Hanoi พาแม่ไปทรมานทริป
ทริปนี้ ด้วยการตกลงปลงใจว่าอยากพาแม่ไปเที่ยว แต่เราไม่อยากเที่ยวซ้ำ กะโปรฯ แอร์เอเชียบาทเดียว ก็เลยตกลงใจ ตัดสินใจจองร่วมปี กว่าจะได้ไปเที่ยวทริปนี้ค่ะ

จริงๆ รูปทั้งหมดในทริปนี้ มีการโหลดเข้า MySpace ของ MSN ไปแล้ว แต่ว่า ยังไม่ว่าง ลงมือละเลงใน bloggang เลย เพราะว่า ยุ่งๆ อยู่ค่ะ



เริ่มจากสนามบินนอยไบยามค่ำคืน เงียบเหงามากๆ ค่ะ
ดีที่เรามีบริการรถรับส่งฟรี เพราะว่า เราพัก 3 คืน เลยไม่ต้องลำบากหารถค่ะ



แล้วก็มาถึงโรงแรมห้องแถว สภาพห้องโอเค แม้จะมีกลิ่นบุหรี่อยู่บ้าง



สภาพห้องน้ำ ขอบอกว่า สัดส่วนดูใหญ่กว่าห้องนอนเสียอีก ถือว่าดีมากสำหรับห้องน้ำ ค่ะ น้ำร้อน น้ำเย็นไม่มีหลุด ก๊อกเขาดีจริงๆ ค่ะ



เช้าวันต่อมา รีบตื่นลงไปหม่ำ แล้วก็ออกไปสุสานลุงโฮกันค่ะ เพราะว่าเขาให้เข้าดูแค่ช่วงเช้า จนถึง สิบเอ็ด โมง

นั่งแท็กซี่ไปถึง ก็ต้องเดินอ้อมๆ ไป เพราะทางเข้าอยู่อีกด้าน (ทำไมแท็กซี่ มันไม่ส่งลงตรงหน้าทางเข้าก็ไม่รู้อ่ะ) ค่าแท็กซี่ประมาณ หมื่นเจ็ดพันดองค่ะ



ต่อคิวนานมาก กว่าจะเห็นตัวสุสาน แล้วที่สำคัญต้องฝากของทุกชนิด กล้อง มือถือ กระเป๋าถือ เป้ ยกเว้นกระเป๋าตังค์ อย่าได้คิดแอบเอาเข้าไปค่ะ เพราะว่าเขาตรวจละเอียดถ้าเจอ จะโดนลากไปอีกแถวที่ต้องรอต่อหลังจากคนอื่นๆ เข้าไปชมลุงกันหมดแล้วค่ะ



ที่สุสานลุงโฮ เป็นลานกว้างๆ เรียกว่า จัตุรัสบาดิงก์ เป็นเหมือนลานพระบรมฯ บ้านเราที่เอาไว้สำหรับสวนสนาม
รูปด้านบนเป็นสนามหญ้าฝั่งตรงข้ามสุสานค่ะ ส่วนด้านหลังที่เห็นลิบๆ ก็เป็นสถานที่ราชการต่างๆ ค่ะ



ตัวสุสานใกล้ๆ ค่ะ ข้างในเย็นมาก เพราะต้องปรับอุณหภูมิไว้ แถมต้องห้ามคุยเสียงดัง มีตะหาน มาคอยสั่งให้เงียบตลอดทาง

ศพลุงโฮที่เห็น ผิวแกใสมากค่ะ ส่องไฟสีแดง เลยไม่เห็นว่าซีดแค่ไหน แต่ว่าคงซีดเอามากๆ เลย ตั้งหลายสิบปีแล้วนี่คะ
โลงเป็นโลงไม้ ทั้งสี่ด้าน เจาะไว้ เหลือแต่โครงเสาสี่ด้าน ทำให้เรามองเห็นศพทั่นทั้งสี่ด้านค่ะ มีทหารยืนเฝ้าไว้รอบโลงของทั่น สี่ นาย

พอออกจากห้องเก็บศพลุงโฮ เราก็รีบๆ เดินไปรับกระเป๋ากันค่ะ เพราะเขาให้เราไปเอาก่อน สิบเอ็ด โมง วิ่งกันหน้าตั้งเลยทีเดียว

