หนุ่มมาดเท่ห์กับสาวจอมแก่น บทที่ 18






ยามแย้มยิ้มพริ้มพักตร์ประจักษ์เนตร
เกินขอบเขตกักกั้นความหวั่นไหว
เสน่หาน้องนางท่วมกลางใจ
ต่อสิ้นภพจบไปยังไม่จาง


วันนี้แม่กระต่ายน้อยทำเขาแปลกใจถึงสองครั้งภายในเวลาไล่เลี่ยกัน เมื่อสักครู่ถ้าไม่ได้ตาฝาด เขาเห็นหยาดน้ำใส ๆ เกาะพราวที่แพขนตายาวงอนนั้นด้วย นี่ก็อีกครั้ง ใบหน้ารูปไข่หวานละมุ่น ริมฝีปากอวบอิ่มเป็นสีแดงอย่างคนสุขภาพดีเกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มที่แฝงไปด้วยความลึกล้ำบางอย่างจนอยากจะหยั่งได้ แต่กระนั้นแววตากลับไหวระริกปกปิดความหวาดระแวงไว้ไม่มิด ก่อนที่เสียงใสจะเอยแทรกความเงียบขึ้น

“เชิญคุณพูดในสิ่งที่คุณรู้มาเลยจะดีกว่า ถ้าไม่มีอะไรฉันจะได้กลับ”

ชายหนุ่มคลี่ยิ้มนุ่มนวลก่อนที่จะเหลือบมองไปที่แววตาสีน้ำตาลอ่อนที่กำลังไหวระริกของสาวน้อย

“หวานไม่รู้จริง ๆ เหรอ ว่าตัวเองงอนพี่เรื่องอะไร พี่ยังรู้ตัวเลยนะว่าหวานงอน เอ! จะว่าไปแล้วโกรธหรืองอนดีล่ะ?”

น้ำเสียงยั่วเย้า สายคาคมเข้มมองมาอย่างรู้เท่าทันความคิดของสาวน้อย จนคนที่นั่งตรงข้ามออกจะกรุ่น ๆ ด้วยโทสะ ที่ตัวเองพยามปิดบังความรู้สึกไว้ แต่ไม่อาจพ้นสายตาคมเข้มนั้นได้ จึงทำได้ก็แต่ท่าทางกระฟัดกระเฟียด และอดที่จะค้อนด้วยความหมั่นไส้ไม่ได้

“ใครงอนคุณมิทราบ คนหลงตัวเอง”

สาวน้อยแหวอย่างฉุน ๆ ก่อนที่จะสะบัดหน้าไปอีกทาง

“เฮอะ! รู้อยู่แก่ใจ ยังจะมาทำปากแข็ง”

เสียงบ่นอุบอิบอยู่ในลำคอ พร้อมกับกล่าวประโยคต่อมาอย่างยอมแพ้

“เอาล่ะไม่งอนก็ไม่งอน ถือว่าพี่เข้าใจผิดไปเอง นึกว่าจะมีคนหึงซะอีก ไม่ใช่ก็แล้วไป ส่วนเรื่องทั้งหมดหวานคงเข้าใจหมดแล้วซินะออกจะฉลาดนี่นา เรื่องแค่นี้คงไม่ทำให้คนฉลาดเข้าใจผิดอยู่แล้วจริงไหม?”

พูดจบชายหนุ่มก็พิงพนักเก้าอี้ในท่าสบาย ๆ เลิกคิ้วให้อย่างกวน ๆ จนหญิงสาวถึงกับเถียงไม่ออก ในการสรุปดื้อ ๆ ของชายหนุ่ม ถ้าบอกว่างอนก็จะกลายเป็นว่ายอมรับว่าหึง ถ้าไม่ยอมรับก็เท่ากับว่า ตัวเองเข้าใจเรื่องทั้งหมดแล้ว

“บ้า”

พูดได้เท่านั้นหญิงสาวจึงลุกขึ้น โดยมีชายหนุ่มนั่งหัวเราะตามหลัง ก่อนที่เขาจะลุกตามมา

“หวานรอพี่ก่อนซิ”

วันนี้เขารู้สึกสุขใจที่ได้ตามตอแยสาวน้อย เท้าที่ก้าวตามหลังยังเว้นระยะไว้เพื่อความปลอดภัย

“คุณจะไปไหนก็ไปซิ จะเดินตามฉันมาทำไหม”

อีกครั้งที่เขาโดนแม่กระต่ายน้อยแหว สายตาขุ่นเขียวที่มองคงอยากจะกินเลือดเนื้อเขาเต็มที ท่ายืนจังก้าเตรียมพร้อมที่จะเข้ามาเล่นงานเขาได้ทุกขณะ แต่เขากลับเห็นเป็นเรื่องน่าอภิรมย์ที่ได้เห็นความหลากหลายในด้านอารมณ์ของหญิงสาว

“หวานจะไปไหนล่ะ ให้พี่ไปส่งไหม?”

