|
| 1 | 2 | 3 | 4 |
5 | 6 | 7 | 8 | 9 | 10 | 11 |
12 | 13 | 14 | 15 | 16 | 17 | 18 |
19 | 20 | 21 | 22 | 23 | 24 | 25 |
26 | 27 | 28 | 29 | 30 | |
|
|
|
|
|
|
|
★...เมื่อเคราะห์มาเยือน...★
ชายหนุ่มคนหนึ่ง อายุ ๒๙ปี ทำงานในบริษัทแห่งหนึ่ง ได้รับการทำนายจากหมอดูว่า กำลังมีเคราะห์ ห้ามขับมอเตอร์ไซค์ คุณแม่จึงพาลูกชายไปสะเดาะเคราะห์ โดยการใช้ผ้าขาวคลุม แล้วพระก็จะสวด เรียกว่าบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น แต่พอถึงวันคล้ายวันเกิด ชายหนุ่มคนนี้ได้ดื่มเหล้าและขับมอเตอร์ไซด์ ไปฉลองวันเกิด
รถเกิดเสียหลักพุ่งไปชนกับรถ 6 ล้อของกรมทางหลวง ซึ่งจอดอยู่บริเวณเกาะกลางถนน ศีรษะกระแทกพื้น ไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาลในวันคล้ายวันเกิดของตัวเองพอดี
พี่สาวของผู้เสียชีวิต ได้ส่งคำถาม มายังพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ ว่า 'คุณแม่ได้พาไปสะเดาะเคราะห์แล้ว แต่ทำไมจึงช่วยไม่ได้? แล้วการสะเคาะเคราะห์ต่ออายุ ที่เรียกว่าบังสุกุลตาย บังสุกุลเป็น ตามที่วัดหลายแห่งทำอยู่นั้น ช่วยต่ออายุได้จริงหรือไม่คะ? และการสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ ที่ถูกต้องและดีที่สุดควรทำอย่างไร?'
คำตอบ คือ คุณแม่พาน้องชายสะเดาะเคราะห์ ด้วยการบังสุกุลตาย-บังสุกุลเป็นหลายแห่งนั้น ก็ไม่ได้ช่วยสะเดาะเคราะห์ ช่วยได้แค่ทำให้สบายใจขึ้นเท่านั้น การสะเดาะเคราะห์ที่ถูกต้องนั้น ต้องสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา เป็นต้น เป็นหลัก บุญนี้จึงจะเกิดขึ้นแล้วไปตัดรอนวิบากกรรมเก่า ให้หนักเป็นเบา เบาเป็นหาย ตายก็ไปดี
การสั่งสมบุญทุกบุญ ทั้งทาน ศีล ภาวนา สามารถไปตัดรอนวิบากกรรมเก่าได้อย่างไร เรื่องนี้ มีคำตอบค่ะ
คุณศรีสมร สุนทรวิทยา พยาบาลวิชาชีพ ได้เล่าว่า เมื่อวันที่ ๑๑ มีนาคม พ.ศ.