แล้วเราจึงได้ไปถ่ายรูปตามทาง อย่างที่เห็นข้างบนน่านแหละค่ะ อิอิ

แต่ถ้าไม่ต้องเดินกลับไปเอากล้อง คุณจะได้เห็นสถานที่ที่เคยเป็นบ้านพักลุงโฮ สมัยยังมีชีวิตอยู่ มีอยู่ สอง หลังค่ะ



ข้างบนเป็นบริเวณบ้าน ส่วนอื่นๆ คงไม่ต้องลงมาก เพราะในพันทิบเอง ก็ไปมาหลายกลุ่มแล้วเหมือนกัน



บ้านอีกหลังค่ะ เป็นเรือนไม้ทั้งหลัง ที่สังเกตได้อย่างหนึ่งคือ เขามี smoke alarm ไว้ทุกจุดที่มีดวงไฟเลยค่ะ เป็นการวางแผนป้องกันไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร เพราะบ้านหลังนี้ ก็คือสมบัติล้ำค่ำของพวกเรานั้นเอง



เดินออกจากบ้านลุงโฮ ก็โอ๊ะ โอ เป็นด้านหลังสุสานค่ะ



เป็นหอสมุด หรือ stadium อะไรสักอย่าง ตอนนั้นเขาปิดแล้ว เลยได้แต่ถ่ายด้านนอกค่ะ



วัดเจดีย์เสาเดียว อ๊ะๆ รูปนี้สังเกตดีๆ มีอะไรด้วย

คู่รักชาวเวียด มักจะจ้างช่างภาพให้ถ่ายภาพที่ระลึกคู่ของตัวเอง ตามสถานที่ต่างๆ ค่ะ ไม่รู้ทำไมไม่ซื้อกล้องเองก็ไม่รู้เนอะ แล้วก็ไปอัดมาเก็บไว้กันค่ะ



พวงมาลาไว้อาลัยลุงโฮ ก็มีแบบนี้แบบเดียวค่ะ



หิวแล้ว ก็หาที่หม่ำ กว่าจะหาร้านนี้ได้ เจ้าแท็กซี่บ้า มันวนไปอีกที่ ด้วยความเข้าใจผิด ไอ้เราก็อุตส่าห์เอาชื่อถนนให้มันดู มันก็ยิ้มๆ ว่าเข้าใจ แต่เอ ขับๆ ไปเราว่ามันแปลกๆ มันเลยถามทางไปเรื่อยๆ กว่าจะถึงก็เล่นเอาเหนื่อย จากค่ารถไปเป็นแสน (แสนสาหัสค่ะ) มันก็ว่าเราให้ข้อมูลมันไม่เคลียร์ ไอ้เราก็ส่งชื่อถนนไป ระหว่างทางก็เอาแผนที่ให้มันดูว่าน่าจะอยู่ช่วงนี้ มันก็ไม่ดู ไม่ฟังเราเลย

ร้านนี้ที่อยากมากิน เพราะเจอให้พันทิบว่า เป็น หนึ่งในพันที่ ที่เราต้องมาก่อนตาย อ่ะนะ ว่าเข้าไปค่ะ





ทั้งร้านมีเมนูเดียว คนละ เจ็ดหมื่นดอง เป็นปลาทอดกรอบในกะทะอย่างที่เห็น เอาผักทีได้ ใส่ๆๆๆ ลงไป ตักลงมาหม่ำกะขนมจีน ใส่น้ำจิ้มที่คาดว่ามีกะปิแน่ๆ ลงไป รสชาติอร่อยค่ะ หรือหิวก็ไม่รู้