เสียงถามอู้อี้อย่างเกรงใจ

“ไม่ต้อง ถ้าว่างนักก็ไปดูสาวของคุณโน้น”

หญิงสาวตัดบทอย่างไร้เยื่อใย ซึ่งทำให้เขาเองมั่นใจในทันทีว่าสาวน้อยยังคงเข้าใจผิดเรื่องของธัญญา แต่ก็ดีไปอย่างทำให้เข้ารู้ว่าสาวน้อยตรงหน้าคิดอะไร รอยยิ้มอบอุ่นจึงเกลื่อนเต็มใบหน้า นัยน์ตาสีดำสนิททอดมองกอปรไปด้วยความอ่อนหวาน จนหญิงสาวได้แต่มองอย่างงง ๆ ที่จู่ ๆ ชายหนุ่มก็เปลี่ยนท่าทีกะทันหัน จึงหันหลังกลับเดินจ้ำออกไปให้พ้น ๆ จากบริเวณนั้น แต่ยังได้ยินเสียงฝีเท้าเดินตามหลังมา อารมณ์หวั่นไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสบสายตาอ่อนหวานเมื่อสักครู่ ทำให้หญิงสาวหันไปถามไม่ค่อยจะเต็มเสียงนัก

“นี่คุณจะตามฉันไปถึงไหน”

“ก็ตามไปเรื่อย ๆ นั้นแหละ หวานไปไหนพี่ก็ไปด้วย”

รอยยิ้มอบอุ่นยังเกลื่อนอยู่เต็มใบหน้าขณะตอบ

“ตาบ้าไม่มีอะไรทำหรือไงนะ มาเดินตามอยู่ได้”

หญิงสาวบ่นเบา ๆ อย่างรำคาญ ขณะเดินต่อไป แต่กระนั้นคนข้างหลังก็ยังได้ยิน

“ไม่มี ถึงจะเป็นคนบ้าก็ถือว่าเป็นคนบ้าที่หน้าตาดีที่สุดในโลก หวานว่าไหม?”

ชายหนุ่มลอยหน้าตอบ แล้วยังมีหน้าขอความเห็นสาวน้อยอีกด้วย คิดแล้วก็ให้นึกขำตัวเอง ที่เดินตามตื้อสาวยังกับเด็กหนุ่ม ทั้งที่เมื่อก่อนคนที่เดินตามคือแม่กระต่ายจอมแก่นคนนี้

วันนี้หญิงสาวค้อนให้เขาเป็นครั้งที่เท่าไหร่ก็จำไม่ได้ ใบหน้าที่ยิ้มอย่างภูมิในตัวเอง มันน่าหมั่นไส้น้อยเสียเมื่อไหร่

“เอาล่ะ ว่ามาคุณจะเอายังไง”

หญิงสาวสงบสติอารมณ์ตัวเองได้แล้ว จึงหันไปถามเพื่อเรื่องมันจะได้จบ ๆไป

“จะให้เอาไง หวานว่าไงพี่ก็ว่าตามนั้น”

หญิงสาวหญิงยิ้มอย่างมีชัย แต่ซ่อนรอยยิ้มไว้ไม่ให้เขาเห็น ที่เขาตกหลุมพรางเธอบ้างแล้ว

“เอาตามฉัน”

หญิงสาวทวนคำอย่างใจดี

“ใช่”

ชายหนุ่มตอบ แต่ชักเริ่มไม่แน่ใจถึงแม้ท่าทางสาวน้อยเหมือนจะไม่มีอะไร แววตาพราวระยับนั่นมันมีพิรุธจนน่าสงสัย

“ถ้าเอาตามฉัน งั้นก็ต่างคนต่างไป”

หญิงสาวสรุปอย่างรวดเร็วก่อนที่เขาจะคิดตามทัน พร้อมก็เปิดปากหัวเราะอย่างสาแก่ใจ ที่เห็นเขาทำหน้าบอกบุญไม่รับ ชัยชนะเล็ก ๆ น้อย ๆ ทำให้หน้าใบนวลเป็นสีระเรื่อขึ้น นัยน์ตาสีน้ำตาลอ่อนพราวระยับคล้ายเด็กที่ได้ของเล่นถูกใจ

เมื่อเห็นอาการดีใจนออกนอกหน้าของสาวน้อย เขาเลยต้องแกล้งหลงกลเพื่อที่เธอจะเห็นความสดใสในแววตานั้นอีก แม่กระต่ายน้อยจะรู้ตัวไหมนะ ว่าโลกของเขามันสดใสได้ก็เพราะใคร

“อ้าว! เล่นกันแบบนี้ง่าย ๆ นี้ได้ไง”

เขาแกล้งโวย

“ไม่รู่ล่ะ คุณตกลงแล้วนี่ ต่างคนต่างไปนะ”

พูดจบเธอก็วิ่งไปขึ้นรถแท็กซี่ที่จอดส่งลูกค้าอยู่แถวนั้น ชายหนุ่มได้แต่ส่ายหัวให้กับ..อะไรดีล่ะ เขาเองก็ไม่รู้จะบอกกับเธออย่างไรดี ว่าเธอสำคัญและก็มีความหมายต่อเขามากเพียงใด คงต้องปล่อยให้เธออยู่ในโลกแห่งวัยดรุณีนี้ไปสัก ก่อนที่จะบอกความในใจทั้งหมดที่เขามีต่อเธอ

