✎ หลอดเลือดดำขอด...ต้องรักษา!!

หลาย ๆ คนคงเคยเห็นเส้นเลือดที่ปูด และขดไปมาตามขา ซึ่งหลายคนก็มักจะเรียกกันว่า “เส้นเลือดขอด” แต่ในทางการแพทย์จะเรียกกันว่า “ภาวะหลอดเลือดดำขอด”

นี่ก็เป็นอีกโรคหนึ่งที่แฟนคอลัมน์ถามไถ่กันเข้ามาจำนวนมาก อยากทราบถึงสาเหตุการเกิด วิธีการรักษา และโอกาสที่จะหายขาดจากอาการเส้นเลือดปูดออกมาตามขา บางคนรู้สึกเกิดความกังวล ไม่มั่นใจกับสภาวะที่เกิดขึ้นกับตนเอง โดยเฉพาะกับคุณผู้หญิง ที่มักจะประสบกับปัญหานี้ จนกระทั่งต้องแก้ปัญหาด้วยการสวมถุงน่องบดบังไว้ ฉะนั้น หมอรามาฯ จะมาไขปัญหาสุขภาพในเรื่องนี้ให้กระจ่างกัน

ภาวะหลอดเลือดดำขอด คืออะไร

ภาวะหลอดเลือดดำขอด เป็นภาวะความผิดปกติของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังของขา ที่มีขนาดใหญ่ขึ้นในแบบ 3 มิติ ทำให้มองเห็นเป็นหลอดเลือดดำที่ขดงอคล้ายตัวหนอนที่ชาวบ้านทั่วไปเรียกกันว่า “เส้นเลือดขอด” นั่นเอง หลอดเลือดดำของคนเรามีหลายขนาด ทำให้หลอดเลือดดำขอดที่เราพบเห็นมีได้ตั้งแต่หลอดเลือดดำฝอยจนถึงหลอดเลือดดำที่มีขนาดใหญ่ ขดไปมาคล้ายหนอนตัวใหญ่

แล้วเกิดขึ้นได้อย่างไร

ก่อนอื่นขออธิบายเป็นพื้นฐานเพื่อ ความเข้าใจกันก่อนว่า หลอดเลือดดำบริเวณขาของคนเรามีหน้าที่นำเลือดดำจากปลายเท้าไหลเวียนขึ้นสู่หัวใจ โดยเฉพาะเมื่อเวลาคน เราอยู่ในท่านั่งหรือยืน กระแสเลือดดำก็ไม่ ไหลย้อนกลับไปปลายเท้าอีกเพราะหลอด เลือดดำมีลิ้น (valve) ทำหน้าที่ควบคุมให้กระแสเลือดไหลสู่หัวใจทางเดียวและป้องกันไม่ให้กระแสเลือดไหลย้อนกลับไปปลายเท้า

ผู้ป่วย ที่มีปัญหาหลอดเลือดขอดที่ขา มักเกิดจากมีความผิดปกติของลิ้นหลอดเลือดดำเสียสภาพ ทำให้กระแสเลือดดำไหลย้อนกลับไปปลายเท้า และจะมีภาวะรุนแรงมากขึ้น เมื่อผู้ป่วยอยู่ในท่านั่งหรือยืน ซึ่งในความเป็นจริง คนเราอยู่ในท่าดังกล่าวนานเกือบ 3 ใน 4 ของวัน สภาพที่เลือดไหลย้อนไปที่ปลายเท้าอยู่นานเป็น ปี ๆ เช่นนี้ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของหลอดเลือดดำที่มีขนาดใหญ่ขึ้นจนขดไปมา และมองเห็นได้ง่าย

ใครเสี่ยงที่จะเกิดหลอดเลือดดำขอดบ้าง

ภาวะหลอดเลือดดำขอด พบได้ทั่วไปในประชากรโลก ทุกชาติ ทุกภาษาไม่แตกต่างกัน และพบได้ทั้งในผู้ชายและผู้หญิงใกล้เคียงกัน แต่เชื่อ ว่าผู้หญิงจะมีความกังวลกับภาวะนี้มากกว่า จึงมาพบแพทย์บ่อยกว่า เนื่อง จากการเปลี่ยนแปลงขนาดของหลอดเลือดดำที่ผิดปกติดังกล่าวข้างต้น และมีการดำเนินไปอย่างค่อยเป็นค่อยไป จึงปรากฏภาวะนี้บ่อยขึ้นตามอายุที่มากขึ้น

