Group Blog
 
<<
สิงหาคม 2552
 1
2345678
9101112131415
16171819202122
23242526272829
3031 
 
16 สิงหาคม 2552
 
All Blogs
 
ณ พื้นที่ร้านตัดผม




วันนี้ หลังจากที่โรยราจากการบ้านอันมากมาย และการทบทวนอันน่าปวดหัว เพื่อเตรียมสอบย่อยในวันรุ่งขึ้น
ฉันตัดสินใจลุกจากเก้าอี้ที่ร้อน เนื่องจากนั่งมานาน
เดินไปร้านตัดผมข้างบ้าน แน่นอน เพื่อตัดผม...

ฉันไม่รู้ว่าตัวเองยืนอยู่หน้าร้านนานเท่าไร กว่าจะตัดสินใจเดินเข้าไปในร้านได้
ฉันจำได้ดี ร้านนี้เคยตัดผมให้ฉันเสียจนสั้นจุ๊ดจู๋
สั้น เลยติ่งหูขึ้นไปอีก ทำเอาฉันโดนเพื่อนล้อแทบแย่


แต่วันนี้ ฉันไม่มีทางเลือก ร้านอื่นปิดหมดแล้ว เหลือร้านนี้เพียงร้านเดียว และที่สำคัญพรุ่งนี้ที่โรงเรียนตรวจผม
ฉันกลั่นใจเดินเข้าไปในร้าน
เอาเหอะ หมดตัวเลือกแล้วนี่
ฉันเดินเข้าไปอย่างเซ็งๆ

หากทุกอย่าง กลับไม่เป็นไปตามที่ฉันคิด
พี่ที่ตัดผมทักทายฉันอย่างดี แถมด้วยยิ้มกว้างให้ฉันอีก ฉันจึงอดไม่ได้ที่จะยิ้มตอบพี่เค้าไป
“ไม่เจอกันนานเลยนะ” พี่เขาพูดขึ้น ขณะที่มือวุ่นอยู่กับผมของฉัน
“ค่ะ”
“อยู่ม.ไหนแล้วเนี่ย”
ฉันก็ตอบไปตามความจริง “ม.5ค่ะ”
“แล้วคิดไว้บ้างหรือยังว่าอยากเรียนอะไร”
คำตอบแล่นขึ้นมาในหัวทันที ฉันมีคำตอบอยู่แล้วในใจ แต่คำพูดที่ออกมาคือ
“ก็คิดไว้บ้างแล้วค่ะ แต่ก็ยังไม่แน่ใจ”
ฉันไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ว่าทำไมไม่ตอบไปตามตรง
“พอจะแง้มๆให้พี่ฟังบ้างได้ไหม”
นั่นแล ฉันจึงได้ตอบไปตามตรง

“พี่ว่าเด็กสมัยนี้โชคดีจะตาย อยากเรียนอะไรก็ได้เรียน พ่อแม่เตรียมพร้อมที่จะสนับสนุนอยู่แล้ว”
ต้องมีความมานะมากพอด้วย ฉันต่อในใจ
“ไม่เหมือนสมัยพี่ พี่ได้เรียนในสิ่งที่พี่ไม่ชอบเลยซักนิด พี่เลยต้องมาทำร้านตัดผมอยู่นี่ไง ใช่ว่าจะไม่ชอบหรอกนะ แต่งานนี้มันไม่มั่นคง ไม่รู้เราจะไม่ไหวตอนไหน”
“ค่ะ” ฉันตอบพร้อมรอยยิ้ม เริ่มรู้สึกดีกับพี่เขาขึ้นมาหน่อย
“รู้ไหม เป็นนักเรียนน่ะดีจะตาย มีหน้าที่เรียนอย่างเดียว พ่อแม่ส่งเงินให้ ไม่ต้องรับผิดชอบมากอย่างตอนนี้แบบพี่ พี่น่ะนะอยากกลับไปเรียนจะแย่ พี่ชอบเรียนนะ สนุกดี”
คำพูดของพี่เขา ทำให้ฉันนึกถึงบทสนทนาระหว่างเพื่อนๆทันที




“ใครว่าเป็นนักเรียนสบาย สบายตรงไหนเหนื่อยจะแย่ งานก็เยอะ สอบก็ทุกวัน นอนก็แทบไม่ได้นอน เราจะตายอยู่แล้ว”
“เออ เมื่อไรจะจบมัธยมสักทีก็ไม่รู้ เราอยากเรียนมหาลัยฯแล้วเนี่ย จะได้จบๆทำงานซักที”
ฉันนั่งฟังเงียบ ไม่เอ่ยอะไร พลางคิด

ฉันเคยได้ยิน ผู้ใหญ่หลายคนพูดอยากกลับไปเป็นเด็กนักเรียน
ฉันคิดว่าอีกไม่นานนักหรอก วัยนักเรียนนี้ก็จะผ่านพ้นไป แล้วก็ไม่สามารถย้อนกลับมาได้อีก
เรื่องอะไรที่เราจะต้องมานั่งบ่นถึงอนาคต ที่เราคิด ว่าจะสบาย
ในเมื่อปัจจุบันคือสิ่งที่เราควรเก็บเกี่ยวให้ได้มากที่สุด
เพราะไม่ว่าอย่างไร
ช่วงเวลาของอนาคตก็ต้องมาถึงอยู่ดี
และปัจจุบันก็จะกลายเป็นอดีตที่เราไม่สามารถย้อนกลับไปได้