๒๕๔๘ น้องชายของเธอ ป่วยมาก มีอาการท้องอืด แน่นจนนอนราบไม่ได้ ต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา ถ่ายอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ แพทย์สงสัยว่าลำไส้อุดตัน ต้องรีบทำการผ่าตัดด่วน แต่เมื่อหมอเปิดหน้าท้องเข้าไป ก็ไม่พบบริเวณที่ลำไส้อุดตัน แต่พบว่าตับอ่อนและลำไส้บริเวณใกล้ตับอ่อนบวมอักเสบมาก ลำไส้จึงไม่ทำงาน ของเสียในกระเพาะและลำไส้จึงออกมาไม่ได้ หมอต้องรีบปิดหน้าท้อง ไม่กล้าไปแตะอวัยวะภายในมาก เพราะกำลังอักเสบอยู่ คุณหมอที่ผ่าตัดพูดว่า ถ้าผ่าตัดเข้าไปแล้วเห็นลำไส้อุดตัน ยังสบายใจกว่า เพราะตัดที่อุดตันแล้ว ต่อลำไส้ยังง่าย แต่นี่ลำไส้และตับอ่อนบวมอักเสบมาก ดังนั้นภายใน ๗ วันนี้ หมอยังไม่รับรองความปลอดภัย ถ้าให้ยาปฏิชีวนะแล้ว ลำไส้และตับอ่อนหายอักเสบได้ก็นับว่าโชคดี แล้วก็โหมให้ยาปฏิชีวนะเป็นอย่างมาก
หลังผ่าตัดมีโรคแทรกซ้อน น้ำท่วมปอด มีความหวังแค่ ๕๐% สภาพของน้องชายขณะนั้น ต้องใส่ท่อเครื่องช่วยหายใจ เพราะปริมาณออกซิเจนในกระแสเลือด เหลือประมาณ ๘๘-๙๒% เท่านั้น (ค่าปกติ ๙๘-๙๙% ) มีสายต่อเข้าไปถึงกระเพาะเพื่อระบายของเสียออก แต่มีของเสียออกมาได้น้อยมาก ใส่สายสวนปัสสาวะก็มีเลือดสีแดงออกมาปนกับน้ำปัสสาวะ ต้องงดอาหาร ให้แต่น้ำเกลือกับยาปฏิชีวนะเต็มที่ หนึ่งคืนหลังผ่าตัด ถึงแม้น้องชายจะรู้ตัวแต่ก็พูดไม่ได้ กระสับกระส่าย ทนทุกข์ทรมาน เมื่อประมาณเวลาตีสามของวันที่ ๑๓ มีนาคม น้องชายแสดงกิริยาว่าจะบอกอะไรบางอย่างแก่คุณศรีสมร (ซึ่งเป็นพยาบาลและได้เฝ้าไข้เองตลอดเวลา) เธอจึงส่งปากกาและกระดาษให้เขียนว่าต้องการอะไร น้องชายเขียนว่า นอนไม่หลับเลย ทรมาน อยากตาย คุณศรีสมรได้ เตือนสติน้องชายว่า "อย่าคิดอย่างนี้รู้ไหม นี่ไม่ใช่ความคิดของฝ่ายบุญเป็นความคิดของฝ่ายตรงข้าม อย่าให้มันเข้ามาช่วงชิงใจเรา ให้นึกถึงบุญที่เคยบวชเรียน เพื่อทดแทนพระคุณพ่อแม่ นึกถึงบุญทอดกฐิน บุญเสาแก้ว บุญสร้างพระธรรมกายประจำตัวภายนอกและภายในซิ" เธอพูดถึงบุญ กระซิบที่ข้างหู แต่น้องชายของเธอส่ายหน้า น้ำตาไหล ยืนยันเหมือนจะพูดว่า "มันทรมานเหลือเกิน ไม่ไหวแล้ว" คุณศรีสมรจึงโทรศัพท์บอกพระน้องชายที่อยู่เชียงใหม่ ให้รีบพาคุณแม่มาเร็วๆ พระน้องชายบอกลูกว่า ให้ทำบุญองค์พระภายในทันทีอย่างรีบด่วนให้ได้ ๑๐ องค์ในวันนี้ และให้ รีบโอนเงินทันทีอย่ารอช้า โดยสร้างพระถวายพระเดชพระคุณหลวงปู่ฯ ๑ องค์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อธัมมชโย ๑ องค์ พระเดชพระคุณหลวงพ่อทัตตชีโว ๑ องค์ คุณยายอาจารย์ ๑ องค์ คุณยายทองสุก สำแดงปั้น ๑ องค์ และชื่อน้องชายที่ป่วย ๕ องค์ รวมเป็น ๑๐ องค์ ถวายภัตตาหารพระ ๗ วัน ปล่อยปลา และจุดชวาลบุญบูชามหาธรรมกายเจดีย์ เธอจึงบอกบุญนี้กับน้องชายที่กำลังป่วยและน้องสะใภ้ ซึ่งเขาทั้งสองก็เต็มใจ และเมื่อพระน้องชายเดินทางมาถึง น้องชายที่ป่วยก็ได้ถวายปัจจัยกับพระน้องชายด้วยมือของเขาเอง ด้วยความเคารพ พระน้องชายของเธอ มายืนอยู่ข้างเตียง จับมือน้องชายที่ป่วย พูดให้นึกถึงบุญ นึกให้ลมหายใจใสเป็นแก้ว เข้าทางช่องจมูกไปถึงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ และกลั่นศูนย์กลางกายให้ใส เมื่อหายใจออก...ก็เอาธาตุที่ไม่บริสุทธิ์ที่ศูนย์กลางกายออกให้หมด พระน้องชายพูดอยู่ประมาณ ๑ ชั่วโมงเศษ น้องชายที่ป่วยก็รู้สึกโล่งๆ เมื่อน้อมใจไปตามเสียงสักครู่...ปรากฏว่าของเสียที่คั่งอยู่ในกระเพาะอาหารและลำไส้ เริ่มเคลื่อนไหว ไหลออกมา คุณศรีสมรเห็นกับตา อัศจรรย์ใจมาก ของเสียที่ออกจากกระเพาะอาหาร ไหลออกมาตามสายยางเป็นสีดำข้นเหนียว ไหลออกมาอย่างง่ายดาย ซึ่ง ก่อนหน้านี้แทบไม่มีให้เห็นเลย ส่วนทางลำไส้ก็เริ่มเคลื่อนไหวออกมาเป็นอุจจาระสีดำเหลวข้น เหมือนกับที่ออกมาจากกระเพาะอาหาร ทั้งๆที่ก่อนหน้านี้ ลำไส้ไม่ทำงานเลย อุจจาระสีดำเหลวไหลออกมาประมาณ ๓๐ ครั้ง จากนั้นน้องชายก็ค่อยๆดีขึ้น หน้าที่บวมเขียวคล้ำก็ค่อยๆมีสีแดงขึ้น ลืมตาได้อย่างอัศจรรย์ รวมเวลาที่อยู่โรงพยาบาล ๒๐ วัน จึงออกจากโรงพยาบาลได้
คุณศรีสมรได้มีคำถาม มายังพระเดชพระคุณหลวงพ่อ คุณครูไม่ใหญ่ ดังนี้
๑. บุพกรรมใดน้องชายจึงป่วยหนัก? ตับอ่อนและสำไส้อักเสบ บวม จนอุจจาระปัสสาวะไม่ได้ ขณะที่พระน้องชายนำน้องชายให้นึกถึงบุญ และนึกถึงศูนย์กลางกายฐานที่ ๗ ทำไมถึงมีของเสียสีดำๆ ไหลออกมาได้ แล้วอาการก็ดีขึ้น?
๒. หากไม่ได้สร้างองค์พระ น้องชายจะเป็นอย่างไรบ้าง? และหากสร้างพระเพียงแค่องค์เดียวจะรอดไหมคะ? การสร้างพระถึง ๑๐ องค์ บุญจะแตกต่างกับการสร้างเพียงแค่องค์เดียวสิบเท่าไหม? และบุญที่ได้จากการสร้างพระอุทิศถวายมหาปูชนียาจารย์ กับ สร้างให้ตนเอง จะได้อานิสงส์ที่แตกต่างกัน หรือไม่? อย่างไร?