นอกจากนี้มีการศึกษาพบว่าการตั้งครรภ์ กรรมพันธุ์ คนอ้วน และอาชีพที่ต้องยืนนาน ๆ เป็นปัจจัยที่มีผลต่อการเกิดภาวะนี้บ่อยกว่าคนทั่วไป ซึ่งจะเห็นได้ว่าบางปัจจัยอาจแก้ไขได้ นอกจากนี้ยังมีหลายคนเข้าใจผิดว่าการออกกำลังกายจะทำให้เกิดเป็นหลอดเลือดดำขอด ซึ่งจากการศึกษานั้นไม่พบความสัมพันธ์ที่เกี่ยวข้องกัน

หากไม่รักษาปล่อยทิ้งไว้จะมีผลอย่างไร

เป็นอีกคำถามหนึ่งที่พบบ่อย ต้องอธิบายให้สบายใจว่าปัญหา หลอดเลือดดำขอดนั้น ไม่ทำให้ชีวิตสั้นลง หรือทำให้ขาข้างนั้นมีอันที่จะ ต้องถูกตัดขาเหมือนเช่นโรคของหลอดเลือดแดงตีบตัน แต่อย่าเพิ่งวางใจ ไป เพราะภาวการณ์ดำเนินโรคนี้ มักค่อยเป็นค่อยไปจึงทำให้เกิดความรำคาญ ทุกข์ทรมานและเรื้อรังในภายหลัง

ส่วนภาวะหลอดเลือดฝอยขอด นั้นก็จะทำให้ผู้ป่วยกังวลในเรื่องความสวยงามโดยเฉพาะคุณผู้หญิง กรณีหลอดเลือดขอดของหลอดเลือดดำใต้ผิวหนังที่มีขนาดใหญ่ จะเห็นเป็นขด ๆ คล้ายตัวหนอน นอกจากไม่สวยงามแล้ว อาการมักรุนแรงมาก ซึ่งหากปล่อยทิ้งไว้นาน ๆ หลายปีต่อมาจะเกิดการเปลี่ยนแปลงของผิวหนัง ทำให้มีสีคล้ำขึ้น เนื้อเยื่อใต้ผิวหนังก็จะเกิดแข็งหนา เป็นแผลได้ง่าย และแผลเหล่านี้เองก็จะหายได้ยาก ต้องรักษากันนานหลายเดือน ที่สำคัญจะเป็นซ้ำแล้วซ้ำอีก

การรักษาทำได้อย่างไร

การรักษาขึ้นกับว่าเป็นหลอดเลือดแบบใด และที่สำคัญเกิดจากสาเหตุใด เช่น ถ้าเป็นหลอดเลือดดำฝอยขอดสามารถรักษาให้หายด้วยการใช้แสงเลเซอร์ หรือการฉีดยาเข้าที่หลอดเลือดดำฝอยขอด เพื่อทำให้หลอดเลือดดำฝอยนั้นตีบตันไป ส่วนกรณีหลอดเลือดดำขอดขนาดใหญ่ การรักษาให้หายจำเป็นต้องผ่าตัดหลอดเลือดดำขอดนั้นออก

แต่ในปัจจุบันมีการรักษาแบบใหม่โดยใช้เลเซอร์ที่เรียกว่า “เอ็นโดวาสคูลาเลเซอร์” (endovascular laser) ที่สามารถใช้ทดแทนการผ่าตัดแบบเดิม ข้อดีคือ บาดแผลมีขนาดเล็กเพียง 2-3 มิลลิเมตร ไม่ต้องดมยาสลบ หรือบล็อคหลัง และไม่ต้องนอนพักในโรงพยาบาล ทำให้ผู้ป่วยสะดวกสบายขึ้น หากผู้ป่วยมาพบแพทย์ด้วยหลอดเลือดดำขอดที่มีภาวะแทรกซ้อนแล้ว เช่น ขาบวม ผิวหนังที่ขามีสีเทาคล้ำหรือมีแผล ก็จำเป็นต้องตรวจพิเศษเพิ่มเติม ด้วยเครื่องอัลตราซาวด์ก่อนวางแผนการรักษา

