ที่นี่มีการทำสวนกาหยู (มะม่วงหิมพานต์) กันมาก ถึงกับต้องจ้างสาวๆ ชาวพม่ามากกระเทาะเปลือกเพื่อเตรียมอบกันเลย แต่ตอนที่เราไปนั้นกาหยูวายหมดแล้ว กำลังเป็นหน้าสะตอค่ะ เขาเก็บสะตอส่งลงเรือมาขายบนฝั่งกัน ตอนเรานั่งเรือกลับจากฝั่งฝักสะตอเต็มไปหมดเลย แต่ละฝักใหญ่ๆ สมบูรณ์ทั้งนั้น เม็ดสะตอเรียงกันเต็มฝักเลยค่ะ แล้วก็มีสวนยางพาราด้วยเล็กน้อยค่ะ
ภาพนกกะปูดที่ถ่ายได้ก่อนกลับบ้าน เหมือนกับว่าเขามาส่งเราเลยค่ะ แล้วก็ภาพไก่ของชาวบ้านที่ออกหาอาหารกิน ภาพสุดท้ายก็ผีเสื้อที่มีอยู่มากมายบนเกาะ
ชุดสุดท้ายเป็นภาพต้นไม้ ดอกไม้ต่างๆ ค่ะ ไม่ทราบชื่อเลยนอกจากกะทะรกที่เคยเห็นที่กรุงเทพฯ สรุปแล้วธรรมชาติบนเกาะพยามยังคงบริสุทธิ์อยู่มาก เราอยากให้ธรรมชาติของที่นี่เป็นอย่างนี้ตลอดไปค่ะ แต่ก็ไม่ทราบว่าเกาะแสนสวยและสงบนี้จะต้านกระแสอารยธรรมเมืองได้นานแค่ไหน เพราะตอนที่เราอยู่ที่พักก็มีนายหน้ามาถามหาซื้อพื้นที่สำหรับทำรีสอร์ท บ้านพัก ต่างๆ กับพี่เก๊า แล้วก็มีอีกกลุ่มหนึ่งที่มาวางแผนสร้างรีสอร์ทตอนรับประทานอาหารที่ที่พักของเรา ในความคิดลึกๆ เราเสียดายธรรมชาติที่ต้องถูกทำลายไปกับความเจริญ (หรือความเสื่อม?) ที่กำลังจะมาถึง เหมือนกับที่ปายกำลังเป็นอยู่ในขณะนี้ บางครั้งความเจริญที่มากเกินไปก็นำความเสื่อมมาให้ แล้วหลังจากนั้นก็ไม่ทราบว่าธรรมชาติแสนสวยนี้จะฟื้นคืนกลับมาได้อีกไหม ใช้เวลานานเท่าไหร่ หรืออาจจะไม่มีวันกลับคืนมาอีกเลย
เราพักอยู่ที่เกาะพยามสองคืน แล้วเราก็นั่งเรือกลับฝั่งเที่ยวแปดโมงครึ่ง มาถึงฝั่งเมืองระนองแล้วเราก็ไปทานอาหารกลางวันกันที่ร้านส้มตำแม่วงศ์ แล้วกลับไปเก็บของที่โรงแรม ก่อนไปเยี่ยมคุณแม่พี่เปิ้ลในเมือง แล้วกลับมาพักผ่อน เพราะพรุ่งนี้เราจะเดินทางกลับแล้ว
Create Date : 24 พฤษภาคม 2552 |
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 20:47:34 น. |
|
1 comments
|
Counter : 1030 Pageviews. |
|