ผมเจอดิคาปริโอ....กรี๊ดดดดด
ตอนนี้เธอกำลังง่วนกับการศึกษาการจัดตั้งบริษัทใหม่ของเธออยู่ ไอ้เราก็ไม่อยากยุ่ง หายหัวไปต่างจังหวัด 3 วัน ไม่ได้คุยกันเท่าไรเพราะเน็ตแย่มากมาย ก็ได้แค่คิดถึงๆ อดใจรอกระทั่งกลับมาถึงกรุงเทพ ถึงได้เจอกันให้หายคิดถึง แต่ด้วยความที่เราเหนือ่ยจากการเที่ยว เอ๊ย ทำงานต่างจังหวัดเลยง่วงเข้านอนตั้งแต่ 4 ทุ่ม บอกแฟนว่าไอง่วง ขอนอนก่อนนะพรุ่งนี้ค่อยเจอกันละกัน หุหุ
ตื่นนอนมาเช็คเมล คุณแฟนส่งมาหาตั้งแต่เช้าบอกว่าไปกินข้าวกับ Jarrod และเมีย เราก็ไม่ว่าทำนั่นทำนี่รอ พอคุณแฟนมาถึงก็โทรมาบอกว่ามาถึงแล้วพร้อมกับเล่าด้วยน้ำเสียงตื่นเต้นว่าไปเจอ ดิคาปริโอ โอววว เราก็กรี้ดดดด รีบถามว่าเค้ามาเมืองยูเหรอ ยังไง ทำไม เจอที่ไหน รีบเล่าๆๆๆ คุณชายขำก๊ากบอกว่า เจอในหนังอินเซพชั่น พูดจบก็หัวเราะเรา นี่ถ้าอยู่ใกล้ๆจะให้มะเหงกไปหนึ่งกระบุง หลอกชั้นได้นะ เราก็นึกว่าเจอตัวจริง
ถามได้ความว่า Jarrod อดีตเพื่อนร่วมงานที่เป็นผู้ช่วยแฟนโทรมาชวนไปกินข้าวด้วย คุณแฟนก็รับปากดิบดี กินข้าวเสร็จเค้าชวนดูหนังก็ดั๊นไปกะเค้าอีก เพราะบอกนั่งกลางด้วยเปล่าเนี่ย เป็น กขค เค้าไม่รู้ตัวนะยู แฟนบอกเปล่าๆๆเค้าเต็มใจชวน เค้าเองก็ว่างเลยไม่ปฎิเสธ เราฟังแล้วก็นึกสงสารบอกว่าถ้าไออยู่ด้วยก็คงดีเราจะได้ไปด้วยกัน (ไม่รู้ว่าคุณชายอยากไปด้วยรึเปล่าแต่เราอาสา 555)
แฟนบอกจะรีบขอวีซ่าคู่หมั้นให้ไวๆไม่น่ามีปัญหาอะไรล่าข้า ไม่เกิน 6 เดือนก็คงเสร็จ เราไม่อยากอะไรมากเพราะคุณแฟนเป็นทนายความ แนะนำไรไปเดี๋ยวหาว่าสอนจระเข้ให้ว่ายน้ำ เลยปล่อยให้คุณชายแกบรรเลงไปเอง ส่วนเราก็แค่ถามความคืบหน้า เห็นว่าพรุ่งนี้จะโทรไปถามเพื่อนที่เป็นทนายด้าน Immigration คนนี้เคยเมลมาบอกเราตอนเราจะทำวีซ่าท่องเที่ยวหนนึง เป็นคนน่ารักทีเดียวแฟนบอก เราเองก็อยากไปอยู่กับแฟนเต็มที (แบบว่าความรักมันสุกงอม 555)