สวัสดีค่ะ ห่างหายไปจาก Blog นานเหลือเกิน สาเหตุคือไม่มีเวลาเลย เพราะกว่าจะสร้าง Blog ขึ้นมาได้แต่ละชิ้นใช้เวลานานมาก ด้วยความขยันน้อยของตัวเองเลยหนักไปทางอัพรูปทาง Facebook หรือโพสต์ลงทางพันทิปซะเป็นส่วนใหญ่ อิอิ

     เมื่อวานคุณผู้ชายเกิดอยากจะกินสตูว์เนื้อขึ้นมา ไอ้เรารึก็เหนื่อยแสนเหนื่อย เลิกงานตอนหกโมงเย็น กว่าจะถึงบ้าน กว่าจะลงมือเข้าครัว แถมเนื้อที่หล่อนจะให้ทำก็เป็นเนื้อน่อง รอกันจนหลับกันไปข้างนึงแน่ๆ หุหุหุ

     เครื่องปรุงก็มี เนื้อวัว(ส่วนน่อง) / มะเขือเทศ / หัวหอมใหญ่ / มันฝรั่ง / Celery / ดอกกะหล่ำ / ถั่วแขก / แครอท / ซอสมะเขือเทศ / Tomato paste / วูสเตอร์ซอส / พริกไทย / เกลือ / เนย / ใบกระวาน / กานพลู / ใบไทม์ / แป้งสาลี / น้ำซุปหรือน้ำเปล่า

     เนื้อน่องสวยๆ อร่อยๆ เวลาเคี้ยวจะได้ความกรุบสนุกสนาน แต่ก็ต้องใช้เวลาเคี่ยวนานพอดู

     ปรุงรสเนื้อด้วยเกลือ พริกไทย โรยแป้งสาลีเล็กน้อย (น้อยจริงๆ นะคะ ถ้าแป้งเยอะเวลาต้มแป้งจะหลุดออกมาเป็นก้อนๆ ต้องคอยช้อนทิ้งกันแย่เลย) แป้งสาลีจะช่วยให้น้ำสตูว์ข้นขึ้นค่ะ

     จากนั้นก็นำกะทะขึ้นตั้งไฟ ใส่น้ำมันมะกอกหรือน้ำมันพืชที่เรามีลงไป ใส่เนยอีกเล็กน้อย แอบอายกะทะตัวเอง เหมือนผ่านสงครามโลกมาสักสามครั้ง

     นำเนื้อลงทอดให้เหลืองสวย ไม่ต้องให้เนื้อสุกมากนะคะ

     ทอดเนื้อเสร็จแล้วก็นำหอมหัวใหญ่ แครอท Celery มันฝรั่ง ลงไปผัดกับน้ำมันที่ทอดเนื้อ คลุกเคล้าพอเข้ากัน เพื่อเก็บรสอูมามิของเนื้อไว้ อิอิ

     จากนั้นก็นำน้ำซุปหรือน้ำเปล่า เทลงในกะทะใบเดิม (ไม่เปลี่ยนภาชนะ กลัวเสียรสอร่อยที่ติดก้นกะทะ 555) ใครมีไวน์แดงจะเติมลงไปด้วยก็ได้นะคะ ใส่ของหอมทั้งหลาย ได้แก่ กานพลู ใบกระวาน ใบไทม์ ลงไป

     เนื่องจากเนื้อที่ใช้เป็นเนื้อน่อง  เราเลยต้องเคี่ยวเนื้อด้วยไฟอ่อนก่อน โดยที่ยังไม่ใส่ผักลงไป ระหว่างเคี่ยวเนื้อก็คอยช้อนฟอง ช้อนมันที่ลอยหน้าทิ้งค่ะ

     ไม่ต้องตกใจที่สีของสตูว์จะออกไปทางแกงเขียวหวานเล็กน้อยนะค้า เดี๋ยวเราจะมีตัวช่วยค่า หลังจากเคี่ยวเนื้อมาชั่วโมงกว่าๆ เราก็ตักของหอมต่างๆ ทิ้งได้แล้ว เวลาทานจะได้ไม่ต้องคอยเขี่ยทิ้งให้อารมณ์สะดุด

     และแล้วก็ถึงคิวตัวช่วยเพื่อให้สตูว์ของเรามีสีสันสดใส น่ากิน ซึ่งได้แก่ แต่นแต๊นนนนน มะเขือเทศแสนสวยพวกนี้นี่เอง ใส่มะเขือเทศลงไปแล้วเคี่ยวต่อไปอีกค่ะ จะกินของอร่อยก็ต้องใจเย็นกันหน่อย

     เคี่ยวเนื้อมาเกือบจะสองชั่วโมงแล้ว เราถึงใส่ผักที่ผัดเอาไว้ลงไป จะใส่ผักเมื่อไหร่นี่ก็แล้วแต่ความชอบของแต่ละบ้านเลยค่ะ บ้านเราคุณผู้ชายไม่ชอบให้ผักเปื่อยมากนัก เราก็เลยใส่ตอนที่เนื้อได้ที่แล้ว รอสักยี่สิบนาทีแล้วดูว่าผักสุกดีหรือยังจึงเริ่มปรุงรสด้วย Tomato paste ซอสมะเขือเทศ วูสเตอร์ซอส เกลือ ใส่ลงไปอย่างละนิดละหน่อย ชิมให้รสกลมกล่อมดีแล้วก็ตั้งไปต่อไปอีกสักสิบ ยี่สิบนาทีค่ะ เห็นไหมคะ ตอนนี้สตูว์ของเราเป็นสีส้มสวยแล้ว

     สำหรับดอกกะหล่ำกับถั่วแขกเราไม่ใส่ลงในสตูว์ค่ะ เพราะถ้าเอามาอุ่นตอนหลังๆ มันจะเปื่อยเกินไป เราก็เลยนำมาหั่น ล้าง ลวก ไว้ต่างหาก

     และแล้วก็เสร็จจนได้ เกือบจะสี่ทุ่มแล้ว ช่วยไม่ได้นะเคอะ อยากมากินตอนวันทำงาน ตอนวันหยุดของอิชั้นก็ไม่รู้จักสั่ง ชริส์

     ตักสตูว์ใส่จาน ตักข้าว แล้วลงมือหม่ำๆๆๆ กันเลยค่า

Create Date : 29 กุมภาพันธ์ 2555
Last Update : 29 กุมภาพันธ์ 2555 19:43:04 น.		4 comments
Counter : 7756 Pageviews.
Share Tweet