Bloggang.com : weblog for you and your gang
...ไม่มีไฟใดเสมอด้วย..ราคะ ...>> ไม่มีโทษใดเสมอด้วย..โทสะ ...>> ไม่มีทุกข์ใดเสมอด้วย..เบญจขันธ์ ...>> ไม่มีสุขใดเสมอด้วย..ความสงบ ...>> พุทธวจนะในธรรมบท <<...
มีคนสงสัยว่า..เราเอาทองแท่งใส่จานไว้ทำไม..??
ก่อนที่เราจะมาใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนอกเมืองนานั้น
เราเป็นคนที่ไม่เคยต้องทำงานบ้านเองเลย
ตื่นเช้าก็ไปทำงาน
เลิกงานกลับถึงบ้าน..น้องๆก็จัดการกับงานบ้านเสร็จไปหมดแล้ว
แต่ถึงแม้ว่าจะไม่เคยทำงานบ้าน
ก็ไม่ได้หมายความว่าเราจะทำงานบ้านไม่เป็นนะจ๊ะ
งานบ้านน่ะทำเป็นหมดทุกอย่างแหละ.. ยกเว้นก็แต่งานในครัว
งานในครัวทำเป็นอยู่อย่างเดียวคือ..ล้างจาน
เรื่องทำอาหารไม่ต้องพูดถึง
กินเป็นอย่างเดียว..แถมไม่อร่อยมีติด้วยนะ.. 555
ญาติผู้ใหญ่รุ่นต่อรุ่นของเราทำอาหารเก่งกันทุกคน
อีกทั้งยังมีชื่อเสียงทางด้านงานฝีมือกันอีกด้วย
ไม่ว่าจะเป็นการร้อยพวงมาลัย/จัดดอกไม้สดในงานพิธีต่างๆ/จัดพาน
แม้กระทั่งงานจากใบตอง เช่น บายศรี ทำกระทง
พี่น้องที่คลานตามกันมาของเราทำงานฝีมือพวกนี้เป็นกันทุกคน
ยกเว้นเราคนเดียวที่ไม่มีหัวทางศิลป์กะเค้า..
กระทงที่ทางบ้านทำไปลอยกระทงกันเมื่อปีที่แล้ว
อันบนทำจากกาบของต้นพลับพลึง ส่วนอันล่างทำจากใบตอง
จนจับพลัดจับผลูได้มาอยู่เมืองนอกมีเวลาว่างมากจนเกินเหตุ
ทำให้นึกอยากจะใช้เวลาว่างที่มีให้เป็นประโยชน์ดูบ้าง
โดยการลองหัดทำในสิ่งที่ยังไม่เคยทำมาก่อนดู
อย่างแรกที่หัดทำเลยก็คือ..อาหาร
ก็จะไม่ให้หัดทำอาหารก่อนได้ไงล่ะ
อาหารฝรั่งเราก็ไม่กิน.. ขนมปังก็กินไม่ได้
ขืนยังทำอาหารไทยไม่เป็นอีกก็มีหวังอดตายน่ะสิ..คิ คิ
เนื่องจากเราชอบกินราดหน้ามาก
อาหารจานแรกที่ลองประเดิมฝีมือเลยก็คือ..ราดหน้า
ผัดเส้น.. ใช้ได้แฮะ สีสันกำลังดี
ผัดหน้า.. รสชาติก็ไม่เลว ผัดเสร็จเติมน้ำแล้วใส่แป้งมัน
คนแล้วคนอีก เอ๊ะ..ทำไมแป้งมันไม่ยอมละลายหว่า
มันจับกันเป็นก้อนๆแก้ยังไงก็ไม่หาย
สุดท้ายต้องยกหูโทรศัพท์โทรไปถามน้องที่เมืองไทย
น้องบอกมาว่า..
แป้งมันน่ะเขาต้องละลายกับน้ำก่อน..ใส่ลงไปเป็นผงๆอย่างนั้นมันก็ไม่ละลายน่ะสิ..
ก๊ากก..อะไรจะโง่ปานนั้นเน๊าะ.. 555
จานนี้ถ่ายรูปไว้ตอนที่ทำเป็นแล้ว.. อิ อิ อิ
ส่วนจานข้างล่างก็เป็นอาหารประเภทเส้นอีกอย่างหนึ่งที่ชอบทำกินบ่อยๆ
เราค่อยๆหัดทำทั้งอาหารไทยและอาหารฝรั่งทีละอย่างสองอย่าง
ได้สูตรอาหารอะไรใหม่ๆมาเราก็จะลองทำดูหมด
กรรมไปตกอยู่ที่พระเอกของเราน่ะสิ
เพราะเขาจะต้องเป็นผู้ตัดสินว่าอาหารชนิดนั้นๆอร่อยหรือไม่
จึงต้องเป็นผู้ประเดิมรสชาติอาหารของเราเป็นคนแรก..
