นานมากแล้วที่ฉันไม่ได้มาเที่ยวสวนสัตว์เชียงใหม่ แต่ปีนี้ฉันมีโอกาสได้มาที่นี่บ่อยมาก ทำไม่น่ะหรือ ก็เพราะยายคำสะหลีจอมแด๊ะแด๋น่ะสิ ตั้งแต่เธอเกิดมาทำเอาฉันชีพจรลงเท้า ขึ้นมาเชียงใหม่เป็นว่าเล่น จึงไม่ต้องแปลกใจหากจะเห็นว่าทำไมภาพที่ฉันถ่ายมาถึงมีหลายบรรยากาศ บางครั้งภาพก็สว่างสดใสดีเพราะถ่ายตอนปลายหนาว บางครั้งภาพก็ดูชุ่มน้ำฉ่ำฝนเพราะเป็นภาพตอนต้นฝนนี่เอง แต่ก็ดีนะ ได้บรรยากาศหลายแบบดี

     การเดินทางที่ฉันชอบมากที่สุดก็คือการเดินทางโดยรถไฟ แม้จะรู้ว่าต้องเสียเวลามากขนาดไหนฉันก็ยังเลือกรถไฟอยู่ดี เพราะฉันสามารถตื่นมาดูวิวข้างทางสวยๆ ได้ในตอนเช้า แถมคนตัวยาวๆ อย่างฉันก็นอนได้อย่างสบาย ไม่ต้องปวดเมื่อยขาเหมือนนั่งรถทัวร์ ส่วนเครื่องบินน่ะหรือ ฉันไม่แน่ใจน่ะว่าตัวเองเป็นโรคกลัวความสูงหรือเปล่า ไปเที่ยวแต่ละครั้งก็เดินทางคนเดียวซะด้วยสิ ขืนกลัวความสูงขึ้นมาจริงๆ ฉันคงแย่ เอาไว้รอโอกาสที่มีเพื่อนเดินทางไปด้วยแล้วค่อยลองนั่งเครื่องบินดูสักที

     ถึงแล้วจ้ะ สถานีรถไฟเชียงใหม่ เป็นสถานีที่สะอาดสวยงาม มีรูปปั้นของยายคำสะหลีและครอบครัวมารอรับอยู่ด้วยนะจ๊ะ

     หลังจากนอนพักผ่อนให้หายจากอาการเมารถไฟ (จะมีใครเป็นเหมือนฉันไหมเนี่ย) วันรุ่งขึ้นฉันก็ออกเดินทางไปสวนสัตว์ ด้วยความบ้าเห่อมากไปหน่อยฉันจึงไปถึงตั้งแต่เจ็ดโมงเช้า เอายังไงดี งั้นเลยขึ้นไปกราบสักการะอนุสาวรีย์ครูบาศรีวิชัยก่อนดีกว่า

     เช้าๆ อย่างนี้ พระสงฆ์และเณรน้อยเดินบิณฑบาตกันหลายรูป เตรียมอาหารมาใส่บาตรด้วยก็ดีนะ

     กราบพระขอพรและอธิษฐานให้ได้มาเชียงใหม่บ่อยๆ เสร็จแล้ว ก็ลงมารอหน้าสวนสัตว์กันต่อไป พร้อมทั้งดูการทำงานของเจ้าหน้าที่ไปด้วย เพลินดีค่ะ

     กระรอกน้อยออกมาทักทายนักท่องเที่ยวแต่เช้า

     เดินขึ้นเนินไปอีกนิดก็จะเป็นบริเวณสวนกล้วยไม้และดอกไม้ต่างๆ ที่เจ้าหน้าที่เขานำมาสลับสับเปลี่ยนปลูกตามฤดูกาล พื้นที่ของสวนสัตว์เชียงใหม่อยู่บริเวณเชิงเขา ก็จะต้องเดินขึ้นๆ ลงๆ เนินเขากันบ่อยหน่อย ถือว่าออกกำลังกายไปในตัวด้วย

     จากบ่อฮิปโปโปเตมัสก็จะเป็นบ้านของฮิปโปแคระ คาปิบาร่า ส่วนจัดแสดงสัตว์หากินกลางคืน

     เดินมาอีกนิดก็คือส่วนจัดแสดงสามสหาย อันได้แก่ยีราฟ ม้าลาย และนกกระจอกเทศ

     ตรงกันข้ามบ้านของสามสหายคือลานกิจกรรมขี่ม้าแคระสำหรับเด็ก และให้อาหารพลายเอกสิทธิ์ค่ะ พี่พลายเขาเคยแสดงหนังด้วยนะแต่จำไม่ได้แล้วว่าเรื่องอะไร

     เดินต่อมาอีกหน่อยก็จะเป็นบ้านของอูฐหนอกเดียว ตรงกันข้ามกันนี้คือบ้านของคำสะหลีเค้าล่ะ แต่เราจะไม่เข้าไปบ้านคำสะหลีในตอนนี้นะคะ ไว้โอกาสหน้าจะพาไปสำรวจบ้านของคำสะหลีกันแบบเจาะลึกเลยทีเดียว

     จากบ้านอูฐเดินเลี้ยวซ้ายขึ้นไปตามถนนคนเดินของสวนสัตว์เชียงใหม่ จะเป็นกรงนกกาบบัว อ้อ มีนกกะเรียนหงอนพู่ด้วย (ตัวนี้เพื่อนสาวกระซิบบอกชื่อมา เพราะเราลืมชื่อเค้าไปตั้งนานแล้ว อิอิอิ)

     ออกจากกรงนกเราเดินข้ามถนนกลับมายังส่วนจัดแสดงสิงโตและเสือ ก็จะพบกับสิงโตสาวสุดเท่ เสือโคร่ง และเสือขาว (สองสาว)

    หยุดพักหายใจสองเฮือกก่อนจะค่อยๆ ไต่ทางเดินขึ้นเขาหนึ่งขยัก เพื่อไปยัง "เชียงใหม่ซูอควาเรียม" ระหว่างทางพบเป็ดน้อยฝูงนึง ภาพซ้ายมือคือภาพที่ถ่ายตอนต้นปี ยังเป็นลูกเป็ดสีเหลืองขนนุ่มฟูอยู่เลย ไปครั้งสุดท้ายตอนเดือนสิงหาคม โตเป็นหนุ่มเป็นสาวกันหมดแล้วเนอะ

     มีหงส์ขาวในสระด้วยนะ

     และแล้วก็มาถึง "ศาลากลางจังหวัด" เอ๊ยยยย "เชียงใหม่ซูอควาเรียม" เรื่องปลานี่ฉันไม่ถนัดเลย ไม่รู้หรอกว่าปลาอะไรบ้าง ดูรูปกันเอาเองแล้วกัน นอกจากปลาและสัตว์น้ำแล้ว ยังมีสัตว์เลื้อยคลาน สัตว์ครึ่งบกครึ่งน้ำ แล้วก็แมงมุมด้วย

     เริ่มเหนื่อยแล้วล่ะ ขอนั่งพักผ่อนก่อนนะ หายเหนื่อยแล้วจะเข้ามาพาไปเที่ยวใหม่ค่ะ

Create Date : 14 กันยายน 2553
Last Update : 7 ตุลาคม 2553 18:54:54 น.		2 comments
Counter : 4307 Pageviews.
Share Tweet