หม่ำเสร็จก็เดินย่อยกันต่อ



SME ข้างถนนค่ะ เขาทำเล็บกันแบบนี้เลย ไม่ได้ไปตามร้านค่ะ



ขอแปลงตัวเป็นสาวเวียดแป๊ปนึงค่ะ



บ้านหลังที่ติดใจตั้งแต่มะคืนค่ะ



ริมทะเลสาบโฮฮว่านเกี๋ยมยามเย็นค่ะ





สะพานแสงอาทิตย์ สะพานที่ข้ามไปยังวัดเนินหยกที่ตั้งอยู่กลางทะเลสาบ



ตั๋วเข้าชมค่ะ สามพันดอง



ระหว่างทางเจอเด็กน้อยแต่งตัวหล่อมาถ่ายรูปกลางสะพาน คาดว่าคงมาถ่ายรูปเก็บเป็นที่ระลึก ฮิตแบบบ้านเราเหมือนกันนะคะเนี่ย



ภายในวัดที่สถาปัตยกรรมที่เป็นจีน ในช่วงที่อยู่ภายใต้การปกครองของจีนมายาวนาน ทำให้รับอิทธิพลจีนมาเต็มที่ค่ะ



เครื่องใช้ เครื่องตกแต่งภายในวัดค่ะ



เต่ายักษ์ตามตำนาน ทำให้ตำนานของเขาสมจริงมากขึ้น



หน้าประตูวัดค่ะ ออกมาแล้วค่อยถ่ายเก็บไว้ เพราะเวลาจะหมดแล้ว



สถูปหน้าวัด เห็นคนเอากระดาษเงิน กระดาษทองมาไหว้ แต่ก็ไม่รู้ว่าคืออะไรค่ะ



Thang Long Theater ที่เราจะมาดูหุ่นกระบอกน้ำกันค่ะ แต่คืนนี้อด เพราะว่าตั๋วเต็มค่ะ เราเลยจองของวันพรุ่งนี้ หลังจากกลับจากฮาลองค่ะ



เด็กอีกแล้วค่ะ ระหว่างทางกลับจากหม่ำสุกี้พื้นบ้านของเวียด เหมือนโป๊ะแตก แต่ไม่แซ่บอ่ะ ลืมถ่ายรูปมา เพราะหิวค่ำ





Night Market ของ ฮานอย แต่เลิกเร็วค่ะ สี่ทุ่มก็แทบเก็บของหมดแล้ว เขานอนกันไม่ดึกค่ะ ผืเสื้อกลางคืนอย่างเรา เลยเส้าค่ะ



กาแฟถ้วยแรกในฮานอย กาแฟเย็นเขาเหมือนเอาน้ำแข็งปั่นลงในกาแฟนิดหน่อย ให้พอเย็นๆ อ่ะค่ะ ไม่หร่อยเลย



ตั้งขายกันกลางถนนอย่างนี้เลยค่ะ เหอๆๆๆๆ

ไว้จะไปฮาลองเบย์ใน บล็อคหน้านะคะ




Create Date : 20 พฤษภาคม 2550
Last Update : 22 พฤษภาคม 2551 13:04:45 น.
Counter : 1287 Pageviews.

0 comments
ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
 *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

เลขาตัวซน
Location :
กรุงเทพฯ  Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]
 ฝากข้อความหลังไมค์
 Rss Feed
 Smember
 ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




เลขาตัวซน ทำงานเป็นเลขาฯ
บวกความซนอันมีมาแต่กำเนิด
เป็นลูกสาวคนเล็ก แม้จะมีน้องชายหนึ่งหน่อ
เลยค่อนข้างเอาแต่ใจ ออกจะใจร้อนตามป๊ะป๋า
แต่ก็เป็นคนตรงและจริงใจนะ
ที่สำคัญเป็นคนรักอิสระอย่างแรง


อาจทำอะไรเหมือนเอาแต่ใจ
...แต่ไม่เคยไร้เหตุผล
ในบางเรื่องอาจไม่มีความอดทน
...แต่ไม่เคยเป็นคนอ่อนแอ
บางเวลาอาจท้อแท้
...แต่ไม่เคยยอมแพ้ต่อสิ่งใด
อาจจะเฉยชาเกินไป
...แต่ไม่เคยทรยศต่อความตั้งใจของตัวเอง
โดย เฉกชนม์




พฤษภาคม 2550

 
 
1
2
3
4
5
6
7
8
9
10
11
12
13
14
15
16
17
18
19
20
21
22
23
24
25
26
27
28
29
30
31
 
 
All Blog