อันไหนพระเอกบอกว่าอร่อย..เราก็จะเก็บสูตรเอาไว้ทำให้กินอีกวันหลัง
อันไหนที่พระเอกบอกว่าไม่อร่อย..เราก็จะโยนสูตรทิ้งไป
จากที่ต้องกางสูตรดูทุกครั้งที่ทำอาหาร
พอเริ่มเก่งขึ้น..นอกจากจะไม่ต้องดูสูตรแล้ว
เรายังริอ่านดัดแปลงสูตรอาหารฝรั่งที่เลี่ยนๆมันๆให้มีรสชาติเข้มข้นขึ้นอีกด้วย
แถมมีแต่คนชมว่าอร่อยซะด้วยนะจะบอกให้..
เวลาทำอาหารค่อยไม่นึกอยากจะถ่ายรูปเอาไว้
พอจะทำบล็อกหารูปอาหารมาโพสต์ไม่ได้ เอาเท่าที่มีก็แล้วกันเน๊าะ..อิ อิ
หลังจากนั้นก็หันมาลองหัดทำงานฝีมือดูบ้าง
เริ่มจากหัดถักโครเชต์โดยอ่านผังลายถักเอาเองจากในหนังสือ
อันนี้ญาติๆพากันงงไปตามๆกัน
เพราะญาติๆถักโครเชต์เป็นแต่อ่านผังลายไม่ออก
เราถักไม่เป็นแต่ดันอ่านผังลายออกซะงั้น..เอิ๊กๆ
ถักผ้าปูโต๊ะผืนแรกเสร็จส่งไปอวดญาติๆที่เมืองไทย
โหย..ตื่นเต้นกันใหญ่
ยายเราไม่เชื่อถึงขนาดออกปากว่า..อย่างเรานี่น่ะหรือจะทำเป็น..555
พอถักเป็นแล้วก็หัดเย็บผ้าด้วยจักร หัดปักลายผ้าด้วยสะดึง
เรียกว่างานเย็บปักถักร้อยนี่เราลองทำอะไรก็ทำได้หมด
ยกเว้นอย่างเดียวที่ทำยังไงก็ทำไม่เป็น นั่นก็คือ..
งานประดิษฐ์พวกดอกไม้สดและใบตอง
ตอนหัดถักใหม่ๆสงสัยผีขยันจะเข้าสิง.. ถักแจกเค้าไปทั่ว..ขยั๊นขยันซะ
แต่พอถักเป็นแล้วผีขยันก็ได้กระโดดออกจากร่างไปแล้วอย่างถาวร..ฮิๆๆ
เอ้า..เข้าเรื่องได้ซะทีเน๊อะ.. เกริ่นออกทะเลไปซะไกล.. ฮิๆๆ
เนื่องจากเราทำอะไรที่เกี่ยวกับใบตองไม่เป็นนี่แหละ
วันหนึ่งเกิดนึกอยากจะกินข้าวต้มผัด
ไปหาสูตรมาดูแล้วก็เห็นว่าทำง่ายๆ
ปัญหามีอย่างเดียวคือ..ทำยังไงจะห่อเป็น
พอดีที่บ้านปลูกต้นกล้วยใส่กระถางไว้ต้นหนึ่ง
เห็นมันมีใบเยอะก็เลยไปตัดมา 5 ก้าน
หลังจากฉีกใบตองออกเป็นชิ้นๆแล้วก็ลองห่อดู
แต่ห่อยังไงก็ห่อไม่ได้
ห่อแล้วเบี้ยวบ้าง
พับแล้วใบตองแตกบ้าง
พับข้างนึงเสร็จ หันไปพับอีกข้าง ใบตองข้างที่พับแล้วดีดออกคืนบ้าง
ใบเริ่มเยอะอีกแล้ว..สงสัยถึงเวลาที่จะต้องทำข้าวต้มผัดอีกแล้ว..ฮิๆๆ
ที่จริงลงรูปเดียวก็ได้เพราะมีต้นเดียว แต่รูปอื่นๆลงเป็นแพ็คคู่ก็เลยต้องลงเป็นคู่มั่ง อิ อิ
ยืนหันรีหันขวางคิดว่าจะทำยังไงดี
สายตาก็ไปสะดุดเข้ากับกระดาษฟอยล์
จึงเกิดไอเดียปิ๊งขึ้นมาทันทีว่าน่าจะลองเอากระดาษฟอยล์มาห่อดู
แต่ข้าวต้มผัดถ้าไม่มีกลิ่นหอมของใบตองมันจะไปอร่อยได้ยังไงล่ะเน๊าะ
เราจึงเอาใบตองวางซ้อนทับบนกระดาษฟอยล์
ใส่ข้าวเหนียวผัด ใส่ไส้กล้วย แล้วจับกระดาษฟอยล์ม้วนเป็นรูปทรงกลม