คำตอบ
๑. น้องชายป่วยหนัก ตับอ่อนและลำไส้อักเสบบวม จนอุจจาระ ปัสสาวะไม่ได้ เพราะกรรมในอดีตชาติหนึ่งได้เกิดเป็นชายหนุ่มที่มีนิสัยห้าว นักเลง เคยมีเรื่องทะเลาะกับคู่อริ แล้วก็ แทงคู่อริด้วยเหล็กแหลม ไปยังอวัยวะตรงที่น้องชายมีอาการอักเสบบวมในปัจจุบัน จนทำให้คู่อริ เลือดตกใน ตาย
อันที่จริงวิบากกรรมนี้จะต้องทำให้ถึงตาย แต่ด้วยบุญที่สร้างองค์พระและบุญทุกบุญที่พี่สาวและพระน้องชายแนะนำ ทำให้เกิดบุญปัจจุบันทันด่วน ช่วยตัดวิบากกรรมที่กำลังส่งผลให้หยุดทำงาน จึงทำให้ของเสียสีดำไหลออกมา แล้วก็ทำให้อาการน้องชายดีขึ้น
๒. หากไม่ได้สร้างองค์พระน้องชายก็ต้องตาย เพราะกรรมในอดีตชาติ ทำให้เขาถึงตายหากน้องชายสร้างองค์พระเพียงองค์เดียว ก็ไม่แน่ว่าจะรอด เพราะบาปมีกำลังแรงมาก การสร้างองค์พระ ๑๐ องค์นั้น ไม่ได้แปลว่า ได้บุญสิบเท่าของการสร้างองค์พระ ๑ องค์ เพราะมีปัจจัยหลายอย่างมาเกี่ยวข้อง เช่น เจตนาของผู้ทำ ความบริสุทธิ์ของวัตถุทาน และบุคคลบริสุทธิ์ทั้งผู้รับและผู้ให้ เป็นต้น บางคนอาจจะได้บุญน้อยกว่า บางคนอาจจะได้บุญมากกว่าเป็นร้อยเป็นพันเท่า การทำบุญให้กับตนเองก็ได้บุญชั้นเดียว แต่ถ้าทำถวายมหาปูชนียาจารย์ก็จะได้บุญ ๒ ชั้น
ตั้งแต่โบราณมา ชาวพุทธเชื่อกันว่า บุญจากการสร้างพระพุทธรูป ไม่ใช่ บุญธรรมดาสามัญ แต่เป็นบุญใหญ่ ที่สามารถพลิกชีวิต ให้เปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดียิ่ง ๆ ขึ้นไป ชาวพุทธต่างล้วนปรารถนาที่จะสร้างพระพุทธรูป ถวายเป็นพุทธบูชาอย่างน้อยครั้งหนึ่งในชีวิต วันวิสาขบูชา ๘ พฤษภาคม ๒๕๕๒ นี้ เป็นโอกาสอันดียิ่ง ที่ท่านจะได้สร้างพระพุทธรูป ซึ่งเป็นพระประจำตัวของท่านเอง (จารึกชื่อ-สกุล ผู้สร้างไว้ที่ฐานองค์พระ) และอัญเชิญไปประดิษฐานภายในมหาธรรมกายเจดีย์ ไว้เป็นที่เคารพ สักการะ ของมหาชนตลอดกาลนาน ซึ่งจะส่งผลให้ท่านมีความสุข ความเจริญยิ่ง ๆ ขึ้นไป ทั้งในชาตินี้ และ ภพชาติเบื้องหน้า ตราบเท่าเข้าสู่พระนิพพาน
|
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม กรอกข้อมูลที่นี่ค่ะ
บลอกอื่นที่เกี่ยวข้อง ★...คุณทราบข่าวดีที่สุดในโลกนี้แล้วหรือยัง ?...★ ☆... ก่อนตาย คุณจะนึกถึงเรื่องอะไร?...☆
Create Date : 30 เมษายน 2552 |
|
2 comments |
Last Update : 18 กุมภาพันธ์ 2553 21:19:35 น. |
Counter : 1629 Pageviews. |
|
|
|
|
| |
โดย: just pass by IP: 195.229.235.39 30 เมษายน 2552 5:58:43 น. |
|
|
|
| |
โดย: หนึ่งฤทัย เห็มอ่อน IP: 203.156.32.147 8 พฤษภาคม 2552 8:33:34 น. |
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|
|