ำ แต่งตัว ลงไปทานข้าวเช้า อาหารก็พอทานได้ค่ะ
มีข้าวเปียก ผัดมักโรนี ผัดผักรวม ไส้กรอก ไข่ดาว และอื่นๆ แต่ไม่ถึงสิบอย่างนะคะ และมี ชา กาแฟ ค่ะ

ซัด ข้าวเปียกไปสองถ้วย และกาแฟ หนึ่งแก้ว ก็ขึ้นห้อง เก็บของ ลงมาเช็คเอ๊าท์ วันนั้นที่โรงแรม
มีการถ่ายทำรายการอะไรไม่รู้ของลาวด้วยค่ะ ช่างกล้องเดินให้วุ่นหมด

จ่ายเงินจ่ายทองเสร็จ ก็ออกเดินออกไปท่ารถ
ซักพัก พนักงานโรงแรมก็ขับมอเตอร์ไซด์ เอาพาสปอร์ตมาให้ แหะๆๆ ลืม

แล้วก็ไปซื้อตั๋วกลับ ถึงท่ารถหนองคาย ราคา 17000 กีบ
ตามเดิมเลยค่ะ จะมีคนขับตุ๊กๆๆ มาบอกว่า เต็ม มีรอบเย็นๆ
แล้วให้เราเหมารถเค๊าไปหน้าด่าน อย่าเชื่อนะคะ เดินไปถามเลยค่ะ เพราะยังไงก็ไม่เต็ม

พอ
ได้เวลารถออก ก็ขึ้นรถ ขากลับจะเป็นรถแอร์ค่ะ
ก็ประมาณรถเมล์แอร์สีน้ำเงินบ้านเราน่ะค่ะ แล้วก็เหมือนเดิม
ผ่านพิธีศุลกากร แล้วก็ถึงท่ารถหนองคาย ใช้เวลารวมๆ ก็ประมาณชั่วโมงกว่า ๆๆ

แล้วก็ไปซื้อตั๋ว แบบเดิมกลับ ราคาเท่าเดิม เป๊ะ ขึ้นรถ ทุ่มครึ่ง ถึงกทม ประมาณ ตีสามกว่าๆๆ

จบทริป ย่ำต๊อก ออกเดินทาง ไปยัง ลาว

รวมค่าใช้จ่าย ประมาณ 2,200 บาท แยกได้ประมาณนี้

ค่ารถ ไปกลับ กทม - หนองคาย 1200 บาท
ค่ารถ ไปกลับ หนองคาย - เวียงจันทน์ 123 บาท
ค่าย่ำแดนลาว 40 บาท
ค่าโรงแรม 400 บาท
ค่า รถไปทานข้าว 60 บาท
ค่า อาหารเย็น 285 บาท
ที่เหลือเป็นค่าอะไรเล็กๆน้อยๆ

ก็สนุกดีค่ะ สำหรับการเดินทาง
ถ้าไปหลายคนคงสนุกและประหยัดกว่านี้ค่ะ
เพราะว่า โรงแรม 5 เตียง สามารถต่อราคาซะจน ต๊กใจ เหอๆๆๆ

ไว้ไปไหนจะมาเล่าให้ฟังต่อนะคะ

Create Date : 22 กันยายน 2553		11 comments
Last Update : 22 กันยายน 2553 18:56:42 น.
Counter : 959 Pageviews.
Share Tweet