โรคนี้มีโอกาสหายขาดหรือไม่

คำถามนี้ตอบได้ค่อนข้างยาก เพราะมีปัจจัยหลายอย่างที่เราแก้ไขไม่ได้ เช่น เรื่องของกรรมพันธุ์ ฮอร์โมนเพศ หรือตั้งครรภ์ อีกทั้งกว่าจะมีอาการแสดงให้เห็นก็มักจะสายเกินไปกว่าที่จะทำให้หลอดเลือดดำนั้นกลับคืนสู่สภาพเดิม การรักษาโดยทั่วไป มักจะเป็นการกำจัดหลอดเลือดดำที่เสียสภาพแล้วทิ้งไป และมีการศึกษาว่าผู้ป่วยเหล่านี้หลังการรักษามักมีหลอดเลือดขอดแบบใดแบบหนึ่งซ้ำในขาข้างเดิมหรือขาอีกข้างได้บ่อยกว่าประชาชนทั่วไป

ปัจจุบันการนำถุงน่องมาขายในท้องตลาด ถุงน่องที่เหมาะสมกับ ผู้ป่วยเหล่านี้ ควรเป็นถุงน่องที่ถูกออกแบบให้แก้ไขความผิดปกติของภาวะนี้ โดยควรมีการรัดที่ปลายเท้าด้วยความดันประมาณ 20-30 มม.ปรอท และลดหลั่นน้อยลงจนถึงต้นขาช่วยทำให้กระแสเลือดดำไหลสู่หัวใจได้ดีขึ้น การเลือกใช้ควรศึกษาจากคุณสมบัติของผลิตภัณฑ์หรือปรึกษาแพทย์

การดูแลเมื่อรู้ว่าเป็นหลอดเลือดดำขอดต้องทำอย่างไร

ควรปรึกษาศัลยแพทย์ใกล้บ้าน ในปัจจุบันยังไม่มียารับประทาน ชนิดใดที่ช่วยให้ภาวะนี้หายได้อย่างชัดเจน การออกกำลังกายเพื่อฝึก กล้ามเนื้อน่องมีส่วนช่วยให้ภาวะเลือดคั่งจากหลอดเลือดดำขอดดังกล่าว ลดลงได้




» ที่มา : Ramaclinic


ข้อมูลสุขภาพที่เกี่ยวข้อง

✎ สาว 6 อาชีพ กับเส้นเลือดขอด
✎ เส้นเลือดขอด โรคฮิตของคุณผู้หญิง






Create Date : 25 เมษายน 2553
Last Update : 25 เมษายน 2553 11:27:27 น.
Counter : 492 Pageviews.

0 comments

ไลเดเลีย
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 3 คน [?]



ร้อยรส...กลอนกานท์




O ฤดูลม...O

O ฉับพลันฝนก็เร้นเก็บเส้นสาย
ดวงวันฉายแสงช่วงโลมห้วงหน
ขับความชื้นลบเลือนรอยเปื้อนปน
ลบหมองหม่นแผ่นฟ้าจนพร่าเลือน

O คล้ายเมฆสีเทาทึมเมื่อครึ้มฝน
ถูกแสงสรวงเบื้องบนเข้าปนเปื้อน
ย้อมสีเทาเป็นขาว..เมื่อหนาวเยือน
มาตามเตือนเลื่อนยามให้งามตา

O ลมต้นหนาวเกรียวกรูเสียงวู่ไหว
โลมกิ่งใบไม้ตื่นทั้งผืนป่า
เขยื้อนขยับยวบไหวอยู่ไปมา
เหมือนบอกลาล่วงพ้น..คาบฝนปลาย

O ความเปลี่ยนแปลงผ่านสู่..ให้รู้เห็น
จากเมื่อสีเลื่อนเส้น..แล่นเป็นสาย
เสียงครืนครั่นก้องอยู่ไม่รู้วาย
แปลบปลาบว่ายเวียนย้ำโลมค่ำคืน