ฉันไม่อยากโตขึ้น แล้วมาบ่นว่า อยากกลับไปเป็นนักเรียนอีก
ในขณะที่ตอนเป็นนักเรียน บ่นถึงวัยทำงานหนักหนา !
อย่างนี้ ดูเป็นคนกลับกลอกพิกล




“พี่ว่าจะสมัครเรียนเพิ่มอีก เรียนรามนี่แหละ เพื่อนพี่หลายคนบอกว่า ทำเสริมสวยอยู่แล้ว จะไปเรียนอีกทำไม แต่พี่ว่าเรียนไว้ก็ไม่เสียหายนี่นา สมองเราจะได้ไม่ฝ่อด้วย น้องว่าไหม”
เสียงพี่เขาปลุกฉันออกจากความคิด
“จริงค่ะ มีความรู้เพิ่มขึ้น เป็นสิ่งดีออกค่ะ” ฉันพูดพร้อมส่งรอยยิ้มกว้างให้พี่เขา

ฉันเดินออกจากร้านตัดผมด้วยอารมณ์ชื่นมื่น
ระหว่างทางเจอคุณลุงที่เป็นเพื่อนพ่อ
“อยากเรียนอะไร”
อีกครั้งที่ฉันได้รับคำถามนี้ ครั้งที่2แล้ว
อยากจะเบื่อ แต่ก็เบื่อไม่ได้
รู้ดีว่า ฉันคงต้องตอบคำถามนี้ไปอีกนาน อย่างน้อยก็จนกว่าจะจบม.6

ฉันนึกถึงคำพูดของเพื่อน
“เมื่อไรจะจบซักที”
สำหรับช่วงเวลานั้น เราอาจจะนับได้
แต่สิ่งที่ได้รับระหว่างนั้น เราไม่สามารถนับได้เลย


ทุกวัยของชีวิต มีประสบการณ์แตกต่างกันออกไป
ป่วยการที่จะนั่งฝันถึงอนาคต และละเลยปัจจุบัน
วันของอนาคต กำหนดที่ปัจจุบัน โดยมีอดีตเป็นบทเรียน
ดังนั้น ทำปัจจุบันให้ดีที่สุด
คือทางเลือกสำหรับการก้าวเดินของชีวิตในทุกๆวัย

คือทางเลือก....ที่เราเลือกได้






Create Date : 16 สิงหาคม 2552
Last Update : 16 สิงหาคม 2552 23:53:57 น. 4 comments
Counter : 537 Pageviews.

 
จริงอยู่ ป่วยการที่จะนั่งฝันถึงอนาคต
แต่อย่างน้อยเราละเลยปัจจุบันไปไม่ได้หรอก
วันพรุ่งนี้ไม่เคยมาถึง เช่นเดียวกับที่ชีวิตมักตื่นขึ้นมาพบ "วันนี้" เสมอ
แต่ก็อดไม่ได้นี่นา ที่จะเฝ้าฝันถึงอนาคต เพื่อให้จิตใจที่ห่อเหี่ยวได้รู้สึกดีขึ้นบ้าง ก็เท่านั้นเองนะ


โดย: yafi IP: 61.19.70.6 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:13:38:40 น.  

 
กว่าจะถึงวันนั้น วันอำลาจากการเป็นนักเรียน เปลี่ยนสถานะเป็นนักศึกษา

" อยากเรียนอะไร " เป็นคำถามยอดฮิตของพวกผู้ใหญ่ ที่สำหรับเราแล้ว ยังไม่มีแม้คำตอบให้กับตัวเอง...


โดย: yafi IP: 61.19.70.6 วันที่: 18 สิงหาคม 2552 เวลา:13:45:30 น.  

 
ทำหน้าที่ของตัวเองให้ดีที่สุด ดีแล้จ้า ส่วนที่จะเรียนอะไรดี เฮ้อ..เป็นคำถามที่เคยเซ็ง


โดย: จอมมารขาวดำ วันที่: 20 สิงหาคม 2552 เวลา:12:39:27 น.  

 
จริงแหละ


เราอยากจะเก็บภาพความทรงจำดีๆๆเหล่านี้ไว้


จะได้ไม่เสียใจในอนาคต

เวลาย้อนมาดูตอนแก่ๆ


โดย: เพื่อนร่วมชั้น IP: 118.173.52.147 วันที่: 21 สิงหาคม 2552 เวลา:20:47:04 น.  

ชื่อ :
Comment :
  *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

บุยบุย
Location :
ตรัง Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




ใครผ่านมาทางนี้
มาร่วมไต่ฝันด้วยกันไหม?

ฉันขอบอกกับเธอว่า...

หนังสือคือเพื่อนที่อ่อนหวานและไม่ตำหนิติเตียนสำหรับคนที่มีความทุกข์

และถ้าหนังสือไม่สามารถทำให้เราชื่นชมกับชีวิตได้

อย่างน้อยพวกเขาก็จะสอนเราให้รู้จักอดทนต่อชีวิต

(จี.เค.เชสเตอร์ตัน /นักเขียนนวนิยายและความเรียงชาวอังกฤษ)
Free Clock
Friends' blogs
[Add บุยบุย's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.