ม้วนเสร็จพับด้านข้างทั้งสองข้าง ตบเบาๆให้มันแบนเหมือนกลีบข้าวต้ม
เอาไปนึ่งเสร็จแล้วก็เอาออกใส่จานวางทิ้งไว้ให้เย็น
ระหว่างนั้นก็กลัวว่าญาติๆจะไม่เชื่อว่าเดี๋ยวนี้เราทำอะไรกินเองเป็นแล้ว
จึงได้ถ่ายรูปส่งไปอวดญาติๆที่เมืองไทยด้วย..
ญาติเราเปิดดูรูปทางโทรศัพท์มือถือ
เห็นแค่ว่ามันเป็นรูปแท่งๆสีทองๆวางเรียงอยู่ในจาน
ประกอบกับยังไม่ทันได้อ่านข้อความที่เราเขียนกำกับไปด้วยว่าส่งรูปอะไรไปให้ดู
จึงพากันเกิดความสงสัยว่า..เราเอาทองแท่งไปใส่จานไว้ทำไม
หน้าตาทองแท่งของเราก็เป็นเช่นนี้แล..เอิ๊กๆๆ
เริ่มบล็อกแรกของปีก็ไร้สาระก่อนเลยเรา
สงสัยว่าปีนี้จะไร้สาระทั้งปีเป็นแน่..555
Create Date : 08 มกราคม 2556
Last Update : 8 มกราคม 2556 23:52:17 น.
1 comments
Counter : 2942 Pageviews.
Share
Tweet
โดย:
สมาชิกหมายเลข 734522
วันที่: 5 เมษายน 2556 เวลา:3:19:45 น.
ชื่อ :
* blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
*ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
คนร่วมชายคา
Location :
Thailand
Germany
[ดู Profile ทั้งหมด]
ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 10 คน [
?
]
**..นิสัยส่วนตั๊ว..ส่วนตัว..**
ตามใจตัวเองที่ซู๊ดดดด...
รักแมวเป็นชีวิตจิตใจ
อารมณ์ดีเหลือหลาย
(แต่ถ้าร้ายขึ้นมาละก็ให้อยู่ห่างๆนะจ๊ะ)
ความเครียดไม่เคยย่างกรายมาในชีวิต
.. ติดจะบ้าๆ ...
(อย่างหลังต้องทำใจกันหน่อยนะ อิอิ)
**..คติ "ทำ" ประจำใจ..**
Before you speak, listen
Before you write, think
Before you spend, earn
Before you invest, investigate
Before you quite, try
Before you retire, save
Before you die, give
Group Blog
อยากมีสาระ
อยากไร้สาระ
อยากบอก .. อยากเล่า
อยากเรื่อยเปื่อย
อยากขำ... ฮ่าๆๆ
อยากซึ้งมั่ง
อยากกิน .. อยากเที่ยว
มกราคม 2556
>>
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
8 มกราคม 2556
มีคนสงสัยว่า..เราเอาทองแท่งใส่จานไว้ทำไม..??
All Blogs
ไม่อยู่แค่ 3 เดือน.. สามีเปลี่ยนไป..
มีคนสงสัยว่า..เราเอาทองแท่งใส่จานไว้ทำไม..??
มาขึ้นคานกันเถอะ...
เข้าใจเปรียบเทียบแฮะ...เปรียบเปรยได้ดีจัง
ตำนาน...ของขนมครก เรื่องซึ้งปนเศร้า...
Friends' blogs
Webmaster - BlogGang
[Add คนร่วมชายคา's blog to your web]
Links
BlogGang.com
Pantip.com
|
PantipMarket.com
|
Pantown.com
| © 2004
BlogGang.com
allrights reserved.