O จนฟ้าเปลี่ยนไม้ใบสั่นไหวระริก
น้ำก็พลิกแผ่นผิว..เป็นริ้วตื่น
จึงบัดนั้น..ภูมิทัศน์ก็หยัดยืน
ด้วยสายลมเย็นชื่น..เพื่อฟื้นตัว

O ถึงคราลมเย็นรื่น..วกคืนย้อน-
พรมสายอ่อนโอนระลอกเข้าหยอกยั่ว
ยอดหญ้าเรียวโค้งนั้น..ย่อมสั่นรัว
รอเกลือกกลั้วรับรู้..ฤดูลม

O จากยึดโยงรากแทงลงแหล่งดิน
ตราบฝนรินหยาดหลั่งลงสั่งสม
คลายความชุ่มความชื้นเหนือพื้น, พรม-
ภาวะอันอุดม..ห้อมห่มไพร

O เหยียดยอดเสียดขึ้นแทงรับแรงฝน
ที่คอยหล่นร่วงหยาด..ก่อนลาดไหล
ยืนต้นตั้งเป็นแถว..เป็นแนวไป
รอลมไหววาดวี..จักมีมา

O ไม่นานเลย..จากฝนฟ้าหม่นหลัว
จนยอดไม้ส่ายรัวอยู่ทั่วหน้า
โลกต่ำ-ใบขาบเขียวทุกเรียวคา-
จะออดอ้อนลมถา..อยู่คาพื้น

O ระบำแถวยอดหญ้าตรงหน้านั้น
จะค่อยสั่นใบพลิ้วเป็นริ้วตื่น
เขียวจากฝนฝากตอนจะย้อนคืน-
เป็นแพรผืนโยนระลอกยั่วหยอกลม

O ร้อนจะรุมสุมมาจากฟ้าไหน
เรียวจะไหววาดรับช่วยขับข่ม
รอค่ำคืนน้ำค้างมาพร่างพรม
เพื่อรับฉมชื่นมาลย์..กลิ่นซ่านซ้อน

O กาลย่อมผ่านโดยช่วงของดวงวัน
จากเม็ดพันธุ์แตกหน่อเป็นช่ออ่อน
จนกลีบใบเรียวแรกเริ่มแตก..ชอน-
ไชขึ้นอ้อนออดรู้ฤดูกาล

O ฝน..หนาว..ร้อนรุ่มถึงขุมขน
แล้วเวียนรอบให้ฝน..อีกฝนผ่าน
เพื่อหยัดกลีบเรียวช่อ..ขึ้นรอบาน
พร้อมเรณูหอมซ่านขึ้นหว่านรส

O ช้าเร็ว..มวลผึ้งภู่ย่อมรู้กลิ่น
เมื่อลมรินรวยเท..หันเหบท
คอยดูเถิดอีกประเดี๋ยว..การเลี้ยวลด-
เข้าจ่อจดหวานหอม..จะพร้อมแล้ว

O ฤดูลมพรมพรำ..อยู่ค่ำเช้า
อาจรุมเร้า, อ่อนโรย..จนโชยแผ่ว
รอกวัดใบหญ้าเต้นจนเป็นแนว
ซ้ำบทแล้วบทเล่า..แต่เช้าวัน

O เมื่อสายลมผ่านสู่..ฤดูล่อง
และฟ้าผ่องแผ้วงามสีครามนั่น
ก็เมื่อผิวต้องหนาวจนหนาวครัน
จึงบัดนั้นโลกกว้างย่อมวางรอ

O ให้ฟังเสียงลมเท..มาเห่กล่อม
สูดกลิ่นหอมเรณูที่ชูช่อ
ทั้งเสียงไม้เสียดยอด..แสงทอดทอ-
ลอดพุ่มกอก้านใบ..ที่ไหวรับ

O พอลมล่องลาดเทมาเห่กล่อม
โลกที่ล้อมรอบล้วนคล้ายครวญขับ-
ผ่านบทเพลงร่ายรำ..เพื่อสำทับ-
การเขยื้อนการขยับลำดับนั้น

