แห่ครัวตาน งานปอยหลวง วันที่ 2



    วันที่ ๒ แล้ว แต่คณะของเราก็ยังเตร็ดเตร่อยู่ในเชียงใหม่อยู่เลย เช้าวันนี้เราเดินจากที่พักไปทานน้ำเต้าหู้ ปาท่องโก๋ กาแฟ กันที่ร้านโกเหน่งในตลาดวโรรสกันค่ะ ปาท่องโก๋เจ้านี้อร่อยและมีรูปแบบแปลกๆ ให้ลูกค้าเลือกด้วยค่ะ ไม่ว่าจะเป็นมังกร จระเข้ หรือไดโนเสาร์ กว่าจะได้ที่นั่งเราก็ต้องรอจังหวะดีๆ เหมือนเล่นเก้าอี้ดนตรีเลยค่ะ


     อิ่มอร่อยกันแล้วเราก็เดินไปทางอีกด้านของตลาดวโรรสซึ่งเป็นตลาดดอกไม้ แล้วพวกเราก็เดินข้ามสะพานข้ามแม่น้ำปิงมายังวัดเกตุการาม     พระบรมธาตุวัดเกตุการามเป็นพระธาตุประจำปีเกิดของปีจอค่ะ วันนี้นอกจากจะมานมัสการพระบรมธาตุแล้ว จุดประสงค์หลักของเราคือมาเยี่ยมคุณลุงจรินทร์ เบน หรือคุณลุงแจ็ก ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์วัดเกตุการามค่ะ หลังจากเมื่อปลายปีที่แล้วเราทราบข่าวว่าคุณลุงป่วยด้วยโรคมะเร็ง ต้องผ่าตัดและพักฟื้นอยู่นานพอสมควร วันนี้คณะของเราเลยขอถ่ายรูปกับคุณลุงไว้เป็นที่ระลึกค่ะ





     คุณลุงผอมลงไปมากเลยหากเทียบกับตอนที่พวกเราพบท่านครั้งแรกเมื่อ ๓ ปีก่อน เมื่อก่อนนี้ท่านตัวสูงใหญ่ ยิ่งหน้าตาท่านเป็นฝรั่งอยู่แล้ว ตอนที่ท่านมาคุยกันพวกเราครั้งแรก เรายังทึ่งเลยว่าทำไมท่านพูดภาษาไทยชัดจัง คุณพ่อของคุณลุงเป็นชาวอังกฤษที่เข้ามาทำงานกับบริษัท บอร์เนียว จำกัด ส่วนคุณแม่เป็นชาวเชียงใหม่ค่ะ





    



     คุณลุงบอกเราว่าท่านนับถือศาสนาคริสต์ตามทะเบียนบ้าน แต่ในด้านแง่คิดและหลักการดำรงชีวิตแล้ว เราว่าคุณลุงเป็นผู้หนึ่งที่เข้าถึงแก่นของพระพุทธศาสนาเลยทีเดียว ท่านจะสอดแทรกแง่คิดดีๆ ให้กับผู้มาเยี่ยมชมพิพิธภัณฑ์อยู่เสมอค่ะ



     มาครั้งนี้เราเห็นว่าได้มีการจัดสิ่งของต่างๆ ในพิพิธภัณฑ์ใหม่ ทำให้เป็นระเบียบมากขึ้นค่ะ มีการลงทะเบียนสิ่งของไว้ด้วย นำภาพสิ่งของส่วนหนึ่งในพิพิธภัณฑ์มาฝากค่ะ ผ้าปักในภาพเรียกว่า ผ้าก่ำปี หรือผ้ากำปี เป็นผ้าที่พระเจ้าอินทรวิชยานนท์ (พระบิดา) และพระราชชายาเจ้าดารารัศมี ถวายให้วัดเกตุการามในเทศกาลลอยกระทง (ประเพณียี่เป็ง) เมื่อปี พ.. ๒๔๔๓