ร่องรอยแห่งความสุขฉายอยู่ในแววตาสีนิลของชายหนุ่ม จนกระทั่งรถแท็กซี่หายลับไปจากสายตา


***********

ยังไมจบตอนค่ะ อ่านแค่นี้กันไปก่อน๊า เดี๋ยวมาเพิ่มเติม
กลัวจะลืมกันหมดว่าเขียนถึงไหนแล้ว (ตัวเองยังลืมเลย)
















อ่านตอนเดิมได้ที่นี่เลยค่ะ

หนุ่มมาดเท่ห์กับสาวจอมแก่น บทที่ 17

หนุ่มมาดเท่ห์กับสาวจอมแก่น บทที่ 16

หนุ่มมาดเท่ห์กับสาวจอมแก่น บทที่ 15

หนุ่มมาดเท่ห์กับสาวจอมแก่น บทที่ 14













Create Date : 22 พฤษภาคม 2551
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:10:21 น.
Counter : 499 Pageviews.

9 comments
  
เฮ้ย! เร็วชะมัดเลย
เสือปืนไวเหรอยะ...
ฮิ ๆ ๆ

ขอบคุณสำหรับคำอวยพร

ขอบคุณทุกน้ำใจที่ให้กัน ดั่งละอองสวรรค์จากชั้นฟ้า หยาดชุ่มชื่นอาบห้วงดวงวิญญาณ์ ทั้งอบอุ่นคุณค่าแห่งหัวใจ +++++ปลิวตามลม++++++
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:13:48:21 น.
  

มานั่งอ่านต่อจากคนพึ่งฉลองวันเกิดไปมาดๆ

ตอนที่ 18 ออกแล้วเนอะ ขอบคุณนะครับ

แล้วไม่สบายดีขึ้นหรือยังครับน้องหญิงไล
โดย: ธรรม (ห่วงใย ) วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:07:22 น.
  
หายไปนานนึกว่าจะจบเรื่องไปซะแล้วคุณฝน

...ไม่เจอกันนานคิดถึงจังเลย
โดย: มัยดีนาห์ วันที่: 22 พฤษภาคม 2551 เวลา:21:54:03 น.
  
วันนี้ได้อ่านตอนใหม่แล้ว

อิ่มใจแต่เช้าเลยค่ะ

โดย: เพรง.พเยีย วันที่: 23 พฤษภาคม 2551 เวลา:5:28:08 น.
  
หวัดดีเช้าวันหยุดเพื่อน
โดย: tai (taibangplee ) วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:9:29:49 น.
  
ขอบใจสำหรับโค้ดนะ...
ใช้ได้ ใช้ดี
emo
โดย: ปลิวตามลม วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:10:41:06 น.
  
สาวปลิว..1,6
ปืนวงปืนไวที่ไหน ยังเขียนไม่เสร็จด้วยซ้ำ
ใจร้อนนี่นากลัวจะเอาไปดองไว้อีก
คราวนี้คงไม่ใช่สองเดือน อาจจะนานส์
คนอ่านคงเบื่อที่จะรอ..เฮ้อ






พี่ธรรม..2
แฮะ ๆ พี่ธรรมได้อ่านซะทีเน๊อะ
อาการเจ็บตาของหญิงไลยังไม่หายสนิทค่ะ
แต่อาการดีขึ้นเรื่อย ๆ คาดว่าจะเป็นเช่นนั้นค่ะ





คุณนา..3
นึกแล้วเชียวว่าจะต้องมีคนคิดแบบนี้
เล่นหายไปนาน ก็น่าจะให้เข้าใจเช่นนั้น
แต่ถ้าไม่เขียนให้จบกลัวถูกบางคน
เอาระเบิดมาปาบ้านค่ะ..ฮี่ฮี่






คุณนาง..4
ดีใจค่ะที่เป็นส่วนหนึ่งให้คุณนางมีความสุข
เห็นคุณนางอมยิ้มแก้มตุ่ย (เดาว่าคุณนางคงยิ้มแหละ)
ฝนเห็นถึงขนาดนั้นเลยนะเนี้ย..ฮ่า ๆๆ





หญิงวี..5
หวัดดีวันหยุดเช่นเดียวกันจ้า ตัวไปเที่ยวไหนล่ะวันนี้
เค้าอยู่บ้าน ไม่ได้ไปไหนเช่นเคย
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 24 พฤษภาคม 2551 เวลา:16:26:05 น.
  




โดย: Nok_Noah วันที่: 27 พฤษภาคม 2551 เวลา:15:10:04 น.
  

นกจ๋า
มายิ้มแก้มแดงอยู่แถวนี้นี่เอง
โดย: ไลเดเลีย วันที่: 31 พฤษภาคม 2551 เวลา:8:42:08 น.
ชื่อ :
Comment :
 *ใช้ code html ตกแต่งข้อความได้เฉพาะสมาชิก
 

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
พฤษภาคม 2551

 
 
 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
All Blog