O ก็ใช่- เป็นเพียงฤดูลม
หมุนรอบมาห้อมห่มให้ซมสั่น
เปลี่ยนผ่านสภาพธรรมเข้าค้ำยัน
ให้จิตใจทั้งนั้นรู้ผันแปร

O เมื่อเม็ดน้ำขาดช่วงจากห้วงหน
เมฆขาวบนฟ้าพลอย..เลื่อนลอยแผ่
เมื่อขาวครามกลมเกลียวให้เหลียวแล
ก็เห็นแต่ภาพงามของยามนี้

O โอบโลกให้งดงามอยู่ท่ามกลาง-
ดวงวันพร่างแสงพร้อยเรียงสร้อยสี
ลมหนาวร่ำสายผ่านลงคว้านตี
เมื่อปีกผีเสื้อลายบินบ่ายย้อน

O ช่องโสตก็จะแว่วเสียงแจ้วเจื้อย-
ของนก, ลมโชยเฉื่อยคล้ายเหนื่อยอ่อน
ผืนแผ่นน้ำครวญครางในต่างตอน
จักซ้ำซ้อนภาพลวงอีกดวงวัน

O ให้มองเห็นลอยดวงบนสรวงฟ้า
ทั้งแจ่มจ้ายิ่งล้ำกลางน้ำนั่น
เท็จ-จริง..ที่มองผ่านก็ปานกัน
ย่อมแปรผันโดยจิต..การคิดตรอง

O ก็ใช่ – ที่เป็นเพียงธรรมชาติ
ทั้งดวงวันโอภาสคอยสาดส่อง
หรือคลื่นน้ำไหลลาดลงฟาดฟอง
และปีกผีเสื้อล่องบนท้องฟ้า

O เห็นไหมเล่ากลีบผการะย้าย้อย
ทุกช่อที่เคยช้อยอยู่คอยท่า
รอฝน..ต้องฝน..หมดฝนพา-
กันอ่อนโรยอ่อนล้า..ซบคาพื้น

O ฤๅ - อาจรู้ลูบโลมด้วยลมหนาว
หรือแสงงามวับวาวจากดาวดื่น
ครั้นสิ้นรอบลมร่ำกลางค่ำคืน
ฤๅ – อาจรู้ฉ่ำชื้นของพื้นดิน

O เพียงกาลผ่านเวียนแล้วเปลี่ยนช่วง
งามทั้งปวงถ้วนบทก็หมดสิ้น
ปีกลวดลายลมโชยเคยโบยบิน
อาจลาถิ่นไพรเถื่อนลับเลือนแล้ว

O ที่ไหนเล่าโลกกว้างและทางแคบ
เพียงหนีบแนบกลีบใบที่ไหวแผ่ว
ที่ไหนเล่าดีร้ายที่ปลายแนว-
ของเทือกแถวดอกมาลย์หอมหวานนั้น

O ก็นั่นแหละรูปธรรมในธรรมชาติ
ลมไหววาดแสงฉายน้ำพรายสั่น
ปีกลวดลายบินหยุด..ดอมบุษบัน
เกสรกลั่นหวานรส..อาจหมดฤๅ

O หากอีกสภาพธรรมในธรรมชาติ
เมื่อลมลาดล่องอยู่อาจรู้หรือ-
ว่าร้อน..ฝน..จนหนาว..อีกหนาวคือ-
การยึดถือตีความเอาตามใจ

O ฤดูลม-ยอดไม้ส่ายไหวอยู่
ปีกลวดลายหรุบชูก่อนลู่ไหล-
ลอดกลีบดอกนุ่มบางแทรกร่างไป
หวานเยี่ยงไรเล่าหนอ..จึ่งพอเพียง ?

O ฤดูลม..หวนระลอก, ดวงดอกไม้-
ก็หอมให้แถวถิ่นรู้กลิ่น, เสียง-
นกไพรเถื่อนก้องกรู..คล้ายอยู่เคียง-
ศัพท์สำเนียงก้องรัว..บางหัวใจ !



จากบล็อกพี่ สดายุ ค่ะ

Group Blog
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •  
  •   
  •  
  •  
  •  
  •  
เมษายน 2553

 
 
 
 
1
2
3
5
6
10
11
12
13
14
18
19
21
22
27
28
29
30
 
 
All Blog