     ภาพสถาปัตยกรรม และบรรยากาศส่วนอื่นๆ ของวัดเกตุการามค่ะ ที่เราชอบมากที่สุดก็คือพญานาคนี่ล่ะค่ะ ไปวัดมาก็หลายที่แล้ว แต่ในความเห็นส่วนตัวคิดว่าพญานาคของวัดเกตุการามนี่เป็นพญานาคที่สวยที่สุดเลย เพราะดูอ่อนช้อย บ้องแบ๊ว และได้สัดส่วนมาก (ความเห็นส่วนตัวค่ะ) เรียกได้ว่าหลงรักพญานาคของวัดนี้เลย

















     ออกจากวัดแล้วเราก็เดินไปที่ตรอกเล่าโจ้วที่อีกด้านหนึ่งของตลาดวโรรส ใกล้ๆ กับร้านปาท่องโก๋โกเหน่งค่ะ อธิบายทางไม่ถูกหรอกนะคะ อาศัยว่าเดินวนไปวนมาก็จะเจอเองค่ะ ที่นี่จะมีผ้าปักทางเหนือ ทั้งกระโปรง กระเป๋า และผ้าปักชิ้นๆ มาขาย เป็นตลาดขายส่ง ดังนั้นจะซื้อ ๑ ชิ้น หรือซื้อ ๑๐ ชิ้น คนขายเขาก็ไม่ลดแล้วค่ะ (คนขายเขาพูดเองนะคะเนี่ย) ของที่นี่จะถูกกว่าที่ไนท์บาซ่าแต่ความสวยและความละเอียดจะน้อยกว่า เราคิดว่าคนขายที่ไนท์บาซ่าก็คงมาซื้อวัตถุดิบที่นี่แล้วก็นำไปตกแต่ง ดัดแปลงใหม่ ทำให้สวยขึ้น แต่ราคาก็สูงขึ้นด้วยค่ะ


     แล้วเราก็เข้าตลาดวโรรสเพื่อซื้อน้ำพริกหนุ่ม หมูทอด ตับทอด ไส้อั่วต่างๆ เป็นของฝาก เสร็จแล้วก็กลับโรงแรมเพื่อ Check out เสร็จแล้วก็ออกเดินทางไปลำพูนเสียที พี่ต่อใจดีอุตส่าห์แวะที่พระบรมธาตุศรีจอมทองให้เราได้นมัสการพระธาตุประจำปีเกิดของตัวเอง (ปีชวดค่ะ)
     เราไปแวะรับเค้กลำไยสินค้า OTOP ของอำเภอบ้านโฮ่ง แล้วก็เดินทางต่อไปบ้านพี่ติ๊กที่อำเภอลี้ ถึงบ้านพี่ติ๊กก็เกือบจะสี่โมงเย็นแล้ว แล้วจะกลับมาเล่าเรื่องครัวตาน และภาพบรรยากาศงานปอยหลวงมาฝากในโอกาสต่อไปนะคะ








Create Date : 19 พฤษภาคม 2552
Last Update : 8 กรกฎาคม 2552 20:41:01 น. 0 comments
Counter : 1683 Pageviews.

ชื่อ : * blog นี้ comment ได้เฉพาะสมาชิก
Comment :
  *ส่วน comment ไม่สามารถใช้ javascript และ style sheet
 

lekatuayao
Location :
กรุงเทพฯ Thailand

[ดู Profile ทั้งหมด]

ฝากข้อความหลังไมค์
Rss Feed
Smember
ผู้ติดตามบล็อก : 1 คน [?]




"ตัวยาว" เป็นชื่อที่เจ้านายที่เคารพตั้งให้ค่ะ ผู้สูงอายุก็ต้องหลงๆ ลืมๆ ชื่อจริงของเลขาบ้าง เลยเรียกตามลักษณะที่เด่นที่สุด เลยกลายมาเป็น "เลขาตัวยาว" ค่ะ
Group Blog
 
 
พฤษภาคม 2552
 
 12
3456789
10111213141516
17181920212223
24252627282930
31 
 
19 พฤษภาคม 2552
 
All Blogs
 
Friends' blogs
[Add lekatuayao's blog to your web]
Links
 

 Pantip.com | PantipMarket.com | Pantown.com | © 2004 BlogGang.com allrights reserved.